แนะนำหนังจากผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน และเผยสิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
ช่วงเวลาที่บทความนี้ถูกเผยแพร่ เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่คริสโตเฟอร์ โนแลน เผยหนังเรื่องใหม่แนวชีวประวัติอย่าง Oppenheimer เป็นประจักษ์แก่สายตาคนทั้งโลก ซึ่งหากใครที่ติดตามหนังของคริสโตเฟอร์ โนแลนอยู่แล้ว คงเข้าใจได้ดีถึงสไตล์การเล่าเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์ มีความโดดเด่นเฉพาะตัวในมุมมองต่าง ๆ ส่วนใครที่เพิ่งเริ่มติดตาม หรือรู้จักกับคริสโตเฟอร์ โนแลนได้ไม่นานนัก แรบบิท แคร์ จะพาคุณจมดิ่งลงไปอีกเล็กน้อย เพื่อทำความรู้จักกับหนังทั้งหมดของคริสโตเฟอร์ โนแลน รวมถึงนำเสนอรางวัลที่เขาเคยได้รับ และเรื่องราวที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน
รวมหนังของ คริสโตเฟอร์ โนแลน
รวมหนังของ คริสโตเฟอร์ โนแลนที่อยู่ในฐานผู้กำกับนั้นมีทั้งหมด 12 เรื่องด้วยกัน คือ Following (1998), Memento (2000), Insomnia (2002), Batman Begins (2005), The Prestige (2006), The Dark Knight(2008), Inception (2010), The Dark Knight Rises(2012), Interstellar (2014), Dunkirk (2017), Tenet (2020) และ Oppenheimer (2023) โดยแต่หนังแต่ละเรื่องของคริสโตเฟอร์ โนแลน จะมีเนื้อหาเป็นอย่างไร เป็นหนังแนวไหน เดี๋ยวเราลองมาดูแนะนำแบบคร่าว ๆ กัน
The Following
ประเภทหนัง: อาชญากรรม, ลึกลับ, ระทึกขวัญ
The Following หนังยาวเรื่องแรกที่กำกับโดยคริสโตเฟอร์ โนแลน มีความยาวที่ 1 ชั่วโมง 9 นาที เป็นหนังสไตล์ภาพขาวดำ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับนักเขียนหนุ่มคนหนึ่ง ที่คอยตามคนแปลกหน้าบนท้องถนน เพื่อสืบหาเรื่องราวมาเขียนนิยายของตัวเอง จนกระทั่งนักเขียนคนนั้นติดตามชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ซึ่งนำมาสู่เรื่องราวอาชญากรรมที่บานปลาย และสุดท้ายกลายเป็นตอนจบที่หักมุมจนต้องเหวอกันไปข้าง
Memento
ประเภทหนัง: ลึกลับ, ระทึกขวัญ
Memento คือหนังเรื่องที่ 2 ของคริสโตเฟอร์ โนแลน มีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 53 นาที ซึ่งเรียกได้ว่านี่อาจจะเป็นหนังแจ้งเกิดในวงการเลยก็ว่าได้ เพราะการเล่าที่แปลกใหม่ ตัดสลับไปมาระหว่างปัจจุบันและอดีต เสมือนกับเราได้เห็นภาพ ได้เห็นความคิดจากตัวเอกที่เป็นโรค “short-term memory” หรือโรคความจำสั้น ซึ่งตัวเอกต้องทำการปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด เพื่อตามหาคนร้ายที่ฆาตกรรมภรรยาของเขา โดยมีอุปสรรคเป็นโรคความจำสั้นของตัวเอง
Insomnia
ประเภทหนัง: ดราม่า, ลึกลับ, ระทึกขวัญ
Insomnia มีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 58 นาที ซึ่งผลงานชิ้นนี้เป็นการ Remake ที่คริสโตเฟอร์ โนแลนหยิบมาจากหนังเก่าสัญชาตินอร์เวย์ โดยเนื้อเรื่องจะเริ่มต้นด้วยเหตุการณ์ฆาตกรรมเด็กสาวที่ทำให้คู่หูนักสืบต้องเดินทางไปที่อะแลสกา เพื่อช่วยตำรวจสืบค้นหาฆาตกร แต่แล้วเรื่องราวกลับพลิกฝัน เมื่อจู่ ๆ นักสืบดันพลั้งมือฆ่ากันเอง ทำให้คู่หูนักสืบที่เหลือรอดต้องสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา แต่เรื่องราวไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะพยานผู้เห็นเหตุการณ์ กลับเป็นฆาตกรที่ฆ่าเด็กสาวเสียอย่างนั้น
Batman Begins
ประเภทหนัง: แอ็กชัน, ดรามา, อาชญากรรม
Batman Begins มีความยาวหนังที่ 2 ชั่วโมง 20 นาที เป็นการเปิดปฐมบทแรกหนังฮีโร่ฉบับคริสโตเฟอร์ โนแลน ภาคแรกสุดของไตรภาคแบทแมน ที่ฉีกจากหนังฮีโร่แอ็กชันทั่วไป ให้กลายเป็นหนังธีมสุดดาร์ก ผ่านบทหนังที่มีความจริงจัง นำเสนอเส้นเรื่องผ่านปูมหลังตัวละครที่เต็มไปด้วยเรื่องราวผูกปมมากมาย ทั้งยังมีบรรยากาศเมือง Gotham ที่แสนจะอึมครึม และได้อารมณ์ความดาร์กแบบเต็มขั้นกันตั้งแต่ภาคแรก
The Prestige
ประเภทหนัง: ดรามา, ลึกลับ, ไซ-ไฟ, ระทึกขวัญ
The Prestige มีความยาวหนัง 2 ชั่วโมง 10 นาที หนังคริสโตเฟอร์ โนแลน แนวไซ-ไฟลึกลับ ชูโรงด้วยธีมนักมายากลที่หลอกหลอนทุกคนด้วยคำว่า “Are you watching closely?” “แน่ใจแล้วหรือว่าคุณมองใกล้มากพอ” เรื่องราวของศึกชิงความเป็นสุดยอดนักมายากลแห่งยุค ที่พยายามสร้างสรรค์ และลบล้างคู่แข่งผู้ซึ่งเคยเป็นเพื่อนซี้กันมาก่อน จนทำให้เกิดเรื่องราวดรามามากมาย พร้อมกับปิดท้ายด้วยคำถามแนวไซ-ไฟอย่างน่าฉงน
The Dark Knight
ประเภทหนัง: แอ็กชัน, ดรามา, อาชญากรรม, ระทึกขวัญ
The Dark Knight มีความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง 32 นาที หนังแบทแมนภาค 2 โดยฝีมือของคริสโตเฟอร์ โนแลนที่ได้มีการเปิดตัว “โจ๊กเกอร์” ที่แสดงโดย “ฮีธ เลดเจอร์” ซึ่งเจ้าตัวสามารถถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้การต่อสู้ระหว่างแบทแมนและโจ๊กเกอร์ กลายเป็นเรื่องราวที่ดูมีมิติมาก แม้ว่าจะไม่มีพลังพิเศษเพื่อสาดใส่กันก็ตามที
Inception
ประเภทหนัง: แอ็กชัน, แอดเวนเจอร์, ไซ-ไฟ, ระทึกขวัญ
Inception มีความยาวหนังอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 28 นาที หนังสเกลใหญ่อีกเรื่องหลังจากที่คริสโตเฟอร์ โนแลน ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาอย่างโชกโชน ทำให้ตัวหนังมีการถ่ายทอดเรื่องราวที่ตื่นเต้น และตีความเป็นไซ-ไฟได้อย่างน่าค้นหา ซึ่งเนื้อหาของหนังเป็นเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่ง ที่สามารถจารกรรมข้อมูลผู้คนจากในฝันได้ ซึ่งบางครั้งการฝันธรรมดา อาจทำให้พวกเขาไม่ได้ข้อมูลตามที่ต้องการ จึงต้องเกิดการจารกรรมผ่านระบบฝันซ้อนฝันที่ลึกลับชวนงง จนบางครั้งต้องแยกให้ออกเลยว่าเหตุการณ์ไหนคือความฝันกันแน่
The Dark Knight Rises
ประเภทหนัง: แอ็กชัน, ดรามา, ระทึกขวัญ
The Dark Knight Rises มีความยาวที่ 2 ชั่วโมง 44 นาที เป็นภาคสุดท้ายของแบทแมนฝีมือคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ยกระดับจากสงครามจิตวิทยาของโจ๊กเกอร์ในภาคก่อนหน้า ให้กลายเป็นการระเบิดที่อลังการงานสร้าง ที่ตัวร้ายประจำภาคพร้อมเล่นใหญ่ทำลายล้างทุกสิ่ง ถือว่าเป็นการปะทะกันที่ช่วยให้ผู้ชมได้เคลียร์เรื่องราวของแบทแมน และสามารถปิดจบไตรภาคด้วยฝีมือของคริสโตเฟอร์ โนแลนได้อย่างสวยงาม
Interstellar
ประเภทหนัง: แอดเวนเจอร์, ดรามา, ไซ-ไฟ
Interstellar มีความยาวที่ 2 ชั่วโมง 49 นาที หนังไซ-ไฟแนวอวกาศจากคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ไม่ได้มีแค่ทฤษฎีมากมายให้คุณได้ขบคิดตาม แต่ยังมีการสื่อในแง่มุมความสัมพันธ์ของครอบครัว ให้คุณซึ่งจนน้ำตารินได้ง่าย ๆ เพราะเรื่องราวจะเกี่ยวกับนักบินผู้ควบคุมยานอวกาศไปสำรวจนอกโลก เพื่อหวังจะหาแหล่งที่อยู่ใหม่แทนดาวโลกที่ใกล้ดับเต็มที จึงมีการนำเสนอหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นมุมมองในอวกาศ มุมมองเรื่องมิติเวลา ที่ทำให้ดูจบแล้วคนดูก็ยังต้องมาถกเถียงกันต่อ ว่าบางจุดในเรื่องมันเป็นแบบนั้นได้อย่างไร
Dunkirk
ประเภทหนัง: แอ็กชัน, ดรามา, ประวัติศาสตร์, ระทึกขวัญ, สงคราม
Dunkirk เป็นหนังประวัติศาสตร์สงครามที่มี Base on True Story เรื่องแรกของคริสโตเฟอร์ โนแลน แต่กลับมีความยาวหนังเพียง 1 ชั่วโมง 46 นาทีเท่านั้น แต่เนื้อเรื่องสามารถเล่าได้อย่างครบถ้วน เต็มอิ่ม และมีรายละเอียดการถ่ายทอดสู่ผู้ชมได้ดีตามสไตล์คริสโตเฟอร์ โนแลน ซึ่งเนื้อหาเบื้องต้นจะเกี่ยวกับภารกิจการอพยพของทหารฝ่ายสัมพันธมิตรที่ถูกนาฬีล้อมกว่า 400,000 นาย โดยตัวหนังจะเล่าในมุมมองของ 2 ตัวละครหลักสลับไปมา จนสุดท้ายเรื่องราวก็กลับมาเชื่อมโยงกันทำให้เราเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด
Tenet
ประเภทหนัง: แอ็กชัน, ไซ-ไฟ, ระทึกขวัญ
Tenet หนังไซ-ไฟที่คริสโตเฟอร์ โนแลนตั้งใจมาขยี้เรื่องการไหลของเวลาด้วยความยาว 2 ชั่วโมง 30 นาที พร้อมกับนำเสนอเรื่องราวผ่านธีมสายลับ ที่มีการใช้วิทยาศาสตร์การย้อนกลับของเวลาเข้ามาผสมโรง เพื่อทำให้ภารกิจที่ตัวละครเอกอย่าง “Protagonist” ต้องเจอ กลายเป็นเรื่องยากที่ต้องมีการวางแผนอย่างแยบยล แถมยังแฝงไปด้วยปริศนาที่ชวนให้เราสงสัย ว่าผลสรุปของเรื่องมันเป็นแบบไหน
Oppenheimer
ประเภทหนัง: ชีวประวัติ, ดรามา, ประวัติศาสตร์
Oppenheimer คือ หนังชีวประวัติฉบับเต็มเรื่องแรกของเสด็จพ่อคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ได้เวลาในการถ่ายทอดหนังแบบเต็มอิ่มถึง 3 ชั่วโมง ด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวกับ J. Robert Oppenheimer ผู้ที่ได้ฉายาว่า “บิดาแห่งนิวเคลียร์” ซึ่งตัวหนังจะเราเรื่องถึงจุดเริ่มต้นที่ Oppenheimer ในช่วงวัยเรียน เก็บเกี่ยวความรู้ไปทั่วโลก และสุดท้ายก็กลายเป็นผู้ดูแลโปรเจกต์แมนฮัตตันที่รวบรวมนักวิทยาศาสตร์ทั่วอเมริกา เพื่อผลิตระเบิดนิวเคลียร์ให้กับรัฐบาล การถ่ายทอดเรื่องราวของคริสโตเฟอร์ โนแลนในหนังเรื่องนี้ ยังคงเอกลักษณ์ด้วยการตัดสลับไปมาระหว่างอดีต-ปัจจุบัน ซึ่งคราวนี้มีการแยกสีสันต์การเล่าเรื่องระหว่างแบบสีและขาวดำอย่างลงตัว พร้อมกับความครบรสที่มีตั้งความรู้สึกกดดัน, เครียด, ตื่นเต้น, ลุ้นระทึก, ตลกร้าย และความเป็นมนุษย์ของคนเรา
ในปัจจุบันหนังบางเรื่องของคริสโตเฟอร์ โนแลนก็ไม่สามารถหาดูผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้แล้ว เราคงต้องสั่งซื้อเป็นแผ่น Blu-Ray หรืออย่างเก่าสุดคงเป็น CD-DVD แทน แต่ถ้าใครอยากลองรับชมหนังใหม่ ๆ ที่มีงานภาพสวนตระการตาของคริสโตเฟอร์ โนแลน ทาง Netflix ยังคงมี Inception&Interstellar ให้ได้รับชม และทาง HBO GO ก็ยังมี Tenet ให้ดูอีกหนึ่งเรื่อง
รางวัลที่ คริสโตเฟอร์ โนแลน ได้
รางวัลที่ คริสโตเฟอร์ โนแลน ได้ ถือว่ามีจำนวนมากเลยทีเดียว ดังนั้นเราขอนำเสนอย่อยมากขึ้น ด้วยการพาไปดูว่าจากหนังทั้งหมดของเสด็จพ่อคริสโตเฟอร์ โนแลนเรื่องไหนบ้าง ที่มีรางวัล และมีทั้งหมดกี่รางวัล
- The Following (1998): ชนะ 5 รางวัล
- Memento (2000): ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 รางวัล / ชนะทั้งหมด 57 รางวัล
- Insomnia (2002): ชนะ 1 รางวัล
- Batman Begins (2005): ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 1 รางวัล / ชนะทั้งหมด 14 รางวัล
- The Prestige (2006): ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 รางวัล / ชนะ 6 รางวัล
- The Dark Knight (2008): ชนะรางวัลออสการ์ 2 รางวัล / ชนะอีก 162 รางวัล
- Inception (2010): ชนะรางวัลออสการ์ 4 รางวัล / ชนะอีก 159 รางวัล
- The Dark Knight Rises (2012): ได้เข้าชิงรางวัล BAFTA 1 รางวัล / ชนะอีก 42 รางวัล
- Interstellar (2014): ชนะรางวัลออสการ์ 1 รางวัล / ชนะอีก 44 รางวัล
- Dunkirk (2017): ชนะรางวัลออสการ์ 3 รางวัล / ชนะอีก 65 รางวัล
- Tenet (2020): ชนะรางวัลออสการ์ 1 รางวัล / ชนะอีก 49 รางวัล
10 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน
เชื่อหรือไม่ว่าหนังของ คริสโตเฟอร์ โนแลน หลาย ๆ เรื่องที่คุณได้รู้จัก บางครั้งก็ไม่ได้เขียนบทด้วยตัวเอง แต่มีผู้ช่วยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นคนใกล้ตัวคริสโตเฟอร์ โนแลนเอามาก ๆ หรือแม้แต่จุดเริ่มต้นที่เกี่ยวกับการถ่ายหนังของตัวเขา ก็เริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วจนคุณคาดไม่ถึง เพราะต่อจากนี้ คือ 10 รายการที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับคริสโตเฟอร์ โนแลนนั่นเอง
- คริสโตเฟอร์ โนแลน เริ่มถ่ายวิดีโอเป็นตั้งแต่ตอนอายุ 7 ขวบ ด้วยแฮนดี้แคมรุ่น ‘Super 8mm’ ของ Koduk
- คริสโตเฟอร์ โนแลน เริ่มตัดต่อวิดีโอตอน 8 ขวบโดยใช้ฟุตเทจของ Apollo จนกระทั่งอายุ 11 เขาก็ตัดสินใจได้เลยว่าอนาคตต้องเป็น “ผู้กำกับ”
- The Following คือ หนังยาวเรื่องแรกของคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ได้ทุนเพียง 1.3 แสนบาท
- Memento เป็นหนังที่สถาบันทำหนังต่าง ๆ หยิบไปเป็นสื่อการสอนเรื่องลำดับภาพ แถมยังเป็นหนังเรื่องแรกที่ได้ทุนสร้างหลักร้อยล้าน
- คริสโตเฟอร์ โนแลน คือ คนที่ Warner Brothers ฝากฝังให้ปลุกชีพหนังแบทแมนขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากไม่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ปี 1997
- หลังจาก Batman Begins เฉิดฉาย Warner Brothers โยนค่าตัวให้คริสโตเฟอร์ โนแลนถึง 7 หลัก เพื่อให้เขากำกับทำ Inceptions ต่อ
- The Dark Knight Rises กลายเป็นหนังทุนสร้างสูงสุดของคริสโตเฟอร์ โนแลน ด้วยยอด 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- เบื้องหลังความสำเร็จหนังหลายเรื่องของคริสโตเฟอร์ โนแลน มีโจนาธาน โนแลน น้องชายคอยช่วยเขียนบทอยู่เบื้องหลัง
- คริสโตเฟอร์ โนแลนกลายเป็นผู้กำกับที่ได้ค่าจ้างมากที่สุดในโลก กับเรื่อง Dunkirk ด้วยค่าตัวในการกำกับหนัง 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่วนแบ่งจากรายได้หนังอีก 20%
- คริสโตเฟอร์ โนแลน ไม่ชอบคอมพิวเตอร์กราฟิก ไม่มีอีเมล ไม่ทำหนัง 3D ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ
ณ ช่วงเวลาที่บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ เป็นช่วงที่หนัง Oppenheimer กำลังเข้าฉายในโรงหนังทั่วประเทศไทย หากใครอยากรับชมฝีมือของคริสโตเฟอร์ โนแลนแบบ 3 ชั่วโมงเต็ม เรื่องนี้คงตอบโจทย์ไม่น้อย
ส่วนใครที่อยากดูเรื่องนี้และเรื่องอื่น ๆ ของเสด็จพ่อคริสโตเฟอร์ โนแลนโดยที่สามารถชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการ Subscription Streaming Platform หรือจองตั๋วหนังผ่านระบบออนไลน์ให้แสนง่ายสุดสบาย ลองสมัครบัตรเครดิตไว้ใช้จ่าย พร้อมสะสมแต้มเพื่อคืนทุนภายหลังไว้สักใบ จะช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นกว่าเดิม โดย แรบบิท แคร์ มีบัตรเครดิตพร้อมนำเสนอจากธนาคารชั้นนำจำนวนมาก เพียงคลิกลิงก์ หรือโทร 1438 เพื่อสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นักเขียนบทความด้านประกันยานยนต์ รถยนต์ การเคลมประกันรถยนต์ ที่ Rabbit Care และ Asia Direct ตั้งใจเขียนงานให้ได้เกินครึ่งจากช่วงเวลาที่หาข้อมูล ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก