ซื้อประกันตามยี่ห้อรถจักรยานยนต์

สำหรับท่านใดที่ต้องการต่อประกันรถจักรยานยนต์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหน แนะนำให้ทำความเข้าใจประเภทของประกันรถจักรยานยนต์ชั้นนำ ที่มีหลากหลายรูปแบบ ดังต่อไปนี้

• ประกันรถจักรยานยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์)ประกันภาคบังคับ ที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกคนต้องทำเพื่อให้สามารถใช้งานรถจักรยานยนต์ด้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะมอบความคุ้มครองพื้นฐานเพื่อดูแลความเสียหายที่เกิดขึ้น 
   
• ประกันรถจักรยานยนต์ภาคสมัครใจ เป็นประกันภัยที่จะมอบความคุ้มครองเพิ่มเติม เพื่อครอบคลุมความเสี่ยงจากการใช้งานรถจักรยานยนต์ให้มากขึ้น ตรงตามความต้องการของผู้ขับขี่ โดยจะมีขอบเขตความคุ้มครองและราคาเบี้ยประกันที่ต่างกันออกไป โดยจะแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 
  
  • ประกันภัยรถจักรยานยนต์ชั้น 1 (สำหรับรถบิ๊กไบค์ หรือรถจักรยานยนต์นำเข้า)
  • ประกันภัยรถจักรยานยนต์ชั้น 2
  • ประกันภัยรถจักรยานยนต์ชั้น 2+
  • ประกันภัยรถจักรยานยนต์ชั้น 3
  • ประกันภัยรถจักรยานยนต์ชั้น 3+

หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรถจักรยานยนต์ และเกิดความเสียหายขึ้น ผู้เอาประกันต้องทำเรื่องเคลมเพื่อขอรับเงินค่าสินไหมจากประกันรถจักรยานยนต์ โดยปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ 
 

• แจ้งความ (เอกสารในบันทึกประจำวัน) 
   
• เข้ารักษาพยาบาล ถ้าเป็นโรงพยาบาลในเครือของ พ.ร.บ. จักรยานยนต์ โรงพยาบาลจะช่วยเบิกในอัตราเบื้องต้นให้ก่อน ถ้าผู้เสียหายเป็นฝ่ายถูกในเหตุการณ์ดังกล่าว ให้เอาใบเสร็จส่วนเกินไปเบิกกับบริษัทกลางฯ เพิ่มเติม 
   
• นำใบบันทึกประจำวัน + ใบรับรองแพทย์ + ใบเสร็จรับเงินทั้งหมด + สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ในกรณีที่เสียชีวิตให้เตรียมใบมรณะบัตร + สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์เข้าไปติดต่อกับบริษัทกลางฯ เพื่อขอรับค่าสินไหม 
   
• เมื่อบริษัทกลางฯ ได้รับเอกสารการเคลมครบแล้ว จะจ่ายเงินชดเชย ภายใน 7 วันทำการ ตามที่กฎหมายกำหนด

บิ๊กไบค์ เป็นรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (500cc) ต่างจากรถจักรยานยนต์ทั่วไปที่เป็นเครื่องยนต์ขนาด 125cc และยังมีอะไหล่ที่ราคาสูงกว่า หายากกว่า ด้วยเหตุนี้ รถบิ๊กไบค์จึงต้องการความคุ้มครองที่มากกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วไป แนะนำให้เลือกประกันรถจักรยานยนต์ชั้น 1 เพื่อให้ได้รับวงเงินคุ้มครองที่สูง ครอบคลุม และส่งเข้าศูนย์ซ่อมที่ได้มาตรฐาน โดยสามารถสอบถามค่าเบี้ยประกันภัยผ่านบริการของแรบบิท แคร์ เพื่อดูข้อเสนอที่น่าสนใจจากบริษัทประกันจักรยานยนต์ชั้นนำได้เลย

จริง เนื่องจากสาเหตุดังต่อไปนี้ 
 

• ความคุ้มครองประกันจักรยานยนต์ที่มีหลายรูปแบบ โดยจะมีทั้งประกันชั้น 1, 2 และชั้น 3 ผู้ซื้อจึงควรทำความเข้าใจความแตกต่างของประกันแต่ละแผนก่อน เพื่อให้รู้ว่าต้องการความคุ้มครองในระดับไหน 
   
• ขนาดของรถจักรยานยนต์ ขนาดของรถจักรยานยนต์เป็นอีกเรื่องที่ต้องคำนึงถึง 
  
  • รถจักรยานยนต์ขนาดปกติ (น้อยกว่า 500 cc) เช่น Honda, Yamaha ก็สามารถเลือกความคุ้มครองแบบราคาประหยัดอย่างประกันชั้น 2+, 3 และ 3+ น่าจะเพียงพอ 
     
  • รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (มากกว่า 500 cc) เป็นจำพวกรถบิ๊กไบค์หรือรถแบรนด์ต่างประเทศ เช่น Ducati, BMW ควรเลือกประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 หรือประกันสำหรับบิ๊กไบค์ไปเลย เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว่า และคุ้มค่ากว่าด้วย 
     
• พฤติกรรมการใช้รถจักรยานยนต์ ก่อนอื่นต้องสำรวจพฤติกรรมการใช้งานรถจักรยานยนต์ของตนเองก่อน ว่ามีความเสี่ยงภัยในระดับไหน เช่น ขับจักรยานยนต์ในเมืองเป็นประจำ หรือชอบขับรถเร็ว แม้ว่าบางท่านมีรถขนาดใหญ่แต่พฤติกรรมในการขับขี่บนท้องถนนที่ไม่เร็วจนเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด ความเสี่ยงย่อมแตกต่างจากผู้ที่แม้จะมีรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กแต่ชอบเร่งความเร็ว ดังนั้น นอกจากยี่ห้อรถจักรยานยนต์ หรือขนาดของจักรยานยนต์ แล้วปัจจัยสุดท้ายที่ควรคำนึงด้วยย่อมเป็นพฤติกรรมของท่าน

รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่มีผู้ใช้งานเยอะ ด้วยรูปลักษณ์ที่คล่องตัว ประหยัดพื้นที่ในการจอด ขับขี่ได้ง่าย จึงทำให้น่าใช้งานมากกว่า โดยรถจักรยานยนต์ประเภทหลัก ๆ ที่มีผู้ใช้งานเยอะนั้นจะมีดังต่อไปนี้

• Family จัดว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่น่าจะรู้จักกันดี ใช้งานง่าย ด้วยการดีไซน์เพื่อให้การขับขี่คล่องตัว นั่งสบาย ประหยัดน้ำมันเป็นหลัก เหมาะกับการขี่ในระยะใกล้ ๆ แบรนด์ที่คุ้นเคยกันอย่าง Honda,  Yamaha ก็มีหลากรุ่นให้เลือก 
   
• Family Sport มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ประหยัดน้ำมัน โดยตัวรถออกแบบให้มีส่วนผสมระหว่าง Family และ Sport ผสมเข้าด้วยกัน แฮนด์ขับเป็นแบบ Sport อยู่ในระดับต่ำ มีคลัช เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ต้องการความเร็ว 
   
• Scooter เป็นรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กกระทัดรัด เน้นใช้งานง่าย แต่ข้อจำกัดคือสมรรถนะของเครื่องยนต์ต่ำกว่า โดยจะเน้นออกแบบให้นั่งสบาย แฮนด์สูงและห่างกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ขับแบบไม่เน้นความเร็ว 
   
• Sport Bike รถจักรยานยนต์สำหรับผู้ที่รักความเร็ว เหมาะกับพื้นที่เรียบ โดยออกแบบรูปทรงต่าง ๆ ของตัวเครื่องมาให้มีท่าทางการขับขี่ออกมาในลักษณะลู่ลม ทรงตัวได้ดี มีสมรรถนะสูง แบรนด์ที่นิยมใช้งานกันเช่น Ducati หรือราคาสูงขึ้นมาหน่อยก็จะมี BMW อีกแบรนด์ 
   
• Chopper เป็นรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ และมีเสียงดัง การออกแบบเบาะนั่งจะมีทรงค่อนข้างต่ำ ส่วนแฮนด์สูง ทำให้ท่าทางตอนขับขี่ดูแตกต่างออกไป การดูแลจะมีขั้นตอนซับซ้อนกว่าแบบอื่น เพราะฉะนั้น ควรเลือกซื้อแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำ กรณีที่ต้องการเปลี่ยนอะไหล่หรือซ่อม จะทำได้ง่ายกว่า

เพราะการขับขี่บนท้องถนนนั้นมีความเสี่ยง โดยเฉพาะรถความเร็วสูงก็ยิ่งต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้นไปอีก การทำประกันภัยเอาไว้จึงเป็นเรื่องจำเป็น แนะนำประกันรถจักรยานยนต์ชั้นนำจากแรบบิท แคร์ ที่มีให้คุณเลือกหลากหลายแผนความคุ้มครอง เพิ่มความมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง