โดนประกันฟ้องไม่จ่าย ต้องทำอย่างไร?

ในกรณีที่ประกันไม่อนุมัติซ่อมและขอเรียกเก็บค่าซ่อมย้อนหลัง สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือห้ามหนีหนี้เป็นอันขาด เพราะทางบริษัทประกันภัยจะตามดำเนินการฟ้องร้องจนถึงที่สุด หรือเราจะโดนประกันรถยนต์ฟ้องนั่นเอง ตามข้อมูลในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 จากเว็บไซต์ของวุฒิสภา senate.go.th แต่ว่าเราสามารถทำการประนอมหนี้กับทางบริษัทประกันภัยได้ โดยการตกลงทำเรื่องผ่อนจ่ายค่าเสียหายเป็นงวด และจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลากี่งวดให้เรียบร้อย

ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? โดยปกติแล้วทางบริษัทประกันภัยรถยนต์จะไม่มีบริการผ่อนชำระสำหรับค่าซ่อมแซมรถยนต์ เพราะทางเจ้าของรถจะต้องเป็นผู้ชำระเงินในส่วนตรงนี้ให้กับทางฝ่ายคู่กรณีเอง และที่สำคัญห้ามหนีหนี้เป็นอันขาด เพราะอาจจะโดนประกันรถยนต์ฟ้องได้ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะชำระผ่านทางช่องไหน เช่น เงินสด บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต เป็นต้น แต่อย่างไรแล้วก็ยังสามารถทำเรื่องขอผ่อนค่าเคลมหรือค่าซ่อมแซมรถได้กับทางธนาคารที่เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อบัตรเครดิตที่ถืออยู่ให้ได้ โดยจะมีอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของในแต่ละบริษัท อีกทั้งในบางธนาคารหรือบัตรเครดิตแต่ละประเภทนั้นก็จะสามารถผ่อนชำระในส่วนของค่าแรงหรือค่าอะไหล่รถยนต์ในอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือนได้อีกด้วย แต่ก็จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของในแต่ละบริษัทประกันภัยรถยนต์อีกเช่นเดียวกัน

กรณีที่เราไม่มีประกัน (เป็นฝ่ายผิดแล้วไปชนกับฝ่ายถูกที่มีประกันภัยรถยนต์)

เบื้องต้นทางฝั่งของคู่กรณีจะโทรเรียกประกันภัยเพื่อขอเคลมได้ทันที และทางตัวแทนประกันภัยก็จะเข้ามามีบทบาทในการเป็นผู้ดำเนินการและผู้ไกล่เกลี่ยให้แทนคู่กรณี โดยจะดำเนินการเรียกเก็บค่าเสียหายกับเรานั่นเอง และเราสามารถขอความช่วยเหลือและเจรจากับทางตัวแทนประกันภัยได้ แต่ถ้าหากว่าไม่สามารถช่วยเหลือได้ ทางเราก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายให้กับทางฝั่งคู่กรณีตามที่ตกลงกันให้เรียบร้อย ซึ่งถ้าเราจ่ายไม่ไหวก็สามารถที่จะขอเข้าสู่กระบวนการประนอมหนี้ได้ตามลำดับเลย แต่ห้ามหนีเด็ดขาดเพราะจะโดนประกันรถยนต์ฟ้องได้

กรณีที่เราไม่มีประกัน (เป็นฝ่ายผิดแล้วไปชนกับฝ่ายถูกที่มีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1)

สำหรับในกรณีนี้ ทางประกันภัยของทางฝั่งคู่กรณีจะใช้วิธีจ่ายค่าเสียหายให้กับเรามาก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยมาตามเก็บค่าเสียหายต่าง ๆ จากเราทีหลัง ซึ่งการประนอมหนี้นั้นจะขึ้นอยู่กับการเจรจาของตัวเราและทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ และสิ่งที่สำคัญคือห้ามหนีหนี้เป็นอันขาด เพราะทางบริษัทประกันภัยจะดำเนินการฟ้องร้องคุณตามกฎหมายจนถึงที่สุดแน่นอน อาจจะโดนประกันฟ้อง ไม่จ่าย หรือโดนประกันรถยนต์ฟ้องนั่นเอง ดังนั้นคุยตกลงกันจึงเป็นผลดีมากที่สุด

• กรณีที่สามารถตกลงกันได้ ก็จะต้องมีการชดใช้ค่าเสียหายกันไปตามระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นค่าเสียเวลา ค่าขาดประโยชน์ หรือค่าเสียหายต่าง ๆ จากการใช้รถและค่าเสื่อมของรถยนต์ให้กับทางฝั่งคู่กรณีตามที่ได้มีการตกลงกันไว้
• กรณีที่เป็นการประมาทร่วม หรือเป็นการผิดด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ในกรณีนี้ทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายต่าง ๆ จากอีกฝั่งได้ แต่จะต้องรับผิดชอบความเสียหายในส่วนของตนเองเท่านั้น

1. ช่วยในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลให้โดยที่เรานั้นไม่ต้องสำรองจ่ายไปก่อน หากเกิดอุบัติเหตุที่ได้รับความบาดเจ็บทางร่างกายทั้งในฝั่งของตัวเราหรือทางฝั่งของคู่กรณีก็ตาม ทางบริษัทประกันภัยก็จะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้ตามวงเงินที่ระบุไว้ในเงื่อนไขของกรมธรรม์ เพราะถ้าหากไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ไว้ อาจจะโดนประกันฟ้อง ไม่จ่ายได้
2. ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าซ่อมแซมรถให้ทั้งทางฝั่งของตัวเราและทางฝั่งของคู่กรณี โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้อยู่ในกรมธรรม์ประกันภัย จึงหมดห่วงเรื่องโดนประกันรถยนต์ฟ้อง ไม่จ่ายได้นั่นเอง
3. มีคนคอยช่วยเหลือเราในยามฉุกเฉินหรือเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือหรือขอรับคำปรึกษาได้จากบริษัทประกันภัยได้เลย
4. ให้ความคุ้มครองเมื่อรถยนต์เราเกิดโดนโจรกรรม สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติธรรมชาติ โดยจะได้รับเป็นเงินชดเชยตามความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะไม่ได้ครอบคลุมในเรื่องของความเสียหายในด้านทรัพย์สินด้วย
5. มีรถยนต์สำรองให้ยืมใช้งานในขณะที่กำลังอยู่ในช่วงที่รถยนต์ของคุณนั้นทำการซ่อมแซมอยู่ หรือถ้าหากไม่สะดวกที่จะใช้งานก้สามารถขอเปลี่ยนเป็นรับค่าเดินทางหรือค่าน้ำมันชดเชยได้เช่นเดียวกัน แต่ก็จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ด้วย
6. ช่วยทำให้เราอุ่นใจมากยิ่งขึ้นในทุกการขับขี่ เพราะว่าจะได้รับความคุ้มครองในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จึงทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในส่วนตรงนี้ไปได้พอสมควรเลยทีเดียว และไม่ต้องกังวลว่าจะโดนประกันรถยนต์ฟ้องด้วย

โดยปกติแล้วมีแต่ พ.ร.บ. ได้เลยและไม่ผิดอะไร แต่อาจจะต้องรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตที่มากกว่าด้วย อย่างในเรื่องของค่าเสียหายก็จะต้องมีการใช้จ่ายหรือชดใช้ด้วยตนเองโดยทั้งหมด หรือโดนประกันฟ้อง ไม่จ่าย ในกรณีไม่มีเงินจ่าย ซึ่งจะแตกต่างไปจากการทำประกันภัยรถยนต์ที่จะได้รับความคุ้มครองในเรื่องของค่าใช้จ่ายด้วยนั่นเอง ดังนั้นจึงจะหมดปัญหาโดนประกันรถยนต์ฟ้องได้หากไม่มีเงินจ่าย

แน่นอนว่าจะต้องเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เพราะจากความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด อาทิเช่น

• การคุ้มครองจากเหตุการณ์ชนแบบไม่มีคู่กรณีที่จะมีเฉพาะในประกันภัยชั้น 1 เท่านั้น โดยทางบริษัทประกันภัยจะชดเชยค่าซ่อมรถให้ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
• การชดเชยค่าซ่อมแซมรถจากกรณีที่รถชนรถ โดยทางบริษัทประกันภัยจะชดเชยค่าซ่อมแซมรถให้ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ หมดปัญหาโดนประกันฟ้อง ไม่จ่าย หากเราไม่มีเงินจ่าย
• การคุ้มครองความเสียหายจากเหตุที่เกิดขึ้นทางภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม เป็นต้น ซึ่งทางบริษัทจะชดเชยค่าสินไหมให้ตามจำนวนที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
• มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งการให้คำปรึกษาและการให้ความช่วยเหลือ เช่น ออกค่าดำเนินการเคลื่อนย้ายรถยนต์ของคุณไปยังอู่ซ่อมรถหรือศูนย์ซ่อมที่อยู่ใกล้ ๆ จุดเกิดเหตุ
• ให้ความคุ้มครองหากรถยนต์ของคุณถูกโจรกรรมหรือสูญหายไปจากการชิงทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ โดยที่ทางบริษัทประกันภัยจะชดเชยค่าสินไหมให้ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
• ให้ความคุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์และทรัพย์สินของทางฝั่งคู่กรณี โดยที่ทางบริษัทประกันภัยจะชดเชยค่าซ่อมแซมรถและค่าสินไหมแทนตัวคุณตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ หมดปัญหาโดนประกันฟ้อง ไม่จ่าย หากเราไม่มีเงินจ่าย
• ให้ความคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี หากมีการได้รับบาดเจ็บใด ๆ ทางบริษัทประกันภัยจะชดเชยให้กับทางฝั่งของคู่กรณีตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
• ให้ความคุ้มครองชีวิตของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมา และทำให้มีการเสียชีวิตหรือทุพพลภาพเกิดขึ้น ทางบริษัทประกันภัยจะจ่ายเป็นเงินชดเชยให้กับครอบครัวของคุณตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
• ให้ความคุ้มครองในด้านค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เมื่อคุณได้รับบาดเจ็บในขณะที่ขับขี่รถยนต์ โดยที่ทางบริษัทประกันภัยนั้นจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามจริง ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มวงเงินค่ารักษาให้มากขึ้นจากการทำ พ.ร.บ. รถยนต์นั่นเอง
• และในบางกรณีถ้าหากว่าผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิดและถูกตำรวจจับกุมตามคดีอาญา ทางบริษัทประกันภัยก็จะมีการจ่ายเงินประกันตัวให้กับคุณตามทุนประกันที่กำหนดไว้ได้อีกด้วย