ตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ แอป เรียกรถสำหรับเดินทาง ปัจจุบันมีให้เลือกใช้มากน้อยแค่ไหน
เมื่อการเดินทางด้วยรถสาธารณะไม่เพียงพอ หรือไม่ตอบโจทย์ การใช้บริการแอป เรียกรถ จึงกลายมาเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันสำหรับคนไทยบางส่วนไปโดยปริยาย ซึ่งแอป เรียกรถที่เข้ามาเปิดให้บริการในไทย ก็มีแนวทางบริการที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะเรื่องอัตราค่าโดยสาร, จุดเด่น หรือแม้กระทั่งประเภทรถที่เปิดให้บริการ ซึ่งบทความนี้ แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ แอป เรียกรถ ยอดฮิตทั้งหมด พร้อมรายละเอียดต่าง ๆ ที่คุณควรรู้ก่อนใช้งาน หรือหากใครที่ใช้งานอยู่แล้ว แต่ไม่เคยรู้รายละเอียดส่วนนี้มาก่อน ก็สามารถติดตามอ่าน และมองหาตัวเลือกเพื่อใช้บริการแอป เรียกรถเพิ่มเติมได้เช่นกัน
แอปเรียกรถ Grab
แอป เรียกรถ Grab คือ แอป เรียกรถ รายแรก ๆ ที่เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทย ซึ่งมีตัวเลือกที่ค่อนข้างหลากหลายมากที่สุดสำหรับบริการโดยสาร ไปจนถึง Food Delivery และ Messenger จึงทำให้แอป เรียกรถนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนจุดเด่นและอัตราค่าโดยสารติดตามอ่านได้จากหัวข้อย่อยด้านล่างได้เลย
จุดเด่นเรียกรถ Grab
จุดเด่นแอป เรียกรถ Grab คือ การให้บริการที่หลากหลาย, มี Code ลดราคาหลายช่วง, มีแพ็กเกจให้สมัครใช้บริการ, เชื่อมต่อการชำระเงินหลากหลายช่องทาง, มีระบบการช่วยเหลือที่รวดเร็ว และได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการ ซึ่งรายละเอียดแต่ละจุดเด่นมีดังนี้
- การให้บริการที่หลากหลาย: เช่น Food Delivery, Messenger และบริการเรียกรถโดยสารที่มีตั้งแต่รถมอเตอร์ไซค์, รถยนต์ธรรมดา, รถยนต์ SUV ไปจนถึงรถยนต์ไซส์ใหญ่หรือรถระดับพรีเมียม
- มี Code ลดราคาหลายช่วง: ไม่ว่าจะเป็นช่วงเปลี่ยนฤดู เทศกาล หรือกิจกรรมอะไรก็ตามของ Grab จะมีการแจก Code ลดราคาให้ลูกค้าได้ใช้อย่างต่อเนื่อง
- มีแพ็กเกจให้สมัครใช้: ซึ่งแพ็กเกจแต่ละระดับจะมีสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันออกไป เช่น ลดราคาค่าส่ง หรือสมัครแพ็กเกจเสริมเพื่อรับสิทธิพิเศษในบริการเฉพาะด้านที่เราใช้งาน
- มีช่องทางชำระเงินที่หลากหลาย: รองรับทั้งการจ่ายด้วยเงินสด, ชำระผ่าน Mobile Banking หรือ บัตรเครดิต/บัตรเดบิต
- มีระบบช่วยเหลือที่รวดเร็ว: เพราะฝ่ายบริการหรือทีม Support ของแอป เรียกรถอย่าง Grab ทำงานค่อนข้างรวดเร็ว
- ผู้ใช้บริการให้การยอมรับ: เนื่องด้วยเปิดให้บริการค่อนข้างหน้า มีกฎระเบียบที่เข้มแข็ง ทำให้ Rider ค่อนข้างมีคุณภาพ มีมาตรฐานที่ดีทีเดียว
อัตราค่าโดยสารเรียกรถ Grab
อัตราค่าโดยสารแอป เรียกรถ Grab นั้นมีหลายช่วงราคา ดังนั้นเราจึงขอนำเสนอ 3 บริการหลัก ๆ คือ JustGrab, GrabBike และ GrabTaxi ซึ่งมีรายละเอียดราคาที่แตกต่างกันดังนี้
- JustGrab: เริ่มต้น 45 บาท / คิดเพิ่ม 7 บาท/กม. (ช่วง 2-40 กม.) / คิดเพิ่ม 10 บาท/กม. (ช่วง 40 กม.ขึ้นไป) / กรณีรถหยุดนิ่งคิด 2 บาท/นาที และมีค่าเรียกรถ Grab 20 บาท
- GrabBike: เริ่มต้น 5 กม.แรก ราคา 25 บาท (ช่วง 2 กม. แรก) / เพิ่ม 5 บาท/กม. (ช่วง 2.1-5 กม. ถัดมา) / เริ่มต้น 5.1 กม. ขึ้นไป ราคา 50 บาท และจะเพิ่มอีก 10 บาท/กม. (ช่วง 5.1-15 กม.) และเพิ่ม 15 บาท/กม. (หลังจาก 15.1 กม.เป็นต้นไป)
- GrabTaxi: เริ่มต้น 35-40 บาท / 1-10 กม. คิด 6.5 บาท/กม. / 10-20 กม. คิด 7 บาท/กม. / 20-40 กม. คิด 8 บาท/กม. / 40-60 กม. คิด 8.5 บาท/กม. / 60-80 กม. คิด 9 บาท/กม. / 80 กม.ขึ้นไป คิด 9 บาท/กม. / ค่าบริการเรียกรถ Grab คิด 20 บาท
คำแนะนำเพิ่มเติม: การสมัครแพ็กเกจเสริมเพิ่มเติมของแอป เรียกรถอย่าง Grab จะมีส่วนลดพิเศษ ทำให้เราสามารถใช้บริการได้ค่อนข้างถูกมากในบางเวลา โดยเฉพาะช่วงที่คนใช้น้อยอาจจะยิ่งถูกลง แต่หากช่วงที่มีคนใช้บริการเยอะ อาจจะค่อนข้างเรียกรถยากไปสักนิด
แอปเรียกรถ Lineman
แอป เรียกรถ Lineman สำหรับการเดินทางจะมีเพียงแค่บริการเรียกรถ Taxi เท่านั้น ส่วนบริการอื่น ๆ จะเน้นไปที่ Food Delivery และ Messenger แทน
จุดเด่นเรียกรถ Lineman
จุดเด่นแอป เรียกรถ Lineman คือ เป็นแอป เรียกรถ Taxi ที่มีช่องทางชำระเงินให้เลือก, มีมาตรฐาน Taxi ค่อนข้างดี, มีคูปองลดราคาให้ใช้, คำแนะนำเพิ่มเติมข้อความถึงคนขับได้, ติดต่อผ่านแอปไลน์ได้ง่าย และมีการแจ้งรายละเอียดค่อนข้างชัดเจน ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้
- เลือกช่องทางชำระเงินได้เอง: เช่น การชำระผ่านบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับ Rabbit LINE Pay หรือเลือกจ่ายเงินสดตามปกติก็ทำได้เช่นกัน
- มาตรฐาน Taxi ที่ดี: การใช้บริการแอป เรียกรถของ Lineman จะเลือกให้บริการเฉพาะ Taxi ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานและได้รับการตรวจสอบมาแล้ว รวมถึง Taxi ประเภทอื่นที่จะมีให้บริการในอนาคตด้วยเช่นกัน
- มีคูปองลดราคาให้ใช้: บางโอกาสเราจะได้รับคูปองส่วนลดสำหรับการเดินทาง ทำให้ค่อนข้างประหยัดมากเลยทีเดียว
- คำแนะนำเพิ่มเติมข้อความถึงคนขับได้: หากเรามีอะไรที่ต้องการแจ้งคนขับให้ทราบก่อนเข้ามารับ สามารถบอกรายละเอียดผ่านข้อความคำแนะนำเพิ่มเติมได้ทันที
- ติดต่อคนขับผ่านแอปไลน์ได้ง่าย: เมื่อเราเชื่อมต่อกับคนขับแล้ว สามารถติดต่อสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันไลน์ได้ทันที
- มีการแจ้งรายละเอียดชัดเจน: ในส่วนของค่าบริการ ประเมินราคามิเตอร์ ระยะเวลาในการเดินทาง มีบอกครบถ้วน
อัตราค่าโดยสารเรียกรถ Lineman
อัตราค่าโดยสารแอป เรียกรถ Lineman จะแจ้งค่าโดยสารโดยประมาณจากมิเตอร์ และค่าเรียกรถและความต้องการใช้รถในแต่ละช่วงเวลา โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ค่าเรียกรถ Lineman Taxi ครั้งละ 20 บาท
- ค่าทางด่วนหรือทางพิเศษอื่น ๆ เป็นไปตามที่ทางด่วนและทางพิเศษกำหนด
- ค่าจ้างบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดเกินกว่า 26 นิ้ว คิดเป็นจำนวนชิ้นละ 20 บาท สำหรับ 3 ชิ้นขึ้นไป
- ค่าจ้างบรรทุกอุปกรณ์กีฬา เช่น ถุงกอล์ฟ รถจักรยาน กระดานวินเซิร์ฟ หรือ เครื่องดนตรี ที่มีขนาด 50 นิ้วขึ้นไป คิดชิ้นละ 100 บาท (รวมถึงอุปกรณ์ สินค้า เครื่องมือ หรือกล่องด้วย)
- ค่าโดยสาร Taxi จะเป็นไปตามประกาศกระทรวงคมนาคม
คำแนะนำเพิ่มเติม: ช่วงเวลาที่คนต้องการใช้รถเยอะ อาจไม่เหมาะมากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเป็นการเดินทางนอกเหนือเวลาเร่งรีบ หรือช่วงที่ไม่ค่อยมีรถบนท้องถนน การเลือกใช้แอป เรียกรถ อย่าง Lineman จะค่อนข้างใช้งานได้ดีทีเดียว
แอปเรียกรถ InDrive
แอป เรียกรถ InDrive คือ แอป เรียกรถโดยสารที่แตกต่างออกไปจากแอปอื่น เนื่องด้วยมีระบบจุดเด่นที่แตกต่าง พร้อมกับการชูคอนเซปต์ที่มีความเป็นกลางมากที่สุดในการใช้งาน
จุดเด่นเรียกรถ InDrive
จุดเด่นแอป เรียกรถ InDrive คือ เราสามารถกำหนดราคาที่ต้องการได้, มีรถให้บริการที่หลากหลาย และเลือกรูปแบบการเดินทางได้
- กำหนดราคาที่ต้องการได้: ทางแอป เรียกรถ InDrive จะมีอัตราค่าบริการพื้นฐานมาให้ โดยที่เราสามารถต่อรองราคากับคนขับได้ และคนขับก็สามารถยื่นเสนอราคามาให้เราได้เช่นกัน
- มีรถให้บริการที่หลากหลาย: ตั้งแต่รถยนต์ทั่วไป, รถยนต์ขนาดเล็ก, รถยนต์ขนาดกลาง, รถที่สะดวกสบาย และรถมอเตอร์ไซค์
- เลือกรูปแบบการเดินทางได้: เช่น การเดินทางในเมือง และการเดินทางระหว่างเมือง ซึ่งตัวเลือกเหล่านี้ช่วยให้เราตกลงค่าเดินทางกับคนขับได้ง่ายขึ้น
อัตราค่าโดยสารเรียกรถ InDrive
อัตราค่าโดยสารขั้นพื้นฐานจากแอป เรียกรถ InDrive คือ จะแตกต่างกันออกไปตามประเภทรถที่ให้บริการดังนี้
- ค่าโดยสารรถยนต์ทั่วไป: เริ่มต้น 45 บาท เพิ่มขึ้น 7 บาท/กม. และกรณีรถติดคิดเพิ่ม 2 บาท/นาที
- ค่าโดยสารรถมอเตอร์ไซค์: ระยะทางไม่เกิน 5 กม. เริ่มต้น 25 บาท หากเดินทาง 2.1-5 กม. คิดเพิ่ม 5 บาท/กม. / หากระยะทางเกิน 5 กม. ขึ้นไป เริ่มต้น 50 บาท หากเดินทาง 5.1-15 กม. คิดเพิ่ม 10 บาท/กม. และ เดินทาง 15.1 กม. คิดเพิ่ม 15 บาท/กม.
- ค่าโดยสารรถ Taxi: เริ่มต้น 40 บาท 2-10 กม. แรกคิดเพิ่ม 6 บาท/กม. ส่วนกม.ที่ 10 เป็นต้นไป คิดเพิ่ม 10 บาท/กม. และกรณีรถติดจอดสนิท จะคิดเพิ่ม 1 บาท/นาที
คำแนะนำเพิ่มเติม: หากช่วงเวลาไหนที่มีความต้องการใช้งานรถสูง แอป เรียกรถอย่าง InDrive อาจไม่เหมาะเท่าไหร่นัก เนื่องจากราคาค่อนข้างแพง คนขับยังไม่เยอะมากเท่าไหร่นัก อีกทั้งด้วยระบบการยื่นเสนอราคาไปมา อาจทำให้เราต้องเดินทางช้ากว่าเดิม แต่ถ้าช่วงที่ไม่เร่งรีบ บวกกับเราต้องการราคาที่รับไหว การเลือกใช้บริการแอป เรียกรถ InDrive จะเหมาะสมมากเลยทีเดียว
แอปเรียกรถ Bolt
แอปเรียกรถ Bolt เป็นแอป เรียกรถ ที่เพิ่งเปิดตัวในไทยได้ไม่นานเท่าไหร่นัก ด้วยค่าโดยสารที่ค่อนข้างถูก ทำให้มีผู้คนใช้งานเยอะขึ้น คนขับก็เพิ่มขึ้น จึงทำให้เรียกรถง่ายมาก
จุดเด่นเรียกรถ Bolt
จุดเด่นแอปเรียกรถ Bolt คือ มีคนขับค่อนข้างเยอะ, ราคาถูก, มีให้บริการที่หลากหลาย, ฝ่ายสนับสนุนติดต่อเร็ว และมีระบบการเดินทางสำหรับการทำงานด้วย
- มีคนขับเยอะ: เพราะผู้คนเริ่มหันมาใช้บริการมากขึ้น ทำให้คนขับมีจำนวนมากขึ้น รวมถึงการสมัครเป็นคนขับที่ค่อนข้างง่าย ทำให้ได้รับการตอบสนองที่รวดเร็ว
- ราคาถูก: อัตราค่าโดยสารค่อนข้างถูก หากเปรียบเทียบกับแอป เรียกรถ ทั่วไปในตลาด
- มีให้บริการหลากหลาย: เช่น รถยนต์ทั่วไป, รถมอเตอร์ไซค์, รถยนต์ที่สะดวกสบาย, รถยนต์สำหรับผู้หญิง
- ฝ่ายสนับสนุนติดต่อเร็ว: เนื่องจากไม่ต้องรอติดต่อผ่านอีเมล แต่เป็นการติดต่อผ่านไลฟ์แชตบนแอป เรียกรถได้เลย
- มีระบบการเดินทางสำหรับทำงาน: เพื่อช่วยบันทึกการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน แล้วทุกสิ้นเดือนจะมีการสรุปค่าใช้จ่ายมาให้ สำหรับคนที่เบิกค่าเดินทางจากบริษัทได้
อัตราค่าโดยสารเรียกรถ Bolt
อัตราค่าโดยสารเรียกรถ Bolt จะแบ่งอัตราค่าใช้บริการแอป เรียกรถได้ 4 ประเภทหลัก คือ Taxi, รถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ทั่วไป และบริการรถพิเศษ
- ค่าเรียกรถ Bolt Taxi: เริ่มต้น 35 บาท 1-10 กม. คิด 6.5 บาท/กม. 10-20 กม. คิด 7 บาท/กม. 20-40 กม. คิด 8 บาท/กม. 40-60 กม. คิด 8.5 บาท/กม. 60-80 กม. คิด 9 บาท/กม. เกิน 80 กม.ขึ้นไป คิด 10.5 บาท/กม. กรณีรถติดคิด 3 บาท/นาที โดยมีค่าธรรมเนียมการจอง 20 บาท
- ค่าเรียกรถมอเตอร์ไซค์ Bolt: เริ่มต้น 25 บาท คิดเพิ่ม 3.5 บาท/กม.
- ค่าเรียกรถยนต์ทั่วไป Bolt: เริ่มต้น 40 บาท เกิน 2 กม. คิด 6 บาท/กม. กรณีรถติดคิด 2 บาท/นาที และมีค่าบริการเรียก 20 บาท
- ค่าเรียกรถยนต์พิเศษ Bolt: เริ่มต้น 45 บาท เกิน 2 กม. คิด 7 บาท/กม. กรณีรถติดคิด 2 บาท/นาที และมีค่าบริการเรียก 20 บาท
คำแนะนำเพิ่มเติม: แนะนำว่าใช้ในเวลาปกติแอป เรียกรถนี้จะค่อนข้างถูกมาก ส่วนช่วงเวลาเร่งรีบก็จะมีราคาที่เพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ยังจัดอยู่หมวดที่ค่อนข้างถูกที่สุดอยู่ดี
แอปเรียกรถ Cabb
แอปเรียกรถ Cabb คือ แอป เรียกรถที่ถอดแบบมาจากต่างประเทศ เพราะให้บริการด้วย Taxi ทรงคลาสสิกสีนำ้เงินที่มีต้นแบบมาจากต่างประเทศ
จุดเด่นเรียกรถ Cabb
จุดเด่นเรียกรถ Cabb จะเน้นความสะดวกสบายในการเดินทาง มีมาตรฐานที่ค่อนข้างสูงมากหากเทียบจากแอป เรียกรถทั้งหมดที่แนะนำมา และมีจุดจอดรถที่ชัดเจนโดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่สำคัญต่าง ๆ
- ความสะดวกสบายในการเดินทาง: มีปุ่ม SOS, มีกล้องบันทึกภาพบนรถ, มี Wi-F, มี USB Port, มี)ฉากกั้นระหว่างคนขับและผู้โดยสาร, รถสะอาด ดีไซน์สวย มี 5 ที่นั่ง, มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจบนรถ, รองรับผู้โดยสารที่จำกัดการเคลื่อนไหว
- มาตรฐานสูง: นอกเหนือจากยานพาหนะที่ดูดีทันสมัยแล้ว คนขับยังได้รับการอบรมมาอย่างดี ทำให้มีมาตรฐานที่สูงมาก
- มีจุดจอดรถชัดเจน: ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และสถานที่สำคัญ
อัตราค่าโดยสารเรียกรถ Cabb
อัตราค่าโดยสารเรียกรถ Cabb เริ่มต้นที่ 60 บาท หลังจากนั้นคิดเพิ่ม 6-8 กม. กรณีรถติดคิด 2.5 บาท/นาที ค่าจองรถล่วงหน้า 50 บาท และหากเรียกไปสนามบินบวกเพิ่ม 50 บาท
แอปเรียกรถ MuvMi
แอป เรียกรถ MuvMi คือ แอป เรียกรถตุ๊กตุ๊กโดยเฉพาะ แต่เป็นรถตุ๊กตุ๊กที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงดัง หรือเหม็นควันได้เลย
จุดเด่นเรียกรถ MuvMi
- รองรับผู้โดยสารได้ 5-6 คน
- ให้บริการ 12 พื้นที่ คือ จุฬา-สามย่าน อารีย์-ประดิพัทธ์ รัตนโกสินทร์ สุขุมวิท อ่อนนุช พหลโยธิน-เกษตร บางซื่อ อนุสาวรีย์ชัย สีลม-สาทร ชิดลม-ลุมพินี และรัชดา-พระราม 9
- มีบริการเหมาทั้งวันสำหรับนักท่องเที่ยว
อัตราค่าโดยสารเรียกรถ MuvMi
อัตราค่าโดยสารแอป เรียกรถ MuvMi เริ่มต้นเพียง 10 บาทเท่านั้น และสามารถเดินทางได้ตามเขตหรือจุดที่ในแอป เรียกรถมีให้บริการ
ใครที่ใช้บริการแอป เรียกรถในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว สามารถอ่านเพื่อเก็บข้อมูล จากนั้นตัดสินใจเลือกได้เลยว่าในแต่ละวัน หรือแต่ละช่วงเวลา จะเลือกใช้บริการแอป เรียกรถตัวไหน และถ้าหากคุณต้องการให้การเดินทางเกิดขึ้นง่าย รวดเร็ว ทันใจ ไม่ต้องเสียเวลาด้วยการจ่ายเงินสด หรือลุ้นว่าคนขับจะรับโอนหรือไม่นั้น เพียงแค่ผูกบัตรเครดิตกับแอป เรียกรถ แล้วเลือกจ่ายด้วยบัตรของคุณ ก็สามารถเดินทางได้ง่าย และเร็วทันใจแน่นอน
แต่เดี๋ยวก่อน หากใครยังไม่มีบัตรเครดิตเพื่อไว้ใช้บริการแอป เรียกรถที่กล่าวมาทั้งหมด แรบบิท แคร์ มีบัตรเครดิตมานำเสนอจำนวนมาก โดยที่คุณเลือกได้เลยว่าเป็นสายไหน ใช้บริการประเภทใดบ่อยที่สุด แล้วเดี๋ยวระบบของ แรบบิท แคร์ จะทำการแนะนำให้คุณเลือกบัตรเครดิตที่ใช่อย่างรวดเร็ว หรือโทรติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 1438 ติดต่อได้ 24 ชั่วโมง
นักเขียนบทความด้านประกันยานยนต์ รถยนต์ การเคลมประกันรถยนต์ ตั้งใจเขียนงานให้ได้เกินครึ่งจากช่วงเวลาที่หาข้อมูล ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก
