“เบี้ยแก้” สุดยอดเครื่องรางป้องกันคุณไสย มนต์ดำ เจ็บป่วยผิดปกติ ต้องพก!
คนไทยกับความเชื่อเป็นของคู่กันมาทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่คนไทยมีการใช้หอยเบี้ยเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าแทนเงินตราในปัจจุบัน การนำเอาเปลือกหอยมาประยุกต์ใช้ทำเป็นเครื่องประดับบ่งบอกสถานภาพ รวมไปถึงนำไปทำเป็นเครื่องรางอย่าง “เบี้ยแก้” จึงได้ถือกำเนิดขึ้นนับตั้งแต่นั้นมา
เบี้ยแก้ คือ?
เบี้ยแก้ คือ เครื่องรางของขลังชนิดหนึ่งที่ถูกบริกรรมคาถา ปลุกเสกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับแก้คุณไสย มนต์ดำ และยาสั่ง ทำมาจากเปลือกหอยเบี้ยจั่น หรือหอยเบี้ยจักจั่น ซึ่งเป็นหอยทะเลฝาเดียวที่มีฟันเล็ก ๆ เรียงยาว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Monetaria moneta โดยหอยเบี้ยจั่นที่จะสามารถนำมาทำเป็นเบี้ยแก้ได้ จะต้องเป็นหอยที่มีฟัน 32 ซีกเท่านั้น นำมาบรรจุปรอทเอาไว้ภายในพร้อมปลุกเสกด้วยคาถาอาคม คำว่าเบี้ยแก้นั้นมีรากศัพท์มาจากคำว่า “เบี้ยแก้บน” ซึ่งเป็นเงินที่ถูกนำมาใช้ในการบนบานศาลกล่าว โดยมีความเชื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้
วิธีปลุกเสกสร้างเบี้ยแก้ ทำอย่างไร?
ในการสร้างเบี้ยแก้ ส่วนประกอบที่สำคัญที่ใช้สำหรับการสร้างจะประกอบไปด้วย
- หอยเบี้ยจั่น
เลือกเฉพาะที่มีฟันจำนวน 32 ซีก และขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป
- ปรอท
ที่มีน้ำหนักหนึ่งบาท มีความเชื่อว่าปรอทเป็นโลหะที่มีชีวิต มีอิทธิฤทธิ์แม้ยังไม่ได้รับการปลุกเสก เมื่อได้ปรอทมาแล้วต้องนำไปฆ่าพิษก่อนเอามาขึ้นรูปนำใส่ไปในเบี้ยแก้ เป็นสิ่งเดียวที่สามารถบรรจุลงไปได้โดยไม่ไหลหายไป
- ชันโรงใต้ดิน (อ่านว่า ชัน-นะ-โรง)
ชันโรง เป็นแมลงชนิดหนึ่งจำพวกผึ้ง แต่ไม่มีเหล็กไน ชอบทำรังอยู่ใต้ดิน รังมีลักษณะเหมือนขี้ผึ้ง มีความเชื่อกันว่าเป็นของหายากศักดิ์สิทธิ์ เกจิอาจารย์มักจะนำมาใช้ในการสร้างวัตถุมงคล อย่างเช่น หลวงปู่เจือเป็นเกจิดังวัดกลางบางแก้ว ที่มีวัตถุมงคลดังอย่าง เบี้ยแก้หลวงปู่เจือ ชันโรงที่นำมาใช้ในการสร้างเบี้ยแก้ จะต้องเป็นชันโรงใต้ดินเท่านั้น เชื่อว่ามีพลังมหาอุด ป้องกันไฟและคุณไสย ช่วยปิดปากหอยเพื่อป้องกันไม่ให้ปรอทที่บรรจุหนีจากตะกั่ว
- ตะกั่ว
เชื่อกันว่าตะกั่วมีอิทธิฤทธิ์ด้านอยู่ยงคงกระพัน นิยมนำมาตีขึ้นรูปเป็นทรงเบี้ยแก้ เพื่อปิดปากหอยให้สนิทแน่น พร้อมบรรจุอักขระกำกับคาถาลงสู่เบี้ยแก้
- น้ำรักสีดำ
น้ำรักคือยางที่ได้จากต้นไม้ มีลักษณะเป็นสีดำ ใช้ทาวัสดุให้มีความเหนียว นำมาหุ้มเบี้ยแก้เพื่อเสริมพลังอำนาจด้านเมตตามหานิยม
วิธีการสร้างเบี้ยแก้จะเริ่มจากการนำหอยเบี้ยจั่นมาทำการบรรจุปรอทเอาไว้ภายใน หลังจากนั้นเกจิอาจารย์ก็จะทำการบริกรรมคาถาอาคมปลุกเสกเบี้ยแก้แล้วนำชันโรงใต้ดินมาอุดปากหอยไว้ หุ้มด้วยแผ่นตะกั่ว แล้วนำเชือกถักลงน้ำรักสีดำมาหุ้มเบี้ยแก้ไว้
เบี้ยแก้มีสรรพคุณอย่างไร?
เบี้ยแก้เป็นวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณ สรรพคุณหลากหลายด้าน เช่น
- ด้านแคล้วคลาดปลอดภัย
ช่วยทำให้แคล้วคลาดจากอันตรายต่าง ๆ ทั้งอุบัติเหตุหรือการถูกลอบทำร้าย แคล้วคลาดจากสิ่งชั่วร้าย วิณญาณ ภูติ ผี ปีศาล คุณไสย มนต์ดำ ที่อาจทำให้เกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยแบบผิดปกติ
- ด้านขจัดปัดเป่าเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี
เบี้ยแก้จะช่วยขจัดปัดเป่าเรื่องร้าย ๆ เรื่องไม่ดีให้กลับกลายเป็นเรื่องที่ดี แก้ในสิ่งที่ไม่ดีให้ดีขึ้น
- ด้านคงกระพัน
เชื่อกันว่าสามารถป้องกันศาสตราวุธต่าง ๆ ได้ ทั้ง มีด ไม้ ของมีคม หรือปืน
- ด้านการบรรเทาอาการโรคต่าง ๆ
มีความเชื่อเกี่ยวกับพุทธคุณ สรรพคุณของเบี้ยแก้ว่า สามารถช่วยให้ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ สามารถบรรเทาให้อาการดีขึ้นได้ด้วยเบี้ยแก้ โดยการทำสมาธิร่วมกับเบี้ยแก้ จะทำให้ได้รับพลังเข้าสู่ตัวช่วยดูดโรคภัยออกจากตัวได้ แต่น้องแคร์ก็ต้องเน้นย้ำว่า ในส่วนนี้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ไม่ใช่ทุกคนที่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยจะอาการดีขึ้นด้วยเบี้ยแก้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากประสงค์จะนำเบี้ยแก้ไปใช้เพื่อการบรรเทาอาการโรคต่าง ๆ น้องแคร์ขอแนะนำว่าควรนำมาใช้ในการเสริมพลังทางด้านจิตใจให้พร้อมสู้กับโรคภัยต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการรักษาโรคด้วยการพบแพทย์แผนปัจจุบันไปด้วยจะดีที่สุด
คุณไสย คืออะไร?
ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายว่า คุณไสย ก็คือ อาถรรพ์ คือ พิธีกรรมอย่างหนึ่ง ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อทำร้ายต่ออมิตร ผู้ที่เป็นศัตรู โดยการเสกสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปในตัวหรือฝังรูปฝังรอย เรียกกันว่าถูกคุณไสย โดยคุณไสยนั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 สายหลัก ๆ คือ สายขาว ที่ใช้ในทางดี กับสายดำ ที่ใช้ในทางไม่ดี ซึ่งคุณไสยแบบไทยทั้ง 2 สายนั้น จะประกอบไปด้วย 4 ประเภท คือ
- คุณไสยสายเสกเข้าท้อง : เป็นคุณไสยระดับต่ำที่มักจะปล่อยของกันในช่วงวันโกน วันพระ โดยจะใช้คาถากำกับบทเดียวกันทั้งหมด เช่น เหรียญปากผี ที่ง้างมาจากปากคนตาย ตะปูตอกฝาโลง หนังควาย เป็นต้น ทำให้มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยแบบผิดปกติเกิดขึ้น คุณไสยประเภทนี้ผู้ที่กระทำมุ่งหวังจะเอาให้ถึงตาย จึงต้องรีบถอนคุณไสยชั่วร้ายออกจากตัว
- คุณไสยสายควบคุม : เป็นคุณไสยระดับกลาง ๆ ประเภทเสน่ห์ยาแฝด การใช้หุ่นดินปั้น หรือการเขียนชื่อผู้มุ่งหมายลงไป จากนั้นจึงเสกแล้วนำไปฝังตามป่าช้าหรือทางสามแพร่ง ทำให้มีอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดถึงแต่คนที่ปล่อยของ
- คุณไสยสายป้องกัน : เป็นพวกสักเลข ลงยันต์ ลงอาถมที่ของแล้วนำมาติดตัว เพื่อคุ้มกันภัยให้แคล้วคลาด ปกป้องคุณไสย เช่น ตะกรุด ปรอท การเสกเป่ายันต์เกราะเพชรเข้าตัว
- คุณไสยสายโจมตี : จำพวกหุ่นพยนต์ อย่าง ควายธนู กุมารทอง เพื่อให้ไปโจมตีฝ่ายตรงข้ามและป้องกันอันตรายจากภูตผีปีศาลที่ตามมารังควาน
จะรู้ได้อย่างไร? ว่าเจ็บป่วยแบบไหน เกิดจากการถูกคุณไสย มนต์ดำ
แม้ว่าเราจะอยู่ในยุค 4.0 ยุคแห่งโลกดิจิทัล แต่ในอีกมุมหนึ่งของสังคมประเทศไทย ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงมีความเชื่อเรื่องภูตผี วิญญาณอยู่ และให้การพิสูจน์ที่แน่ชัดไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงหรือไม่ รวมไปถึงการทำของมนต์ดำใส่ หรือที่เรียกว่าคุณไสย ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถออกมายืนยันชัดเจนได้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร มีจริงหรือไม่ แต่ในทางคติความเชื่อแล้ว การทำคุณไสยนั้นมีอยู่จริง เป็นรูปแบบหนึ่งของการทำพิธีบริกรรมคาถา และการถูกคุณไสย แม้ว่าจะพิสูจน์แน่ชัดไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ก็เชื่อกันว่าคนที่ถูกคุณไสยเล่นงาน ก็มักจะแสดงอาการบางอย่างออกมาในรูปแบบที่เหนือธรรมชาติผิดปกติ หากเป็นการเจ็บไข้ได้ป่วย ก็จะเป็นการเจ็บไข้ได้ป่วยแบบผิดปกติ โดยจะมีอาการที่เห็นได้ชัด ดังต่อไปนี้
- มีอาการคล้ายคนไม่มีสติไม่มีสมาธิ เหม่อลอย หลง ๆ ลืม ๆ
- ครั่นเนื้อครั่นตัว ร้อน ๆ หนาว ๆ สลับกัน ปวดเมื่อย ชา ตามเนื้อตามตัว
- มีอาการจุก เสียด แน่นที่หน้าอก แบบหาสาเหตุไม่ได้
- ใจสั่นอย่างหนักแบบไม่เคยเป็นมาก่อน เหนื่อยง่าย ไม่มีเรี่ยวแรง
- มีอาการคล้ายประสาทหลอน ได้ยินเสียงแปลก ๆ ในหูตลอดเวลา เชื่อฟังหรือหลงคนบางคนมากเป็นพิเศษ
- ตาขวาง แววตาแข็งกร้าว อารมณ์แปรปรวน โมโหร้าย ใต้ตาดำคล้ำเหมือนคนอดหลับอดนอน
เมื่อถูกคุณไสย มนต์ดำ ก็จะต้องรีบทำพิธีเพื่อถอนคุณไสย มนต์ดำนั้น ๆ ให้พ้นไปจากตัว และนำเบี้ยแก้แช่ในน้ำมนต์ แล้วนำมาดื่มและอาบ เพื่อขจัดสิ่งชั่วร้าย คลายอาถรรพ์
คาถาและวิธีพกเบี้ยแก้
สำหรับวิธีการพกเบี้ยแก้ไว้กับตัวเพื่อป้องกันคุณไสย มนต์ดำ สามารถพกโดยการผูกที่เอวหรือห้อยที่คอได้ ที่สำคัญเบี้ยแก้มีความพิเศษที่ไม่เหมือนเครื่องรางชนิดอื่น ตรงที่ไม่ได้มีข้อห้ามในการบูชาใด ๆ ทั้งสิ้น และยังคงความขลังไม่เสื่อมคลาย สามารถบูชาได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง ทำให้ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน ก่อนจะทำการสวมใส่เบี้ยแก้ก็ให้ตั้งจิตสวดภาวนาเพิ่มพุทธคุณกับเบี้ยแก้ โดยการท่องคาถา ดังนี้
ตั้งนะโม 3 จบ
นะมะพะทะ อะสังวิสุโลปุสะพุพะ
นะชาลิติ มะนุญณัง
จิตตังภะคินิเม จิตตังปุริโส
นุภาวะโต อุทธังอัทโธ
นะโมพุทธายะ จิตตัง มะ มะ
เบี้ยแก้นั้นเป็นเครื่องรางของขลังที่มีพุทธคุณ สรรพคุณหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการป้องกันคุณไสยและการบรรเทาอาการป่วยของโรคต่าง ๆ แต่น้องแคร์ก็ต้องขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจบูชาด้วยเช่นกัน แม้ว่าเบี้ยแก้จะเป็นเครื่องรางที่มีความเชื่อว่า สามารถช่วยรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยทั้งจากการถูกคุณไสยและจากการเป็นโรคได้ แต่การรีบเข้ารับการรักษาตัวกับแพทย์แผนปัจจุบันเมื่อเจ็บป่วยไม่ว่าจะจากโรคใด ก็ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องปฏิบัติเป็นอันดับแรก ซึ่งสามารถทำควบคู่ไปกับการพกเบี้ยแก้ได้อย่างลงตัว ให้เบี้ยแก้ช่วยเสริมพลังอำนาจด้านจิตใจในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ ส่วนแพทย์แผนปัจจุบันก็ช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยทางกาย
สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยจากสาเหตุใด จะถูกคุณไสยหรือไม่ แต่เมื่อเราจำเป็นจะต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล การมี ประกันสุขภาพ ก็เปรียบเสมือนการมีของขลังชั้นดีติดตัวไว้ช่วยป้องกันเราจากการถูกเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลนั่นเอง พกเบี้ยแก้แล้วอย่าลืมพกประกันสุขภาพร่วมด้วย เลือกซื้อได้ง่าย ๆ ตรงความต้องการที่ แรบบิท แคร์
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี