ทำไมกองทุน RMF คือตัวช่วยวางแผนในวัยเกษียณ?
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังจะเข้าสู่วัยเกษียณหรือมีคนที่ใกล้ชิดกำลังจะก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ บทความนี้ก็คงจะกลายเป็นคู่มือการลงทุนที่ดีให้กับคุณอย่างแน่นอน เพราะวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับกองทุน RMF ซึ่งถือได้ว่าเป็นกองทุนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนวัยเกษียณเป็นอย่างมาก แต่! กองทุน RMF คืออะไร ? ทำไมถึงได้รับความนิยม ?
RMF คืออะไร?
RMF คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือมีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Retirement Mutual Fund” เป็นกองทุนรวมประเภทที่ส่งเสริมให้เกิดการออมเงินในระยะยาวสำหรับใช้จ่ายในตอนที่เกษียณหรือวัยชรา โดย RMF มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินต่างๆ ตั้งแต่ทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำไปจนถึงทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูง แต่! สิ่งที่เราอยากจะให้คุณจำให้ขึ้นใจเลยก็คือ “RMF เป็นกองทุนที่ไม่มีนโยบายในการจ่ายปันผล” อีกทั้งคุณต้องถือครองกองทุนนี้จนกว่าจะอายุ 55 ปี และถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากวันที่ซื้อ
เงื่อนไขที่ควรรู้ของ RMF
เมื่อเราทราบถึงข้อมูล RMF คืออะไรไปแล้ว เรามาทำความเข้าใจเงื่อนไขที่ควรรู้ กองทุนนี้เป็นกองทุนระยะยาว ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนให้คนไทยทุกคนมีเงินออมไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณ โดยมีเงื่อนไขที่สำคัญได้กำหนดไว้ดังนี้
- ต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปีต่อเนื่อง และคุณต้องมีอายุครบ 55 ปี บริบูรณ์ ถึงจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนมาใช้จ่ายได้
- ต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องหรือในกรณีที่น้อยที่สุดคือปีเว้นปี (หากคุณเว้นช่วงมากกว่า 1 ปี จะถือว่าผิดเงื่อนไข)
- ไม่มีการกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำต่อปี (ในอดีตต้องซื้อขั้นต่ำ 3% ของเงินได้ หรือไม่เกิน 5,000 บาท)
ใครที่ควรค่าแก่การซื้อกองทุน RMF
หัวใจสำคัญเลยก็คือ “เงินออมในยามเกษียณ” เพราะฉะนั้นผู้ที่ควรค่าแก่การซื้อกองทุน ก็คงจะเป็นทุกๆ คน ที่ต้องการมีเงินไว้จับจ่ายใช้สอยในยามเกษียณอายุงาน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะทำงานประจำ รับราชการ เจ้าของกิจการหรือแม้แต่อาชีพอิสระ คุณก็ควรค่าแก่การซื้อกองทุนที่มีชื่อว่า “RMF” แต่ทั้งนี้ก่อนการตัดสินใจลงทุน คุณอย่าลืมศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้เข้าใจให้ดีเสียก่อน
3 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ RMF มีความน่าสนใจ
เหตุผลที่ทำให้ RMF ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วไป เราก็ได้ทำข้อสรุปออกมาทั้งหมด 3 ข้อ เพื่อให้คุณได้มองเห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
RMF ช่วยประหยัดภาษี
เหตุผลที่ทำให้หลายๆ คน ตัดสินใจลงทุนเลยก็คือเรื่อง “ภาษี” เพราะผู้ลงทุนจะได้รับ “สิทธิพิเศษลดหย่อนภาษี” ซึ่งก็คือลดหย่อนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อนับรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (หรือ กบข.) ประกันชีวิตแบบบำนาญและกองทุนการออมแห่งชาติ
RMF เป็นเงินก้อนที่จะช่วยทำให้คุณอุ่นใจในยามเกษียณ
มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนักหากในยามที่คุณเกษียณอายุงาน แต่กลับไม่มีเงินเอาไว้ใช้จ่าย ครั้นจะให้กลับไปทำงานก็คงจะไม่ใช่เรื่อง ซึ่งกองทุนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ช่วงชีวิตในวัยเกษียณไม่ต้องมาวิตกกังวลใจในเรื่องเงิน
เลือกลงทุนได้หลากหลาย
จุดเด่นของ RMF ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ มีหลากหลายประเภท หลากหลายระดับความเสี่ยงให้เลือกได้ตามที่ต้องการ
หากจะบอกว่ากองทุน RMF คือกองทุนที่เหมาะสมกับทุกคนก็คงจะไม่ผิด เพราะรายละเอียดต่างๆ ที่เราได้กล่าวไป ล้วนแล้วแต่จะช่วยทำให้ตัวคุณในวัยเกษียณได้มีเงินไว้ใช้ไว้จ่ายอย่างไม่มีขัดสนในยามที่ร่างกายเริ่มทำงานไม่ไหว แต่ทั้งนี้ก่อนการตัดสินใจลงทุน RMF ทุกๆ ครั้ง คุณจำเป็นที่จะต้องศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้เข้าใจเสียก่อนเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเอง
แนะนำ 2 ทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับวัยเกษียณ
นอกจากกองทุน RMF จะเป็นการลงทุนที่น่าสนใจของวัยเกษียณแล้ว ยังมีอีก 2 แนวทางการออมเงินหรือการลงทุนสำหรับวัยเกษียณที่น่าใจอย่างประกันออมทรัพย์ และ ประกันวัยเกษียณ ซึ่งน้องแคร์จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้กันกับประกันทั้งสองรูปแบบกันให้มากขึ้น
ประกันออมทรัพย์คืออะไร
ประกันออมทรัพย์หรือที่หลาย ๆ คนอาจเรียกว่าประกันสะสมทรัพย์เป็นประกันชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งมีความคล้ายคลึงกับการเก็บออมเงิน โดยประกันประเภทนี้มุ่งเน้นผลประโยชน์ไปในด้านของการออมเงิน เหมาะสำหรับคนที่เริ่มวางแผนทางเงินเพื่อตนเองในอนาคต เนื่องจากการทำประกันออมทรัพย์ถือว่าเป็นการออมที่มีความเสี่ยงต่ำ ให้ผลตอบแทนทีคุ้มค่า นอกจากนี้จุดที่ทำให้ประกันสะสมทรัพย์มีความแตกต่างกับการออมในรูปแบบปกตินั่นก็คือได้รับความคุ้มครอง รวมถึงได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ อีกด้วย
โดยประกันออมทรัพย์จะมาพร้อมกับการคุ้มครองในรูปแบบของประกันชีวิต ซึ่งเมื่อเกิดเหตุร้ายหรือเหตุไม่คาดฝันขึ้นก็จะได้รับเงินก้อนตามวงเงินที่ระบุไว้อยู่ในกรมธรรม์ ซึ่ีงผลประโยชน์ส่วนก็จะตกไปยังลูกหลานถือว่าเป็นแบ่งเบาภาระทางการเงินให้กับลุกหลายก็ได้
นอกจากนี้การทำประกันออมทรัพย์ยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกดังนี้
• ด้านผลตอบแทน
การทำประกันชีวิตสะสมทรัพย์จะทำให้คุณได้รับผลตอบแทนเป็นจำนวนที่แน่นอน ตามจำนวนที่ระบุอยู่ในกรมธรรม์สัญญาที่ทำกับบริษัทประกันไว้ โดยรูปแบบการจ่ายเงินคืนของบริษัทประกันจะสามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ การจ่ายคืนเป็นเงินก้อนครั้งเดียว และจ่ายคืนระหว่างสัญญาตลอดสัญญา ถือว่าเป็นรูปแบบกานรลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่น ช่วยสร้างวินัยในการออมของให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินตามที่ตั้งไว้
• ด้านความคุ้มครองชีวิต
จากที่กล่าวไปข้างต้นว่าประกันออมทรัพย์จะได้รับผลประโยชน์ที่เพิ่มเติมในรูปแบบของการคุ้มครองชีวิต ซึ่งหากเกิดเหตุไม่คาดคิด มั่นใจได้ว่าคนในครอบครัวก็จะยังคงมีความมั่นคงทางการเงิน โดยได้รับเงินก้อนจากบริษัทประกันตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา
• ด้านภาษี
นอกจากการทำประกันสะสมทรัพย์จะได้รับผลประโยชน์ตามข้างต้นแล้ว ค่าเบี้ยประกันออมทรัพย์ยังสามารถใช้ยื่นลดหย่อนภาษี ได้สูงสุด 100,000 บาท ต่อปี ตามเงื่อนไขข้อกำหนดของกรมสรรพากร และผลประโยชน์ที่ได้รับจากการทำประกันรูปแบบนี้ยังไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย
ประกันวัยเกษียณคืออะไร
ประกันวัยเกษียณหรือประกันบำนาญถือว่าเป็นประกันชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งมีความคล้ายคลึงกับประกันแบบออมทรัพย์ โดยที่ผู้ทำประกันชีวิตในรูปแบบนี้จะได้รับผลตอบแทนเป็นงวด ๆ ในรูปแบบของเงินบำนาญเป็นจำนวนเงินที่เท่ากันตามที่ระบุไว้ในนตัวกรมธรรม์เมื่อชำระค่าเบี้ยประกันภัยครบตามที่ตกลงกับบริษัทประกันหรือเมื่ออายุเข้าเกณฑ์ได้รับเงินบำนาณของสัญญาที่ทำไว้ ซึ่งจะจ่ายบำนาญให้แก่ผู้เอาประกันในทุก ๆ ปี ไปจนถึงอายุที่กำหนดในเงื่อนไขกรมธรรม์
และก็เหมือนกันกับประกันสะสมทรัพย์ที่มาพร้อมกับการคุ้มครองชีวิต หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นโดยในกรณีที่ผู้ทำประกันเสียชีวิตระหว่างสัญญาประกันก็ยังให้ความคุ้มครองโดยจ่าผลประโยชน์เป็นเงินก้อนในกรณีที่เาียชีวิตเหมือนกับประกันชีวิตในรูปแบบอื่น ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหลักประกันความมั่นคงทางการเงินให้กับคนทีคุณรักยามเมื่อคุณจากไปอีกด้วย
ข้อดีเพิ่มเติมของประกันวัยเกษียณหรือประกันบำนาญ
• เป็นหลักประกันด้านรายได้
เนื่องจากการทำประกันวัยเกษียณจะได้รับผลประโยชน์เป็นบำนาญในวเงินที่เท่ากันทุก ๆ งวดเป็นระยะตามที่ตกลงกับประษัทประกัน จึงทำให้คุณมั่นใจได้ว่าเมื่อถึงเวลาเกษียณคุณจะมีรายได้ให้ใช้จ่ายตลอด ไม่เป็นภาระของลูกหลาน
• เป็นหลักประกันให้กับคนข้างหลัง
เนื่องจากให้ความคุ้มครองในรูปแบบของประกันชีวิต ซึ่งเมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าคนที่คุณรักจะได้รับเงินก้อนไว้ใช้จ่ายเมื่อคุณไม่อยู่แล้ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยด้านการเงินให้กับคนที่คุณรัก
• เป็นตัวช่วยลดหย่นภาษี
นอกจากสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับในข้างต้น ประกันวัยเกษียณยังสามารถนำไปเป็นตัวช่วยลดค่าใช้จ่าย กับการเป็นส่วนลดด้านภาษีโดยการนำค่าเบี้ยประกันที่จ่ายจริงไปใช้ยื่นขอลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15 % หรือไม่เกิน 200,000 บาท ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีต่อปี
RMF ประกันออมทรัพย์ ประกันวัยเกษียณ เลือกอย่างไรให้ต้องตามความต้องการ?
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนใน RMF หรือว่าจะเป็นการลงทุนทางเลือกในประกันทั้ง 2 รูปแบบอย่างประกันออมทรัพย์และประกันวัยเกษียณต่างเหมาะกับคนที่ต้องการวางแผนการเงินไว้ใช้นามเกษียณทั้งนั้น คำถามคือแล้วเราจะเลือกตัวไหนที่เหมาะกับวัตถุประสงค์ในการลงทุนของเรา ซึ่งน้องแคร์ได้ทำการแบ่งออกตามด้านล่างนี้
ด้านผลตอบแทน
- RMF : การลงทุนแบบ RMF เป็นการสร้างความมั่งคั่งให้เงินมีการเติบโต ซึ่งสามารถเลือกลงทุนได้หลายรูปแบบ ยิ่งผลตอบแทนที่สูงความเสี่ยงในการลงทุนก็จะสูงตาม ซึ่งถ้าผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงได้การลงทุนในูปแบบ RMF จะให้ผลตอบแทนที่สูงตาม
- ประกันออมทรัพย์ และ ประกันวัยเกษียณ : ประกันทั้งสองแบบจะมีการจ่ายผลตอบแทบเป็นเงินตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์สัญญา ซึ่งเมื่อเทียบกับการลงทุนในแบบ RMF แล้วอาจจะได้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าแต่สิ่งท่ตามมาก็คือการทำประกันแบบออมทรัพำย์หรือการทำประกันบำนาญจะมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า RMF นั่นเอง
ด้านการส่งเบี้ยประกันหรือการนำเงินลงทุน
- RMF : หลังจากที่มีการแก้ระบบการลงทุนใน RMF ใหม่ โดยเปลี่ยนมาเป็นการลงทุนแบบไม่จำกัดขั้นต่ำและยังสามารถลงทุนได้แบบปีเว้น จึงทำให้การลงทุนแบบ RMF มีอิสระและความคล่องตัวสูง
- ประกันออมทรัพย์ และ ประกันวัยเกษียณ : การเลือกทำประกันทั้ง 2 รูปแบบนี้จะต้องส่งเบี้ยเป็นประจำ ในอัตราที่เท่ากันตลอดระยะสัญญาที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์กับบริษัทประกัน
ด้านสิทธิการคุ้มครองพิเศษ
- RMF : เนื่องจากเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งจึงไม่สิทธิคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติม
- ประกันออมทรัพย์ และ ประกันวัยเกษียณ : การลงทุนในประกันทั้งสองรูปแบบนี้นอกจากจะถือว่าเป็นการวางแผนการเงินในอนาสคตแล้วยังถือว่าเป็นการทำประกันชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งด้วย ซึ่งได้รับการคุ้มครองในรูปแบบของประกันชีวิตเมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้น โดยจะได้รับเป็นเงินก้อนตามวงเงินที่ระบุไว้ในสัญญาให้กับคนข้างหลัง
ด้านการลดหย่อนภาษี
- RMF : การเลือกลงทุนใน RMF สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15% แต่ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (หรือ กบข.) ประกันชีวิตแบบบำนาญและกองทุนการออมแห่งชาติ ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี
- ประกันออมทรัพย์ : สามารถนำไปยื่นลดหย่อนภาษี ได้สูงสุด 100,000 บาท ต่อปี และผลประโยชน์ที่ได้รับจากการประกันสะสมทรพย์ไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย
- ประกันวัยเกษียณ : นำค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายจริงไปยื่นขอลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15 % หรือไม่เกิน 200,000 บาท ของเงินได้ที่ต้องถูกเสียภาษีต่อปี
รูปแบบของผลตอบแทนที่จะได้รับ
- RMF : เมื่อลงทุนอย่างน้อย 5 ปีต่อเนื่อง และมีอายุครบ 55 ปี สามารถถอนเงินก้อนจากการลงทุน RMF ออกมาได้
- ประกันออมทรัพย์ : เมื่อครบสัญญาที่กำหนดจะได้รับเงินก้อนเป็นผลตอบแทน
- ประกันวัยเกษียณ : เมื่ออายุถึงเกณฑ์หรือครบกำหนดกรมธรรม์จะได้รับผลตอบแทนเป็นบำนาญจำนวนที่เท่า ๆ กันในทุกเดือน
ระยะเวลาในการลงทุนหรือจ่ายเบี้ยประกัน
- RMF : จะต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปีต่อเนื่อง และมีอายุครบ 55 ปีจึงจะสามารถถอนเงินออกมาได้
- ประกันออมทรัพย์ : มีให้เลือกทั้งแบบสั้น(ประมาณ 5 ปี) และแบบยาว (5-10 ปีขึ้น)
- ประกันวัยเกษียณ : เมื่ออายุถึงเกณฑ์ที่กรมธรรม์กำหนดจึงจะได้รับผลตอบแทน
RMF ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการวางแผนทางการเงินที่น่าสนใจ ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่ยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้แล้วล่ะก็การลงทุนในรูปแบบ RMF จะช่วยสร้างความมั่งคั่งให้กับคนไ้ดอย่างมากเลยทีเดียว และนอกจากการลงทุนในรูปแบบนี้ ยังมีอีก 2 การลงทุนที่เหมาะกับวัยเกษียณอย่างประกันออมทรัพย์และประกันบำนาญ ซึ่งถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับใครก็ตามที่อยากมีเงินไว้ใช้ในยามเกษียณที่มีความเสี่ยงต่ำ และยังให้ความคุ้มครองชีวิตอีกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจสมัครประกันออมทรัพย์ และ ประกันวัยเกษียณ สามารถเข้ามาเลือกรูปแบบของประกันได้ที่ แรบบิท แคร์กันได้เลย เพราะที่นี้ได้รวบรวมประกันหลากหลายรูปแบบไว้ให้ทุกคนได้เลือกใช้กัน
ประกันวัยเกษียณที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ