รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Aerox

รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Aerox (ยามาฮ่า แอร็อกซ์) เปิดตัวครั้งแรกโดยบริษัทยามาฮ่ามอเตอร์ มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่นและเปิดตัวครั้งแรกในปี 1997 ในชื่อ Aerox R ซีรีส์ Aerox ได้รับความนิยมจากการออกแบบสไตล์สปอร์ต สมรรถนะ และคุณสมบัติขั้นสูง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Yamaha ได้เปิดตัวรุ่นย่อยและการปรับปรุงต่าง ๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Aerox โดยผสมผสานความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการออกแบบ Yamaha Aerox ได้กลายเป็นรถสกู๊ตเตอร์ที่เป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก โดยนำเสนอการผสมผสานระหว่างสไตล์ พลัง และฟังก์ชันการทำงาน

• Aerox 2023 ABS Version ราคา 83,500 บาท
• Aerox 2023 Standard Version ราคา 72,500 บาท
• AEROX (2022) ABS Version ราคา 80,900 บาท
• AEROX (2022) Standard Version ราคา 69,900 บาท
• AEROX (2023) ABS Version ราคา 83,500 บาท
• AEROX (2023) Standard Version ราคา 72,500 บาท
• AEROX 155 Monster Energy Yamaha MotoGP
• Edition (2019) ราคา 68,900 บาท
• AEROX 155 (ABS Version) ราคา 74,400 บาท
• AEROX 155 (R Version) ราคา 67,400 บาท
• AEROX 155 (STD Version) ราคา 64,400 บาท
• AEROX 155 COC (2017) ABS Version ราคา 73,900 บาท
• AEROX 155 COC (2017) R Version ราคา 66,900 บาท
• AEROX 155 COC (2017) Standard ราคา 63,900 บาท
• AEROX 155 (2016) MotoGP Edition ราคา 68,400 บาท
• AEROX 155 (2016) ABS ราคา 73,900 บาท
• AEROX 155 (2016) S ราคา 66,900 บาท
• AEROX 155 (2016) Standard ราคา 63,900 บาท
  
  

หมายเหตุ : ราคาข้างต้นเป็นราคาเริ่มต้น

รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Aerox รุ่นใหม่ปี 2023 มาพร้อมกับการจัดจ้านในทุกสีสันและดีไซน์สปอร์ตรอบคันที่จะทำให้คุณตื่นเต้นและรู้สึกเร้าใจไปกับการขับขี่ อีกทั้งยังมีสไตล์ Racing Sport ที่ดุดันตามแบบฉบับ R-Series ด้วยสีสันใหม่ที่สวยงามและให้ความรู้สึกพิเศษ รถยนต์ดังกล่าวยังมีสมรรถนะที่พร้อมด้วยความแรงจากเครื่องยนต์บลูคอร์ 155 ซีซี และผสานวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VVA ที่ช่วยเพิ่มอัตราเร่งได้อย่างดีเยี่ยม ไม่เพียงนั้นยังมีเทคโนโลยี Y-Connect เชื่อมต่อข้อมูลรถเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานอีกด้วย

ทั้งนี้ ข้อแตกต่างสำคัญของรถมอเตอร์ไซค์ Aerox 2023 ABS Version เมื่อเทียบกับรถมอเตอร์ไซค์ Aerox 2023 Standard Version คือ รุ่น ABS มาพร้อมกับระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการล็อคล้อและสิ่งกีดขวางทางหน้าระหว่างการเบรก รวมถึงมีล้อและยางขนาดใหญ่กว่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเสถียรภาพและควบคุมรถยนต์ มีไฟหน้า LED ที่ออกแบบใหม่และ มีความจุถังน้ำมันใหญ่กว่านั่นเอง