นิทานสอนใจประกันรถยนต์ชั้น 1
ณ เมืองที่เต็มไปด้วยฝุ่นควันราวกับหมอกหนา แสงอาทิตย์สาดส่องดั่งจะเผาไหม้ทุกสิ่งให้เป็นจุล พื้นถนนที่ร้อนระอุไปด้วยไอของแสงแดดเหมือนกับว่าจะปรับเปลี่ยนเนื้อดิบๆ ให้เป็นเนื้อสุก และยังมีฝูงเครื่องยนต์ที่ปล่อยคันเร่งแข่งกันชนิดที่ว่าใครรังสรรค์ฝุ่นควันได้มากเท่าใด ผู้นั้นก็จะได้รางวัลแห่งเกียรติยศไปครอง
แต่มีรถคันหนึ่งคิดหาทางหลบหนีสมรภูมินั้นโดยการแล่นออกมาด้วยความเร็วอย่าสม่ำเสมอ เมื่อถึงที่หมายชายผู้นั้นกุลีกุจอจอดรถอย่างฉับไว พร้อมกับก้าวอาดๆ เข้าไปในตึกสูงเสียดฟ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ผ่านไปครึ่งค่อนวัน จากเช้าจรดค่ำ ก็ไม่เห็นวี่แววของชายผู้นั้นจะกลับออกมา แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นน่าประหลาดใจ
ระลอกแรกคือมีหินขนาดย่อมๆ กระเทาะเข้ากับกระจกบานใส ระลอกที่สองไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้มวลน้ำขนาดใหญ่ไหลบ่ามาอย่างไม่ขาดสาย ระลอกสุดท้ายรถคันนั้นหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่จริง เมื่อชายผู้นั้นปรากฎกายก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ความกระวนกระวายใจทำใบหน้าเขาซีดเผือดไปทันใด แต่แล้วก็ฉุกคิดได้ว่าตนเองแอบทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ออนไลน์ ไว้อย่างลับๆ เพื่อที่ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดรถของเขาจะถูกคุ้มครองโดยมัน
สิ่งแรกที่ได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ชั้น 1 คือ
เหตุการณ์ระลอกแรกที่กระจกแตก เพราะประกันชั้น 1 ระบุไว้ว่าจะคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ แต่ทางบริษัทที่เป็นเจ้าของประกันภัยจะจ่ายเงินให้ไม่เกินทุนประกันภัย
สิ่งที่สองที่ได้รับความคุ้มครองจากประกันชั้น 1 คือ
เหตุการณ์ระลอกที่สองซึ่งเกิดน้ำท่วม เพราะประกันชั้น 1 ระบุไว้ว่าจะคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์เมื่อเกิดภัยธรรมชาติ แต่การคุ้มครองชนิดนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 กรณี คือ กรณีแรกรถคันดังกล่าวเสียหายจากภัยธรรมชาติทั้งคัน หรือ 70% (นึกภาพตามสิว่ารถแช่น้ำน่ะ) ทางบริษัทประกันรถยนต์จะชดใช้ให้แก่ชายผู้นี้เต็มวงเงินประกัน แต่จะได้เท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่ที่ว่าชายผู้นี้ทำประกันไว้กับบริษัทใด
ในกรณีที่สอง รถยนต์ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติแต่ไม่ได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง หมายความว่า รถคันดังกล่าวได้รับความเสียหายเพียงน้อยนิด น้ำที่ไหลบ่านั่นท่วมเพียงท่อไอเสียเท่านั้น ทางบริษัทประกันจะทำการซ่อมรถคันดังกล่าวให้คืนสภาพตามเดิม แต่หากว่าจะต้องเปลี่ยนอะไหล่ ชายผู้นี้ก็ต้องควักเงินของตัวเองเพื่อซ่อมอะไหล่ เคราะห์ร้ายของชายคนนี้ยังไม่หมด เขาจะต้องจ่ายเพิ่มกับค่าดูแลรักษาและขนย้ายเครื่องยนต์ตอนนำไปซ่อมแซม แต่จะไม่เกิน 20% ของค่าซ่อมทั้งหมด
สิ่งที่สามที่ได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คือ
โชคชั้นที่สาม (นี่เรียกว่าโชคหรืออย่างไร) นอกจากจะหน้าซีดเผือดแล้ว ควรจะดึงสติกับมาโดยด่วน คิดให้ตกว่าที่เกิดเหตุคือที่ไหน หายได้อย่างไร (ไม่หายก็แปลกจอดทิ้งไว้ขนาดนั้นพ่อคู๊ณณณ) ทิ้งของที่มีมูลค่าอะไรบ้างไว้ในรถ และโร่ไปแจ้งความอย่างด่วนๆ แต่สิ่งห้ามลืมบอกเลยคือ เจ้าของรถเป็นใคร เลขทะเบียนรถหมายเลขอะไร รุ่นรถ ยี่ห้อรถ หมายเลขประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ เพื่อที่คุณตำรวจจะได้ออกสกัดจับอย่างทันควัน คนร้ายอาจจะหนีไปได้ไม่ไกลนัก อย่างน้อยที่สุดรถของชายผู้นี้จะได้ไม่โดนชำแหละ และก็ได้เวลาที่คุณตำรวจดำเนินการทางกฎหมายลากตัวคนผิดมาลงโทษ
ข้อสำคัญอย่าลืมคัดสำเนาแจ้งความประจำวันไว้ด้วย หรือไม่ก็ควักโทรศัพท์แล้วกดบนแป้นพิมพ์ต่อสายไปที่หมายเลข 1192 สายด่วนรถหาย แจ้งแบบเดียวกับที่แจ้งคุณตำรวจนั่นแล ถ้าสวรรค์เมตตาคุณตำรวจจับคนร้ายได้ และส่งเข้าตารางให้รับโทษอย่างสาสม รถคืนสู่อ้อมอกของชายผู้นี้ รถก็ยังคงเป็นของเขาอยู่เหมือนเดิม แต่สิทธิ์ในการเรียกค่าเสียหายทั้งหลายก็ตกให้แก่บริษัทประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่เขาทำไว้
อะอ้าว.. ถ้ารถคันดังกล่าวไม่ใช่ของชายผู้นี้ เจ้าของตัวจริงก็มีสิทธิ์แจ้งความเหมือนกัน เรียกค่าเสียหายได้ แถมยังจะได้สินไหมทดแทนอีกด้วย เพราะเจ้าของตัวจริงคือผู้เอาประกันกับบริษัทประกันรถยนต์ (คอมโบ้เซ็ตไปอีกกก) แต่ไม่ว่ารถจะเป็นของชายผู้นี้จริงๆ หรือเป็นคนของอื่นก็มีสิทธิ์แจ้งความหายได้เลยทันที
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ควรประมาทเลินเล่อ เมื่อรถหายควรจะมีสติและจัดการตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่าจอดรถในที่เปลี่ยวๆ แม้จะเป็นตึกสูงระฟ้า อย่าใจร้อนเดินดุ่มๆ ไปไหนแล้วไม่ใส่ใจที่จะล็อกรถ สำหรับภัยธรรมชาติถึงเราจะต้านไม่ได้ จงจำไว้ว่า ประกันรถยนต์ ชั้น 1 ช่วยคุณได้เสมอ
สนใจ ต่อประกันรถยนต์ ราคาประหยัด กดเลย!
ที่มา
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี