Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้

🎵 เดือน 10 นี้!! Rabbit Care แจกลำโพง Marshall Emberton 2 และ Rabbit Voucher มูลค่ารวม 13,490 บาท แค่สมัครบัตรฯ UOB ผ่าน Rabbit Care คลิก! 💳

user profile image
เขียนโดยNok Srihongวันที่เผยแพร่: Apr 11, 2024

ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม ทำอย่างไรเมื่อค่าซ่อมราคาสูง

อุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้เสมอ การป้องกันความเสียหายและการชดเชยค่าเสียหายให้กับคู่กรณีด้วยการทำประกันรถยนต์ จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่เมื่อประกันเรียกเก็บค่าซ่อมรถจากคู่กรณี และมียอดค่าเสียหายที่ต้องจ่ายเป็นจำนวนมาก หลายคนคงจะเกิดคำถามว่า ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? เมื่อประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ไม่มีเงินจ่าย เราควรทำอย่างไรดี? วันนี้ แรบบิท แคร์ มีคำตอบ

ค่าซ่อมสูงเกินจริง! ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ไม่มีเงินจ่าย ทำอย่างไรดี

ประกันเรียกค่าซ่อมเกินจริง ทำอย่างไร? ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? คำถามสำหรับคู่กรณีที่ถูกเรียกค่าชดเชยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หากประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีและไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน สามารถเจรจากับประกันเพื่อขอผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ ได้

ซึ่งหากรถของผู้ที่เป็นฝ่ายผิดนั้น ยังมีประกันอยู่ ประกันจะช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้ แต่ความผิดที่เกิดขึ้น จะต้องไม่ขัดกับหลักเกณฑ์ความคุ้มครอง เช่น เมาแล้วขับ ซึ่งหากไม่ขัดกับหลักเกณฑ์ที่ประกันกำหนดไว้ บริษัทประกันจะมอบความคุ้มครองค่าซ่อมรถของคู่กรณีให้ตามท่ีระบุไว้ในกรมธรรม์ หากเป็นประกันชั้น 1 วงเงินความเสียหายที่เกิดกับบุคคลภายนอกจะอยู่ที่ประมาณ 1-5 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเงินทุนที่ใช้ซ่อมรถของเราเอง และหากความเสียหายที่เกิดกับบุคคลภายนอก มีค่าส่วนต่างจากที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น วงเงินทุนประกันความเสียหายของเราอยู่ที่ 2 ล้านบาท แต่ค่าซ่อมรถของคู่กรณีอยู่ที่ 3 ล้านบาท บริษัทประกันจะจ่ายแค่ 2 ล้านบาท และส่วนต่างอีก 1 ล้านบาท ผู้ทำประกันจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง

ซึ่งหากไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อม หรือมองว่าเงินค่าซ่อมที่เราต้องจ่ายเองนั้นสูงเกินจริง บริษัทประกันของคู่กรณีจะเป็นฝ่ายฟ้องศาล จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และตกลงวิธีการชำระเงินกัน ซึ่งอาจรวมถึงการผ่อนผัน และหากทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ ศาลจะเป็นผู้ตัดสินทั้งในเรื่องของค่าเสียหายที่ต้องชดเชยในมูลค่าที่สมเหตุสมผล รวมถึงวิธีการชำระเงินที่เหมาะสม นับว่าช่วยคลายข้อสงสัยในประเด็นที่ว่า ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? ได้เป็นอย่างดี

เกิดอุบัติเหตุ แต่รถคู่กรณีไม่มีประกัน ทำอย่างไรได้บ้าง

หากเกิดอุบัติเหตุรถชนกับคู่กรณีที่ไม่มีประกัน สิ่งแรกที่ต้องทำคือโทรติดต่อประกันที่เราทำไว้ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ แนะนำให้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่พิจารณา เพื่อทำเรื่องเคลมประกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะเป็นฝ่ายเจรจาเรื่องค่าเสียหายกับคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด โดยที่เราไม่ต้องเจรจาเอง และผู้ที่เป็นฝ่ายผิดจะต้องไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน อู่ประกันหรือศูนย์ซ่อมก็จะประเมินราคาค่าเสียหายหรือบิลค่าซ่อมรถยนต์ทั้งหมด และส่งบิลค่าใช้จ่ายไปให้คู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดรับทราบ ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นหน้าที่ของคู่กรณีฝ่ายผิดที่มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัทประกัน

ประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณี ต้องจ่ายภายในกี่วัน

ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? เมื่อถูกเรียกเก็บค่าซ่อมจากประกันของคู่กรณี มีระยะเวลากำหนดว่าต้องจ่ายภายในกี่วันหรือไม่?

เราสามารถตกลงกับบริษัทประกันของคู่กรณีด้วยการประนอมหนี้ ว่าจะผ่อนจ่ายเป็นระยะเวลากี่เดือน หากไม่มีเงินจ่าย แนะนำให้ตกลงกับบริษัทประกันของคู่กรณี และขอผ่อนจ่ายแทนการหนีหนี้ เพราะหากหนีจะถูกฟ้องร้องและดำเนินการจนถึงที่สุด

รถถูกชนแล้วเราเป็นฝ่ายถูก เรียกเงินชดเชยได้ไหม

หากรถของเราที่มีประกันถูกชน และเราเป็นฝ่ายถูก โดยที่รถของคู่กรณีไม่มีประกัน คู่กรณีจะต้องชดใช้ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนให้กับบริษัทประกันของเรา โดยที่เราไม่ต้องดำเนินการเอง จากนั้นเจ้าหน้าที่จะออกใบเคลมมาให้ เพื่อให้เรานำรถไปซ่อมที่อู่หรือศูนย์บริการ ซึ่งหากคู่กรณีไม่มีเงินจ่าย หรือเห็นว่าค่าซ่อมที่ประกันของเราเรียกเก็บมีราคาสูงเกินไป ก็สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ และเลือกผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ ได้เช่นกัน ตอบข้อสงสัยในประเด็นที่ว่า ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? ได้เป็นอย่างดี

ขั้นตอนเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ทำได้อย่างไร เรียกได้สูงสุดกี่วัน

ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม หรือค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ เงินสินไหมทดแทน หรือเงินชดเชยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องจากบริษัทประกันของคู่กรณี เพื่อใช้เป็นค่าเดินทางในระหว่างที่เรานำรถยนต์ไปซ่อม ในช่วงที่รถยนต์ของเราไม่สามารถใช้งานได้ แต่จะเคลมได้ก็ต่อเมื่อเราเป็นฝ่ายถูก และรถมีประกันเท่านั้น อีกทั้งยังต้องมีใบขับขี่ที่ถูกต้องอีกด้วย ซึ่งสามารถนำบิลค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่น ค่าแท็กซี่ ค่ารถไฟฟ้า หรือค่ารถเมล์ มาเบิกกับบริษัทประกันของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดได้

ซึ่งโดยปกติแล้ว ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถในระหว่างซ่อม จะคุ้มครองอยู่ที่ประมาณ 20-30 วัน แต่หากรถยนต์ได้รับความเสียหายหนัก ต้องสั่งซื้ออะไหล่ หรือรอให้อะไหล่จัดส่งมา หรือแม้แต่กรณีที่ต้องรอคิวซ่อมรถนานเกินกว่า 20-30 วัน ก็จะสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้เพิ่มมากขึ้นอีก ตัวอย่างเช่น หากต้องรออะไหล่ส่งเข้ามานานถึง 3 เดือน จะสามารถเรียกค่าขาดประโยชน์ได้ 90 วัน นับตั้งแต่วันที่เกิดความเสียหาย แต่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีการสั่งซ่อมจริง

ในส่วนของระยะเวลาที่จะได้เงินค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมนั้น หากยื่นเอกสารและส่งหลักฐานครบถ้วน บริษัทประกันของคู่กรณีจะใช้เวลาในการพิจารณา และเจรจาหาข้อสรุปค่าชดเชยที่ต้องจ่าย โดยผู้เรียกร้องจะได้รับเงินค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถภายในระยะเวลา 7 วันทำการ

ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม มีอายุความกี่ปี

หลังจากที่ได้คลายข้อสงสัยในประเด็นที่ว่า ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? ไปแล้วเรียบร้อย แรบบิท แคร์ จะพามาดูอายุความของคดีกันบ้าง ซึ่งหากบริษัทประกันต้องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด จะต้องฟ้องคดีภายใน 1 ปี เพื่อไม่ให้คดีขาดอายุความ แต่หากฟ้องเรียบร้อยแล้ว มีคำสั่งศาลให้คู่กรณีผ่อนจ่ายค่าซ่อมรถเป็นงวด หรือแม้แต่มีคำสั่งศาลในกรณีอื่น ๆ ก็ตาม คดีจะมีอายุความ 10 ปี นับจากวันที่ถูกฟ้อง

กรณีใดบ้าง ที่รถชนแล้วประกันไม่คุ้มครอง

แม้ว่าการทำประกันรถยนต์จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้ในระดับหนึ่งว่าจะมีประกันคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็ยังมีกรณียกเว้นที่ประกันไม่คุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุอีกเช่นกัน ได้แก่กรณีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • การนำรถยนต์ไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย เช่น ขนส่งยาเสพติด ปล้นทรัพย์ เป็นต้น
  • กรณีเมาแล้วขับ เมื่อตรวจพบแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่มากกว่า 150 มก.
  • ใช้รถยนต์ผิดประเภท สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น เช่น ใช้รถแข่งขันกันจนเกิดอุบัติเหตุ
  • นำรถไปใช้นอกอาณาเขตคุ้มครอง เช่น ขับขี่รถออกนอกประเทศ ซึ่งในกรณีนี้หากมีความจำเป็นสามารถแจ้งกับบริษัทประกันได้เป็นบางกรณีไป
  • อุบัติเหตุจากสงคราม เช่น การปฏิวัติต่อต้าน การใช้อาวุธเพื่อก่อความไม่สงบ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การทำประกันรถยนต์ จะช่วยคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี ช่วยลดค่าใช้จ่าย และเงินค่าซ่อมให้กับคู่กรณี ซึ่งหากไม่มีประกันเป็นตัวช่วย เราจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดด้วยตัวเอง ยิ่งเมื่อเราเป็นฝายผิด ก็จะต้องชดเชยค่าเสียหายให้กับคู่กรณีเป็นเงินก้อนใหญ่ และเมื่อเทียบกับเงินที่เสียไปจากการทำประกันรถยนต์แล้ว นับว่าการทำประกันคุ้มค่ากว่ามาก โดยเฉพาะเมื่อเลือกทำ ประกันรถยนต์ จาก แรบบิท แคร์ เราเลือกสรรแผนประกันจากบริษัทประกันคุณภาพชั้นนำกว่า 15 บริษัท พร้อมให้คุณรับความคุ้มค่าไปเต็ม ๆ ทั้งค่าเบี้ยประกันในราคาที่จับต้องได้ ถูกกว่าเมื่อเทียบกับเจ้าอื่น และหากไม่มีการเคลม จะได้ลดค่าเบี้ยในปีถัดไปสูงถึง 70% พร้อมบริการผ่อนเบี้ยประกัน 0% บริการรถเช่าสำรองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เงินชดเชยค่าเดินทางเมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถใช้รถได้ ตลอดจนบริการช่วยเหลือ 24 ชม. อุ่นใจกว่า ถ้าซื้อประกันจากแรบบิท แคร์

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ความคุ้มครองรถผู้ทำประกัน
ประเภทประกันภัย
ชั้น 1
ชั้น 2+
ชั้น 2
ชั้น 3+
ชั้น 3
ชนแบบมีคู่กรณีชนแบบมีคู่กรณี
x
x
ชนแบบไม่มีคู่กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี
x
x
x
x
ไฟไหม้ไฟไหม้
x
x
รถหายรถหาย
x
x
ภัยธรรมชาติภัยธรรมชาติ
x
x
ช่วยเหลือ 24 ชม. ช่วยเหลือ 24 ชม.
x
x
x
ซื้อประกันรถยนต์   
คลิก
คลิก
คลิก
คลิก
คลิก
ความคุ้มครองอื่นๆ ครอบคลุมทุกชั้นประกัน
คุ้มครองคู่กรณี และทรัพย์สินคู่กรณี
อุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลบุคคลที่สาม
คุ้มครองชิวิตบุคคลที่สาม
คุ้มครองชีวิตผู้ขับขี่
ค่ารักษาพยาบาลตัวผู้ขับขี่
การประกันตัวผู้ขับขี่

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา