ตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ แนวทางเลือกกล่องทีวีดิจิตอล กล่องแอนดรอย ให้ตอบไลฟ์สไตล์ของคุณ
เทคโนโลยีความบันเทิงผ่านจอ TV ในยุคปัจจุบันนั้นเจริญก้าวหน้าไปไวกว่าเดิมมาก จากเสาสัญญาณหนวดกุ้งและเสาก้างปลาที่ใช้กันมาหลายปี ตอนนี้หลายครัวเรือนได้หันไปใช้กล่องทีวีดิจิตอลกันหมดแล้ว ทำให้เราสามารถเลือกดูช่องรายการต่าง ๆ ได้มากมายในระดับคมชัด ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการเพลง สารคดี รายการข่าว ไปจนถึงรายการถ่ายทอดแข่งขันกีฬา แม้ว่ากล่องทีวีดิจิตอลดูผิวเผินแล้วจะใช้งานโดยรวมคือดูทีวีได้เหมือนกัน แต่ส่วนที่ต่างกันคือฟังก์ชันในแต่ละด้าน หากคุณกำลังมองหากล่องทีวีดิจิตอลก็ควรศึกษาให้ดี ซึ่งน้องแคร์จะมาแชร์แนวทางเลือกกล่องทีวีดิจิตอลให้ถูกใจการใช้งานดังนี้
รู้ก่อนใช้ กล่องทีวีดิจิตอลคืออะไร?
กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลเป็นกล่องอุปกรณ์รับสัญญาณดิจิตอลที่เชื่อมต่อเข้ากับทีวีรุ่นเก่า (ไม่ใช่สมาร์ททีวี) โดยเป็นการแปลงระบบสัญญาณให้สามารถรองรับระบบดิจิตอลที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้ สาเหตุที่ต้องแปลงสัญญาณเนื่องจากทีวีรุ่นเก่าจะใช้ระบบรับสัญญาณแบบอนาล็อกเท่านั้น ไม่สามารถรับสัญญาดิจิตอลแบบยุคสมัยใหม่ที่ประเทศไทยกำลังใช้อยู่ได้นั่นเอง
ทุกวันนี้กล่องทีวีดิจิตอลนั้นถูกพัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก บางรุ่นถูกพัฒนาเป็น กล่องแอนดรอย (android box) ที่สามารถรับสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนดีดีนี่เอง ทำให้สามารถรับชมช่องแบบ Streaming ได้อย่างเช่น ช่อง Youtube, Prime Video, Disney Plus, Netflix เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทางเลือกด้านความบันเทิงสำหรับผู้ใช้งาน ดังน้้นการเลือกกล่องทีวีดิจิตอลให้ตรงใจกับการรับชมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
กล่องทีวีดิจิตอลแตกต่างจากระบบอะนาล็อกอย่างไร?
กล่องทีวีดิจิตอลนั้นจะเป็นการนำส่งสัญญาณในรูปแบบทั้งภาพและเสียงแบบดิจิตอล โดยจะให้ภาพและเสียงที่คมชัดกว่า เนื่องจากการรับส่งข้อมูลนั้นรวดเร็วกว่าต่างจากระบบอะนาล็อกเดิมที่ส่งสัญญาณได้ช้ากว่า เพราะต้องรอสัญญาเข้าก่อนแล้วค่อยส่งสัญญาณออก ไม่สามารถรับและส่งสัญญาณได้พร้อมกันหลายช่องแบบระบบดิจิตอล ดังนั้นภาพที่รับชมคือจะออกมาในรูปแบบ HD ขึ้นไปจนถึงระดับความละเอียด 4K เลยทีเดียว
สังเกตได้ว่าทีวีแบบเดิมหรืออะนาล็อกจะมีข้อเสียมากมายเช่นถูกสัญญาณอื่นรบกวนได้ง่าย ภาพไม่คมชัด หากมีตึกมาบังก็จะทำให้รับสัญญาณไม่ดี ไม่สามารถดูช่องบางสถานีได้ ต่างจากระบบกล่องทีวีดิจิตอลที่จะช่วยรับภาพคมชัด ไม่มีคลื่นแทรกรบกวน สามารถรับชมได้หลายช่อง สามารถซื้อช่องรายการอื่นๆ เพิ่มเติมที่อยากดูได้ สามารถรับชมขณะเคลื่อนที่ได้(รับชมบนรถ) นอกจากนี้การใช้ระบบดิจิตอลยังช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าระบบอะนะล็อกอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้หากทีวีของคุณเป็นระบบรุ่นเก่าจึงมีความจำเป็นที่จะต้องซื้อกล่องทีวีดิจิตอลเข้าไปเพื่อให้สามารถรับระบบสัญญาณช่องฟรีทีวีของไทยได้ในยุคปัจจุบันนี้โดยต้องรองรับสัญญาณแบบ DVB-T2 ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถรับชมช่องทีวีใด ๆ ได้เลย แต่สำหรับใครที่ใช้ทีวีรุ่นใหม่อย่างสมาร์ททีวีหรือกูเกิลทีวี ก็สามารถเชื่อมต่อสัญญาณระบบดิจิตอลเพื่อรับชมได้เลย ไม่ต้องใช้กล่องแปลงสัญญาณแต่อย่างใด
วิธีเลือกกล่องทีวีดิจิตอลให้ตรงใจ
แม้ว่ากล่องทีวีดิจิตอลที่วางขายอยู่ตามท้องตลาดจะสามารถรับชมรายการฟรีทีวีได้ครบ เนื่องจากทุกกล่องต้องผ่านการรับรองจากหน่วยงาน กสทช. ว่าเป็นรุ่น DVB-T2 อันสามารถรับชมระบบสัญญาณดิจิตอลในไทยได้ แต่ฟังก์ชันการใช้งานของแต่ละรุ่นกล่องนั้นอาจแตกต่างกัน ซึ่งเราจะมาอธิบายแนวทางการเลือกซื้อกล่องทีวีดิจิตอลดังนี้
1. พิจารณาสเปคและฟังก์ชันจากกล่องทีวี
โดยให้ลองหาข้อมูลก่อนว่ากล่องทีวีแต่ละรุ่นมีฟังก์ชันการใช้งานเป็นอย่างไร เช่น ฟังก์ชันบันทึกรายการล่วงหน้า ฟังก์ชันค้นหาช่องอัตโนมัติ ฟังก์ชันการหยุดเวลา สามารถชมรายการ Streaming อะไรได้บ้าง เป็นต้น รวมถึงดูว่าสเปคคุณภาพการชมเปนอย่างไร เช่น ความละเอียดอยู่ที่เท่าไหร่ (แนะนำว่ายุคนี้ควรใช้ระดับ Full HD 1080P ขึ้นไป) ระบบเสียงเป็นแบบใด เฟรมเรตเท่าไหร่ ฯลฯ นอกจากนี้แนะนำให้ดูพอร์ตต่อเข้าทีวีด้วย เพราะหากกล่องทีวีดิจิตอลมีแต่พอร์ต HDMI มาให้อย่างเดียว อาจจะใช้งานกับทีวีรุ่นเก่าที่ต้องต่อพอร์ต AV ไม่ได้
2. พิจารณาราคาของกล่องทีวีดิจิตอล
ซึ่งแน่นอนว่ากล่องทีวีที่มีฟังก์ชันครบครันย่อมมากับราคาที่แพงขึ้น ให้คุณสำรวจความต้องการของตนเองก่อนเลือกซื้อกล่องต่าง ๆ ให้ดี หากฟังก์ชันไหนคิดว่าไม่ได้ใช้งานก็ไม่ต้องเลือกให้เสียเงินเพิ่มเติมไปเปล่า ๆ ยกตัวอย่างเช่น กล่องแอนดรอยมักจะมีราคาแพงกว่ากล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลทั่วไป ซึ่งตามท้องตลาดนี้มีกล่องทีวีดิจิตอลราคาเพียงแค่หลักร้อยแต่สามารถใช้งานได้ดีมีมากมาย
3. ดูรีวิวจริงจากผู้ใช้งานประกอบ
หลายสื่อในอินเตอร์เน็ตในสมัยนี้ มีรีวิวการใช้งานกล่องทีวีดิจิตอลอยู่แทบทั้งสิ้น ให้คุณลองค้นหาข้อมูลการรีวิวเพื่อประกอบการตัดสินใจ และหากเป็นไปได้เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้กล่องทีวีที่ผลิตจากแบรนด์ดัง เพราะอย่างน้อยจะได้การันตีจะได้วัสดุคุณภาพ ได้รับการตรวจสอบมาตรฐานจาก กสทช. รวมถึงเซอร์วิสการขายอย่างเป็นระบบ
7 กล่องทีวีดิจิตอลที่น่าใช้งานต้อนรับปี 2023
สำหรับใครที่นังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใช้กล่องทีวีดิจิตอลรุ่นไหน แบรนด์ไหนดี เรามีคำแนะนำให้ดังนี้
1. TrueID TV Gen2 – ราคา 2,300 บาท
กล่องแอนดรอยระดับไฮ-เอ็นด์จากค่าย True ที่มาพร้อมความคมชัดสูงสุดถึง 4k มีดีไซน์สวยงามล้ำสมัย ขนาดกะทัดรัด พร้อมด้วยชิปประมวลผลความเร็วสูง จุดเด่นของกล่อง android box นี้คือฟังก์ชันต่าง ๆ ที่จัดเต็มมาก ๆ สามารถใช้ Chromecast ต่อกับโทรศัพท์สำหรับดูภาพยนตร์ในทีวีจอใหญ่ได้ มีแอปพลิเคชั่น Youtube, Netflix, iQiYi, ติดมาให้ในเครื่องและสามารถโหลดแอปพลิเคชันอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ใน Google Play Stores ใช้งานง่ายด้วยระบบบันทึกรายการย้อนหลัง 7 วันให้คุณกลับมาดูรายการที่ชอบ รวมถึงระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย
2. PSI S4 Hybrid – ราคา 1,590 บาท
เป็นกล่องทีวีดิจิตอลที่ออกแบบมาดูดีสวยงาม มีขนาดกะทัดรัด จัดเต็มด้วยภาพคมชัดแบบ 1080P หรือ Full HD จุดเด่นของกล่องนี้คือสามารถรับสัญญาณได้แบบ Hybrid คือรับได้ทั้งสัญญาณดิจิตอลและดาวเทียม มีช่องเสียบ USB มาให้ 1 ช่อง รองรับสัญญาณ Wi-Fi ได้ มีระบบล็อกช่องที่ไม่ต้องการให้เปิด และสามารถใช้เล่นมัลติมีเดียต่าง ๆ ผ่านแฟลชไดร์ฟได้ อีกทั้งยังสามารถใช้งาน Streaming จาก Youtube ได้ด้วย
3. Aconatic 357T2 – ราคา 890 บาท
กล่องทีวีดิจิตอลคุณภาพคมชัดระดับ 1080P หรือ Full HD รับสัญญาได้ครบทุกช่อง ระบบของกล่องทำงานได้อย่างรวดเร็วด้วย ชิปประมวลผล Ali M3812/594MHz พร้อม RAM ถึง 64 GB ส่วนดีไซน์ของกล่องนั้นก็ดูทันสมัยมี ช่อง USB 1 ช่อง สำหรับใช้งานมัลติมีเดียจากแฟลชไดร์ฟ หรือจะเสียบต่อกับฮาร์ดดิสก็สะดวกเช่นกัน ส่วนราคาก็สบายกระเป๋าเพราะจ่ายไม่ถึงพัน แต่มีทอนแน่นอน
4. Sonar HD-T2F11 – ราคา 600 บาท
กล่องทีวีดิจิตอลจากแบรนด์ Sonar แม้ดีไซน์อาจจะดูตกยุคไปหน่อย แต่การันตีได้เลยว่าคุณภาพนั้นจัดเต็ม ด้วยการดูภาพคมชัดในระดับ Full HD ชมช่องฟรีทีวีได้ครบทั้ง 48 ช่อง มีฟังก์ชันที่จะช่วยคุณบันทึกรายการที่อยากชมล่วงหน้าได้ ทำให้ไม่พลาดกับรายการโปรด ส่วนช่องเสียบที่ให้มาก็เป็นไปตามมาตรฐานทั่วไปคือช่อง USB สำหรับเสียบแฟลชไดร์ฟเพื่อรับชมสื่อมัลติมีเดียต่าง ๆ และช่องเสียบ HDMI แถมมีราคาถูกเพียงแค่หลักร้อยเท่านั้น
5. GMM Z – ราคา 1,300 บาท
อีกหนึ่งกล่องแอนดรอยรุ่นยอดนิยมที่มาพร้อมกับความคมชัดจัดเต็มแบบ 4K HDR ดีไซน์เรียบสวยมีจอแสดงผล LED ให้เห็นชัดเจน มีปุ่มเปลี่ยนช่องบนตัวกล่องสำหรับเปลี่ยนช่องรวดเร็วในกรณีที่หารีโมทไม่เจอ มีฟังก์ชันต่อ Wi-Fi รวมถึงรับชมภาพยนตร์ Streaming จากแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น Youtube, Netflix, VIU ได้ เป็นต้น หรือจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่น ๆ จาก Google Play Store มาใช้ก็ได้เช่นกัน อีกทั้งยังถือว่าราคาถูกมาเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป
6. Infosat HD Q168 ราคา 430 บาท
กล่องทีวีดิจิตอลราคาย่อมเยา รองรับภาพสัญญาณระดับ Full HD สามารถดูช่องฟรีทีวีได้ครบ 48 ช่อง โดยตัวกล่องนั้นเป็นระบบไฮบริดที่รับได้ทั้งระบบดิจิตอลและระบบดาวเทียม ด้านหน้ากล่องมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB มาให้จำนวน 2 ช่อง รวมถึงช่องเสียบเสาสัญญาณ Wi-Fi สำหรับต่ออินเตอร์เน็ต สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Youtube และ Infosat ได้ นอกจากนี้ยังมีระบบล็อกช่องที่ไม่ต้องการใช้งานเพื่อป้องกันเด็กเปิดอีกด้วย
7. Family DR-111 ราคา 680 บาท
ปิดท้ายด้วยกล่องทีวีดิจิตอลจากแบรนด์ Family ที่มาพร้อมกับการรับสัญญาณคุณภาพคมชัดระดับ Full HD มีเสาสัญญาณแถมมาให้ ทำให้ดูทีวีดิจิตอลได้โดยไม่ต้องติดจาน สัญญาณเสถียรแบบสุด ๆ และไม่ต้องกังวลกับภาพขาดสัญญาณหายตอนฝนตก พอร์ตด้านหน้ามีช่องเสียบ USB มาให้สำหรับเสียบแฟลชไดร์ฟดูหนังหรือสื่อบันเทิงต่าง ๆ ตลอดจนเซอร์วิสพิเศษที่มีศูนย์ซ่อมทั่วประเทศ
จัดเต็มทุกความบันเทิงอย่างไม่มีสะดุดกับกล่องทีวีดิจิตอล และกล่องแอนดรอย (android box) ที่ตรงใจคุณ เมื่อซื้อกล่องทีวีแล้วรูดด้วยบัตรเครดิต จ่ายง่าย ได้สะสมแต้ม แถมไม่ต้องพกเงินสด หากใครยังไม่มีบัตรเครดิตอย่ารอช้า แรบบิท แคร์ มีบัตรเครดิตโดน ๆ ให้คุณเลือกเพียบ เปรียบเทียบง่าย ได้สิทธิ์พิเศษโดนใจ โทรเลย 1438
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี
