Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้
user profile image
เขียนโดยTawan A.วันที่เผยแพร่: Jan 10, 2023

รถยางบวมเกิดจากอะไร? แล้วจะสามารถขับต่อไปได้ไหม?

การขับขี่รถยนต์บนท้องถนนนั้น สำหรับความปลอดภัยถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราควรจะต้องตระหนักเอาไว้ เพราะไม่เพียงแต่จะปลอดภัยเฉพาะกับตัวเรา แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นการหมั่นตรวจเช็กสภาพยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอก่อนที่จะมีการใช้งานรถยนต์ จึงเป็นสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ผู้ขับขี่ทุกท่านไม่ควรที่จะละเลยไป

และยิ่งถ้าหากว่าก่อนหน้านี้มีการขับรถตกหลุม หรือมีการขับรถกระแทกกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างรุนแรง มันก็อาจจะส่งผลทำให้ยางรถยนต์ของเรานั้นเกิดความเสียหายขึ้นมาได้ ดังนั้นถ้าหากจะมีการใช้งานรถยนต์ในครั้งถัดไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการตรวจเช็กสภาพยางรถยนต์ให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินทาง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดปัญหาขึ้นมาในภายหลังได้

รถยางบวม เกิดจากอะไร?

การที่รถเกิดยางบวมขึ้นมานั้นมักจะมีที่มาของปัญหาได้หลายสาเหตุ ยกตัวอย่างเช่น

  • ยางบวมจากลักษณะการขับขี่ของผู้ขับ ไม่ว่าจะเป็นการขับกระแทกอย่างรุนแรง การตกหลุม การเบียดกับฟุตบาท หรือการขับรถขึ้นลูกระนาดของถนนโดยที่รถกำลังวิ่งอยู่ในความเร็วสูง จนทำให้โครงสร้างของยางรถด้านในหรือบริเวณแก้มยางรถยนต์นั้นเกิดความเสียหายหรือเกิดยางบวมขึ้นมา

  • ยางบวมจากสภาพแวดล้อม หรือจากการขับขี่รถยนต์บนถนนที่มีคราบน้ำมันเป็นเวลานาน จึงส่งผลทำให้ยางรถยนต์นั้นเกิดความเสียหายหรือเกิดยางบวมได้เช่นกัน

  • ยางบวมจากการเสื่อมสภาพของยางรถยนต์ อาจจะเป็นยางรถยนต์ที่ขาดการดูแลหรือยางรถยนต์ที่หมดอายุแล้ว เพราะเมื่อมีการขับรถก็จะทำให้โครงสร้างของยางรถยนต์หรือบริเวณแก้มยางนั้นทำงานหนัก จนเกิดความเสียหายขึ้นมาและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดยางบวมขึ้นมานั่นเอง

  • ยางบวมจากการซ่อมแซมยางรถยนต์ที่ผิดวิธี ถ้าหากว่าก่อนหน้านี้เราได้มีการซ่อมยางรถยนต์หรือได้มีการปะยางรถยนต์ไป โดยเฉพาะในท้องยางรถยนต์ เพราะว่ามันจะมีโอกาสที่ความชื้นจากภายนอกนั้นจะเข้าไปยังภายในโครงยางรถยนต์ เพราะว่าในโครงยางรถยนต์นั้นจะมีส่วนประกอบของเหล็กอยู่ จึงทำให้เกิดเป็นสนิมขึ้นมาและทำให้เกิดเป็นยางบวมได้เช่นเดียวกัน

  • ยางบวมจากการที่รถนั้นมีการบรรทุกน้ำหนักที่มากจนเกินไป สำหรับในกรณีที่มีการใช้ยางที่ไม่ได้มาตรฐานด้วย ก็อาจจะส่งผลให้โครงยางนั้นเสียหายและเกิดยางบวมได้เช่นกัน

รถยางบวม อาการที่แสดงให้เห็นมีอะไรบ้าง?

สิ่งแรกที่เราจะสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าเวลาที่รถยางบวม คือยางรถจะมีลักษณะบวมหรือนูนออกมาจากรูปทรงเดิมของยางรถยนต์ ซึ่งถ้าหากว่าเรากำลังขับรถอยู่ก็จะสามารถรู้สึกได้เลยว่ารถของเรานั้นมันสั่น เพราะว่าการที่รถยางบวมนั้นเป็นเพราะว่าโครงสร้างภายในผ้าใบและเส้นใยของยางนั้นฉีกขาด และเมื่อเจอกับแรงดันภายในมันจึงบวมนูนออกมา ซึ่งส่วนมากจะเกิดที่บริเวณแก้มยางรถยนต์

ดังนั้นถ้าหากว่ายังฝืนขับต่อไป ความร้อนภายในล้อรถยนต์ก็จะเพิ่มมากขึ้น และอาจจะส่งผลทำให้ยางรถยนต์นั้นเกิดแตกหรือเกิดระเบิดขึ้นมาได้นั่นเอง โดยที่ยางรถยนต์นั้นจะถูกผลิตขึ้นมาจากวัตถุดิบหลัก 6 ชนิด นั่นก็คือยางธรรมชาติที่จะให้ความทนทาน ยางสังเคราะห์ที่จะให้ความนุ่มนวล สารเคมีที่จะเอาไว้เพิ่มความแข็งแรงให้กับยาง เส้นใยที่จะคอยเป็นโครงสร้างของยาง เส้นลวดที่จะถูกเคลือบด้วยยาง และสารเคมีอื่น ๆ ที่จะทำหน้าที่หลอมให้ยางรถยนต์และโครงสร้างทั้งหมดนั้นกลายเป็นชิ้นเดียวกัน

รถยางบวมดูยังไง ถึงจะบ่งบอกว่าผิดปกติ?

สำหรับลักษณะยางบวมนั้น ถ้าหากว่ามีอาการบวมนูนไม่ถึง 1/4 นิ้ว หรือ 0.6 เซนติเมตร ก็สามารถที่จะซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานตามปกติได้ แต่ถ้าหากว่ามีลักษณะบวมนูนใหญ่มาก ก็ควรที่จะต้องเปลี่ยนเป็นยางเส้นใหม่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน

ยางบวมแก้ยังไงถึงจะถูกวิธี?

ถ้าหากว่ารถยนต์ของเรานั้นเกิดยางบวมขึ้นมา หลายคนอาจจะคิดว่าแค่เจาะบริเวณที่ยางบวมก็พอ เพื่อให้ลมยางนั้นออกมาก็จะหาย แต่ความคิดนี้เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่ามันอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะในรถที่จะต้องมีการใช้งานหนักหรือว่าจะต้องมีการขับในระยะทางที่ไกล เพราะว่าสาเหตุหลักของยางบวมนั้นเกิดมาจากการที่โครงยางด้านในนั้นเสียหาย จำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันที ไม่อย่างนั้นยางอาจจะเกิดการระเบิดขึ้นมาในภายหลังได้

รถยางบวมขับได้ไหม เป็นอันตรายหรือไม่?

ไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ขับรถยนต์ต่อถ้าหากว่าเกิดยางบวม เพราะว่ามันอาจจะเกิดเป็นอันตรายขึ้นมาได้ เช่น ยางระเบิด เพราะไม่เพียงแต่จะเกิดความเสียหายกับยางรถยนต์เท่านั้น แต่แรงระเบิดนี้อาจจะส่งผลทำให้รถยนต์ของเรานั้นเสียการทรงตัว จนทำให้เกิดเป็นอุบัติเหตุขึ้นมาได้

ดังนั้นเราจึงควรที่จะต้องมีการดูแลยางรถยนต์ให้ถูกวิธี และพยายามให้ยางรถยนต์นั้นอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ทุกครั้งก่อนที่จะมีการนำรถออกไปใช้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายางบวมขึ้นมาในอนาคต และยังทำให้การเดินทางหรือการขับขี่ของเรานั้นปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

  • การสลับยางตามระยะทางที่กำหนด หรือการสลับยางทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร เพราะว่าในขณะที่มีการสลับยางนั้น มันจะทำให้เราสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่ายางรถยนต์มีอาการยางบวมหรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ หรือไม่

  • การเติมลมยางให้เหมาะสมกับรถยนต์ โดยในรถยนต์แต่ละชนิดนั้นก็จะมีกำหนดปริมาณลมยางที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราจึงควรที่จะเติมลมยางให้ได้ตามมาตรฐาน โดยเราสามารถดูได้จากคู่มือรถยนต์ที่ติดมากับรถยนต์ หรือดูจากแผ่นป้ายบอกความดันลมยางที่ติดอยู่บริเวณเสาที่เติมลมยาง

  • การเลือกใช้ยางรถยนต์ให้ถูกประเภท โดยเราจะต้องดูให้เหมาะสมกับขนาดของรถยนต์และการใช้งานของรถยนต์ด้วย เช่น เน้นบรรทุกของหนัก เน้นเดินทางไกล หรือใช้ขับขี่แค่ในเมือง ก็ควรที่จะเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะสม มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน เพื่อการใช้งานที่ยาวนานและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

  • ควรที่จะเตรียมชุดปะยางฉุกเฉินติดรถเอาไว้ด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าในอนาคตนั้นจะเกิดเหตุการณ์ยางบวมหรือยางระเบิดขึ้นมาหรือไม่ เพราะถ้าหากว่าเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นมา ตัวชุดปะยางฉุกเฉินอันนี้ก็จะสามารถช่วยให้เราซ่อมยางได้อย่างรวดเร็วและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เบื้องต้นอีกด้วย

รถยางบวมเคลมได้ไหม?

สำหรับในกรณีที่รถยางบวมนั้นจะสามารถเคลมได้ก็ต่อเมื่อเป็นการเคลมกับรถยนต์ที่ทำประกันภัยชั้น 1 ไว้เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็จะต้องดูรายละเอียดที่แผนกรมธรรม์ด้วย เพราะส่วนใหญ่แล้วประกันภัยชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองแทบทั้งหมด เว้นแต่ถ้าหากว่ารถยางบวมนั้นเกิดมาจากการเสื่อมสภาพตามการใช้งาน ทางบริษัทก็จะให้ความคุ้มครอง 50% ของราคายางนั้น และจะรับผิดชอบตามจำนวนล้อรถยนต์ที่เกิดความเสียหายขึ้นจริง

แต่ก็จะมีอีกกรณีหนึ่งนั่นก็คือการเคลมกับทางร้านจำหน่ายยางโดยตรง ซึ่งจะเป็นโปรโมชั่นที่ทางร้านจำหน่ายยางนั้นตั้งขึ้นมา โดยส่วนใหญ่แล้วจะครอบคลุมทั้งหมด แต่ก็จะต้องดูรายละเอียดที่ทางร้านระบุเอาไว้ด้วย เพราะส่วนมากแล้วจะเป็นการรับประกันยาง 10,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือนแรกที่ได้มีการเปลี่ยนยางกับทางร้าน แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมเก็บหลักฐานหรือใบเสร็จรับเงินไว้ให้ดี เพราะว่าอาจจะต้องใช้เป็นหลักฐานในการเคลมได้

ถ้ารถยางบวมทำให้เกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์จะคุ้มครองหรือไม่

หากเกิดอุบัติเหตุจากกรณี ยางบวม หรือยางรถยนต์เสื่อมสภาพ คำถามว่าประกันรถยนต์จะคุ้มครองหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยที่คุณทำไว้ รวมถึงเงื่อนไขและข้อกำหนดในกรมธรรม์ประกันภัยแต่ละแบบ

• ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 1 ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถไม่ว่าจะเป็นจากอุบัติเหตุ หรือความเสียหายที่เกิดจากเหตุสุดวิสัย ดังนั้น หากยางบวมทำให้เกิดอุบัติเหตุและมีความเสียหายที่เกิดขึ้น ประกันภัยชั้น 1 มักจะคุ้มครองทั้งค่าเสียหายของรถตัวเองและของคู่กรณี แต่ทั้งนี้ อาจจะต้องตรวจสอบด้วยว่าเป็นความเสียหายจากการขับขี่ที่ปกติหรือไม่ และไม่ใช่จากการใช้ยางที่เสื่อมสภาพแล้ว ซึ่งอาจส่งผลให้บริษัทประกันปฏิเสธความรับผิดชอบ

• ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และชั้น 3+ สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 2+ และชั้น 3+ จะให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายของคู่กรณีที่เกิดจากอุบัติเหตุเป็นหลัก รวมถึงจะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับรถของคุณเองหากเป็นการชนกับยานพาหนะอื่น แต่ไม่ครอบคลุมถึงความเสียหายที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของรถตัวเอง เช่น ยางบวม

• ประกันรถยนต์ชั้น 2 และชั้น 3 สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 2 และชั้น 3 จะให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายของคู่กรณีที่เกิดจากอุบัติเหตุเป็นหลัก แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับรถของคุณเองหากเป็นการชนกับยานพาหนะอื่นและไม่ครอบคลุมถึงความเสียหายที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของรถตัวเอง เช่น ยางบวม

ข้อสังเกตสำคัญเกี่ยวกับอาการยางบวม

  • หากการบวมของยางเกิดจากการใช้งานที่ผิดปกติ เช่น ขาดการบำรุงรักษาหรือการใช้ยางที่หมดอายุ ประกันอาจไม่คุ้มครอง
  • บางกรณีบริษัทประกันอาจต้องตรวจสอบว่าอุบัติเหตุนั้นเกิดจากการขับขี่ที่มีความประมาทหรือไม่ เช่น ขับต่อไปแม้จะรู้ว่ายางมีปัญหา

ดังนั้น คำแนะนำคือ ควรตรวจสอบสภาพยางรถยนต์เป็นประจำ และหากพบว่ายางเริ่มบวม ควรรีบเปลี่ยนทันทีเพื่อความปลอดภัย

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ความคุ้มครองรถผู้ทำประกัน
ประเภทประกันภัย
ชั้น 1
ชั้น 2+
ชั้น 2
ชั้น 3+
ชั้น 3
ชนแบบมีคู่กรณีชนแบบมีคู่กรณี
x
x
ชนแบบไม่มีคู่กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี
x
x
x
x
ไฟไหม้ไฟไหม้
x
x
รถหายรถหาย
x
x
ภัยธรรมชาติภัยธรรมชาติ
x
x
ช่วยเหลือ 24 ชม. ช่วยเหลือ 24 ชม.
x
x
x
ซื้อประกันรถยนต์   
คลิก
คลิก
คลิก
คลิก
คลิก
ความคุ้มครองอื่นๆ ครอบคลุมทุกชั้นประกัน
คุ้มครองคู่กรณี และทรัพย์สินคู่กรณี
อุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลบุคคลที่สาม
คุ้มครองชิวิตบุคคลที่สาม
คุ้มครองชีวิตผู้ขับขี่
ค่ารักษาพยาบาลตัวผู้ขับขี่
การประกันตัวผู้ขับขี่

คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย

ซื้อรถยนต์มาใหม่ ควรจะเลือกทำประกันภัยชั้นไหนดี?

ถ้าหากว่าเป็นรถยนต์ที่เรานั้นใช้ในชีวิตประจำวัน มีการใช้งานเป็นประจำอยู่แล้ว หรือสำหรับรถยนต์คันใหม่ป้ายแดงนั้น การเลือกทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่านอกจากจะได้รับความคุ้มครองครอบคลุมสูงสุด ทั้งในแบบที่มีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม รถยนต์สูญหาย รถยนต์ไฟไหม้ รถยนต์น้ำท่วม หรืออะไรก็ตาม ก็จะได้รับความคุ้มครองทุกกรณีแบบครอบคลุมทั้งหมด เรียกได้ว่าคุ้มค่า คุ้มราคากับเงินที่เสียไปอย่างแน่นอน

ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่านแรบบิท แคร์ จะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?

เพราะนอกจากเราจะสามารถเลือกแผนประกันภัยที่มีเบี้ยประกันราคาถูกที่สุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเรา แรบบิท แคร์ ยังช่วยดูแลคุณแบบ Exclusive ทั้งในเรื่องของบริการหลังการขายตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างคุณในทุกความกังวล ซึ่งรับรองได้เลยว่าการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์กับแรบบิท แคร์ นั้นจะคุ้มค่าแน่นอน ทั้งซื้อง่าย ได้กรมธรรม์เร็ว มีส่วนลดพิเศษต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งยังช่วยติดตามประสานงานเคลมของคุณให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี  เพราะฉะนั้นลูกค้าจึงสามารถที่จะมั่นใจได้เลยว่าจะไม่ผิดหวัง ถ้าหากเลือกทำประกันภัยรถยนต์กับแรบบิท แคร์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา