เกิดอุบัติเหตุขับรถชนหมาบนท้องถนน ใครเป็นฝ่ายผิด
การเกิดอุบัติเหตุขับรถชนหมาบนท้องถนน เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราพบได้ค่อนข้างบ่อย ไม่ว่าจะเป็นในกรณีที่มีหมาของชาวบ้านในบริเวณนั้นขึ้นมาวิ่งบนท้องถนน หรือเป็นหมาจรจัดที่ไม่ได้รับการดูแลออกมาอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่ ก็สามารถเป็นต้นเหตุของการขับรถชนหมาได้เหมือนกันทั้งสิ้น แต่ทีนี้หลายคนอาจสงสัยว่าการขับรถชนหมา ใครผิด? ใครถูก? มีกฎหมายข้อไหนที่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้บ้าง ในแต่ละกรณีจะมีการรับผิดชอบอย่างไร? และท้ายที่สุดการขับรถชนหมา สามารถเคลมประกันได้หรือไม่?
ใครที่กำลังสงสัยในเรื่องราวเหล่านี้อยู่ วันนี้ แรบบิท แคร์ มีคำตอบมาให้แล้ว!
กฎหมายเกี่ยวกับอุบัติเหตุขับรถชนสัตว์เลี้ยง หรือขับรถชนหมา
สำหรับข้อมูลกฎหมายเกี่ยวกับอุบัติเหตุขับรถชนสัตว์เลี้ยง หรือการขับรถชนหมา จะมีอยู่ 2 รายด้วยกัน คือ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 111 กับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 433 ซึ่งทั้งคู่ต่างก็มีข้อมูล และกำหนดกฎหมายที่มีรายละเอียดต่างกันออกไปดังนี้
- พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 111: หากมีการปล่อยสัตว์ไปบนทางจราจร ในลักษณะที่มีการกีดขวางทาง และไม่มีผู้ควบคุมที่เพียงพอ อาจต้องโทษปรับ 500 บาท ตามมาตรา 148
- ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 433: กรณีที่ความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ เจ้าของหรือผู้ที่รับเลี้ยงขณะนั้น ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย เพื่อความเสียหายใดก็ตามที่เกิดขึ้นจากสัตว์ เว้นแต่ว่าสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว
ซึ่งอุบัติเหตุการขับรถชนหมาบนท้องถนน จึงไม่ถือว่าเป็นความผิดของผู้ขับขี่ เนื่องจากถนนที่มีรถยนต์สัญจรไปมา การที่ปล่อยสัตว์เลี้ยงขึ้นมาบนท้องถนนโดยขาดคนดูแล ถือเป็นความประมาทของผู้เลี้ยง ที่อาจต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย ตามข้อกฎหมายที่เรากล่าวมาด้านบนเสียด้วยซ้ำ
อ้างอิงข้อมูลกฎหมายเกี่ยวกับอุบัติเหตุขับรถชนสัตว์จากสำนักงานกิจการยุติธรรม
4 กรณีเกี่ยวกับการขับรถชนหมา
กรณีที่เกี่ยวข้องกับการขับรถชนหมา พบเห็นได้บ่อยครั้ง 4 กรณีด้วยกัน คือ กรณีที่สัตว์ไม่มีเจ้าของ, กรณีที่สัตว์มีเจ้าของ, กรณีที่ชนนอกทางเดินรถ หรือบนถนนส่วนบุคคล และกรณีที่มีการตั้งใจขับชนจริง โดยในแต่ละกรณีจะมีการรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย หรือการทำผิดกฎหมายในหลายรูปแบบ ใครที่ความกังวลเรื่องการขับรถชนหมาบนท้องถนน สามารถติดตามอ่านเนื้อหาทั้งหมดได้จากหัวข้อย่อยดังต่อไปนี้
ขับรถชนหมาหรือสัตว์เลี้ยงอื่น แต่ไม่มีเจ้าของ
ขับรถชนหมาหรือสัตว์เลี้ยงอื่น แต่ไม่มีเจ้าของแบบที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของได้ จะมีได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของประกันรถยนต์ชั้นที่ 1 เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากเป็นประกันรถยนต์ประเภทอื่นจะไม่มีการคุ้มครองเพิ่มเติมในกรณีขับรถชนหมา ดังนั้นทางผู้เสียหายหรือเจ้าของรถยนต์ ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเองทั้งหมด
ขับรถชนสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงอื่น แบบมีเจ้าของ
ขับรถชนหมาหรือสัตว์เลี้ยงอื่น แบบมีเจ้าของที่สามารถระบุตัวได้ ทางผู้เสียหายสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงตัวนั้นได้ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 111 ที่เราได้กล่าวไว้ในหัวข้อเรื่องกฎหมาย หากมีประกันรถยนต์ชั้น 1 แล้วทางเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่รับผิดชอบตามกฎหมาย สามารถนำหลักฐานไม่ว่าจะเป็นภาพหรือวิดีโอจากกล้องหน้ารถ ไปแจ้งลงบันทึกประจำวันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเอาหลักฐานการแจ้งเหตุไปยื่นเคลมประกันรถยนต์ได้อีกทีหนึ่ง ส่วนเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงดูโดยประมาท อาจต้องมีการปรึกษาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง
ขับรถชนหมาหรือสัตว์เลี้ยงอื่น นอกทางเดินรถ หรือบนถนนส่วนบุคคล
ขับรถชนหมาหรือสัตว์เลี้ยงอื่น นอกทางเดินรถหรือบนถนนส่วนบุคคล กรณีที่สัตว์เลี้ยงตัวนั้นไม่มีเจ้าของ ก็ถือว่าเป็นความประมาทของผู้ขับขี่เอง จะต้องมีการจ่ายค่าเสียหายด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากสัตว์เลี้ยงตัวนั้นมีเจ้าของที่ระบุตัวตนได้ อาจต้องมีการชดเชยค่าเสียหายแก่เจ้าของสัตว์ด้วยเช่นกัน เพราะถือว่าในพื้นที่ดังกล่าวเจ้าของสัตว์ได้ดูแลอย่างระมัดระวังในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว เพียงแต่ผู้ขับขี่ขับรถเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่ใช้ทางเดินรถทั่วไป ถือเป็นความประมาทนั่นเอง
ตั้งใจขับรถชนหมาหรือสัตว์เลี้ยงอื่น
ตั้งใจขับรถชนหมาหรือสัตว์เลี้ยงอื่น โดยมีความชัดเจนทางหลักฐานอย่างมากถึงเจตนาที่ขับรถชนสัตว์เลี้ยง ถือเป็นความผิดของผู้ขับขี่เต็ม ๆ ตามข้อกฎหมาย พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 โดยระบุโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกเหนือจากนั้นยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องเสียทรัพย์ ต้องโทษปรับอีก 1,000 บาท
ดังนั้นถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขับรถชนสุนัขขึ้นมา ต้องดูแยกเหตุออกไปตามกรณีทั้งหมดที่เรากล่าวมา จากนั้นจึงจะสามารถวิเคราะห์ไปตามข้อกฎหมายได้ ว่าขับรถชนหมา ใครผิด ใครถูก และต้องมีการชดเชยหรือรับผิดชอบค่าเสียหายกันอย่างไรบ้าง
ขับรถชนหมา เคลมประกันได้ไหม
ขับรถชนหมา เคลมประกันได้ไหม คำตอบ คือ เคลมประกันรถยนต์ภาคสมัครใจได้ตามปกติ เพียงแต่ประกันรถยนต์ต้องเป็นประเภทที่ 1 หรือชั้น 1 เท่านั้นที่จะดูแลคุ้มครองในกรณีการขับรถชนสุนัขที่ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่สัตว์เลี้ยง จะมีเจ้าของหรือไม่ก็ตาม ถ้าหากผู้ขับขี่เป็นฝ่ายถูก ทางเจ้าหน้าที่ประกันจะดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงเอง แต่ถ้าผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด ประกันจะดูแลค่าซ่อมให้จริง ส่วนโทษที่ผิดตามกฎหมาย ผู้ขับขี่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบด้วยตัวเองทั้งสิ้น
ขับรถชนหมา เคลม พ.ร.บ. ได้ไหม
ส่วนกรณีที่มีการขับรถชนหมา เคลม พ.ร.บ. ได้ไหม คำตอบ คือ ไม่ได้ เนื่องจาก พ.ร.บ. จะไม่คุ้มครองค่าเสียหายในส่วนของสัตว์ เพราะสัตว์ถือว่าเป็นทรัพย์สินนั่นเอง ซึ่ง พ.ร.บ. รถยนต์จะสามารถเคลมได้ก็ต่อเมื่อเป็นอุบัติเหตุยานพาหนะทางบกเท่านั้น โดยผู้ขับขี่สามารถยื่น พ.ร.บ. กับทางโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บได้เลยทันที ส่วนค่ารักษาจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการคุ้มครองของ พ.ร.บ. อีกทีหนึ่ง
สรุปขับรถชนหมา ใครผิด
สรุปแล้วการขับรถชนสุนัข ใครผิด ต้องขึ้นอยู่กับกรณีที่ว่าสัตว์เลี้ยงตัวนั้นขึ้นมาอยู่บนทางจราจรใช่หรือไม่ หากใช่ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีเจ้าของ ถือว่าผู้ขับขี่ไม่มีความผิด และถ้ามีเจ้าของ เจ้าของสัตว์ตัวนั้นจะมีความผิดไปด้วย แต่ถ้าหากขับรถชนหมา หรือสัตว์เลี้ยงนอกทางเดินรถ หรือบนนถนนส่วนบุคคล ถือเป็นความผิดขอบผู้ขับขี่ในทันที เนื่องจากความประมาทจากการขับขี่นอกเหนือจากจราจรตามปกติ ฉะนั้นใครเดินทางบ่อยควรศึกษาข้อกฎหมายเรื่องนี้เอาไว้ให้ดี เพื่อที่เวลาเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมาจริง เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับความกังวลนานนัก เนื่องจากมีคำตอบ และความรู้ พร้อมดำเนินการขั้นตถัดไปแล้ว
เห็นแบบนี้หลายคนคงเข้าใจได้ทันทีเลยว่าประกันรถยนต์นั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่สามารถดูแลคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ในกรณีที่ขับรถชนหมา ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีเจ้าของก็ตาม รวมถึงไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะยังดูแลค่าซ่อมแซมให้เราตามเงื่อนไขกรมธรรม์เช่นกัน
ใครที่ต้องการรับคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดการต่อประกันภัยรถยนต์ สามารถติดต่อหา แรบบิท แคร์ ผ่านเบอร์โทร 1438 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทางเราจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำตอบอย่างละเอียด หรือจะลองใช้ฟีเจอร์เปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับคุณได้ง่าย ๆ โดยใช้เวลาเพียง 30 วินาที เพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษส่วนลดสูงสุด 70% ภายใต้ตัวเลือกมากมายจากบริษัทประกันภัยระดับแนวหน้าของประเทศไทย มากกว่า 30 แห่งด้วยกัน
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology