Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้

เปรียบเทียบประกันออมทรัพย์ ง่าย ๆ ภายใน 30 วินาที กับ

Rabbit Care

Stagflation

"Stagflation" คืออะไร? ความน่ากลัวของสภาวะเศรษฐกิจที่คุณต้องรู้

เราเชื่อเหลือเกินว่าในสภาวะที่ข้าวของเครื่องใช้รอบ ๆ ตัว ปรับขึ้นราคา แต่!การจับจ่ายใช้สอยของผู้คนกลับสวนทางหรือมีสภาพคล่องต่ำ คงจะทำให้หลาย ๆ คน (โดยเฉพาะในวงการเศรษฐกิจ) มีความกังวลใจว่าจะเกิดสภาวะ Stagflation ในประเทศไทยหรือเปล่า? เพราะเมื่อไหร่ที่สภาวะ Stagflation เกิดขึ้นมา เราก็ขอบอกเลยว่าสภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยจะกลับมาสู่ความวุ่นวายเหมือนเดิมอย่างในช่วงวิกฤตโควิด-19 อย่างแน่นอน และสำหรับใครที่ยังสงสัยอยู่ว่าสภาวะ Stagflation คืออะไร? ทำไมหลาย ๆ คน ถึงไม่อยากให้เกิดขึ้น? ในบทความนี้ก็จะพาคุณไปทำความรู้จักกับคำว่า “Stagflation” กัน

Stagflation คืออะไร ?

Stagflation คือ สถานการณ์ที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะตกต่ำ มีอัตราการเติบโตของ GDP ที่ลดต่ำลง แต่! มีอัตราการว่างงานของประชาชนที่สูงขึ้น และราคาสินค้าต่าง ๆ ภายในประเทศก็สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกภาคส่วน หรือเรียกง่าย ๆ ว่า "วิกฤตทางเศรษฐกิจหรือสถานการณ์เงินเฟ้อ" ทั้งนี้คำว่า Stagflation คือคำที่มาจาก Stagnation ที่มีความหมายว่า สภาวะหยุดนิ่ง และ Inflation มีความหมายว่า สภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วก็จะสะท้อนความหมายของคำว่า Stagflation ได้เป็นอย่างดีว่ามันคือ สถานการณ์ที่อัตราเงินเฟ้อพุ่ง ราคาสินค้าแพงขึ้น แต่สภาวะเศรษฐกิจกลับเติบโตไม่ทัน จนทำให้มีการว่างงานสูงเพิ่มขึ้นนั่นเอง

สัญญาณเตือนที่อาจจะเกิด Stagflation ในประเทศไทย

หากถามว่าในประเทศไทยเคยเกิดสภาวะ Stagflation หรือไม่นั้น เราก็คงจะตอบได้เลยว่า “เคย” ซึ่งเกิดในช่วงปี 2523 โดยอัตราเงินเฟ้อในประเทศไทยเคยแตะระดับไปสูงสุดเกือบถึง 20% แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเศรษฐกิจไทยในช่วงนั้นย่ำแย่ติดต่อกันยาวนานถึง 5 ปี เพราะฉะนั้นเราจะขอกล่าวถึง 3 สัญญาณเตือนที่อาจจะเกิดในประเทศไทย โดยสัญญาณเตือนอย่างแรกเลยก็คือ

  • สินค้ามีราคาแพงขึ้น
  • มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น
  • อัตราการเติบโตของ GDP ลดลงติดต่อกันหลายไตรมาส (หรือในบางกรณีอาจจะลดลงติดต่อกันหลายปี)

ความน่ากลัว Stagflation ที่คุณต้องรู้

ความน่ากลัวของ Stagflation คือ สินค้าอุปโภค-บริโภคปรับตัวแพงขึ้น ผู้คนตกงานกันเป็นจำนวนมาก ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างถึงขีดสุด ซึ่งสืบเนื่องมาจากสภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ผู้คนมีความสามารถในการซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคต่าง ๆ ได้น้อยลง เช่น จากเงิน 100 เคยซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มได้ 4 ถุง แต่เมื่อเกิดสภาวะเงินเฟ้อทำให้สามารถซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มได้เพียงแค่ 2 ถุง และแน่นอนว่ามันจะส่งผลให้ธุรกิจเกิดการชะลอตัว กำไรในการประกอบกิจการลดลง จนต้องปลดพนักงานออกเพื่อพยุงธุรกิจ ซึ่งเมื่อพนักงานถูกปลดออก รายได้หาย ก็ทำให้ไม่มีกำลังในการใช้จ่าย และทำให้อัตราการเติบโตของ GPD ต่ำลงเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าหากไม่ได้รับการแก้ไข ก็ขอบอกเลยว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสภาวะ Stagflation เป็นอะไรที่ต้องใช้เวลาและยากมาก ๆ ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมหลาย ๆ คน ถึงไม่อยากจะให้เกิดขึ้นภายในประเทศ

แนวทางการลงทุนหากเกิด Stagflation

หากในอนาคตประเทศไทยของเรามีแนวโน้มที่จะเข้าสู่สภาวะ Stagflation หลาย ๆ คน ก็คงจะมีคำถามตามมาว่า หากไม่ต้องการรัดเข็มขัดและต้องการที่จะลงทุน เพราะมองว่าภายในสภาวะ Stagflation อาจจะมีโอกาสในการสร้างมูลค่าทางการเงินอยู่บ้าง เราก็ขอแนะนำ 3 แนวทางหากต้องการลงทุนในช่วงสภาวะ Stagflation ซึ่งประกอบไปด้วย

  1. กองรีท (REIT)
  2. ทองคำ
  3. ตราสารหนี้

ทั้งนี้ทุก ๆ การลงทุนในช่วง Stagflation ถือได้ว่ามีความเสี่ยงที่สูงมาก แต่แนวทางทั้ง 3 ข้อที่เราได้กล่าวไป ล้วนแล้วแต่เป็นแนวทางที่นักเศรษฐกิจมืออาชีพมองว่าอาจจะสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดในช่วงสภาวะ Stagflation (ควรศึกษารายละเอียดให้เข้าใจก่อนการลงทุนทุกๆ ครั้ง)

รับมือสถานการณ์การเงินที่ไม่คาดคิด จากภาวะ Stagflation ด้วยประกันออมทรัพย์ แรบบิท แคร์

คงต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า ความน่ากลัวของสภาวะ “Stagflation” มันก็คือความวุ่นวายและความยากลำบากในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น รวมไปถึงระยะเวลาในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ใช้เวลาในการฟื้นตัวนานมาก ๆ เพราะฉะนั้นแล้วการวางแผนเตรียมความพร้อมรับมือกับสภาวะ Stagflation ที่อาจส่งผลกระทบกับสถานการณ์การเงินของเรา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้ว่าการเกิดสภาวะ Stagflation จะทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตช้าลง แต่ในวิกฤติก็ยังคงมีโอกาสให้เราได้ใช้มันให้เกิดประโยชน์อยู่เสมอ แม้ในสภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำแต่กลุ่มบริษัทประเภทที่มีราคาเคลื่อนไหวไปตามราคาพลังงาน อย่างเช่น กลุ่มธุรกิจสำรวจและขุดเจาะน้ำมัน ถ่านหิน ยางพารา ปาล์มและสินค้าเกษตรอื่น ๆ ยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจที่รับประโยชน์จากเงินเฟ้อโดยตรง แน่นอนว่าถ้าหากคุณคือบุคคลหนึ่งที่ได้วางแผนการลงทุนหรือดำเนินธุรกิจดังกล่าวอยู่แล้ว ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดความรุนแรงของผลกระทบที่เกิดจากสภาวะ Stagflation กับคุณได้

และนอกจากกลุ่มบริษัทประเภทที่มีราคาเคลื่อนไหวไปตามราคาพลังงานที่จะได้รับประโยชน์แล้ว ก็ยังมีกลุ่มธุรกิจที่รายได้จะเพิ่มขึ้นตามภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น อย่างเช่น กลุ่มธนาคาร ธุรกิจการเงินและธุรกิจประกันภัย ที่จะได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าด้วย ดังนั้นการวางแผนรับมือสถานการณ์การเงินที่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำด้วยการนำตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มธุรกิจประเภทนี้ อย่างเช่น ธุรกิจประกันภัย ที่คุณสามารถซื้อผลิตภัณฑ์จากกลุ่มธุรกิจประกันภัยเพื่อกระจายความเสี่ยงอย่างการซื้อประกันออมทรัพย์ที่มีการการันตีผลตอบแทนที่คุณจะได้รับในทุก ๆ ปีในรูปแบบเงินคืน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดวิกฤติทางการเงินของคุณได้อีกทาง และยังการันตีความคุ้มครองด้านชีวิตในกรณีเสียชีวิตด้วยทุนประกันอีกด้วย ช่วยลดความกังวลใจของคุณลงไปได้ว่าแม้คุณจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว คนข้างหลังที่คุณรักจะยังคงมีเงินจากทุนประกันชีวิตของคุณมาใช้ในการดำเนินชีวิตในวันที่เศรษฐกิจตกต่ำต่อไปได้ โดยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งการวางแผนรับมือสถานการณ์การเงินด้วยการทำประกันก็ยังสามารถนำไปยื่นลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 100,000 บาท ตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของกรมสรรพากรได้อีกด้วย นั่นหมายความว่านอกจากธุรกิจประกันภัยจะช่วยกระจายความเสี่ยงทางการเงินของคุณได้แล้ว ยังช่วยทำให้จำนวนเงินที่จะต้องนำไปจ่ายเป็นค่าภาษีลดลงได้ด้วย

ต้องบอกว่าเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ในบางครั้งเราอาจจะไม่สามารถกำหนดให้มันไปในทิศทางที่ใจเราต้องการได้ทั้งหมด และในบางครั้งในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำสิ่งที่เราวางแผนมาก็อาจจะไม่ได้เป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ แต่อย่างน้อยที่สุดการวางแผนรับมือก็เป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่มีแผนการใด ๆ สำรองเอาไว้รองรับสถานการณ์ไม่คาดคิดเลย แม้ว่าสภาวะ Stagflation จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากลัวและไม่มีใครต้องการให้สภาวะนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่ถ้าคุณเตรียมตัววางแผนรับมือมาเป็นอย่างดีคุณก็จะสามารถผ่านเหตุการณ์ที่น่ากังวลเช่นนี้ไปได้อย่างแน่นอน

ประกันออมทรัพย์ที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ

ไทยประกันชีวิต “แฮปปี้มีเงินใช้”

ประกันชีวิต

  • จ่ายเบี้ย 5 ปี คุ้มครองนาน 15 ปี
  • รับเงินคืนทุกปีตลอดสัญญารับเงินคืน 521%
  • การันตีเงินคืน 3% ทุก 2 ปี
  • ลดหย่อนภาษี สูงสุดปีละ 1 แสนบาท
  • สมัครได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 65 ปี
  • เลือกชำระเบี้ยได้ รายเดือน, 3 เดือน และรายปี
ไทยประกันชีวิต ทรัพย์ปันผล

ประกันชีวิต

  • ชำระเบี้ยแค่ 10 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี
  • รับเงินปันผลทุกปี ปีละ 1%
  • ครบสัญญารับเงินก้อนคืน 110%
  • ลดหย่อนภาษีได้ สูงสุด 1 แสนบาท
  • สมัครได้ตั้งแต่ อายุ 1 เดือน - 60 ปี
ประกันชีวิต “ไทยประกันชีวิต”

ประกันชีวิต

  • คุ้มครองจากอุบัติเหตุ เพิ่มสูงสุด 1 แสนบาท
  • กรณีนอน รพ. รับเงินชดเชย 500 บาท/วัน
  • รับเงินคืนตลอด สัญญารวม 174%
  • เบี้ยเริ่มต้นวันละ 16 บาท
  • สมัครได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 55 ปี
  • ลดหย่อนภาษี ได้สูงสุด 1 แสนบาท
ประกันชีวิตสะสมทรัพย์

ประกันชีวิต

  • การันตีรับเงินคืน 3% ทุกปี
  • กรณีมีชีวิตอยู่รับเงิน สูงสุด 310%
  • จ่ายค่า เบี้ยคงที่ ไม่ปรับเพิ่มตามอายุ
  • จ่ายค่าเบี้ย 10 ปี คุ้มครองนาน 20 ปี
  • รับสิทธิลดหย่อนภาษี สูงสุด 100,000 บาท

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา