Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
info

💙 แจก Starbuck Voucher มูลค่า 800 บาทฟรี! เพียงเปิดบัญชี Webull ผ่านช่องทางของ Rabbit Care สนใจ คลิก! 💙

user profile image
เขียนโดยTawan A.วันที่เผยแพร่: Jan 09, 2023

หม้อลมเบรคคืออะไร ทำความรู้จักชิ้นส่วนนี้ให้มากขึ้น

หม้อลมเบรคเป็นคำที่อาจจะไม่คุ้นหูสำหรับคนทั่วไป แต่บอกได้เลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญให้กับการใช้รถบนท้องถนนเป็นเรื่องที่สะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของระบบเบรคของรถยนต์ที่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก ไปดูกันว่าหม้อลมเบรคคืออะไร มีหน้าที่การใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง และสำหรับเพื่อน ๆ ผู้ใช้รถยนต์ทุกท่านอาจจะเคยได้ยินหรือว่าเจอปัญหาอย่างหม้อลมเบรครั่วกันมาบ้าง ซึ่งน้องแคร์ก็ไม่พลาดที่จะนำเสนอทั้ง 2 เรื่องไปพร้อม ๆ

หม้อลมเบรคคืออะไร? มีการทำงานเป็นอย่างไร

หม้อลมเบรค (Brake Booster หรือ Vacuum Servo) คือ ระบบช่วยผ่อนแรงในการเหยียบแป้นเบรค ทำให้เหยียบง่าย มีความนุ่มนวลมากขึ้น ตัวชิ้นส่วนนี้ทำงานด้วยระบบสุญญากาศ (Vacuum) ซึ่งภายในมีการบรรจุแผ่นไดอะเฟรมและมีท่อที่เชื่อมต่อกับท่อไอดี โดยเมื่อเราทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ ตัวท่อของ Brake Booster ดังกล่าวจะทำการดูดอากาศเข้าไปใช้ในการจุดระเบิด ทำให้ภายในของหม้อลมเบรคเกิดสุญญากาศขึั้น ซึ่งจะทำให้การเหยียบเบรคทำได้ง่ายและมีความนุ่มนวลมากขึ้น

โดยการทำหน้าที่ของหม้อลมเบรคจะเริ่มหมดไปเมื่อเครื่องยนต์เริ่มหยุดการทำงานหรือเครื่องยนต์ดับ ผู้ใช้จะยังสามารถเหยียบเบรคได้อย่างนุ่มนวลอีกไม่กี่ครั้ง ซึ่งหลังจากนั้นตัวแป้นเบรคก็จะแข็งขึ้นมาทันที เนื่องจากภาวะสุญญากาศของ Vacuum Servo ได้หมดไปนั้นเอง ซึ่งถ้าในกรณีที่รถยังเดินเครื่องอยู่แล้วเกิดปัญหาการเบรคได้ไม่นิ่มนวล อาจจะต้องเช็กสภาพของเบรค และให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าอาจมีอาการของหม้อลมเบรครั่ว อีกหนึ่งปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข

หม้อลมเบรครั่วคืออะไร

หม้อลมเบรครั่ว คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับหม้อลมเบรค โดยสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหานี้เกิดมาจากการที่หม้อลมเบรคเกิดการรั่วของน้ำเบรคจากภายในหม้อลม ซึ่งอาจเป็นผลมาจากอาการเสียหรือความชำรุดของหม้อลมเบรคหรืออาจเกิดจากการรั่วของซีลที่อุดไม่ได้เรียบร้อย หรือเป็นผลกระทบจากการใช้งานรถยนต์แล้วชิ้นส่วนนี้เกิดการขูดหรือกระทบกระเทือนจากพื้นถนนหรือวัสดุต่าง ๆ

หม้อลมเบรครั่ว อาการเป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับปัญหาของหม้อลมเบรครั่ว อาการที่เกิดได้มีต่าง ๆ ดังนี้

  • เมื่อเหยียบแป้นเบรคแล้วรู้สึกว่ามีการจมกว่าปกติ หรือเวลาเหยียบแป้นเบรคค้างไว้แล้วรู้สึกว่าค่อยๆจมลง และหม้อลมเบรค มีเสียง ฟู่ ๆ ทุกครั้งเมื่อเหยียบแป้นเบรค อันเนื่องมาจากการที่ปัญหานี้นั่นเองไหลนั่นเอง
  • เวลาเหยียบแป้นเบรคจะรู้สึกว่าแข็งมีแรงต้าน ทำให้ต้องออกแรงเหยียบมากกขึ้นเป็นพิเศษ โดยผลจากการที่ปผัญหานี้ จะทำให้เหยียบเบรคไม่ค่อยอยู่ เมื่อเบรคแล้วตัวรถยังไหลไม่หยุดนิ่ง ทำให้ต้องเผื่อระยะในการเบรคมากกว่าปกติ

วิธีเช็กปัญหาหม้อลมเบรครั่วทำได้อย่างไรบ้าง

เราอยากขอแนะวิธีง่าย ๆ ในการเช็กปัญหาที่เกิดกับหม้อลมเบรค ซึ่งเพื่อน ๆ ทุกคนสามารถนำไปใช้เองได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

  • เช็กระบบการทำงานของหม้อลมเบรค : ทำการดับเครื่องยนต์ จากนั้นเหยียบเบรคให้สุด ซ้ำไปซ้ำมาราว ๆ 5-6 ครั้ง จนแป้นเบรคดันตัวขึ้นจนสุดมา จากนั้นให้เพื่อน ๆ ทดลองหยียบแป้นเบรคค้างไว้ก่อน แล้วจึงทำการสตาร์ทครื่องยนต์ จากนั้นให้สังเกตดูว่ากดเบรคนิ่มลงหรือไม่ ถ้ากดแล้วไม่นิ่มหรือเป็นเหมือนก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าตัวรถอาจเกิดปัญหาหม้อลมเบรค
  • เช็กภายในหม้อลมเบรค : สตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ราว ๆ 2-3 นาที จากนั้นทำการปิดเครื่องยนต์ลงแล้วทำการเหยียบเบรคลงให้สุด แล้วปล่อยเบรคทิ้งไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วเหยียบประมาณ 2-3 ครั้ง ถ้าแป้นเบรคดันขึ้นมาทุกครั้งที่เหยียบลงไปแสดงว่าระบบทำงานเป็นปกติดี ถ้ามีอาการนอกเหนือจากนี้แสดงว่ามีปัญหาที่ตัวหม้อลมเบรคหรืออาจเกิดปัญหาที่หม้อลมเบรค

ปัญหาหม้อลมเบรครั่วมีความอันตรายหรือไม่

ปัญาหาของหม้อลมเบรคอย่างหม้อลมเบรครั่วส่งผลเสียต่อผู้ใช้งานในระยะสั้นซึ่งนั้นก็คือการที่จะต้องออกแรงเหยียบเบรคให้มากขึ้นเนื่องจากเบรคมีอาการแข็งและด้านการเหยียบ โดยที่ตัวรถยนต์ยังสามารถที่จะขับต่อไปได้ แต่เนื่องจากตัวรถมีปัญหาเกี่ยวกับหม้อลมเบรค สำหรับผลระยะยาวการที่เกิดปัญหาที่หม้อลมเบรคอาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ขับขี่ได้ ดังนั้นเมื่อพบว่าหม้อลมเบรคมีอาการผิดปกติควรรีบนำรถไปซ้อมและแก้ปัญหานี้ให้เร็ว

หม้อลมเบรครั่ว ซ่อมได้ไหม?

“หม้อลมเบรครั่ว ซ่อมได้ไหม” ไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ โดยเพื่อน ๆ ผู้ใช้รถทุกท่านที่ประสบปัญหาหม้อลมเบรคสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ง่าย ๆ โดยนำรถไปเข้าศูนย์หรืออู่รถที่รู้จักแล้วจัดการเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ ความเป็นไปได้ในการซ่อมแซมมีดังต่อไปนี้

  • เปลี่ยนแผ่นไดอะเฟรม : ซึ่งเป็นแผ่นที่อยู่ภายในหม้อลมเบรค
  • เปลี่ยนสายเชื่อมต่อ : โดยเปลี่ยนสายที่รั่วมาเป็นสายใหม่
  • เปลี่ยนหม้อลมเบรค : เปลี่ยนหม้อลมเบรคทั้งชุดซึ่งถ้าเป็นมือสองหม้อลมเบรค ราคาจะไม่สูงมากเมื่อเทียบกับมือหนึ่ง แต่เรื่องคุณภาพก็อาจจะต่ำลง

กรณีหม้อลมเบรครั่วสามารถเคลมประกันได้ไหม?

ในกรณีที่เพื่อน ๆ เกิดอุบัติเหตุซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับหม้อลมเบรคจนทำให้เกิดความเสียหายไปจนถึงขั้นที่มีอาการอย่างหม้อลมเบรครั่ว ถ้าเพื่อน ๆ ได้มีการทำประกันรถยนต์ไว้อยู่แล้วละก็ขอให้อุ่นใจได้เลยเพราะถ้าสาเหตุที่ทำให้หม้อลมเบรคมีปัญหาเกิดจากอุบัติเหตุสามารถเคลมประกันได้

หม้อลมเบรคเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งานรถยนต์ ทำให้ในการเหยียบแป้นเบรคแต่ละครั้งทำได้ง่ายและนุ่มนวล ซึ่งการใช้งานรถยนต์ไปนาน ๆ อาจก่อให้เกิดปัญหาอย่างหม้อลมเบรครั่วได้ ซึ่งวิธีการตรวจอาการปัญหาดังกล่าวก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เองที่ได้ ซึ่งหากปล่อยปัญหาของหม้อลมเบรคนี้นานวันไป อาจก่อให้เกิดเป็นอุบัติเหตุขึ้นมาได้ในอนาคต เพื่อรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดฝันขอแนะนำให้ทุกท่านทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้เนื่องจากเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด อีกทั้งยังได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นรถลากที่พร้อมคอยช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าเพื่อน ๆ สนใจทำประกันรถยนต์แล้วล่ะก็สามารถมาสมัครได้ที่ แรบบิท แคร์ กันได้เลย

หม้อลมเบรครั่วจนเกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์คุ้มครองหรือไม่

หากหม้อลมเบรครั่วจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์จะคุ้มครองหรือไม่ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยและสาเหตุที่ทำให้หม้อลมเบรครั่ว ดังนี้

1. ประกันภัยชั้น 1

  • ความคุ้มครอง: ประกันภัยชั้น 1 จะคุ้มครองความเสียหายทั้งต่อรถของคุณและรถของคู่กรณี แม้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดจากหม้อลมเบรครั่วก็ตาม รวมถึงค่าซ่อมรถ ค่าเสียหายจากอุบัติเหตุ และค่าเสียหายของบุคคลภายนอก (คู่กรณี) ที่เกี่ยวข้อง
  • เงื่อนไขการตรวจสอบ: บริษัทประกันอาจตรวจสอบสาเหตุของหม้อลมเบรครั่ว ถ้าพบว่าคุณละเลยการบำรุงรักษา เช่น ไม่ได้ตรวจเช็คระบบเบรคตามกำหนด หรือไม่ซ่อมแซมเมื่อมีสัญญาณปัญหามาก่อน อาจส่งผลให้การเคลมถูกปฏิเสธหรือถูกลดวงเงินคุ้มครอง

2. ประกันภัยชั้น 2/2+ และ 3/3+

  • ความคุ้มครอง: ประกันภัยชั้น 2 และ 3 จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของคู่กรณีและบุคคลภายนอกเท่านั้น หากคุณเป็นฝ่ายผิด ความเสียหายต่อรถของคุณเองจะไม่ได้รับความคุ้มครอง (ยกเว้นประกันชั้น 2+ หรือ 3+ ที่มีคุ้มครองกรณีอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี)
  • เงื่อนไขเพิ่มเติม: ในกรณีที่หม้อลมเบรครั่วและทำให้เกิดอุบัติเหตุ หากมีการตรวจสอบพบว่าเกิดจากการละเลยการบำรุงรักษา บริษัทประกันอาจยังคงคุ้มครองคู่กรณี แต่ความคุ้มครองสำหรับรถของคุณเองอาจไม่ได้รับการพิจารณา

ความรับผิดชอบในการบำรุงรักษา

ผู้ขับขี่มีหน้าที่ในการบำรุงรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี ถ้าอุบัติเหตุเกิดจากการละเลย เช่น ไม่ตรวจสอบระบบเบรคตามคำแนะนำของผู้ผลิต หรือไม่ซ่อมหม้อลมเบรคที่มีปัญหา บริษัทประกันอาจใช้เป็นเหตุผลในการปฏิเสธการเคลมได้

โดยสรุปแล้ว หากหม้อลมเบรครั่วจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ประกันภัยชั้น 1 มักจะคุ้มครองทั้งรถของคุณและคู่กรณี แต่ต้องมีการตรวจสอบการบำรุงรักษาที่เหมาะสม ขณะที่ ประกันภัยชั้น 2 และ 3 จะคุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณี ส่วนรถของคุณจะไม่คุ้มครอง ส่วนประกันชั้น 2+ หรือ 3+ ถ้ามีคู่กรณีจะคุ้มครองทั้งรถผู้เอาประกันและรถคู่กรณี ทั้งนี้ ถ้าหม้อลมเบรครั่วเกิดจากการละเลยการบำรุงรักษา บริษัทประกันอาจปฏิเสธการเคลม

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา