การเซ็นเอกสารที่ถูกต้อง หรือวิธีเซ็นสำเนาถูกต้อง มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
วิธีการเซ็นสำเนาถูกต้อง บัตรประชาชนต้องเขียนอะไรบ้าง?
จากข้อมูลในเว็บไซต์ของ PDPA PRO ได้กล่าวถึงการเซ็นสำเนาถูกต้องไว้ว่า วิธีการเซ็นเอกสารที่ถูกต้องหรือการเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง มีขั้นตอนดังนี้
- 1. ให้ขีดคร่อมลงไปบนสำเนาบัตรประชาชน โดยแนะนำให้ขีดเป็นสองเส้น แต่จะต้องระวังไม่ให้เส้นที่ขีดนั้นไปทับในบริเวณรูปถ่ายใบหน้าของเจ้าของบัตรประชาชน
- 2. ให้เขียนระบุวัตถุประสงค์ในการใช้สำเนาบัตรประชาชนลงไปให้ชัดเจน เช่น ใช้ในการสมัครเรียน ใช้ในการสมัครงาน ใช้ในการยื่นกู้สินเชื่อ แจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลในทะเบียนราษฎร์ เป็นต้น
- 3. ให้เขียนคำว่า “สำเนาถูกต้อง” พร้อมทั้งระบุวันเดือนปีที่ใช้สำเนาบัตรประชาชนลงไปด้วย
วิธีการเซ็นสำเนาถูกต้อง ทะเบียนบ้านต้องเขียนอะไรบ้าง?
หลักการการเซ็นสำเนาถูกต้องนั้นจะเหมือนกันหมดเลย เพียงแต่ว่าควรจะเขียนรายละเอียดหรือวัตถุประสงค์ในการใช้สำเนานั้นทับลงไปบนบัตรประชาชนด้วย อีกทั้งควรระมัดระวังไม่ให้ขีดเขียนทับลงไปยังบริเวณรูปถ่ายใบหน้า และไม่ควรเขียนรับรองสำเนาถูกต้องไว้ที่มุมใดมุมหนึ่ง หรือพื้นที่ว่าง ๆ บริเวณรอบสำเนาบัตรประชาชน เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการถูกมิจฉาชีพนำไปแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนข้อความที่ระบุไว้ แล้วนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายนั่นเอง
การเซ็นสำเนาถูกต้อง เอกสารราชการต้องเขียนอะไรบ้าง?
นอกจากการเซ็นสำเนาถูกต้องแล้ว สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือไม่ควรส่งภาพถ่ายหลังบัตรประชาชนให้แก่ผู้อื่น เนื่องจากว่าด้านหลังบัตรประชาชนนั้นจะมีชุดตัวเลขที่เรียกว่า Laser ID ซึ่งเป็นชุดตัวเลขที่มีไว้สำหรับยืนยันตัวตนร่วมกับเลขบัตรประชาชน และส่วนมากการดำเนินการกับทางหน่วยงานของรัฐก็มักจะต้องใช้ตัวเลขชุดนี้ด้วย ดังนั้นหากมีหน่วยงานใดที่ยืนยันว่าจะต้องถ่ายสำเนาบัตรทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมทั้งเซ็นสำเนาถูกต้อง ก็ควรที่จะปิดเลข Laser ID ตอนถ่ายสำเนาไว้ด้วย หรือถ้าหากว่าต้องกรอกข้อมูล Laser ID ก็ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเหล่านั้นเป็นของหน่วยงานราชการหรือสถาบันการเงินจริง ๆ เพราะว่าอาจจะถูกมิจฉาชีพสวมรอยแล้วนำข้อมูลในบัตรไปใช้ในทางผิดกฎหมาย
“ลายเซ็น” เขียนยังไงถึงจะถูกต้อง?
โดยปกติแล้วทางกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าการเขียนลายเซ็นนั้นจะต้องสอดคล้องกับชื่อจริง เราสามารถใช้ชื่ออะไรก็ได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเซ็นเป็นตราสัญลักษณ์ ตัวบรรจง ตัวหวัด ตัวหวัดแกมบรรจง ชื่อเล่น ชื่อร้าน ชื่อสมมติ นามปากกา หรือแม้แต่กระทั่งเป็นชื่อปลอม ก็ล้วนแล้วแต่ใช้ได้ทั้งสิ้น ขอเพียงแค่นำสืบได้ว่าเป็นการลงลายมือชื่อของผู้เซ็นจริง ๆ ลายมือชื่อดังกล่าวก็จะถือว่าเป็นหลักฐานที่สมบูรณ์ และบุคคลนั้นจะต้องเป็นผู้รับผิดทางกฎหมายทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ก็จะต้องเป็นลายเซ็นที่มีผลตามกฎหมายด้วย ดังนี้
1. ลายเซ็นจริง (แบบดั้งเดิม)
โดยจะต้องเป็นลายเซ็นที่เขียนจริง หากเป็นกรณีที่เขียนหนังสือไม่เป็น ก็สามารถใช้ลายนิ้วมือแทนลายเซ็นได้เช่นเดียวกัน และแนะนำว่าควรจะมีพยานลงลายเซ็นด้วยอย่างน้อย 2 คน หรือถ้าหากว่าเป็นกรณีที่พิการ ก็สามารถใช้เครื่องหมายกากบาทหรือตราปั๊มได้เช่นเดียวกัน พร้อมทั้งจะต้องมีพยานลงลายเซ็นด้วยจำนวน 2 คน (หากเป็นกรณีที่ถูกบังคับให้เซ็น ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม จะถือว่านิติกรรมนั้นเป็นโมฆียะทันที)
2. ลายเซ็นดิจิทัล (ในระบบอิเล็กทรอนิกส์)
จากข้อมูลในพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ลายเซ็นดิจิทัลประเภทนี้จะมีผลทางกฎหมายก็ต่อเมื่อสามารถใช้ระบุตัวตนของผู้ที่เป็นเจ้าของลายเซ็นนั้นได้ และจะต้องเป็นระบบลายเซ็นดิจิทัลที่น่าเชื่อถือ พร้อมทั้งมีการเข้ารหัสไว้ด้วย ถ้าหากว่ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลของลายเซ็น หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ก็จะต้องอยู่ในความควบคุมของเจ้าของเท่านั้น กล่าวคือเจ้าของจะต้องรู้ได้นั่นเอง
Laser ID คืออะไร?
Laser ID คือ รหัสกำกับบัตรประจำตัวประชาชน โดยจะเป็นเลขที่กรมการปกครองใช้ในการควบคุมการจ่ายบัตรประจำตัวประชาชน ที่จะมีการแจกจ่ายให้กับที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเขต สำนักงานเทศบาลและเมืองพัทยา ซึ่งจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน โดยที่ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนจะอยู่เพียงด้านหน้าของบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น ซึ่ง Laser ID จะประกอบไปด้วยรหัสจำนวน 3 ชุด ได้แก่
- 1. รหัสชุดแรก จะประกอบไปด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษจำนวน 2 หลัก และตัวเลขจำนวน 1 หลัก ซึ่งจะหมายถึงรุ่นของชิปข้อมูลของบัตรประชาชน ตามช่วงระยะเวลาที่กรมการปกครองกำหนด
- 2. รหัสชุดที่สอง จะประกอบไปด้วยตัวเลขจำนวน 7 หลัก ซึ่งจะหมายถึงหมายเลขของกล่องที่ใช้ในการบรรจุบัตรประชาชน
- 3. รหัสชุดที่สาม จะประกอบไปด้วยตัวเลขจำนวน 2 หลัก ซึ่งจะหมายถึงลำดับของบัตรประชาชนที่บรรจุอยู่ในกล่องในรหัสชุดที่สองนั่นเอง
ที่มาของรูปภาพ : https://i.industry.go.th/lasercode/
ยกตัวอย่างเช่น รหัสหลังบัตรประชาชนเป็น JC3-0002505-10 ดังนั้นจะมีความหมายดังนี้
- รุ่นของชิปประมวลผลข้อมูลของบัตรประชาชนใบนี้คือ JC3
- บัตรประชาชนใบนี้ถูกบรรจุในกล่องที่กรมการปกครองแจกจ่ายบัตรให้กับหน่วยงานต่าง ๆ เป็นกล่องลำดับที่ 2505
- บัตรประชาชนใบนี้เป็นบัตรลำดับที่ 10 ของกล่องหมายเลขที่ 2505
ข้อควรรู้เกี่ยวกับวิธีการเซ็นสำเนาถูกต้อง
เอกสารที่ต้องเซ็นสำเนาถูกต้อง มีอะไรบ้าง?
- บัตรประจำตัวประชาชน
- หนังสือรับรองเงินเดือน
- ใบขับขี่
- โฉนดที่ดิน
- บัตรประจำตัวข้าราชการ
- หนังสือรับรองการศึกษา
- สูติบัตร
- ทะเบียนบ้านของเจ้าบ้าน
- ทะเบียนการศึกษา
- ทะเบียนบ้านของลูกบ้าน
- ทะเบียนรถยนต์
- สมุดบัญชี
- หนังสือรับรองรายได้
- หนังสือรับรองการทำงาน
- ฯลฯ
การส่งบัตรประชาชนทางไลน์ต้องทำอย่างไร?
- 1. ต้องมีการเซ็นสำเนาถูกต้องทุกครั้ง โดยให้ลงลายเซ็นทับรูปบัตรประชาชนไปเลย เพื่อป้องกันการนำรูปไปตกแต่งใหม่ หรืออาจจะใช้เป็นวิธีการพิมพ์ข้อความวางทับบนรูปเลยก็ได้
- 2. เขียนข้อความระบุลงไปให้ชัดเจนว่าใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร
- 3. ลงลายมือชื่อหรือลายเซ็น พร้อมทั้งวันที่ให้ชัดเจน
- 4. ปิดเลขประจำตัวประชาชน 3 ตัวหลัง (หากทำได้ หรืออยู่ในกรณีที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้เลขประจำตัวประชาชนในการทำธุรกรรม)
- 5. ปิดบาร์โคดที่อยู่ด้านข้างของบัตรประชาชนเอาไว้ เนื่องจากว่าบาร์โคดนั้นอาจถูกนำไปสแกนเพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างได้
- 6. ไม่ถ่ายด้านหลังบัตรประชาชนส่งให้ผู้อื่นโดยเด็ดขาด เพราะด้านหลังของบัตรประชาชนจะมี Laser ID ที่สามารถนำไปใช้ในการยืนยันตัวตนได้
การถ่ายรูปบัตรประชาชน ข้อห้ามมีอะไรบ้าง?
- 1. ไม่สวมหมวก
- 2. ไม่สวมแว่นตาสีเข้ม
- 3. ไม่ใส่ผ้าคลุมหน้าหรือผ้าโพกศีรษะ (เว้นแต่ผู้ที่มีความจำเป็นทางศาสนา เช่น ศาสนาอิสลาม หรือซิกข์ และการคลุมหน้าจะต้องเปิดให้เห็นทั้งใบหน้า หน้าผาก คิ้ว ตา จมูก ปาก และคาง)
- 4. ไม่ควรใส่ต่างหู หรือเครื่องประดับต่าง ๆ เพื่อความเป็นทางการและความสุภาพ
- 5. ไม่ควรใส่เสื้อที่คอลึกหรือเสื้อแขนกุด เพื่อความเป็นทางการและความสุภาพ
ควรเลือกสมัครสินเชื่อแบบไหนดี เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานสูงสุด?
หากมีความจำเป็นที่จะยื่นขอสินเชื่อ แนะนำว่าให้ยื่นขอสินเชื่อที่ถูกกฎหมายจะดีที่สุด แต่ถ้าหากไม่รู้ว่าจะยื่นกู้สินเชื่อธนาคารอะไรดี ทางเราขอแนะนำเป็นบริการจากทางแรบบิท แคร์ เพราะเป็นบริษัทที่มั่นคง ปลอดภัย และสามารถไว้วางใจได้ อีกทั้งยังมีบริการสุดพิเศษที่จะช่วยให้คุณเลือก ยื่นกู้สินเชื่อ ได้ตรงตามความต้องการของคุณได้มากที่สุด รวดเร็วทันใจ ภายใน 30 วินาที
สมัครสินเชื่อผ่านแรบบิท แคร์ จะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?
หากคุณมีข้อสงสัยหรือมีปัญหาต่าง ๆ นอกจากคุณจะได้รับคำปรึกษาต่าง ๆ คุณยังสามารถสอบถามรายละเอียดกับทางแรบบิท แคร์ ได้เลย จึงทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่ธนาคารเอง อีกทั้งไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะ แรบบิท แคร์ มีระบบรักษาความปลอดภัยสูง ดังนั้นจึงไว้วางใจที่จะเลือกใช้บริการของแรบบิท แคร์ ได้เลย
สินเชื่อที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ