จุดเริ่มต้นของ GPX นั้นเริ่มมาจากการก่อตั้ง บริษัท เอทีวี แพนเตอร์ ในปี พ.ศ. 2550 ของคุณไชยยศ ร่วมใจพัฒนกุล ในวัยเพียง 21 ปี โดยเริ่มจากการเช่าโรงงานเล็ก ๆ บนพื้นที่ประมาณ 150 ตารางเมตร บริเวณถนนพระราม 3 เพื่อใช้เป็นฐานผลิตรถเอทีวี บวกกับคอยป้อนสินค้าเข้าสู่ตลาดในประเทศไทย และยังถือได้ว่าเอทีวี แพนเตอร์ นั้นเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายรถเอทีวีเป็นรายแรก ๆ ของประเทศไทยอีกด้วย ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 ก็ได้เริ่มมีการขยายฐานธุรกิจจากเนื้อที่ประมาณ 150 ตารางเมตร กลายมาเป็นเนื้อที่กว่า 800 ตารางเมตร ด้วยการผลิตรถมอเตอร์ไซค์วิบาก และมีการเปิดตัวรถ Motocross รุ่น Panther Jumper ที่ถือว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์วิบากรุ่นแรกของบริษัท จนกลายมาเป็นผู้บุกเบิกรถมอเตอร์ไซค์ Motocross

ต่อมาในปี พ.ศ. 2553 ก็ได้มีการขยายฐานการผลิตอย่างต่อเนื่อง สู่โรงงานการผลิตแห่งที่ 2 บนพื้นที่กว่า 4,800 ตารางเมตร เพื่อเพิ่มมาตรฐานในการผลิต และรองรับความต้องการในปริมาณของสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง โดยโรงงานการผลิตแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณสุขสวัสดิ์ 76 และยังมีการเปิดโชว์รูม GPX Racing แห่งแรกอยู่บริเวณถนนบางนาอีกด้วย ซึ่งเราจะเห็นได้เลยว่า บริษัท เอทีวี แพนเตอร์ นั้นได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี และเมื่อมาถึงปี พ.ศ. 2555 ก็ได้มีการขยายฐานการผลิตสู่โรงงานแห่งที่ 3 บริเวณประชาอุทิศ บนพื้นที่กว่า 16,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับความต้องการในปริมาณของสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น และช่วยเพิ่มมาตรฐานในการผลิตสินค้าไปได้อีกด้วย ทางโรงงานจึงได้รับเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และทำการผลิตรถมอเตอร์ไซค์คุณภาพออกมามากมาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการเพิ่มศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้นทุกปี

และในปัจจุบันนี้ก็ได้มีการขยายฐานการผลิตสู่โรงงานแห่งที่ 4 บริเวณนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ บนพื้นที่กว่า 35,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับความต้องการในปริมาณของสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น และช่วยเพิ่มมาตรฐานในการผลิตสินค้า รวมไปถึงการเตรียมขยายตลาดออกไปสู่ต่างประเทศอีกด้วย และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ทางบริษัท เอทีวี แพนเตอร์ ก็ได้มีการส่งเสริมการจัดการแข่งขันกีฬา Motocross มาโดยตลอด พร้อมทั้งเข้าร่วมการจัดแสดงโชว์สินค้าในงาน Motor Expo มาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

สำหรับในปัจจุบันนั้นจะมีมอเตอร์ไซค์ PGX วางจำหน่ายอยู่ทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน ตามข้อมูลผลิตภัณฑ์รถมอเตอร์ไซค์ของบริษัท เอทีวี แพนเตอร์ จำกัด ดังนี้

1. มอเตอร์ไซค์ GPX เกียร์อัตโนมัติ

• TUSCANY 150 : มีให้เลือกทั้งหมด 2 เฉดสี คือ Gelato Green Mint และ Smoke Grey
• Drone (2023) : มีให้เลือกทั้งหมด 6 เฉดสี คือ Midnight Blue, Deep Wine, Hyper Silver, Master Green, Energetic Red และ Lightning Blue
• Drone 4 Valves : มีให้เลือกทั้งหมด 5 เฉดสี คือ สีแดง สีส้ม สีขาว สีดำ และสีน้ำเงิน
• Drone : มีให้เลือกทั้งหมด 4 เฉดสี คือ สีดำ สีแดง สีเหลือง และสีเทา
  
  

2. มอเตอร์ไซค์ GPX รถครอบครัว

• POPZ 110 : มีให้เลือกทั้งหมด 5 เฉดสี คือ British Green, Vermilion Orange, Candice Red, Satin Silver และ Cavyn Super Black
• Rock Classic : มีให้เลือกทั้งหมด 5 เฉดสี คือ สีดำ สีส้ม สีเหลือง สีชมพู และสีน้ำเงิน
• Rock : มีให้เลือกทั้งหมด 5 เฉดสี คือ สีดำ สีส้ม สีแดง สีดำด้าน และสีน้ำเงิน
• POPz 125 : มีให้เลือกทั้งหมด 5 เฉดสี คือ สีชมพู สีส้ม สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน
  
  

3. มอเตอร์ไซค์ GPX รถสปอร์ต

• GR200R Dacorsa2 : มีให้เลือกทั้งหมด 3 เฉดสี คือ สีดำ สีเทา และสีน้ำเงิน
• Demon GR200R : มีให้เลือกทั้งหมด 3 เฉดสี คือ สีเหลือง สีดำ และสีแดง
• GR200R DaCorSa : มีให้เลือกทั้งหมด 2 เฉดสี คือ สีแดง และสีดำ
• Demon 150GR FI : มีให้เลือกทั้งหมด 3 เฉดสี คือ สีดำแดง สีดำทอง และสีแดงขาว
• Demon GR200R : มีให้เลือกทั้งหมด 3 เฉดสี คือ สีดำ สีแดง และสีขาว
• MAD 300MAX : มีให้เลือกทั้งหมด 1 เฉดสี คือ สีดำ
• Raptor 180 : มีให้เลือกทั้งหมด 4 เฉดสี คือ สีม่วง สีเทา สีแดง และสีดำ
  
  

4. มอเตอร์ไซค์ GPX คลาสสิก

• Legend250 TWIN III : มีให้เลือกทั้งหมด 3 เฉดสี คือ สีดำ สีขาว และสีเขียว
• Legend250 Brighton : มีให้เลือกทั้งหมด 2 เฉดสี คือ สีเขียว และสีน้ำเงิน
• Legend250 TWINII : มีให้เลือกทั้งหมด 2 เฉดสี คือ สีดำ และสีเทา
• Legend 150Fi : มีให้เลือกทั้งหมด 2 เฉดสี คือ สีดำ และสีเทา
• Legend 250 TWIN : มีให้เลือกทั้งหมด 2 เฉดสี คือ สีดำ และสีแดง