กระจายความเสี่ยง กับการลงทุนแบบตะกร้าหุ้น

ตะกร้าหุ้น เหมือนกับตะกร้าช็อปปิ้ง ที่เราจะเลือกลงทุนต่างๆ หยิบจับแล้วใส่ตะกร้า เดินถือไปเรื่อยๆ โดยหลายๆคนเปรียบเทียบการลงทุนเหมือนกับไข่อันบอบบาง ทีพร้อมจะแตกดังโพล๊ะ! ได้อย่างง่ายดาย กับวลีที่ว่า “อย่าใส่ไข่ทุกฟองในตะกร้าเดียวกัน” หรือก็คือการลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง และลงทุนเพียงอย่างเดียว หากวันใดวันนึงตะกร้าใบนั้นได้ตกลงสู่พื้น ไข่อันบอบบางที่เราฟูมฟัก ก็สามารถตกสลายลงไปทันควัน การลงทุนก็เช่นเดียวกัน ตะกร้าหุ้นจึงเป็นการลงทุนแบบ “กระจายความเสี่ยง” ไปยังตะกร้าหลายๆ ใบ หากใบนี้หลุดมือ ก็ยังมีใบอื่นๆ สำรองไว้นั่นเอง บทความนี้จะมาแนะนำวิธีกระจายความเสี่ยง กับการลงทุนแบบตะกร้าหุ้น

ขั้นตอนในการทำความเข้าใจการจัดสรรปันส่วนในตะกร้าหุ้นอย่างง่าย มี 4 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้

• กำหนดเป้าหมาย และระยะเวลาในการลงทุน

ทั้งนี้จะต้องมองความเป็นไปได้ด้วย สามารถปรับจัดสรรให้เหมาะสมกำจำนวนเงินลงทุนที่เรามี เช่น อยากมีเงินล้านในบัญชีภายในระยะเวลา 10 ปี

• ประเมินความเสี่ยง

ตรวจสอบและศึกษาในธุรกิจที่เรากำลังจะลงทุน รวมไปถึงความเสี่ยงที่ตนเองรับได้อยู่ในระดับที่เท่าไหร่ ทั้งนี้มีหลากหลายเว็บไซต์ตามธนาคารต่างๆ ที่สามารถช่วยให้เราประเมินตนเอง ว่าสามารถรับความเสี่ยงได้อยู่ที่อันดับเท่าไหร่

• เลือกกองทุน

หรือหุ้นเข้าพอร์ทตามความเข้าใจ และความสนใจของตนเอง ควรตรวจสอบและประเมินสถานการณ์อยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เจอสถานการณ์ที่เรียกกันว่า “ติดดอย” สูงชัน นั่นเอง

• เริ่มลงทุนได้เลย

โดยการแบ่งการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลากหลายรูปแบบ เช่น หุ้น กองทุน ตราสารหนี้ และอื่นๆ นอกจากลงทุนกับหุ้น หรือกองทุนในไทย ยังสามารถเปิดโอกาสไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศได้อีกด้วย หากสามารถทำความเข้าใจในสินทรัพย์นั้นๆ ได้ เพื่อเป็นการแบ่งสรรปันส่วนตะกร้าของเรา ให้มีประสิทธิภาพ กระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปยังที่ต่างๆ

แต่ละสถาบันทางการเงินจะมีแบบทดสอบต่างๆ ก่อนเริ่มการลงทุน โดยหลักๆ เพื่อประเมินตัวคุณเองว่าสามารถรับความเสี่ยงได้ระดับไหน และสามารถลงทุนในสินทรัพย์ตัวไหนได้บ้าง ทั้งกองทุนและหุ้น โดยที่มีตั้งแต่การรับความเสี่ยงได้ต่ำ ไปจนถึงรับความเสี่ยงได้สูง เนื่องจากยิ่งมีความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนยิ่งมีโอกาสได้เยอะ รวมไปถึงโอกาสการสูญเสียก็มีเยอะเช่นเดียวกัน ดังนั้นสินทรัพย์ทุกตัวที่จะซื้อมาใส่ในตะกร้าหุ้น จะต้องดูความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้ในเรื่องของปัจจัยต่างๆ ด้วย

สำหรับการกระจายตะกร้าหุ้นอย่างง่าย ขอแนะนำการลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) หรือ “การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย” โดยการลงทุนเป็นงวดๆ สม่ำเสมอ โดยไม่สนใจราคาของหุ้นนั้น ส่วนหุ้นที่เราจะลงทุนนั้นจะต้องเป็นหุ้นที่อยู่ในธุรกิจที่ดี แข็งแรง รวมไปถึงมีโอกาสเติบโต และมีกำไรอย่างต่อเนื่อง ทยอยสะสมหุ้นหลายๆ ตัว ไปเรื่อยๆ ทำเป็นรายได้แบบ Passive Income ใส่ตะกร้าหลายๆ ใบ นอกจากการทยอยซื้อหุ้น ยังสามารถทยอยซื้อกองทุนได้อีกในลักษณะ DCA (Dollar-Cost Averaging) เช่นกัน เพื่อกระจายโอกาสในการทำกำไรหรือขาดทุน ด้วยการถือหลายๆ ตะกร้าเก็บไว้

การลงทุน มีได้ มีเสีย มีความเสี่ยงในทุกการลงทุน ต่างจากเงินฝากที่เงินต้นเราอยู่ครบ แต่ไม่เสียอะไร แถมได้ดอกเบี้ยอีก แต่หารู้ไม่ว่า อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทุกปีๆ ก็ไม่อาจสู้ดอกเบี้ยเงินฝากได้ ทำให้เงินของเรามีมูลค่าลดลงอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นถึงได้มีการลงทุนเกิดขึ้นมา เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตตามอัตราค่าเงินต่างๆ หากสามารถบริหารตะกร้าหุ้นของตนเองได้ดี ก็สามารถเพิ่มมูลค่าของเงินที่มีอยู่นั้นได้อย่างดี จริงๆ ก็เปรียบเสมือนกับการฝากเงินไว้กับหลายๆ ที่ เพื่อหาตัวที่มีโอกาสได้ดอกเบี้ยที่ดีที่สุด โดยเฉลี่ยความเสี่ยงกันไปในแต่ละสินทรัพย์นั่นเอง

สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังจะตัดสินใจเริ่มต้นการลงทุนในแบบตะกร้าหุ้น สามารถเริ่มศึกษาข้อมูลที่มือใหม่ควรรู้ได้เลยไม่ต้องรีรอ หากศึกษา และเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว แต่ยังกลัวไม่กล้าที่จะลงทุน ก็จะไม่มีทางได้เห็นผลลัพธ์อย่างแน่นอน ลงมือทำได้ไวเท่าไหร่ยิ่งดี วงการนี้มีทั้งกำไรและขาดทุน อยู่ที่ว่าเราสามารถจัดการกับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน แต่โปรดพึงระลึกไว้เสมอว่า การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน รวมไปถึงประเมินความเสี่ยงที่ตนเองรับได้ก่อนเริ่มการลงทุน, ลดอคติต่างๆ ในการลงทุน และแบ่งสรรปันส่วนของตะกร้าหุ้นตนเองให้ดี เพื่อกระจายความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ