รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโซ่มอเตอร์ไซค์ วิธีตั้ง-วิธีล้าง สามารถส่งเคลมได้หรือไม่?

โซ่มอเตอร์ไซค์เป็นส่วนสำคัญของระบบส่งกำลังของรถจักรยานยนต์ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างส่วนขับเคลื่อนและล้อหลังของรถจักรยานยนต์เพื่อส่งกำลังให้ถึงล้อหลังอย่างมีประสิทธิภาพ โซ่มอเตอร์ไซค์ถูกสร้างขึ้นโดยใช้วัสดุที่แข็งแรง เช่น เหล็กที่ทนทานต่อการเสียหาย นอกจากนี้ยังต้องมีการดูแลรักษาโซ่อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้คงทนและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยควรใส่ใจในการดูแลรักษาโซ่มอเตอร์ไซค์ทั้งในด้านการทำความสะอาด การตรวจสอบเทียบความตึงเพื่อให้โซ่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การตรวจสอบและดูแลรักษาโซ่มอเตอร์ไซค์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้รถจักรยานยนต์ของเรามีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ แรบบิท แคร์ จึงรวมเรื่องน่ารู้และสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซ่มอเตอร์ไซค์มาฝาก ให้ทุกคนได้อ่านก่อนนำไปปรับใช้ในการดูแลรถจักรยานยนต์คู่ใจ

โซ่มอเตอร์ไซค์มีหลายรูปแบบและมีหลายประเภท โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ตามความต้องการและสภาพการใช้งานของรถจักรยานยนต์ได้ หนึ่งในนั้นคือโซ่รุ่นทั่วไป โซ่รุ่นนี้เป็นแบบต่อเนื่องที่ใช้สำหรับรถจักรยานยนต์ทั่วไปในการใช้งานประจำวัน อีกประเภทหนึ่งคือโซ่ O-ring และ X-ring ที่ออกแบบมาเพื่อลดการสูญเสียน้ำมันของเครื่องยนต์

โดยโซ่ O-ring และ X-ring นั้นจะมีลูกปืนยางในช่องกลางเพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง นอกจากนี้ยังมีโซ่รุ่นพิเศษอื่นๆ เช่นโซ่ Racing ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่อย่างเร็วและท้าทาย และโซ่หลายชั้นที่มีความทนทานและแข็งแรงเพื่อรองรับการใช้งานในสภาวะที่หนักหน่วง การเลือกใช้โซ่มอเตอร์ไซค์ประเภทที่เหมาะสมจะช่วยให้รถจักรยานยนต์มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยในการขับขี่ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถขับขี่ได้อย่างมีความมั่นใจ

สำหรับคนที่รู้สึกสนใจเกี่ยวกับโซ่มอเตอร์ไซค์ O-ring และ X-ring ที่ออกแบบมาเพื่อลดการสูญเสียน้ำมันของเครื่องยนต์และต้องการทราบถึงความแตกต่างของโซ่มอเตอร์ไซค์ทั้ง 2 ชนิดนี้นั้น โซ่ O-ring และ X-ring เป็นสองรุ่นของโซ่มอเตอร์ไซค์ที่ออกแบบมาเพื่อลดการสูญเสียน้ำมันของเครื่องยนต์ โซ่ O-ring มีรูปร่างแบบวงกลมเล็กๆ บริเวณตัวโซ่ที่มีลูกปืนยาง (O-ring) อยู่ในช่องกลางของโซ่ เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำมันเครื่องจากเฟืองและสเปรย์ลูกปืน

ส่วนโซ่ X-ring ก็มีลักษณะคล้ายกัน แต่จะแตกต่างกันที่มีรูปร่างแบบเอ็กซ์ (X) ที่ช่องกลางของโซ่ซึ่งช่วยลดการสูญเสียน้ำมันเครื่องอีกต่อหนึ่ง โดยการออกแบบที่สอดคล้องกับโครงสร้างพิเศษ อีกทั้งโซ่ X-ring ยังมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าในการป้องกันการรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง และมักจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าโซ่ O-ring อย่างไรก็ตาม ทั้งโซ่ O-ring และ X-ring จำเป็นต้องรับการดูแลและการบำรุงรักษาเพื่อให้รักษาสภาพที่ดีและยืดอายุการใช้งานของโซ่มอเตอร์ไซค์ได้ในระยะยาว

การตั้งโซ่มอเตอร์ไซค์เป็นกระบวนการสำคัญในการบำรุงรักษาและทำให้โซ่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเป็นการซัพพอร์ตการทำงานของรถจักรยานยนต์ ซึ่งวิธีการตั้งโซ่มอเตอร์ไซค์จะมีวิธีการทำดังขั้นตอนต่อไปนี้

• เตรียมอุปกรณ์ในการตั้งโซ่รถมอเตอร์ไซค์ : ประแจปากผสม, ประแจเบอร์ 10, ประแจเบอร์ 12, ประแจเบอร์ 14, ประแจเบอร์ 19
• เตรียมความพร้อมโดยยกขาตั้งคู่เพื่อให้รถจักรยานยนต์ลอยจากพื้น จากนั้นเปิดช่องมองของโซ่ที่ตัวบังโซ่และใช้นิ้วเข้าไปตรวจสอบระยะห่างของโซ่ว่าหย่อนมากน้อยเพียงใด โดยปกติระยะห่างฟรีของโซ่ควรอยู่ในช่วง 10-30 มม. ถ้าหย่อนมากกว่านี้ให้ตั้งค่าโซ่ใหม่
• หลังจากตรวจสอบและพบว่าโซ่หย่อนก็จะเริ่มต้นด้วยการใช้ประแจขนาด 14 เพื่อจับบริเวณน๊อตด้านซ้ายเพื่อหมุนและปลดนอตออก สำหรับด้านขวาจะใช้ประแจขนาด 19 เข้ามาจับที่บริเวณดังกล่าวจากนั้นเริ่มต้นการขันลงของนอตด้วยประแจขนาด 19 โดยค่อยๆ ขันลงและคลายนอตให้สุด
• จากนั้นให้ทำการคลายนอตล็อกตัวตั้งโซ่ โดยใช้ประแจเบอร์ 10 และเบอร์ 12 คลายนอตออกมาทั้ง 2 ข้าง
• ใช้ประแจเบอร์ 12 หมุนนอตทั้ง 2 ตัว เพื่อให้ดุมล้อเลื่อนไปทางท้ายของรถ จากนั้นใช้นิ้วตรวจสอบความตึงของโซ่ โดยทำขันนอตทั้งสองข้างพร้อมกัน
  *หมายเหตุ : การหมุดนอตเข้าไปด้านในจะทำให้โซ่ตึง ในขณะที่การหมุดนอตออกด้านนอกจะทำให้โซ่หย่อน
• หลังจากที่หมุนนอตจนได้ระยะที่เราต้องการแล้วให้สังเกตที่บริเวณตัวตั้งโซ่ซึ่งจะมีรอยขีดทั้ง 2 ข้าง ทำการวัดระยะทั้ง 2 ด้านโดยจะต้องตั้งให้ทั้ง 2 ข้างมีระยะห่างเท่ากัน
• ขั้นตอนถัดไป ตรวจเช็กบริเวณช่องมองโซ่ว่าโซ่มอเตอร์ไซค์ตึงหรือหย่อนเกินไปหรือไม่ โดยมีวิธีการเช็กโดยการใช้นิ้วลองยกขึ้นดูว่าโซ่ตึงหรือหย่อนพอดีหรือไม่ ซึ่งระยะฟรีของโซ่ควรจะอยู่ที่ 35 มม.หรือ 1.375 นิ้ว
• เมื่อได้ความตึงที่พอดีแล้ว จากนั้นใช้ประแจเบอร์ 14 และเบอร์ 19 ในการยึดดุมล้อเพื่อทำการขันให้แน่น และยึดนอตตัวตั้งโซ่โดยใช้ประแจเบอร์ 12 และ เบอร์ 10 จับยึดนอตไว้ไม่ให้หมุน จากนั้นใช้ประแจเบอร์ 10 ทำการขันนอตให้แน่น ทำขั้นตอนนี้ให้เรียบร้อยทั้ง 2 ข้าง
• ขั้นตอนสุดท้ายทำการเช็กความเรียบร้อยของโซ่อีกครั้ง ด้วยวิธีการลองหมุนล้อว่าล้อลื่นดีไหม สามารถหมุนได้ปกติดีหรือไม่ก็เป็นอันเรียบร้อย
  
  

สำหรับใครที่ไม่อยากต้องมานั่งปรับโซ่มอเตอร์ไซค์บ่อย ๆ นั้น สามารถหาตัวดันโซ่มอเตอร์ไซค์มาใช้เสริมได้ โดยตัวดันโซ่มอเตอร์ไซค์จะเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการปรับความตึงของโซ่มอเตอร์ไซค์เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบส่งกำลัง โดยจะสามารถช่วยปรับความตึงของโซ่ให้พอดีกับสภาพทางเรียบหรือลาดชันของถนน และยังช่วยให้โซ่ไม่หย่อนลงหรือเกาะเกี่ยวกับส่วนอื่นของรถจักรยานยนต์ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถปรับตั้งค่าความตึงโซ่ได้อย่างสะดวกและง่ายดายอีกด้วย

• เตรียมอุปกรณ์ในการล้างโซ่มอเตอร์ไซค์ : น้ำยาล้างโซ่ (ควรเลือกชนิดที่ไม่ส่งผลต่อ O-Ring และหากไม่มีสามารถใช้ผงซักฟอกผสมน้ำเปล่าและน้ำมันสนแทนได้), แปรงขัดโซ่, ถังน้ำหรือกะละมัง, ผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาดโซ่, สเปรย์หล่อลื่นโซ่, กระดาษลัง หรือสิ่งที่ช่วยป้องกันการเลอะบริเวณส่วนอื่น ๆ ของรถ และพื้น
• หากรถมอเตอร์ไซค์ถูกจอดทิ้งไว้นาน ควรเริ่มจากนำรถออกไปขับประมาณ 10-15 นาทีเพื่อให้คราบสกปรกที่ติดอยู่ตามโซ่หลุดออกง่ายขึ้น แต่หากเพิ่งใช้งานรถไม่นานก็สามารถตั้งขาตั้งคู่เตรียมพร้อมทำความสะอาดได้เลย
• ใช้กระดาษลัง หรือวัสดุกันเปื้อนสำหรับป้องกันการเลอะส่วนอื่น ๆ ของรถโดยเฉพาะล้อรถมอเตอร์ไซค์
• เทน้ำยาล้างโซ่รถมอเตอร์ไซค์ลงบนโซ่ จากนั้นทิ้งไว้สักพักให้น้ำยาล้างโซ่ขจัดคราบสกปรก
• ใช้แปรงขัดโซ่หรือแปรงสีฟันเก่าขัดตามซอกต่างๆ ของโซ่ให้ทั่วถึงเพื่อขจัดคราบฝุ่นและคราบน้ำมันออกให้หมด
• ขั้นตอนต่อไป ทำการล้างน้ำยาล้างโซ่และคราบสกปรกให้หลุดออกโดยใช้น้ำสะอาด โดยควรใช้น้ำจากสายยางปกติ ไม่ใช้สายฉีดน้ำแรงดันสูงเพราะอาจทำให้โซ่เสียหายได้
• ใช้ผ้าสะอาดเช็ดโซ่มอเตอร์ไซค์ให้แห้ง
• จากนั้นนำรถมอเตอร์ไซค์ไปขับขี่เพื่อให้คราบสกปรกที่อาจติดค้างอยู่หลุดออกไปและเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีน้ำค้างในบริเวณโซ่ซึ่งเป็นสาเหตุในการเกิดสนิม
• เมื่อนำไปขับและแน่ใจว่าโซ่แห้งดีแล้ว ทำการลงน้ำยาหล่อลื่นโซ่ให้ทั่วเพื่อป้องกันสนิมและยืดอายุการใช้งานของโซ่เป็นอันเรียบร้อย

ในส่วนของการเคลมประกันของโซ่มอเตอร์ไซค์นั้น ส่วนใหญ่แล้วบริษัทประกันจะรับเคลมในกรณีที่ เป็นความผิดพลาดทางด้านเทคนิคหรือความผิดพลาดที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงงานเท่านั้น หรืออาจจะเป็นในส่วนที่ได้รับความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เช่น รถชนแล้วโซ่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันก่อนเลือกซื้อจึงควรศึกษากรมธรรม์และอ่านเงื่อนไขให้ดี

และนี่ก็เป็นเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโซ่รถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงวิธีการดูแลและยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้สำหรับคนที่รักรถและต้องการดูแลรถจักรยานยนต์เพื่อยืดอายุการใช้งานรวมถึงหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยต้องไม่ลืมทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 กับ แรบบิท แคร์ ไว้ ปลอดภัย อุ่นใจ ดูแลให้อย่างครอบคลุม