ดูแลรถยนต์หลังน้ำท่วมด้วยเคล็ดลับง่ายๆ

ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ

ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี

close
Facebook iconIG iconlinkedin iconYoutube icon
แก้ไขโดย : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
 
Published: August 28,2018
  
Last edited: August 11, 2024
ดูแลรถยนต์ที่ลุยน้ำท่วมมา

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

ช่วงนี้หน้าฝนแล้วเตรียมตัวรับมือกับภาวะน้ำท่วมขังระบายไม่ทันกันบ้างหรือยังคะ ถ้าใครยังไม่คิดละก็ คิดกันได้แล้วนะคะ เพราะเดี๋ยวนี้เส้นทางไหนก็เสี่ยงน้ำท่วมขังด้วยกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมงานเองนี่ผ่านประสบการณ์มาอย่างช่ำชองเลยล่ะค่ะ เนื่องจากบ้านนั้นเป็นบ้านเก่าอยู่หมู่บ้านดังแถวลาดพร้าว (แต่เดี๋ยวนี้เขาดีขึ้นแล้วนะ ไม่ท่วมหนักเหมือนเมื่อก่อนแล้วล่ะ)

ก่อนจะดูแลหลังจากน้ำท่วมรถยนต์ คุณควรดำเนินการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการน้ำท่วมตรงหน้าคุณ ดังนี้

  • หยุดใช้งานทันที: หากรถยนต์ของคุณอยู่ในสภาวะน้ำท่วม หยุดใช้งานทันทีและปิดสวิตช์สตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันการเสียหายจากการใช้งานรถยนต์ในสภาวะน้ำท่วมขัง

  • ถอดแบตเตอรี่: ถอดสายบวกและลบของแบตเตอรี่เพื่อป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าและความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าของรถยนต์
  • ไม่เร่งเครื่องยนต์: อย่าพยายามเร่งเครื่องยนต์ในสภาวะน้ำท่วม เนื่องจากน้ำที่เข้าสู่ระบบเชื้อเพลิงอาจทำให้เกิดความเสียหายและไม่ปลอดภัย
  • รีบแจ้งประกันภัย: หากรถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม คุณควรรีบแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อเริ่มกระบวนการส่งซ่อมและค่าเสียหาย

มาดูกันดีกว่าว่า ถ้าหากเราหลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำไม่ได้ เราจะมีวิธีการดูแลรักษารถยนต์หลังรับศึกน้ำท่วมได้อย่างไร วันนี้ทีมงานได้เตรียมข้อมูลดี ๆ มาให้ทุกท่านได้ทราบกันแล้ว

วิธีการดูแลรถยนต์หลังน้ำท่วม

  • เวลาที่เราลุยน้ำท่วม เราไม่มีทางที่จะทราบเลยใช่ไหมคะว่า ถนนที่เราขับลุยฝ่าไปนั้นมีใบไม้ เศษหญ้า ขยะ ถุงพลาสติก หรือเศษหินดินทรายบ้างหรือเปล่า ดังนั้น หลังจากที่เราลุยน้ำกันมาแล้ว แนะนำให้นำรถยนต์ไปล้างให้สะอาดค่ะ เพื่อจะได้กำจัดเอาสิ่งแปลกปลอมที่ติดอยู่ตามท้องรถ หรือล้อรถออกไปถ้าหากเศษเหล่านี้เข้าไปติดอยู่ในเบรกละก็ อาจทำให้เบรกเกิดความชื้น ส่งผลทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันเบรกค่ะที่อาจจะเสื่อมคุณภาพเอาได้ง่าย ๆ ซึ่งอาจเกิดอันตรายตามมาภายหลัง
  • ลูกปืนล้อ คือหนึ่งในชุดล้อรถยนต์ที่ช่วยทำให้ล้อรถยนต์นั้นสามารถหมุนได้อย่างอิสระ ซึ่งภายในของลูกปืนจะมีจาระบีคอยหล่อลื่นอยู่ ดังนั้น การที่รถยนต์ของเราไปลุยน้ำท่วมก็อาจส่งผลทำให้น้ำมันหล่อลื่นที่ว่านี้เสื่อมคุณภาพ หรือละลายไปกับสายน้ำได้ จึงเป็นต้นเหตุของอาการลูกปืนดัง หรืออาจทำให้ลูกปืนล้อแตก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นได้นั่นเอง
  • ตรวจสอบพื้นพรมภายในรถก่อนเลยค่ะว่ามีน้ำซึม หรือเปียกชื้นบ้างหรือไม่ เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นอาจเป็นบ่อเกิดของเชื้อรา ซึ่งนำไปสู่โรคต่าง ๆ ได้ เจ้าของรถควรถอดไปซักล้างให้สะอาด แล้วตากแดดให้แห้งสนิทก่อนนำมาเก็บเข้าที่เดิม
  • ถ้าหากน้ำที่เราลุยผ่านมานั้นท่วมสูงถึงขนาดมิดใต้ท้องรถละก็ ห้ามมองข้ามโดยเด็ดขาดนะคะ เพราะความเสี่ยงที่จะทำให้เพลาและเฟืองท้ายมีปัญหานั้นมีสูง ยกตัวอย่างเช่น ยางหุ้มเพลาเสื่อมฉีกขาด ส่งผลทำให้น้ำเข้าและชะล้างจาระบีที่มีอยู่ออกไปได้ง่ายด้วยเช่นกัน
  • อีกหนึ่งเรื่องที่เราต้องทราบกันก็คือ ระบบปรับอากาศภายในรถยนต์ หลายครั้งที่การลุยน้ำท่วมส่งผลทำให้รถยนต์ของเรานั้นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดอยู่ ยกตัวอย่างเช่น กลิ่นเหม็นอับชื้น หรือกลิ่นเหม็นสาบ เป็นต้น อาจจะให้วิธีนำรถยนต์ไปล้างอัดฉีดที่ร้าน หรือจะลองเปิดประตูรถให้อากาศถ่ายเท แล้วใช้สเปรย์ดับกลิ่นช่วยก็ได้นะคะ
  • สิ่งสุดท้ายที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือน้ำมันเครื่อง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เพิ่งไปลุยน้ำท่วมสูงมา หรือลุยบ่อย ๆ ละก็ แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกันเสียแต่เนิ่น ๆ เพราะถ้าหากน้ำแอบเล็ดลอดเข้าไปในเครื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเข้าไปในส่วนของน้ำมันเครื่องละก็ บอกเลยว่า นอกจากรถยนต์จะได้รับความเสียหายแล้ว โอกาสที่จะเสียทรัพย์ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

รถยนต์ลุยน้ำท่วมสูง

ทราบแบบนี้แล้ว อย่าลืมช่วยกันยืดอายุการใช้งานรถยนต์ของเราด้วยการดูแลเขาให้ดีกันนะคะ หรือถ้าหากใครไม่มั่นใจโดยเฉพาะคุณผู้หญิงละก็ การนำรถเข้าไปตรวจสภาพรถยนต์ที่ศูนย์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเช่นกัน

ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์กับแรบบิท แคร์ คุ้มค่า ครบจบในที่เดียว

ให้รถของคุณได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดด้วย แรบบิท แคร์ แพลตฟอร์มที่ช่วยคุณเปรียบเทียบราคาประกันรถจากบริษัทชั้นนำ พร้อมเลือกแผนความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ได้ง่ายๆ ครอบคลุมทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การซ่อมแซม หรือความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ด้วยแผนประกันที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ พร้อมบริการ 24 ชั่วโมงจากทีมงานมืออาชีพที่พร้อมดูแลคุณ และส่วนลดสูงสุดถึง 70% พร้อมความคุ้มค่า และความประหยัดอย่างแท้จริง

  1. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
    • คุ้มครองทุกกรณี เช่น อุบัติเหตุ, ชน, พลิกคว่ำ, ไฟไหม้, น้ำท่วม และรถหาย
    • ดูแลบุคคลภายนอก (ชีวิต, ทรัพย์สิน, ร่างกาย)
    • ซ่อมรถผู้เอาประกัน แม้ไม่มีคู่กรณี เช่น รอยขีดข่วน
  2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
    • คุ้มครองกรณีชนกับยานพาหนะ (มีคู่กรณี), ไฟไหม้, น้ำท่วม และรถหาย
    • ครอบคลุมบุคคลภายนอก
  3. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+
    • คุ้มครองเฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะ (มีคู่กรณี)
    • คุ้มครองบุคคลภายนอก
  4. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2
    • คุ้มครองกรณีรถหายและไฟไหม้
    • ดูแลบุคคลภายนอก (ชีวิต, ทรัพย์สิน, ร่างกาย)
  5. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3
    • คุ้มครองเฉพาะบุคคลภายนอก (ชีวิต, ทรัพย์สิน, ร่างกาย)

เลือกแผนประกันที่เหมาะกับคุณได้ที่ แรบบิท แคร์ ครบทุกความต้องการในที่เดียว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่เบอร์ 1438 พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษทันที!


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 99327

แคร์รถยนต์

รถกินน้ำมัน เกิดจากอะไร มีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยประหยัดน้ำมัน

รถกินน้ำมัน สิ่งที่ทำให้เจ้าของรถยนต์ทุกคันต่างก็ต้องกุมขมับเพราะถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเสียทรัพย์ ทั้งค่าน้ำมันที่แพงแสนแพง
Natthamon
23/01/2025
Rabbit Care Blog Image 99317

แคร์รถยนต์

รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง ทำความเข้าใจอีกครั้งในทุกเรื่องที่ควรรู้!

ทุกคนต่างรู้ดีว่าส่วนมากรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง เป็นยานพาหนะที่ถูกใช้งานมากที่สุดบนท้องถนน ถึงแม้จะมีรถยนต์ที่ใช้งานพลังไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาก็ตามที
Natthamon
22/01/2025
Rabbit Care Blog Image 99307

แคร์รถยนต์

รถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่มีไฟ ไฟหน้าปัดรถยนต์ ไม่ติด แบบนี้เป็นเพราะอะไรได้บ้าง?

สุดยอดปัญหาที่สร้างความสับสน กระวนกระวายใจให้ผู้ใช้งานรถมาหลายครั้งกับรถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่มีไฟ หรือไฟหน้าปัดรถยนต์ ไม่ติด แบบนี้มันเป็นเพราะอะไรกันแน่?
Natthamon
21/01/2025