เพลาข้อเหวี่ยง (crankshaft) คืออะไร? ทำหน้าที่อะไร? หากเสียหายจะส่งผลกระทบอย่างไรกับเครื่องยนต์
ทุก ๆ อุปกรณ์ทั้งในรถยนต์และรถจักรยานยนต์ล้วนมีความสัมพันธ์กัน ระบบการทำงานก็มักมีความเชื่อมต่อกัน หากอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งเสียหาย ก็จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่ปกติ เช่น มีอาการสั่น เบรกไม่อยู่ ความร้อนขึ้น เครื่องดับ เป็นต้น ผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ และนำรถเข้าศูนย์เมื่อครบกำหนดเช็คระยะเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนไปรู้จักกับเพลาข้อเหวี่ยง ว่ามันคืออะไร ทำงานอย่างไร และอยู่ส่วนไหนของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ไปดูกัยเลย!!
เพลาข้อเหวี่ยง คืออะไร?
"เพลาข้อเหวี่ยง" ในภาษาไทยหมายถึง "crankshaft" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบกันสะเทือนของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ มันเชื่อมต่อระหว่างโครงสร้างหลักของรถและล้อท้าย เพื่อให้ล้อท้ายสามารถขยับขึ้นลงได้ ทำให้รถสามารถวิ่งผ่านทางขรุขระได้โดยไม่สั่นสะเทือนมาก นอกจากนี้ยังมีการทำงานร่วมกับโช้คอัพหรือสปริงเพื่อทำให้การขยับขึ้นลงของล้อท้ายเป็นไปอย่างนุ่มนวล ทำให้การขับขี่นั่งสบาย และการควบคุมยากีศาสตร์ของรถเป็นไปได้ดีขึ้น
เพลาข้อเหวี่ยง อยู่ตรงไหน?
เพลาข้อเหวี่ยงหรือ "crankshaft" อยู่ที่ส่วนหลังของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ มันจะเชื่อมต่อระหว่างโครงสร้างหลักของรถกับล้อท้าย สำหรับรถยนต์ คุณสามารถหาเห็นได้ในช่องเช็คระบบกันสะเทือนหรือช่องเปลี่ยนล้อรถมอเตอร์ไซค์ ในขณะที่เพลาข้อเหวี่ยง มอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ที่ด้านล่างของที่นั่ง, ส่วนต่ำกว่ากระบอกโช้คอัปที่ล้อท้าย, มันเชื่อมโยงล้อท้ายกับโครงสร้างหลักของรถ ส่วนใหญ่จะทำจากเหล็กหรืออลูมิเนียม
เพลาข้อเหวี่ยง ทําหน้าที่อะไร
เพลาข้อเหวี่ย ทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญในระบบกันสะเทือนของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรถจักรยานยนต์ โดยมีหน้าที่ดังนี้
- เพลาข้อเหวี่ยงเชื่อมต่อล้อท้ายกับโครงสร้างหลักของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ สร้างฐานเพื่อให้ล้อท้ายสามารถเคลื่อนที่ขึ้นลงได้ตามภูมิประเทศที่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์เคลื่อนที่อยู่
- ทำงานร่วมกับโช้คอัพหรือสปริง สำหรับรถจักรยานยนต์ เพื่อลดการสะเทือนและการกระเด็นที่เกิดจากการขับขี่บนทางที่ขรุขระ ทำให้การขับขี่สบายและสะดวก
- ช่วยให้ล้อท้ายสามารถทำความสัมพันธ์กับพื้นที่ขับขี่อย่างต่อเนื่อง ทำให้การขับขี่ของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะฉะนั้น เพลาข้อเหวี่ยงเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพของการขับขี่ คุณควรตรวจสอบให้ดีเพราะหากอุปกรณ์ชิ้นนี้เสียหายอาจทำให้ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนที่ของรถ
เพลาข้อเหวี่ยงเสียหาย ส่งผลกระทบอย่างไร?
หากเพลาข้อเหวี่ยงเสียหายสามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการขับขี่ และมันอาจจะเป็นอันตรายหากไม่ได้รับการซ่อมแซมทันท่วงที ดังนี้:
1. การขับขี่ไม่สม่ำเสมอ
หากเพลาข้อเหวี่ยงมีปัญหา มันอาจทำให้การขับขี่ไม่สม่ำเสมอและสั่นสะเทือน การขับขี่บนทางที่ขรุขระอาจสร้างความไม่สบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
2. ส่งผลต่อความปลอดภัย
การเสียหายมีความเสี่ยงที่จะทำให้รถของคุณขาดการควบคุม ทำให้เกิดอันตรายได้ หากล้อท้ายขาดการสัมผัสกับพื้นถนนอย่างสม่ำเสมอ การควบคุมยากีศาสตร์ของรถอาจสูญเสียไป
3. ส่งผลต่อโช้คอัพ
หากเพลาข้อเหวี่ยงเสียหายหรือสึกหรอ อาจทำให้โช้คอัพหรือสปริงทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ นั่นอาจทำให้ความเสียหายเพิ่มขึ้นและอาจเกิดปัญหาเพิ่มเติมในระบบกันสะเทือน
เนื่องจากเหตุผลดังกล่าว เมื่อพบว่ามีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเพลาข้อเหวี่ยง ควรจะทำการตรวจเช็คและซ่อมแซมทันท่วงทีเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
เพลาข้อเหวี่ยง ราคาเท่าไหร่?
ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ชนิดของวัสดุที่ใช้ในการผลิต เช่น อลูมิเนียมหรือเหล็ก และความซับซ้อนของการออกแบบ
ราคาจะแตกต่างกันมากในการซื้อรายบรรจุภัณฑ์สำหรับการซ่อมแซม อาจระหว่าง 3,560 ถึง 35,000 หรือมากกว่าในบางกรณี เช่น กรณีที่เป็นที่ได้รับการออกแบบเฉพาะเพื่อการแข่งขัน การทดเติม และความซับซ้อนของการติดตั้ง
คุณควรจะตรวจสอบราคาจากผู้จำหน่ายหรือช่างซ่อมที่คุณไว้วางใจ และรับคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถของคุณ
เพลาข้อเหวี่ยงหัก ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
ราคาของเพลาข้อเหวี่ยงแพงพอ ๆ กับเปลี่ยนเครื่องยนตืใหม่ หรือถ้าคุณหาของเก่าได้ ก็ค่อนข้างยากเหมือนกันเนื่องจากต้องนำมาเจียรใหม่ นอกจากนี้ชิ้นส่วนที่ต้องเปลี่ยน อาจมีแบริ่งเพลาข้อเหวี่ยง และก้านสูบทุกชิ้น ซีลหน้า อาจจะถึงลูกสูบและแหวนลูกสูบด้วย ดังนั้นคุณควรเลือกช่างที่มั่นใจและมีความชำนาญในการเปลี่ยน หรือเลือกอู่ที่มีมาตรฐาน
เพลาข้อเหวี่ยงเสีย หรือแตกหัก ประกันคุ้มครองไหม?
เพลาข้อเหวี่ยงถือเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หากแตกหักหรือเสียหาย จำเป็นต้องเกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้นเช่น ขับไปชนฟุตบาท ในส่วนนี้ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครอง แต่ถ้าหากเกิดความเสียหายเนื่องจากใช้งานมาเป็นระยะเวลานานและเสื่อมสภาพ กรณีนี้ประกันจะไม่คุ้มครอง
เหล่านี้คือข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเพลาข้อเหวี่ยงของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ไม่เพียงแต่ดูแลรักษาชิ้นส่วนของเครื่องยนต์แล้ว หากคุณมีแพลนจะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ แนะนำให้ซื้อประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 ติดรถไว้ด้วย เรามีเจ้าหน้าที่ที่พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมงหากเกิดปัญหาอะไร คุณสามารถซื้อผ่านแรบบิท แครื ได้ง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอน ได้แก่ เปรียบเทียบและเลือกแผนประกันที่ตรงกับคุณ, ชำระค่าเบี้ยประกัน, และรอรับกรมธรรม์ หากสนใจโทรเลย 1438
ความคุ้มครองประกันรถจักรยานยนต์
ตารางความคุ้มครอง | ผลประโยชน์ | ||||
ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 1 | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 2+ | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 2 | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 3+ | ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 3 | |
คู่กรณี | |||||
บุคคล | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
ทรัพย์สินของคู่กรณี | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
รถของผู้เอาประกันภัย | |||||
การชนแบบมีคู่กรณี | ✔️ | ✔️ | ❌ | ✔️ | ❌ |
การชนแบบไม่มีคู่กรณี | ✔️ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
ไฟไหม้ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ❌ | ❌ |
รถหาย | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ❌ | ❌ |
ภัยธรรมชาติ | ✔️ | ✔️ | ❌ | ✔️ | ❌ |
ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง | ✔️ | ✔️ | ❌ | ❌ | ❌ |
ความคุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุส่วนบุคคล | |||||
อุบัติเหตุส่วนบุคคล | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
การรักษาพยาบาล | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |
การประกันตัวผู้ขับขี่ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ | ✔️ |