Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
user profile image
เขียนโดยPaweennuch W.วันที่เผยแพร่: Oct 24, 2023

VI คืออะไร? อยากลงทุนแบบ VI ต้องทำอย่างไร?

การเล่นหุ้น หากมีเทคนิคที่สามารถเลือกหุ้นได้ในราคาซื้อขายที่ถูกว่ามูลค่าจริงคงจะดีไม่ใช่น้อย หากอยากสามารถทำได้อย่างนั้นได้ การทำความรู้จักกับ VI คือคำตอบ แล้ว VI คืออะไร จะช่วยให้การเล่นหุ้นของเราคุ้มค่าอย่างไร บทความนี้จะช่วยคุณเอง

VI คืออะไร?

เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า VI คืออะไร VI ย่อมาจาก Value Investor นิยามความหมายง่ายๆว่า คือ นักลงทุนที่สามารถลงทุนได้คุ้มค่าสมกับราคา หรือสามารถประเมินได้ว่าหุ้นตัวนั้นๆมีราคาตํ่ากว่า มูลค่าที่แท้จริง และสามารถขายหุ้นเมื่อหุ้นตัวนั้นๆมีราคาสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง การประเมินมูลค่าที่แท้จริง สามารถประเมินได้หลายวิธีกัน ไม่ว่าจะเป็นการประเมินด้วยการใช้อัตราส่วนทางการเงินในการเปรียบเทียบกับหุ้นตัวอื่นๆ ที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน หรือจะเป็นการประเมินมูลค่าด้วยการคิดคาดการณ์กระแสเงินสดในอนาคตให้อยู่ในรูปแบบของมูลค่าในปัจจุบัน เป็นต้น

หลักการวิเคราะห์หุ้นแบบนักลงทุน VI

เมื่อเราเข้าใจแล้วว่า VI คืออะไร เราทำความเข้าใจหลักการสำคัญในการวิเคราะห์ภาพรวมของบริษัทให้ครอบคลุมทุกด้าน ต้องประกอบไปด้วยคำตอบของคำถาม 2 ประการว่า ต้องซื้ออะไร? และ ซื้อที่ราคาเท่าไหร่?

• นักลงทุนแบบ VI วิเคราะห์เชิงคุณภาพ

เป็นวิธีหาคำตอบของคำถามว่าต้องซื้ออะไร ซึ่งจะเป็นวิธีการวิเคราะห์แบบนามธรรม วัดค่าไม่ได้ แต่สามารถคาดการณ์ได้จากข้อมูลอื่นๆ เช่น เทรนด์ธุรกิจในอนาคต โครงสร้างผู้ถือหุ้น ความสามารถของผู้บริหาร การเติบโตของบริษัท รวมไปถึงความน่าเชื่อถือ และภาพลักษณ์ขององค์กร เป็นต้น เพื่อเลือกหุ้นมาจำนวนหนึ่ง หรือให้เป็นรายชื่อหุ้นที่เราจับตามอง

• ลงทุนแบบ VI เน้นการวิเคราะห์เชิงปริมาณ

เป็นวิธีหาคำตอบของคำถามว่าต้องซื้อที่ราคาเท่าไหร่ ซึ่งจะเป็นวิธีการวิเคราะห์แบบรูปธรรม สามารถคำนวณเพื่อวัดค่าได้อย่างชัดเจน เช่น การวิเคราะห์งบการเงิน ไม่ว่าจะเป็น งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน หรืองบกระแสเงินสด โดยนำมาวิเคราะห์เป็นอัตราส่วนทางการเงินร่วมกับการดูข้อมูลในย้อนหลัง เพื่อใช้ในการคาดการณ์ผลตอบแทนในอนาคตของบริษัท และเพื่อเปรียบเทียบราคาของหุ้นก่อนเข้าซื้อ โดยจะต้องซื้อ เมื่อหุ้นมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง

เทคนิคเลือกซื้อหุ้นแบบนักลงทุน VI

• VI จะใช้เทคนิคแบบ Top Down Analysis

นักลงทุนแบบ VI ควรมองภาพรวมที่กว้างที่สุดลงมาไปจนถึงภาพเล็ก เริ่มต้นจากการพิจารณาเศรษฐกิจโดยรวม วิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจขณะนั้นว่าเอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมใด ต่อบริษัทใดบ้าง เพื่อใช้ในการลือกลงทุนในหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรม หรือบริษัทที่ได้ประโยชน์นั้นๆ ซึ่งเทคนิคนี้เหมาะสำหรับนักลงทุน VI ที่ต้องการดูภาพรวมเศรษฐกิจแล้วค่อยมองหาหุ้นที่สนใจ โดยนักวิเคราะห์ ผู้จัดการกองทุน และนักลงทุนสถาบันนิยมใช้กันมาก

• เทคนิคแบบ Bottom Up Analysis ที่ VI นิยมใช้

จะตรงกันข้ามกับเทคนิค Top Down Analysis หมายถึง นักลงทุน VI จะมองภาพรวมจากส่วนที่เล็กไปจนถึงภาพกว้าง ซึ่งจะใช้การวิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไรของภาพรวมบริษัทก่อนแล้วค่อยดูเศรษฐกิจโดยรวม การเน้นผลประกอบการของบริษัทเป็นหลักจะใช้การวิเคราะห์ของอัตราส่วนทางการเงิน เช่น อัตราผลอบแทนผู้ถือหุ้น, อัตราอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท, อัตราเงินปันผล เป็นต้น รวมไปถึงวิเคราะห์วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมเดียวกัน จากนั้นเหล่ VI จะไปมองภาพรวมอุตสาหกรรม และภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ โดยภาพรวมอุตสาหกรรมสามารถใช้หลักการวิเคราะห์อุตสาหกรรมวิธีเดียวกับ Top Down Analysis ได้ ซึ่งเทคนิคแบบนี้ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รู้จักกิจการตัวนี้ มีความเชื่อมั่นว่ากิจการของหุ้นตัวนี้มีความมั่นคงและมีโอกาสในการเติบโต

คุณสมบัติแบบนักลงทุน VI

นักลงทุน VI มักเป็นคนที่มีคุณสมบัติในการมองภาพระยะกลางถึงระยะยาว มีการวิเคราะห์การเติบโตของบริษัทที่ลงทุนด้านปัจจัยพื้นฐาน และที่สำคัญต้องมีความอดทนต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ผันผวนในระยะสั้นได้ดี

โดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้พูดถึงการลงทุนแบบ VI ไว้ว่า เมื่อใดก็ตามที่นักลงทุนใช้เทคนิคการเลือกซื้อหุ้นแบบ VI ทันทีที่มีการซื้อหุ้นเกิดขึ้น ไม่นานนักหุ้นในตลาดจะร่วง ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงได้แนะนำว่า นักลงทุนไม่ควรวิตกกังวลหรือตกใจไป เนื่องจากหุ้นที่ซื้อนี้ เข้าข่ายหุ้นที่มีคุณภาพ ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเพราะว่าอยู่ในกระแส และอุตสาหกรรมที่ยอดเยี่ยม บริษัทมีอนาคตดี มีความสามารถในการแข่งขัน และมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งที่สำคัญเป็นซื้อที่ไม่ได้เกิดจากความโลภแต่ซื้อเพราะผ่านการวิเคราะห์และวัดมูลค่ามาเป็นอย่างดีมาแล้ว หากมองเป็นข้อดีช่วงที่ราคาหุ้นร่วงลงมาเยอะๆแบบนี้ย่อมทำให้ดีต่อการเข้าลงทุนเพิ่ม

เห็นแบบนี้แล้วหลายคนก็คงอยากจะเป็นนักลงทุนแบบ VI คืออะไร อยากสามารถวิเคราะห์มูลค่าที่แท้จริง เพื่อลงทุนในหุ้นแบบเน้นคุณค่าได้ แต่สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของการเป็นนักลงทุนที่ดี ก็คือ การหมั่นศึกษาหาความรู้ อัปเดตข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน รับรองได้ว่านักลงทุน VI คนต่อไปต้องเป็นคุณแน่นอน

สินเชื่อที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ

สินเชื่อส่วนบุคคลไทยเครดิตไทยเครดิต

สินเชื่อส่วนบุคคล

  • ดอกเบี้ยต่ำสุด 9.99% ต่อปี
  • วงเงินสูงสุด 2 ล้าน
  • จ่ายขั้นต่ำ 3% หรือ 500 บาท
  • อายุ 20-60 ปี สัญชาติไทย
  • รวบหนี้บัตรและเงินสด
  • ไม่มีค้ำประกัน
สินเชื่อส่วนบุคคล Happy CashHappy Cash

สินเชื่อส่วนบุคคล

  • ดอกเบี้ยพิเศษ 9.99% นาน 5 เดือน
  • วงเงินสูงสุด 1.5 ล้าน
  • ผ่อน 60 เดือน ไม่ต้องค้ำ
  • อายุ 20+ ปี ผ่อนรวมไม่เกิน 60 ปี
  • พนักงานประจำ 15,000 บาท+, เจ้าของกิจการ 50,000 บาท+
  • อายุงาน 6 เดือน+, เจ้าของกิจการ 3 ปี+
สินเชื่อส่วนบุคคลพรอมิสพรอมิส

สินเชื่อส่วนบุคคล

  • รายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท อนุมัติสูงสุด 1.5 เท่า
  • อนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้
  • อัตราดอกเบี้ย 15-25% ต่อปี, ค่าธรรมเนียม 0-10%
  • อนุมัติใน 1 ชั่วโมง ถ้าครบเอกสาร
  • รายได้เริ่มต้น 8,000 บาท ก็สมัครได้
  • ชำระขั้นต่ำ 3% ของยอดคงเหลือ หรือ 300 บาท
CardX SPEEDY LOANCardX SPEEDY LOAN

สินเชื่อส่วนบุคคล

  • ดอกเบี้ยลดต้น ลดดอก 25% ต่อปี
  • รับเงินไวใน 1 วันทำการ
  • ผ่อนสบาย สูงสุด 72 เดือน
  • ฟรีประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ
  • รายได้ขั้นต่ำ 30,000 บาท
  • ผ่านทดลองงาน อายุงาน 4 เดือน

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา