แคร์สุขภาพ

รวมวิธีเพิ่มความสูงทุกวิธีที่คุณควรรู้ ฉบับไม่ง้อกรรมพันธุ์

ผู้เขียน : Nok Srihong

มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น

close
linkedin icon
 
 
Published: June 15,2023
วิธีเพิ่มความสูง

วิธีเพิ่มความสูง ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ เพราะแต่ก่อนตั้งแต่ยุคสมัยของนโปเลียน หรือจีนโบราญ ก็ได้มีอุปกรณ์เพิ่มความสูงมากมาย ทั้งการเสริมส้น ไปจนถึงการยืดกระดูกสุดพิศดาร โดยเชื่อว่าความสูงแสดงถึงพลังอำนาจ ความสง่าผ่าเผย ซึ่งปัจจุบันแม้จะไม่ได้สุดโต่งเช่นในอดีต แต่ความสูงก็ยังเป็นหนึ่งในองค์ประกอบอันเป็นที่หมายปอง ทำให้ใส่เสื้อผ้าได้สวยงาม หรือดูสวยเท่โดดเด่น จนหลาย ๆ คนให้ความสำคัญกับวิธีเพิ่มความสูง อยากสูงเป็นอันดับ 1 

ปัจจัยไหนบ้างที่ทำให้เราสูง ?

สิ่งที่ทำให้คนเราสูงเตี้ยแตกต่างกันมีหลายปัจจัย แต่กว่า 65-80% ความสูงของเราขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ แต่ที่เหลืออีก 20% เป็นเรื่องของการดูแลตัวเอง การกินอาหาร วิตามินที่เหมาะสม ซึ่งอย่าคิดว่าไม่สำคัญ เพราะหากสังเกตว่าความสูงเฉลี่ยของคนสมัยก่อน และสมัยใหม่ สูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะปัจจุบันเรามีความรู้ด้านโภชนาการ วิธีเพิ่มความสูง และผู้คนเข้าถึงอาหารที่ถูกสุขลักษณะมากขึ้น 

วัยที่เริ่มหยุดสูง

ผู้ชาย มักหยุดสูงช่วงประมาณ 18 ปี*

ผู้หญิง มักหยุดสูงช่วงประมาณ 16 ปี*

*การเจริญเติบโตของเด็กแต่ละคนขึ้นอยู่กับฮอร์โมน หรือรูปแบบการโตของเด็กแต่ละคน โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เด็ก หรือวัยรุ่นอาจโตเร็ว แต่หยุดสูงก่อน 16 หรือ 18 ปี ก็เป็นไปได้ หรือเด็กผู้ชายบางคนอาจสูงต่อไปจนถึงวัย 19 หรือ 20 ปีเลยก็ขึ้นอยู่กับวิธีเพิ่มความสูงของแต่ละคน

วิธีเพิ่มความสูงสำหรับเด็ก-วัยรุ่น

นี้คือวิธีง่าย ๆ ที่เด็ก ไปจนถึงวัยรุ่นทุกคนควรทำตาม เป็นทั้งวิธีเพิ่มความสูง และวิธีที่จะทำให้เขา หรือเธอพัฒนา และเติบโตขึ้นตามธรรมชาติอย่างเต็มศักยภาพ

รับประทานอาหารที่สมดุล

วิธีเพิ่มความสูงที่ดีที่สุด สำหรับเด็ก และวัยรุ่น วัยกำลังโต คือการกินอาหารที่ดี เพราะสุดท้ายแล้วเราจะสูงได้ โครงสร้างร่างกาย กระดูก กล้ามเนื้อ จะต้องแข็งแรง ซึ่งร่างกายจะแข็งแรงไม่ได้ หากยังขาดโปรตีน แคลเซียม วิตามิน แร่ธาตุ และอื่น ๆ อีกมากมาย ฉะนั้นหากอยากสูงจะต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลากหลาย และดีต่อสุขภาพ

วิธีเพิ่มความสูง

อาหารที่ควรรับประทาน เป็นหนึ่งในวิธีเพิ่มความสูงพื้นฐานที่สุด : ผักผลไม้สด / ธัญพืช / โปรตีน / นม 

อาหารที่ควรหลีกเลี้ยง เพราะไม่ดีต่อการเติบโตและพัฒนาของเด็กและวัยรุ่น : น้ำตาล / ไขมันทรานส์ / ไขมันอิ่มตัว 

กินนมแล้วสูงจริงรึเปล่า ?

เชื่อว่าเด็กหลาย ๆ คนโตมากับการถูกบังคับให้ดื่มนมก่อนนอน หรือบางบ้านก็อัดนมไปเลยเช้าเย็นเป็นวิธีเพิ่มความสูง แล้วแท้จริงแล้วนมมีผลต่อความสูงจริงหรือ ? ซึ่งก็ต้องขอบอกมีงานวิจัยมากมายกล่าวว่าการดื่มนมไม่ได้ช่วยให้เราสูงขึ้นขนาดนั้น อย่างงานวิจัยของ PMC (PubMed Central) ปี 2018 ได้ทำการวิจัยเด็กที่ดื่มนมเป็นเวลา 17 ปี พบว่ามีความสูงขึ้น 0.39 ซม. ต่อการดื่มนม 8 ออนซ์ทุกวัน แต่ผลงานวิจัยกล่าวว่าอาจมีปัจจัยด้านอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่นวิตามิน D และการดูแลเด็ก

ทำให้แนวคิดที่ให้เด็กดื่มนมวันละหลาย ๆ ลิตร เพื่อเป็นวิธีเพิ่มความสูง เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ โดยเฉพาะเด็ก ๆ หลายคนมีอาการแพ้นม (lactose intolerance) หรือนมในปัจจุบันมีการปรับแต่งจนทำให้เด็กมีปัญหาด้านฮอร์โมน แต่ถึงกระนั้น นมก็ยังเป็นแหล่งแคลเซียม โปรแทสเซียม และวิตามิน D สำคัญ จึงควรดื่มนม ตามปริมาณที่พอเหมาะเป็นวิธีเพิ่มความสูง

เด็ก (อายุ 1-2 ขวบ) : ดื่มนม 2 แก้ว หรือ ~475 มล. ต่อวัน

ก่อนวัยรุ่น (อายุ 2-8 ขวบ) : ดื่มนม 2-3 แก้ว หรือ ~590 มล. ต่อวัน โดยเปลี่ยนเป็นเลือกนมไขมันต่ำ หรือนมพร่องมันเนย

วัยรุ่น (อายุ 9-18 ปี) : ดื่มนม 3 แก้ว หรือ ~590 มล. ต่อวัน สามารถเปลี่ยนไปเป็นนมที่มีส่วนผสมทั้งหมดจากวัวหรือสัตว์อื่น (Whole Milk) สำหรับคนที่ระบบย่อยไม่มีปัญหา 

วิธีเพิ่มความสูง

พักผ่อน นอนหลับให้เต็มที่

วิธีเพิ่มความสูงอีกหนึ่งวิธีที่หลาย ๆ คน โดยเฉพาะวัยรุ่น มองข้าม ก็คือสิ่งที่ทุกคนทำอยู่ทุกวัน การนอน เพราะระหว่างการนอน ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) โดยฮอร์โมนนี้จะหลังก็ต่อเมื่อเราอยู่ในภาวะการหลับลึก ฉะนั้นการนอนให้พอเพียงในแต่ละช่วงวัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และเป็นวิธีเพิ่มความสูงที่วัยรุ่นวัยนอนน้อย ควรใส่ใจ

  • เด็กแรกเกิดช่วงอายุ 3 เดือน : ควรนอนวันละ 14-17 ชั่วโมง
  • ทารก 4-12 เดือน : ควรนอนวันละ 12-16 ชั่วโมง
  • เด็กวัยหัดเดิน 1-2 ขวบ : ควรนอนวันละ 11-14 ชั่วโมง
  • เด็ก 3-5 ขวบ : ควรนอนวันละ 10-13 ชั่วโมง
  • เด็ก 6-13 ขวบ : ควรนอนวันละ 9-12 ชั่วโมง
  • วัยรุ่น 14-17 ปี : ควรนอนวันละ 8-10 ชั่วโมง

ออกกำลังกาย ไม่อยู่นิ่ง

การออกกำลังกาย เป็นสิ่งสำคัญของหนึ่งในวิธีเพิ่มความสูงให้กับเด็กและวัยรุ่น เพราะนอกจากการนอนแล้ว การออกกำลังกายก่อร่างสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยในการหลั่งโกรทฮอร์โมน และยังทำให้เรานอนหลับได้สนิทยิ่งขึ้น

ฉะนั้นเด็ก ๆ ทุกคนจึงควรมีเวลาสำหรับการเล่น การออกกำลังกายประมาณ 1 ชั่วโมงทุกวัน ซึ่งการออกกำลังกายที่เป็นวิธีเพิ่มความสูงที่ดี ได้แก่

  • การวิ่ง การกระโดดเชือก
  • การยืดเส้นยืดสาย โยคะ หรือแอโรบิค

ลดความเครียด มีความสุขในการใช้ชีวิต

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เด็ก และวัยรุ่นเตี้ย หรือเติบโตช้ากว่าเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกัน คือความเครียด ความกดดันยิ่งกว่านั้นคือความรู้สึกไม่ปลอดภัย วิธีเพิ่มความสูงที่หลาย ๆ คนมักมองข้ามคือการปล่อยให้เด็กน้อยเป็นเด็ก ไม่ต้องรีบโต เพราะยิ่งมีความสุข ร่าเริง โกรทฮอร์โมน และเอ็นโดรฟินจะยิ่งหลั่ง ทำให้หยุดสูง หรือมีการพัฒนาทางร่างกายที่ช้ากว่าเด็กที่ได้เล่นสนุก เติบโตด้วยความรัก ความยืดหยุ่น โดยให้เด็กเป็นเด็กดังนี้

วิธีเพิ่มความสูง
  • ให้น้อง ๆ เรียนรู้ผ่านการเล่น โดยเฉพาะวัยอนุบาล และประถมต้น ไม่ควรให้เด็ก ๆ เรียนจริงจังจนเกินไป
  • อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกปลอดภัย กล้าที่จะแสดงออกทั้งในแบบที่ถูกและผิด
  • สั่งสอนตักเตือนทุกอย่างได้ แต่อย่าลืมแสดงความรักให้เด็ก ๆ สัมผัสได้

วิธีเพิ่มความสูงสำหรับผู้ใหญ่

สำหรับผู้ใหญ่ หรือเลยวัย 18-20 ปีมาเรียบร้อย วิธีเพิ่มความสูงอาจไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเราผ่านช่วงเจริญเติบโตมาเรียบร้อยแล้ว โดยอาจสามารถสูงขึ้นได้ แต่จะน้อยมาก ๆ และวิธีการต่าง ๆ ก็อาจจะมีความเสี่ยงด้วย

การปรับสรีระ

บางคนดูเตี้ยเพราะสรีระที่ไม่ผ่าเผย หลังค่อม หรือคอตก ซึ่งการปรับสรีระไม่ได้ช่วยในแง่ให้สูงขึ้นเท่านั้น หากแต่ยังช่วยแก่เรื่องกระดูกกดทับเส้นประสาท หรือกระดูกผิดทรง จึงเป็นหนึ่งในวิธีเพิ่มความสูงที่สำคัญมากสำหรับใครที่สรีระไม่ดี โดยวิธีเพิ่มความสูงด้วยการปรับสรีระมีดังนี้

  • วเล่นโยคะ ยืดเส้น ค่อย ๆ ยืดกล้ามเนื้อ
  • ไปหาหมอจัดกระดูก (Chiropractor)
  • ใช้อุปกรณ์ช่วยเสริมสร้างสรีระที่ถูกต้องในชีวิตประจำวัน เช่น โต๊ะทำงานที่ยืดยืนได้ เตียงที่มทีความแข่งหน่อย เบาะรองนั่ง ไปจนถึงอุปกรณ์พยุงหลังและไหล 

วิธีเพิ่มความสูง

วิธีเพิ่มความสูงโดยการรับประทานอาหารเสริม

ความจริงวิธีเพิ่มความสูงนี้ก็ใช้ในเด็กได้ (แต่ไม่ควรให้เด็กอายุน้อยทาน หรือหากเป็นวัยรุ่น ก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามความเหมาะสม) แต่สำหรับผู้ใหญ่ อาหารเสริมก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีมาก ๆ อาจไม่ทำให้สูงขึ้น แต่สามารถช่วยชะลอความสูงหดตัว หรือช่วยสร้างความแข็งแรงของกระดูก โดยอาหารเสริมที่เหมาะสมคือกลุ่มอาหารเสริมจำพวกนี้

  • วิตามิน C
  • วิตามิน D
  • แคลเซียม

วิธีเพิ่มความสูงโดยการผ่าตัด

เป็นวิธีเพิ่มความสูงที่รุนแรง และค่อนข้างจริงจัง ไม่แนะนำให้ใช้วิธีเพิ่มความสูงนี้ เพราะจะต้องผ่าตัดใหญ่ มีการหัดกระดูก และใช้เหล็กดามขา พร้อมปล่อยให้กระดูกที่ถูกหักฟื้นฟูกลับมาได้มีความยาวที่มากขึ้น อันเป็นสาเหตุของความสูงที่มากขึ้น โดยระยะพักฟื้นจะอยู่ที่ 8 – 12 สัปดาห์ พร้อมความเสี่ยงมากมาย ตั้งแต่กระดูกฟื้นตัวไม่สมบูรณ์ อาการอักเสบแทรกซ้อน และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งสามารถทำให้สูงขึ้นได้ประมาณ 5 – 8 เซนติเมตร ส่วนค่าใช้จ่ายจะตกประมาณ 2 แสนขึ้นไป ฉะนั้นหากไม่ใช่คนที่จำเป็นต้องใช้ส่วนสูงในการหารายได้ ก็อาจไม่แนะนำให้กระทำการผ่าตัดนี้

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะใช้วิธีเพิ่มความสูงกี่วิธี จะสูง หรือเตี้ย ที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพที่แข็งแรงยั่งยืน ไม่ว่าจะสูง จะหล่อ จะสวย ขนาดไหน แต่สุขภาพไม่ดี ก็ไม่ไหวอยู่ดี ฉะนั้นจะดูดีได้ ต้องสุขภาพดีก่อน แรบบิท แคร์ จึงอยากให้ทุกคนปลอดภัยหายห่วงจากทุกเรื่องสุขภาพที่คอยรุมเร้า ด้วยประกันสุขภาพ จากบริษัทประกันชั้นนำ คลิกไปดูต่อเลย

สมัครประกันสุขภาพกับน้องแคร์ รับบริการปรึกษาแพทย์ฟรี! ไม่ต้องไปโรงพยาบาล
icon angle up or down

เลือกแผนประกันสุขภาพที่คุณสนใจ

    ชื่อนามสกุล

    หมายเลขโทรศัพท์


     

    บทความแคร์สุขภาพ

    Rabbit Care Blog Image 89748

    แคร์สุขภาพ

    โรคพุ่มพวงคืออะไร มีอาการอย่างไร อันตรายถึงชีวิตหรือไม่ ?

    โรคที่คนไทยเรียกกันจนติดปากว่าโรคพุ่มพวง เนื่องจากคนไทยเรารู้จักโรคนี้กันอย่างแพร่หลายเมื่อศิลปินชื่อดังอย่างคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์
    Nok Srihong
    23/05/2024