Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
info

💙 แจก Starbuck Voucher มูลค่า 800 บาทฟรี! เพียงเปิดบัญชี Webull ผ่านช่องทางของ Rabbit Care สนใจ คลิก! 💙

user profile image
เขียนโดยTawan A.วันที่เผยแพร่: Feb 14, 2023

เรื่องควรรู้ การเคลมรอบคัน ก่อนหมดประกัน

ผู้ใช้รถทุกคนอาจจะคิดว่าประกันนั้นไม่สำคัญ แต่รู้หรือไม่ว่าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริง ๆ เราจะนึกถึงประกันรถยนต์เป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน เพราะประกันภัยรถยนต์ เป็นความคุ้มครองประเภทหนึ่งที่จะช่วยคุ้มครองเจ้าของรถ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อยามเศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากจะปฏิเสธว่าในปัจจุบันนี้ อุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้นมากอย่างต่อเนื่องถึงแม้จะระมัดระวังมากเพียงใดก็สามารถที่จะเกิดความเสี่ยงได้ทุกเมื่อ รวมถึงปัญหาต่าง ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้และยากจะควบคุม

ยกตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายหากเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ การโจรกรรม หรือความเสียหายประเภทอื่น ๆ ต่อยานพาหนะของตน เป็นต้น ซึ่งประกันรถก็จะเข้ามาทำหน้าที่คุ้มครองสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี และบทความนี้จะพาไปดูว่าหากเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์จะมีวิธีเคลมรอบคัน ก่อนหมดประกันอย่างไร เคลมรอบคันคืออะไร มีกี่ประเภท มีข้อที่ควรรู้อย่างไรบ้าง

เคลมรอบคัน คืออะไร

การเคลมรอบคัน หรือ การเคลมสีรอบคัน คือการที่เราจะให้ประกันรถยนต์ที่เราใช้ มาซ่อมรถให้เราทั้งคัน ทุก ๆ ร่องรอย ไม่ว่าจะเสียหายจากอะไรก็ตาม เช่น สีถลอก รอยขนแมวต่าง ๆ หรือ รอยการชนรอบ ๆ ตัวรถ อยากจะเคลมรวมกันทีเดียว โดยที่อาจจะแจ้งเคลมรวดเดียวหลาย ๆ ร่องรอยนั่นเอง และการเคลมรอบคัน ก่อนหมดประกัน หรือ การเคลมสีรอบคัน ก็เป็นคำถามเกี่ยวกับประกันรถยนต์ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากว่าต้องทำอย่างไร ต้องเสียค่า Excess หรือ ค่าเสียหายส่วนแรกไหม

โดยการเคลมรอบคัน ก่อนหมดประกันจะอยู่ในส่วนของประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น เนื่องจากประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันรถยนต์ที่สามารถคุ้มครองได้ทุกกรณี ทั้งการชนที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี และยังครอบคลุมไปถึง รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม อีกด้วย แต่อาจจะมีเงื่อนไขในการเคลมตามแต่เงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์ หากผู้เอาประกันประสบอุบัติเหตุไม่ว่าจะรุนแรงหรือไม่ มีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี แต่ส่งผลให้รถยนต์ของเราเกิดความเสียหายในส่วนต่าง ๆ บริษัทประกันภัยก็จะทำการเคลมรอบคัน และ ซ่อมรถให้กลับมามาสภาพดีเช่นเดิม

การเคลมมีกี่ประเภท

การเคลมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท หลัก ๆ ได้แก่

1. การเคลมสด

การเคลมแบบสด คือ การเครมรถ ณ ที่เกิดเหตุ โดยจะมีพนักงานจากบริษัทประกันออกไปตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุทันที เช่น รถชนรถมีคู่กรณี หรือมีผู้บาดเจ็บ รถคันที่เอาประกันภัยหรือรถคู่กรณีเสียหายมาก ซึ่งการเคลมประเภทนี้ผู้ขับขี่คันที่เอาประกันหรือรถคู่กรณีจะได้รับใบหลักฐานในการติดต่อค่าเสียหายจากพนักงานเคลม โดยสามารถนำไปติดต่อซ่อมที่อู่ในเครือของบริษัทประกันภัยได้ทันที

โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ ดังนี้

  • การเคลมสดแบบมีคู่กรณี
    คือ การเกิดอุบัติเหตุแบบรถชนกับรถ โดยพนักงานจากบริษัทประกันจะตรวจสอบและพิจารณาว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด โดยฝ่ายที่ผิดบริษัทประกันจะเป็นผู้จ่ายแทนลูกค้าในส่วนของค่าเสียหายส่วนแรก ( Deductible) ให้กับคู่กรณีก่อน ตามแต่ที่ตกลงไว้กับทางบริษัทประกัน แล้วเรียกคืนภายใน 7 วัน
  • การเคลมสดแบบไม่มีคู่กรณี
    คือ กรณีที่รถของผู้ถือประกันชนเข้ากับสิ่งของหรือวัตถุจนเกิดความเสียหายมาก เช่น ชนต้นไม้หรือเสาไฟฟ้า ถูกรถอื่นชนแล้วหลบหนีไม่สามารถแจ้งรายละเอียดคู่กรณีได้ และมีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน โดยกรณีนี้ผู้ถือประกันจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ก่อนเสมอ

2. การเคลมแห้ง

การเคลมแบบแห้ง คือ การเครมรถหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไประยะหนึ่งแล้ว (ไม่ควรเกิน 2-3 วัน) โดยเป็นการเคลมที่ไม่ต้องการพนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุออกตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุ เช่น การเคลมจากกรณีที่รถยนต์เกิดการเฉี่ยวหรือชนที่ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยและไม่มีคู่กรณี โดยผู้ถือประกันจะต้องระบุรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าเกิดอุบัติเหตุได้อย่างไร ชนเข้ากับอะไร วันที่เท่าไหร่ เมื่อไหร่ ที่ไหน แล้วจึงแจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันด้วยตนเอง ซึ่งการการเคลมรอบคัน ก่อนหมดประกันนี้ ผู้เอาประกันภัยสามารถนำรถคันเอาประกันภัยเข้าไปติดต่อซ่อมที่อู่ในเครือของบริษัทฯ ได้ตลอดเวลาที่ผู้เอาประกันภัยสะดวกแต่ทั้งนี้ต้องก่อนกรมธรรม์หมดอายุ

และการการเคลมรอบคัน ก่อนหมดประกันจะมีเพียงแค่การเคลมจากประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่มีกรณีพิเศษนี้ ซึ่งเป็นการเก็บรายละเอียดร่องรอยต่าง ๆ รอบทั้งคันให้กับรถของคุณ ตามเงื่อนไขความคุ้มครองในกรมธรรม์

เคลมรอบคัน ทํายังไง

วิธีการเคลมรอบคันแบบสด

  • ผู้ถือประกันเตรียมกรมธรรม์เอาไว้ให้พร้อมและโทรแจ้งไปที่ศูนย์ประกันหรือสายด่วนของบริษัทประกัน
  • ผู้ถือประกันแจ้งหมายเลขกรมธรรม์ ชื่อ ทะเบียน ยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุ และรายละเอียดเหตุการณ์ เพื่อให้ตัวแทนจากบริษัทประกันออกมาตรวจสอบที่เกิดเหตุการณ์ ซึ่งอาจใช้เวลาสักครู่หนึ่งกว่าที่ตัวแทนจากบริษัทประกันจะมาถึง
  • ระหว่างนี้ให้ผู้ถือประกันเตรียมเอกสารต่าง ๆ ไว้สำหรับยื่นเรื่อง เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ กรมธรรม์ และเล่มทะเบียนรถ
  • เมื่อประกันมาถึงแล้วจะทำการตรวจสอบเหตุการณ์และประเมินค่าความเสียหาย หากเป็นกรณีที่มีคู่กรณีจะต้องตรวจสอบด้วยว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือผิด โดยฝ่ายที่ผิดอาจต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) เพื่อเยียวยาคู่กรณีก่อน ตามแต่ที่ตกลงไว้กับทางบริษัท
  • หลังจากที่ตรวจสอบเหตุการณ์และประเมินค่าความเสียหายเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทประกันจะออกใบประเมินความเสียหายให้ผู้ถือประกันนำรถไปเคลมกับอู่ซ่อมรถในเครือบริษัทได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม

วิธีการเคลมรอบคันแบบแห้ง

  • ผู้ถือประกันต้องถ่ายรูปหลักฐาน ณ ที่เกิดเหตุ ความเสียหาย รวมถึงบันทึกเวลาและสถานที่ไว้ให้ชัดเจน
  • ผู้ถือประกันติดต่อไปยังศูนย์ประกันหรือสายด่วนของบริษัทประกันแล้วแจ้งความเสียหาย
  • จากนั้นจะมีการนัดตรวจสอบสภาพรถผู้ถือประกันว่าเสียหายจริงตามที่แจ้งมาหรือไม่
  • เมื่อทำการตรวจสอบต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว บริษัทประกันจะออกใบประเมินความเสียหายให้ผู้ถือประกัน โดยผู้ถือประกันสามารถนำไปส่งเคลมกับอู่ในเครือของบริษัทประกันได้ทันที
  • สำหรับการเคลมแบบแห้งอาจมีค่าใช้จ่ายส่วนแรกตามแต่ตกลงกับบริษัทประกัน
  • เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการเคลมแบบแห้ง ประกอบไปด้วย สำเนาใบขับขี่ของผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุ สำเนาทะเบียนรถ สำเนาหน้าตารางกรมธรรม์ สำเนาบันทึกประจำวัน (แล้วแต่กรณี) เอกสารชนแล้วแยก หรือใบหลักฐานยอมรับผิดจากคู่กรณี (แล้วแต่กรณี)
  • โดยเงื่อนไขบริษัทฯ จะแจ้งและมีการเจรจากับผู้ถือประกัน ในกรณีที่มีการเรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรก (excess) ก่อนที่จะมีการจัดซ่อม

เคลมกรณีไหนต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่ม

การเคลมแบบมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม หรือ ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ประกอบไปด้วย

  • เกิดอุบัติเหตุแล้วรถเสียหาย แต่ผู้ถือประกันไม่สามารถบอกที่มาหรือสาเหตุที่ชัดเจนของความเสียหายนั้นได้ (รวมถึงผู้ถือประกันไม่สามารถบอกวันเวลาที่เกิดเหตุอย่างแน่ชัดได้)
  • โดนรถอีกฝั่งชนแล้วหนี และผู้ถือประกันจำทะเบียนรถฝั่งตรงข้ามไม่ได้ ระบุคนชนไม่ได้
  • รถเกิดการกระทบกับวัตถุสิ่งของแล้วแต่ไม่ได้ทำให้รถของผู้ถือประกันเกิดความเสียหาย บุบ แตก หรือ ร้าว
  • โดนมุ่งร้าย กลั่นแกล้ง โดยผู้ถือประกันไม่สามารถระบุคนทำ ไม่มีหลักฐาน และไม่สามารถระบุเวลาที่เกิดเหตุได้

เคลมสีรอบคันทำได้ไหม

โดยปกติแล้วประกันรถยนต์จะซ่อมรถผู้ถือประกันให้สภาพเหมือนเดิม ณ วันที่เกิดเหตุ ดังนั้นในส่วนที่จะมีการเคลมรอบคันก็จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทประกันแต่ละเจ้า ถ้าหากทางบริษัทประกันตัดสินใจไม่เคลมรอบคันให้ แต่ผู้ถือประกันยังยืนยันและต้องการที่จะเคลมรอบคัน

ในส่วนนี้ผู้ถือประกันก็สามารถลองคุยกับบริษัทประกันได้ แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายส่วนต่างในการเคลมรอบคันเพิ่มเติมจากยอดที่บริษัทประกันคำนวณมาให้

เคลมรอยรอบคันทำได้ไหม

การเคลมรอบคัน ก่อนหมดประกัน ควรทำเมื่อผู้ถือประกันต้องการที่จะเปลี่ยนประกันจากเจ้าเดิมไปเจ้าใหม่ เนื่องจากเมื่อเคลมรอบคันแล้วเบี้ยประกันปีต่อไปอาจจะเพิ่มขึ้นสูงมากหากผู้ถือประกันยังยืนยันที่จะต่อประกันกับเจ้าเดิม การเคลมรอย จึงควรเคลมเป็นครั้ง ๆ ไป ไม่ควรเคลมรอบคัน เพราะนอกจากผู้ถือประกันจะต้องเสียค่า excess จากการเคลมรอบคันในราคาที่ค่อนข้างสูงแล้ว สีที่มากับรถจากโรงงานล้วนมีคุณภาพที่ดีกว่าสีใหม่ที่ทำแน่นอน เนื่องจากคุณภาพอาจไม่คงที่

รวมการเคลมรอบคัน ก่อนหมดประกันในกรณีต่าง ๆ

  • กรณีที่มีใบเคลมครบ ผู้ถือประกันสามารถรวบรวมใบเคลมทั้งหมด แล้วเช็กอู่ซ่อมรถเราตามที่ผู้ถือประกันเลือกความคุ้มครองไว้ เช่น เลือกซ่อมศูนย์ เลือกซ่อมอู่ แล้วนำรถเข้าไปเคลมรอบคันได้ทันทีโดยใบเคลมจะมีอายุหลังจากแจ้งเคลม 2 ปี นับจากวันแจ้งเคลม
  • กรณีที่รถมีแต่รอยแต่ไม่มีใบเคลม และไม่เคยแจ้งเคลมไว้เลย ผู้ถือประกันจะต้องโทรแจ้งเคลมแห้ง และบอกข้อมูลตามจริงกับเจ้าหน้าที่ประกันภัยที่เดินทางมาดูรถเพื่อดูรายละเอียดในการเคลมรอบคัน เนื่องจากเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันแต่ละชั้นอาจแตกต่างกัน
  • กรณีที่รถมีจุดที่แจ้งเคลมแล้ว และจุดที่ยังไม่ได้แจ้งเคลม เป็นการเคลมรอบคันแบบผสมทั้งการเคลมแบบสดและแห้ง โดยผู้ถือประกันจะต้องรวบรวมใบเคลมทั้งหมดที่มี แล้วโทรแจ้งบริษัทประกันเพื่อขอเคลมแห้ง

หลังจากนั้นให้ผู้ถือประกันรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบจุดที่จะเคลม รับใบเคลมแห้ง (เพิ่มเติม) ซึ่งอาจมีเสียค่าเสียหายส่วนแรก Excess แล้วจึงค่อยเดินทางไปยังอู่ซ่อมรถ หรือศูนย์ซ่อมรถที่ผู้ถือประกันเลือกความคุ้มครองไว้เพื่อทำการเคลมรอบคัน

ก่อนที่จะผู้ขับขี่จะทำการเคลมรอบคันก็ควรศึกษาการคุ้มครองของบริษัทนั้นให้ดี ๆ เพราะบางครั้งเงื่อนไขเคลมรอบคันก็มีในส่วนที่ประกันไม่รับเคลมอยู่ด้วย อีกเรื่องที่สำคัญที่ควรทราบคือ คุณสามารถย้ายอู่ในเครือประกันถ้าไม่พึงพอใจอู่ซ่อมรถเดิม แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนจากอู่ในเครือไปเป็นซ่อมห้างหรือซ่อมศูนย์ ก็อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่คุณซื้อประกันรถยนต์แบบซ่อมอู่ไว้ ดังนั้นควรอ่านให้ละเอียดก่อนตัดสินใจเปลี่ยนอู่ซ่อมรถยนต์อย่างจริงจัง

หากอยากรู้ข้อมูลสาระดี ๆ เกี่ยวกับการเคลมรอบคัน ประกันภัย หรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประกันภัยชั้นต่าง ๆ ให้เลือกประกันรถยนต์จากแรบบิท แคร์ เพราะว่าแรบบิท แคร์ เป็นโบรกเกอร์ประกันภัยที่แคร์คุณยิ่งกว่าใคร เราต้องการให้คุณได้ซื้อประกันภัยรถยนต์ตรงตามที่คุณต้องการในราคาคุ้มค่า มีแผนประกันสำหรับการเคลมรอบคันให้เลือกมากมายจากบริษัทชั้นนำ สามารถเลือกเปรียบเทียบแผนประกันเพื่อเคลมรอบคันได้ทันทีจากหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ซื้อง่าย ได้กรมธรรม์เร็ว

มีบริการสุด exclusive ให้คุณมากกว่าเจ้าอื่น เมื่อซื้อประกันกับเรา คุณสามารถเลือกผ่อนค่าเบี้ยประกันแบบเงินสดได้ ทุกชั้นประกัน ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+, ประกันชั้น 2, ประกันชั้น 3+ และประกันชั้น 3 สูงสุด 10 งวด ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้สบาย ๆ กระเป๋า

รวมถึงที่นี่เราเลือกสรรบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่มีการคุณภาพการบริการที่ดีเยี่ยม มากกว่า 15 บริษัทประกันชั้นนำ ลูกค้าสบายใจได้เมื่อซื้อประกันผ่านเรา เปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์ ซื้อกับเราแรบบิท แคร์ คุ้มค่าที่สุด แคร์คุณที่สุด

ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา