หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่แวดวงนักลงทุน คำศัพท์อีกหนึ่งคำที่คุณจะต้องพบเจออย่างแน่นอนเลยก็คือ “IPO” หรือ Initial Public Offering แต่! ความหมายของคำว่า IPO คืออะไร ? และทำไมนักลงทุนมือใหม่ถึงจะต้องรู้จักกับคำๆ นี้ ? เพราะฉะนั้นเราจึงจะขออาสาพาคุณไปทำความรู้จักกับความหมายของ IPO กัน

IPO คือ การเสนอขายหุ้นให้กับผู้คนทั่วไปได้ซื้อเป็นครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์ หรือ“Initial Public Offering” โดย IPO จะมีความแตกต่างกับคำว่า PO(Public Offering) อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจาก PO เป็นการขายหุ้นที่มีอยู่แล้วในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งต่างจาก IPO ที่เป็นการขายครั้งแรกและไม่เคยมีการเสนอขายมาก่อน ทั้งนี้บริษัทที่จะทำ ได้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและต้องการขยายธุรกิจให้เติบโตพร้อมกับมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จึงได้มองหาเงินลงทุน ด้วยการหาคนมาร่วมหุ้นด้วย ส่งผลให้ทางบริษัทจึงต้องเสนอขายหุ้นเป็นครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้ประชาชนหรือนักลงทุนเข้ามามีส่วนร่วมนั่นเอง

และถ้าหากถามว่าใครบ้างที่จะได้รับผลประโยชน์จาก IPO ? เราก็ได้สรุปผู้ที่ได้รับประโยชน์ออกมาเป็น 2 กลุ่มดังนี้

1. บริษัท

ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากการซื้อหุ้น IPO แบบเต็มๆ เลยก็คือ “บริษัท” เพราะหลังจากที่บริษัทได้ทำ IPO และมีนักลงทุนตัดสินใจซื้อหุ้นแล้ว บริษัทจะได้รับเงินทุนเป็นจำนวนมาก ที่จะนำมาใช้ในการต่อยอดและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตและมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

2. นักลงทุนหรือผู้ถือหุ้น

แน่นอนว่าผู้ที่จะได้รับประโยชน์ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากนักลงทุนหรือผู้ถือหุ้น เพราะถ้าหากในอนาคตบริษัทที่ได้ทำการ IPO เติบโตขึ้น มีชื่อเสียงและความมั่นคงเพิ่มมากขึ้น มันก็จะทำให้นักลงทุนหรือผู้ถือหุ้นได้รับเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

สำหรับใครที่ต้องการซื้อหุ้น IPO คุณสามารถทำได้ 2 วิธีดังต่อไปนี้

1. จองซื้อหุ้นก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ (Primary Market)

วิธีการนี้จะเป็นการซื้อ/ขายหุ้นหลังจากที่บริษัทมีการเสนอขายหุ้นเพื่อระดมเงินทุน โดยจะดำเนินการภายใต้ข้อกำหนดของ ก.ล.ต ผ่านประกาศทางเว็บไซต์ SET,เว็บไซต์ของบริษัทหรือทาง Broker ต่างๆ

2. การซื้อหุ้นหลังเข้าสู่ตลาด (Secondary Market)

การซื้อหุ้น IPO วิธีนี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทได้จดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหุ้น IPO ที่นำมาปล่อยขายนั้น จะเกิดจากคนซื้อรายแรกนำมาขายต่อในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนในเรื่องของราคาก็อาจจะสูงหรือต่ำกว่าในตลาดแรกก็เป็นได้ เนื่องจากราคาหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างสูงอยู่พอสมควร

ลักษณะของหุ้น IPO ที่คุณจะต้องรู้และต้องจำให้ขึ้นใจเลยก็คือ “ราคาตลาดที่ไม่แน่นอน” เนื่องจากหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นที่ไม่เคยซื้อ/ขายมาก่อน ทำให้เราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าราคาตลาดเป็นอย่างไรและไม่มีราคาต่ำสุดสูงสุด/แนวรับแนวต้านให้ได้เห็น เพราะฉะนั้นจึงทำให้ราคาหุ้นเกิดความไม่คงที่ แต่เมื่อผ่านไปสักระยะหุ้นนี้จะเริ่มคงที่หากมีการเปรียบเทียบกับหุ้นตัวอื่นๆ ในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน หรือตัวหุ้นเริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

รายละเอียดเกี่ยวกับ IPO ข้างต้น คงพอจะทำให้คุณรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่า IPO คืออะไร ? และทำไมนักลงทุน(มือใหม่)ถึงควรที่จะรู้จักกับเจ้าคำๆ นี้ อีกทั้งก่อนการลงทุนกับหุ้น IPO คุณก็อย่าลืมพิจารณาว่าแนวโน้มของบริษัทนั้นๆ เป็นอย่างไร ? การแข่งขันทางการตลาดสู้กับคู่แข่งได้หรือไม่ ? ผู้ถือหุ้นใหญ่คือใคร ? มีความน่าเชื่อถือมากน้อยขนาดไหน ? ทั้งนี้ก็เพื่อที่ว่าการลงทุนของคุณจะได้มีประสิทธิภาพและสามารถสร้างเงินปันผลให้คุณได้ในระยะยาวนั่นเอง