หากคุณเป็นหนึ่งในนี้ เราแคร์และยินดีช่วยธุรกิจโรงแรมของคุณ
เป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
คุณทราบถึงความเสี่ยง และต้องการจัดการบริหารความเสี่ยงธุรกิจของคุณ
ลักษณะธุรกิจของคุณมีความซับซ้อน
มีโมเดลธุรกิจที่แตกต่างจากทั่วไป และไม่ทราบว่าจะมีความเสี่ยงอะไรในธุรกิจของคุณ
คุณเป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจใหม่
ยังไม่แน่ใจว่าคุณมีความจำเป็นต้องซื้อประกันประเภทใดบ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยสำหรับภาคธุรกิจ
เรายินดีให้คำปรึกษา
ผู้เชี่ยวชาญรออ่านเมลของท่านอยู่
หุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือ
ทำไมต้องแรบบิท แคร์ ?
สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า
รับดีลพิเศษและข้อเสนอที่คุ้มค่า เฉพาะลูกค้าแรบบิท แคร์เท่านั้น
ได้รับความไว้วางใจจากสำนักงาน คปภ.
เราเป็นบริษัทในเครือ BTS ที่ได้รับใบอนุญาตนายหน้าขายประกันวินาศภัยและประกันชีวิต
บริการพิเศษสำหรับคุณ
จุดมุ่งหมายของเรา คือการมอบความพึงพอใจและบริการที่ดีที่สุด ผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
สาเหตุที่ต้องทำประกันภัยโรงแรม?
สาเหตุที่โรงแรมต้องทำประกันภัยโรงแรม มีดังนี้
- ทรัพย์สิน “โรงแรม” คือการลงทุนประเภทหนึ่ง เพื่อให้ทัศนียภาพโดยรอบและในโรงแรมงดงามที่สุด แน่นอนว่าต้องมีการลงทุนกับทรัพย์สินมากมายที่ใช้ในการตกแต่งโรงแรม ดังนั้นการทำประกันเอาไว้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณอุ่นใจแล้ว เมื่อเกิดปัญหาที่ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่าย คุณจะมีตัวช่วยที่คอยแบ่งเบาภาระเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี
- อุบัติเหตุจากความสะเพร่าของพนักงาน ดังคำกล่าวที่ว่า “ทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง” ดังนั้นคุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับโรงแรมของคุณ ในวันนี้อาจมีผู้เข้าพักเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ของโรงแรมจนได้รับบาดเจ็บก็ได้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วถึงแม้ว่าผู้เข้าพักท่านนั้นอาจได้ทำประกันการเดินทางเอาไว้ แต่ในฐานะที่คุณเป็นผู้ประกอบการก็ไม่ควรที่จะวางเฉยในเรื่องนี้ การแสดงความเป็นห่วง ดูแลในรูปแบบของการออกค่าใช้จ่ายให้ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ส่งผลดีต่อโรงแรม ดังนั้นการทำประกันเอาไว้จะช่วยเซฟค่าใช้จ่ายเหล่านั้นไปได้
- อุบัติเหตุจากตัวผู้เข้าพัก เมื่อเกิดอุบัติเหตุกับตัวผู้เข้าพักและอุบัติเหตุนั้นส่งผลให้ทรัพย์สินของโรงแรมได้รับความเสียหาย ยกตัวอย่างเช่น ผู้เข้าพักวิ่งเล่นไปชนประตูกระจกใสแตก เป็นต้น ถึงแม้ว่าจากเหตุการณ์นี้จะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ค่าความเสียหายที่เกิดกับประตูกระจกใสคงมีราคาสูงไม่น้อยเลย การทำประกันเอาไว้ก็จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้
- อุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด ถ้าหากโรงแรมเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ยกตัวอย่างเช่น ไฟไหม้ แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือภาระค่าใช้จ่ายของทรัพย์สินที่สุญเสียไปในกองเพลิง ถึงแม้ว่าโรงแรมของคุณจะมีการเตรียมพร้อมรองรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยสัญญานเตือนไฟ, ทางหนีไฟ และอุปกรณ์สำหรับดับเพลิงแล้วก็ตาม แต่คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นและเหตุการณ์สามารถบานปลายไปได้ขนาดไหน ดังนั้นการทำประกันไว้จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
มีข้อบังคับทางกฏหมาย ที่โรงแรมควรทำประกันภัย จริงหรือ?
เนื่องจาก “พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522” ได้อาศัยอำนาจตามมาตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนี้
- มาตราที่ 5 (3) กำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎหมายกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้บังคับใช้ได้
- มาตราที่ 8 (13) หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน ผู้ดำเนินการ ผู้ครอบครองอาคารและเจ้าของอาคาร
- มาตราที่ 8 (16) ชนิดหรือประเภทของอาคารที่เจ้าของอาคาร ผู้ครอบครองอาคาร หรือผู้ดำเนินการ ต้องทำการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
จากมาตราที่ได้เอ่ยถึงข้างต้นนั้น ระบุให้โรงแรมมีการทำประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายเอาไว้ เพื่อให้ความคุ้มครองแก่บุคคลภายนอกที่เข้ามาในเขตพื้นที่โรงแรม ยกตัวอย่างเช่น แขกผู้เข้าพัก เป็นต้น
นอกจากการทำประกันภัยความรับผิดภาคธุรกิจ ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นตัวช่วยแก่ผู้ประกอบการโรงแรมไม่ให้ต้องเจอภาระที่หนักเกินไปยามเกิดปัญหาแล้ว ยังมีประกันความเสี่ยงภัยทรพัย์สิน ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองแก่อาคารทรัพย์สินของโรงแรมยามเกิดเหตุสุดวิสัย ไม่คาดคิดอย่าง ไฟไหม้ เป็นต้น
ควรทำประกันภัยโรงแรมประเภทไหน ให้เหมาะกับธุรกิจคุณ?
- ประกันภัยทรัพย์สิน
- ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก
- ประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
- ประกันภัยความรับผิดของผลิตภัณฑ์
- ประกันภัยความซื่อสัตย์
- ประกันภัยความเสี่ยงภัยการก่อสร้าง
- ประกันภัยไซเบอร์
- ประกันรถยนต์กลุ่ม
เงื่อนไขการทำประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอกของโรงแรมคือ?
การทำประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก คือ ประกันภัยที่ถูกออกแบบมาสำหรับธุรกิจอย่างโรงแรม เกสต์เฮาส์ และรีสอร์ทโดยเฉพาะ เพื่อให้ความคุ้มครองค่าเสียหาย ที่มีสาเหตุมาจากอาคารสถานที่บกพร่อง หรือความประมาทเลินเล่อของพนักงาน ทำให้ผู้มาใช้บริการได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตหรือทรัพย์สินเสียหาย แต่ใช่ว่าโรงแรมไหนอยากทำก็สามารถทำประกันนี้ได้ เพราะแต่ละบริษัทประกันภัยเขาก็จะมีเงื่อนไขกรมธรรม์แตกต่างกันออกไป หลัก ๆ สามารถแบ่งได้ ดังนี้
เงื่อนไขการรับประกันภัยของโรงแรม
- เป็นประกันภัยสำหรับธุรกิจโรงแรมหรือรีสอร์ทเท่านั้น
- โรงแรมจะต้องมีจำนวนห้องพักไม่เกิน 350 ห้อง โดยปกติโรงแรมส่วนใหญ่จะมีการแบ่งขนาดตามการแบ่งจำนวนห้อง ดังนี้
- โรงแรมขนาดเล็ก มีห้องพักต่ำกว่า 50 ห้อง
- โรงแรมขนาดกลาง มีห้องพักระหว่าง 51 – 200 ห้อง
- โรงแรมขนาดใหญ่ มีห้องพักเกิน 200 ห้องขึ้นไป
- โรงแรมที่จะทำประกันประเภทนี้ ตัวอาคารต้องมีอายุไม่เกิน 10 ปี
- มีระบบป้องกันอัคคีภัย มีทางหนีไฟ มีสัญญาณตรวจวัดความร้อนและควัน อยู่ทุกชั้น มีสายดับเพลงและถังเคมีทุกชั้น
- ไม่มีประวัติความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้น
ซึ่งเงื่อนไขการรับประกันภัยของโรงแรมที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้น ไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่ยากเย็นอะไรเลย เพราะแต่ละโรงแรมก่อนที่จะได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ ทางโรงแรมจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเหล่านี้อยู่แล้ว
ประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอกมีความคุ้มครองอย่างไร?
โดยส่วนใหญ่บริษัทประกันภัยมักจะออกแบบเงื่อนไขกรมธรรม์สำหรับ “การทำประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก” ซึ่งจะให้ความคุ้มครองคล้ายคลึงกัน 4 ข้อ หลัก ๆ ดังนี้
- ชดใช้ในนามผู้เอาประกันภัยสำหรับกรณีที่เกิดเป็นความรับผิดตามกฏหมาย ต่อผู้มาใช้บริการและบุคคลภายนอก
- ชดใช้สำหรับความเสียหายแก่ชีวิต หรือร่างกาย
- ชดใช้สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สิน
- ชดใช้สำหรับ ค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ หรือค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีทางศาล
ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินคือ?
ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน คือ ประกันภัยประเภทหนึ่งที่ให้ความคุ้มครอง สำหรับความเสียหายของทรัพย์สินที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องอยู่ในระยะเวลาประกันด้วย ซึ่งประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินจะมีหน้าที่ช่วยดูแลและชดเชย ในกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอาคารของผู้ซื้อประกันในกรณีต่าง ๆ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไปทั้งเงื่อนไข และราคาค่าเบี้ยประกัน
คำนวนค่าเบี้ยประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สินจากอะไรบ้าง?
ค่าเบี้ยประกันภัยของลูกค้าอาจจะมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน ซึ่งมีสาเหตุปัจจัยมาจากหลายกรณี ดังนี้
- ประเภทของธุรกิจของคุณ
- จำนวนเงินเอาประกันภัย
- สิ่งปลูกสร้าง อาคาร และความเสี่ยงภัยบริเวณข้างเคียง
- การบริหารความเสี่ยง เช่น การป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ และวิธีการอื่น ๆ
- ความคุ้มครองส่วนขยายตามที่ตกลง เช่น การโจรกรรม , การสูญเสียเงินในสถานที่เอาประกันภัย เป็นต้น
ทั้งนี้กรมธรรม์ของแต่ละบริษัทประกันภัยเองไม่ได้มีการออกแบบรูปแบบหรือเงื่อนไขที่เหมือนกัน ดังนั้นผู้ซื้อประกันต้องอ่านรายละเอียดในเรื่องของความคุ้มครองและไม่คุ้มครองที่กรมธรรม์กำหนดไว้ให้รอบครอบ เพื่อประโยชน์ในการรับความคุ้มครองสูงสุดที่คุณควรจะได้รับ