แนะนำทางเลี่ยงรถติด เผื่อไว้ใช้งานช่วงสงกรานต์
เนื่องด้วยเทศกาลสงกรานต์ในแต่ละปี จะมีผู้ใช้ถนนเป็นจำนวนมาก การหาทางเลี่ยงรถติดเผื่อเอาไว้ จะช่วยให้เราสามารถเดินทางถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น รวมถึงยังเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดอันเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้มากเช่นเดียวกัน ซึ่งทางเลี่ยงรถติดส่วนมาก อาจเป็นทางเลี่ยงเมืองที่มีถนนหนทางเล็กลงกว่าทางปกติ แต่ยังสามารถใช้งานได้อยู่ จึงมีการแนะนำออกมาค่อนข้างหลายเส้นทาง โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์บางปีที่อาจมีการเพิ่มเติมวันหยุดยาวนานมากขึ้น ทำให้มีรถวิ่งตามทางปกติเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ใครที่อยากหาทางเลี่ยงรถติดดี ๆ วันนี้ แรบบิท แคร์ เตรียมมาแนะนำให้กันมากมายเลยทีเดียว!
เหตุผลที่ต้องใช้ทางเลี่ยงรถติด
เหตุผลที่ต้องใช้ทางเลี่ยงรถติด มีอยู่ด้วยกัน 5 เหตุผลหลัก ๆ คือ เลี่ยงการจราจรที่ติดขัดจากเทศกาล, ต้องการเดินทางให้รวดเร็วตามเวลาที่กำหนด, ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ, หาที่พักระหว่างทางง่ายขึ้นกว่าเดิม และสัมผัสความรู้สึกการท่องเที่ยวไปบนเส้นทางใหม่ ๆ แม้ว่าการหาทางเลี่ยงรถติด หรือทางเลี่ยงเมืองจะมีเหตุหลักร่วมกัน แต่ถ้าหากมองภาพรวมให้ดี จะเห็นว่ามีเหตุผลมากมายในการเลือกใช้งานเส้นทางตามที่กล่าวมา
- เลี่ยงการจราจรที่ติดขัดจากเทศกาล โดยเฉพาะบางช่วงที่มีการเปิดใช้งานทางด่วนฟรี ทำให้มีรถจำนวนมากเดินทางมาติดสะสมกันในเส้นทางปกติเร็วขึ้น รวมถึงการที่คนส่วนใหญ่ในประเทศมีวันหยุดร่วมกัน จนออกเดินทางไปต่างจังหวัดได้พร้อมกันจำนวนมากนั่นเอง
- ต้องการเดินทางให้รวดเร็วตามเวลาที่กำหนด เนื่องจากเส้นทางปกติที่มีรถติดสะสมเป็นจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงทางเลี่ยงเมือง หรือทางเลี่ยงรถติดที่มีคนใช้งานน้อย สามารถเดินทางได้รวดเร็ว และดูปกติมากกว่าทางทั่วไป
- ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เมื่อมีผู้ใช้งานท้องถนนมากขึ้น ต่อให้รถขยับช้า แต่นั่นหมายความว่าต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นด้วย พอรถมาติดอยู่ในสถานที่เดียวกันเยอะ ๆ แปลว่ามีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงในอุบัติเหตุมากขึ้นเช่นเดียวกัน
- หาที่พักระหว่างทางง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่ต้องแย่งกันกิน แย่งกันใช้จากที่พักระหว่างทางที่มีอยู่อย่างจำกัด เช่น ปั๊มน้ำมัน บนเส้นทางปกติที่อาจมีที่จอดน้อย มีร้านอาหาร ห้องน้ำไม่เพียงพอต่อคนจำนวนมากที่รุมเข้าไปใช้งาน
- สัมผัสความรู้สึกการท่องเที่ยวไปบนเส้นทางใหม่ ๆ ปกติแล้วเวลาเราใช้งานเส้นทางทั่วไปจนชิน อาจทำให้เรารู้สึกเบื่อที่ต้องเจอแต่อะไรเดิม ๆ กรณีที่ลองใช้งานทางเลี่ยงรถติดที่ไม่คุ้นเคย จึงช่วยให้เรามองหาอะไรใหม่ ๆ รอบตัวได้มากกว่าเดิม
สรุปแล้วถึงแม้ต้องไปใช้งานทางเลี่ยงรถติดที่เราไม่คุ้นเคย ก็ยังมีข้อดีมากมายที่เข้ามาช่วยสนับสนุนให้การเดินทางมีความสุขมากขึ้น ในช่วงที่ทางหลักถูกผู้คนจำนวนมากใช้งานจนติดขัด ส่วนใครที่กลัวหลง เดี๋ยวลองมาดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทางเลี่ยงรถติด ที่ทาง แรบบิท แคร์ ได้เตรียมเอาไว้ให้ได้เลย
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ทางเลี่ยงรถติด
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้งานทางเลี่ยงรถติด ได้แก่ เส้นทางบางจุดอาจมีสภาพผิวถนนที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก, ปั๊มน้ำมันที่มีจำนวนแตกต่างจากเส้นทางหลัก, ต้องระมัดระวังรถในพื้นที่ชนบทให้ดี และไม่ควรขับด้วยความเร็วสูงตามปกติ เพื่อการเตรียมตัวให้พร้อมต่อการใช้งานทางเลี่ยงรถติด หรือทางเลี่ยงเมืองที่เราเลือกใช้งาน ต้องอย่าลืมข้อควรรู้เหล่านี้อย่างเด็ดขาด
- เส้นทางบางจุดอาจมีสภาพผิวถนนที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก เนื่องจากเป็นเส้นทางรองที่เดิมทีแล้วมีผู้ใช้งานที่ค่อนข้างน้อย ทำให้การดูแลอาจเข้าไปไม่ทั่วถึงมากนัก ควรระมัดระวังทุกการขับขี่เป็นพิเศษเมื่อเจอผิวทางที่ไม่เรียบ
- ปั๊มน้ำมันที่มีจำนวนแตกต่างจากเส้นทางหลัก เหตุผลเหมือนกับข้อแรก เพราะเป็นเส้นทางที่มีคนใช้งานน้อย ทำให้มีปั๊มน้ำมันเปิดให้บริการอย่างจำกัด ดังนั้นต้องวางแผนเรื่องการเติมน้ำมัน การแวะพักระหว่างทางให้ดีด้วย
- ต้องระมัดระวังรถในพื้นที่ชนบทให้ดี เพราะปกติแล้วคนที่ใช้งานทางเลี่ยงเมือง หรือทางเลี่ยงรถติดที่เป็นเส้นทางรองบ่อยที่สุด คงหนีไม่พ้นชาวบ้านในระแวกนั้น ทำให้เราต้องระมัดระวังรถที่ขับช้าบนถนน หรือบางครั้งอาจเจอรถขับสวนเลนก็เป็นไปได้เช่นกัน
- ไม่ควรขับด้วยความเร็วสูงตามปกติ อ้างอิงจากเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้เราควรระวังทุกการขับขี่ หากเจอสถานการณ์ใดก็ตามที่กล่าวมา อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ตอนนี้ทุกคนก็พร้อมแล้วที่จะออกเดินทางด้วยเส้นทางเลี่ยงรถติด ที่ทาง แรบบิท แคร์ ได้เตรียมสรุปมาแนะนำ
9 เส้นทางเลี่ยงรถติด
9 เส้นทางเลี่ยงรถติด คือ ทางเลี่ยงจราจร ถ.กัลปพฤกษ์, ราชพฤกษ์, นครอินทร์, จ.สระบุรี ไปยัง จ.ปราจีนบุรี, จ.สิงห์บุรี ไปจ.ชัยนาท, จ.สระบุรี, จ.นครราชสีมา, จ.สมุทรสงคราม ไปยัง จ.เพชรบุรี และจ.สุพรรณบุรี ไปยัง จ.ชัยนาท ซึ่งสรุปเส้นทางเลี่ยงรถติดทั้งหมดอ้างอิงจากกรมทางหลวงชนบท ที่เคยออกมาแนะนำกันตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2566 มีรายละเอียดดังนี้
ทางเลี่ยงจราจร ถ.กัลปพฤกษ์, ราชพฤกษ์ และนครอินทร์
ทางเลี่ยงรถติด ถ.กัลปพฤกษ์, ราชพฤกษ์ และนครอินทร์ มีทั้งหมด 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่เริ่มต้นจากทางเลี่ยงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 9, เส้นทางเลี่ยงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 9 และ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 306 และเส้นทางเลี่ยงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 9 และ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 345 สำหรับรายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติมของทางเลี่ยงรถติดทั้งสามมีดังนี้
- เส้นทางที่เริ่มต้นจากทางเลี่ยงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 9 ณ กม. ที่ 20+600 (จุดที่ 1) เดินทางด้วยการเลี่ยวขวาไปยังทางหลวงชนบทสาย กท.1001 (ถนนกัลปพฤกษ์) ขับต่อ 7.65 กม. จนถึง กม.ที่ 4+000 (จุดที่ 2) เลี้ยวซ้ายเพื่อไปทางหลวงชนบทสาย นบ.3021 (ถนนราชพฤกษ์) ขับต่อ 9.5 กม. ถึง กม.ที่ 16+500 (จุดที่ 3) เลี้ยวขวาเพื่อไปทางหลวงชนบทสาย นบ.1020 (ถนนนครอินทร์) กม.ที่ 7+600 ขับต่อ 8 กม.จากนั้น (จุดที่ 6) จะเดินทางไปบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 306
- เส้นทางเลี่ยงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 9 และ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 306 ณ กม.ที่ 20+600 (จุดที่ 1) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงชนบทสาย กท.1001 (ถนนกัลปพฤกษ์) ขับต่อ 7.65 กม. จนถึง กม.ที่ 4+650 (จุดที่ 2) เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงชนบทสาย นบ.3021 (ถนนราชพฤกษ์) ขับต่อ 18 กม. จนถึง กม.ที่ 28+000 (จุดที่ 4) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงชนบทสาย นบ.3030 (ถนนชัยพฤกษ์) ขับต่อ 7 กม. (จุดที่ 7) บรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 เพื่อเดินทางเข้า ถ.แจ้งวัฒนะ
- เส้นทางเลี่ยงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 9 และ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 345 เริ่มต้นที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 9 กม.ที่ 20+600 (จุดที่ 1) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงชนบทสาย กท.1001 (ถนนกัลปพฤกษ์) ขับต่อ 7.65 กม. จนถึง กม.ที่ 4+650 (จุดที่ 2) เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงชนบทสาย นบ.3021 (ถนนราชพฤกษ์) ขับต่อ 37 กม. และไปบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 346 กม.ที่ 14+120 (จุดที่ 5) เลี้ยวขวาเพื่อเดินทางเข้าไปยัง จ.ปทุมธานีต่อ
ทางเลี่ยงจราจร จ.สระบุรี ไปยัง จ.ปราจีนบุรี
เส้นทางเลี่ยงรถติดด้วยการใช้งาน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) และ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 เริ่มต้นกันที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 กม.ที่ 36+000
- (จุดที่ 1) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงชนบทสาย นม.1016 ขับต่อ 27 กม. เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2090 กม.ที่ 20+340
- (จุดที่ 2) ขับต่อ 2.9 กม. จนถึง กม.ที่ 23+240
- (จุดที่ 3) เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงชนบทสาย นม.3052 ขับต่อ 70 กม. จนเดินทางไปบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 กม.ที่ 55+000
- (จุดที่ 4) เลี้ยวขวาเพื่อไปยัง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
ทางเลี่ยงจราจร จ.สิงห์บุรี ไปจ.ชัยนาท
เส้นทางเลี่ยงรถติดด้วยการใช้งาน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 เริ่มกันที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 กม.ที่ 87+800
- (จุดที่ 1) เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 369 ขับต่อ 4 กม. เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3030 กม.ที่ 1+000
- (จุดที่ 2) ขับต่อ 9.8 กม. จนไปบรรจบที่ทางหลวงชนบทสาย สห.4035
- (จุดที่ 3) ขับต่อ 7.3 กม. แล้วบรรจบทางหลวงชนบทสาย สห.5040
- (จุดที่ 4) ขับต่อ 4.6 กม. จนถึงทางหลวงชนบทสาย ชน.4050
- (จุดที่ 5) เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3183 กม.ที่ 3+730
- (จุดที่ 6) ขับต่อ1.6 กม. แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340 กม.ที่ 160+610
- (จุดที่ 7) เพื่อเดินทางเข้า จ.ชัยนาท ต่อ
ทางเลี่ยงจราจร จ.สระบุรี
เส้นทางเลี่ยงรถติดโดยการใช้งาน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) เริ่มจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 กม.ที่ 80+000
- (จุดที่ 1) ใช้เส้นทางคู่ขนานไปกว่าจะถึงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3226 กม.ที่ 83+800
- (จุดที่ 2) ขับต่อ 1.5 กม. แล้วเจอกับทางหลวงชนบทสาย สบ.4051
- (จุดที่ 3) ขับต่อ 3 กม. เดินทางต่อด้วยทางหลวงชนบทสาย สบ.3021
- (จุดที่ 4) ขับต่อ 19 กม. วิ่งตรงผ่านไฟแดง
- (จุดที่ 5 และ 6) ถึงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 362 กม.ที่ 3+290
- (จุดที่ 7) เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าเข้า จ.ลพบุรี และ จ.เพชรบูรณ์
ทางเลี่ยงจราจร จ.นครราชสีมา
เส้นทางเลี่ยงรถติด จากการใช้งานทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) เริ่มจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 กม.ที่ 102+135
- (จุดที่ 1) เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ขับต่อ 41 กม. จนถึง กม.ที่ 41+000
- (จุดที่ 2) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2148 ขับต่อ 3.4 กม. จนถึง กม.ที่ 3+400
- (จุดที่ 3) เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงชนบทสาย นม.4008 ขับต่อ 23.1 กม. จนเจอกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2369
- (จุดที่ 4) ขับต่อ 30.8 กิโลเมตร ถึง กม.ที่ 30+800
- (จุดที่ 5) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2246 ขับต่อ 65.5 กม. และจะเจอกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 กม.ที่ 257+650
- (จุดที่ 6) เลี้ยวซ้ายเพื่อเดินทางต่อไปยัง จ.ขอนแก่น
ทางเลี่ยงจราจร จ.สมุทรสงคราม ไปยัง จ.เพชรบุรี
เส้นทางเลี่ยงรถติด จากการใช้งานทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 โดยเริ่มต้นกันที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 กม.ที่ 73+070
- (จุดที่ 1) เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงชนบทสาย สส.2021 ขับต่อ 23.7 กม. จนถึง กม.ที่ 23+700 แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3176
- (จุดที่ 2) ขับต่อ 12.6 กม. เข้า จ.เพชรบุรี
- (จุดที่ 3) ตรงนี้สามารถใช้ทางเลี่ยงรถติดการ จ.เพชรบุรีไปยังอ.ชะอำ โดยเริ่มจากทางหลวงชนบทสาย สส.2021
- (จุดที่ 2) ขับต่อ 36.3 กม. จนถึง กม.ที่ 60+000 เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3187
- (จุดที่ 4) ขับต่อ 18.5 กม. เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 กม.ที่ 169+070
- (จุดที่ 5) เพื่อเดินทางไปต่อ อ.ชะอำ
ทางเลี่ยงจราจร จ.สุพรรณบุรี ไปยัง จ.ชัยนาท
เส้นทางเลี่ยงรถติด จ.สุพรรณบุรีไปถึงจ.ชัยนาท ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่ จ.นครปฐมบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 321 เป็นระยะทาง 75 กม.
- (จุดที่ 1) เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 333 ขับต่อ 17 กม.
- (จุดที่ 2) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงชนบท สพ.4059 ขับต่อ 15 กม.
- (จุดที่ 3) ตรงไปบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3496 อีก 27 กม.
- (จุดที่ 4) ตรงไปบนทางหลวงชนบท ชน.4054 ต่อประมาณ 44 กม. จนถึง อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท
- (จุดที่ 5) สามารถเดินทางไป จ.อุทัยธานี จ.นครสวรรค์ และเดินทางต่อไปภาคเหนือได้เลย
มีเส้นทางเลี่ยงรถติดให้เลือกใช้งานเยอะมากขนาดนี้ อย่าลืมวางแผนให้ดีก่อนออกเดินทาง พร้อมศึกษารายละเอียดของเส้นทางเพื่อที่เราจะได้หาจุดพักรถ แวะทานอาหาร ให้สามารถเดินทางด้วยทางเลี่ยงรถติดอย่างสะดวกสบาย ที่สำคัญ ประกันรถยนต์ ต้องเตรียมให้พร้อม เพราะรถบนท้องถนนค่อนข้างเยอะ เผื่อเอาไว้เวลาที่เกิดเหตุไม่คาดคิด ใครยังไม่มีประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน ติดต่อหา แรบบิท แคร์ รับคำปรึกษาที่ตรงใจ และรับส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 70% ได้เลย!
สรุป
9 เส้นทางเลี่ยงรถติด คือ
- ทางเลี่ยงจราจร ถ.กัลปพฤกษ์, ราชพฤกษ์ และนครอินทร์
- ทางเลี่ยงจราจร จ.สระบุรี ไปยัง จ.ปราจีนบุรี
- ทางเลี่ยงจราจร จ.สิงห์บุรี ไปจ.ชัยนาท
- ทางเลี่ยงจราจร จ.สระบุรี
- ทางเลี่ยงจราจร จ.นครราชสีมา
- ทางเลี่ยงจราจร จ.สมุทรสงคราม ไปยัง จ.เพชรบุรี
- ทางเลี่ยงจราจร จ.สุพรรณบุรี ไปยัง จ.ชัยนาท
อย่าลืมวางแผนให้ดีก่อนออกเดินทาง พร้อมศึกษารายละเอียดของเส้นทางเพื่อที่เราจะได้หาจุดพักรถ แวะทานอาหาร ให้สามารถเดินทางด้วยทางเลี่ยงรถติดอย่างสะดวกสบาย ที่สำคัญ อย่าลืม ประกันรถยนต์ ที่จะช่วยให้คุณได้อุ่นใจได้ตลอดการเดินทางในช่วงวันหยุด
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology