ทำความรู้จักเลขตัวถังรถยนต์
ในปัจจุบันรถยนต์กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตเดินทางไปยังจุดหมายและสถานที่ต่าง ๆ หลากหลายแบรนด์รถยนต์ชั้นนำมากมายต่างผลิตคิดค้นและออกจำหน่ายรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ให้ตลาดรถยนต์มีสีสัน ทั้งเทคโนโลยี ฟังก์ชันภายในรถ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนในปัจจุบัน ผู้คนมากมายออกมาเลือกซื้อรถคันใหม่ หรือ เปลี่ยนคันเก่าเป็นคันใหม่ หรือ บางครอบครัวอาจซื้อรถยนต์มือสองสภาพดีแทน แน่นอนว่าก่อนซื้อรถยนต์คันใหม่ มีรายละเอียดมากมายที่เราต้องศึกษาก่อนตัดสินใจ และหนึ่งในสิ่งที่คนจำนวนมากยังไม่ทราบเกี่ยวกับรถยนต์นั่นคือ เลขตัวถัง ที่ระบุอยู่ที่ตัวรถทุกคัน เราจึงควรทำความรู้จักเลขตัวถังและเข้าใจถึงความสำคัญให้มากขึ้น
เลขตัวถังมีความหมาย และ สำคัญอย่างไร ?
เลขตัวถัง คือ Vehicle IDentification Number (VIN) หรือ เลขคัสซี เป็นเลขรหัสประจำตัวของรถแต่ละคัน เปรียบเสมือนเลขบัตรประจำตัวประชาชนของเรานั่นเอง ซึ่งรถยนต์แต่ละคันจะมีเลขตัวถังไม่ซ้ำกัน โดยเลขตัวถังจะมีทั้งหมด 17 หลัก มีแค่บางรุ่นเท่านั้นที่มี 11-16 หลัก มักจะพบในรถยนต์รุ่นเก่าที่ผลิตขึ้นก่อนปี ค.ศ. 1981 เลขตัวถังประกอบด้วยตัวเลขและตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ต่างกัน แต่ละหลักจะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไปด้วย เลขคัสซีเป็นตัวยืนยันระบุตัวตนของรถได้อย่างชัดเจน และมีความหมายที่ซ่อนอยู่ในแต่ละหลักไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ สถานที่ผลิต ประเภทยานพาหนะ ปีที่ผลิต สเปคต่าง ๆ เป็นต้น ที่สำคัญเลขของตัวถังต้องตรงกับเลขในเล่มทะเบียนรถยนต์เสมอ เป็นตัวพิสูจน์ว่ารถยนต์คันนี้ผลิตและได้ลงทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เลขตัวถังยังมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมากในการต่อภาษีรถยนต์ การแจ้งเคลมประกัน หรือแม้แต่การขายโอนรถก็ตาม
เลขตัวถังรถดูตรงไหน?
เลขตัวถัง หรือ เลขคัสซีของรถยนต์อยู่ในหลายตำแหน่งแตกต่างกันออกไปแล้วแต่รุ่นของรถแบรนด์นั้น ๆ เช่น บริเวณป้ายสติกเกอร์ พรบ. รถยนต์ คู่มือรถยนต์ เล่มทะเบียนรถ บริเวณกระโปรงรถ โครงหน้ารถ ผนังด้านในห้องเครื่อง แก้มบังโคลนหน้า ใต้กระจกบังลมหน้ารถ แผงหน้าปัดรถ บริเวณประตูฝั่งคนขับ ใต้พรมฝั่งคนขับ ใต้ซุ้มล้อ ใต้ยางอะไหล่ เป็นต้น
เลขตัวถัง 17 หลัก มีความหมายอย่างไร?
เลขคัสซี หรือ เลขตัวถัง มีด้วยกันทั้งหมด 17 หลัก ในแต่ละหลักนั้นมีความหมายเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้
เลขตัวถังหลักที่ 1
หมายถึง ภูมิภาคที่ผลิตรถคันนั้นขึ้น ประกอบด้วย
- ตัวอักษร A-H คือ รถที่ผลิตขึ้นในทวีปแอฟริกา
- ตัวอักษร J-R คือ รถที่ผลิตขึ้นในทวีปเอเชีย (ยกเว้น อักษรตัว O และ Q)
- ตัวอักษร S-Z คือ รถที่ผลิตขึ้นในทวีปยุโรป
- หมายเลข 1-5 คือ รถที่ผลิตขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ
- หมายเลข 6-7 คือ รถที่ผลิตขึ้นในประเทศนิวซีแลนด์ หรือ ออสเตรเลีย
- หมายเลข 8-9 คือ รถที่ผลิตขึ้นในทวีปอเมริกาใต้
เลขตัวถังหลักที่ 2 และ 3
หมายถึง บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ เช่น R0 หมายถึง โตโยต้าประเทศไทย, RH หมายถึง ฮอนด้าประเทศไทย, NT คือบริษัทนิสสันประเทศไทย, M8 หมายถึง มาสด้าประเทศไทย เป็นต้น
เลขตัวถังหลักที่ 4 ถึง 8
ในตำแหน่งนี้บ่งบอกถึงรายละเอียดของตัวรถของแบรนด์นั้น ๆ ส่วนของรูปแบบตัวถัง ระบบเกียร์ รุ่นย่อยของรถยนต์ รูปแบบรถยนต์ และอื่น ๆ โดยจะขึ้นอยู่กับผู้ผลิตของรถแต่ละคันที่มีเลขตัวถังแตกต่างกันออกไป ดังตัวอย่างต่อไปนี้
เลขตัวถังหลักที่ 4 | ความหมาย |
3 | Van High Roof |
5 | Combi High Roof |
A | 5 - Door |
B | 3 - Door |
C | 2 - Door Coupe |
E | 3 - Door Hatchback |
F | 4 - Door Saloon |
G | 5 - Door Multi Purpose Vehicle |
L | 2 - Door Cabriolet |
N | 5 - Door Estate / Wagon / Clipper |
P | 5 - Door Hatchback |
S | 5 - Door Estate |
T | 2 - Door Saloon |
U | 5 - Door Van |
V | 2 - Door Van |
W | 3 - Door Van |
เลขตัวถังหลักที่ 9
ในตำแหน่งนี้เป็นตัวเลขการยืนยันว่าตัวถังของรถรุ่นนี้เป็นของแท้ 100% ไม่มีการปลอมแปลง ด้วยสูตรการคำนวณที่ความซับซ้อน เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเลขคัสซีรถยนต์โดยเฉพาะ
เลขตัวถังหลักที่ 10
ในหลักที่ 10 นี้ บอกถึงปีที่รถยนต์คันนี้ถูกผลิตขึ้น โดยเริ่มนับจากปี ค.ศ. 1980 ที่มีการใช้เลขของตัวถัง VIN 17 หลักเป็นครั้งแรก
- เริ่มจากการใช้ตัวอักษร A ในปีผลิต ค.ศ. 1980 ไล่ปีต่อมาจนครบ 25 ตัว และใช้ตัวอักษร Y ในปี ค.ศ. 2000
- เริ่มใช้เลข 1 ในปีผลิต ค.ศ. 2001 ไปจนถึง เลข 9 แทนปี ค.ศ. 2009
- กลับมาใช้ตัวอักษร A อีกครั้งในเลขคัสซีหลักที่ 10 แทนปี ค.ศ. 2010 และลำดับตัวอักษรมาเรื่อย ๆ จนถึงปีปัจจุบัน
เลขตัวถังหลักที่ 11
ในตำแหน่งนี้ หมายถึง โรงงานแหล่งที่ผลิตรถยนต์คันนั้น ๆ โดยแต่ละผู้ผลิตจะมีการใช้ตัวเลขหรือตัวอักษรที่แตกต่างกันออกไป
เลขตัวถังหลักที่ 12 ถึง 17
ในตำแหน่ง 12-17 นี้ คือ Serial Number ตัวเลขรันตามสายการผลิต ซึ่งตัวเลขใน 6 หลักนี้ทำให้รถแต่ละคันในโลกนั้นมีเลขตัวถังรถที่แตกต่างกันไปและไม่ซ้ำกันเลข ในส่วนของเลขทั้ง 11 ตำแหน่งก่อนหน้านี้ อาจเหมือนและซ้ำกันได้เพราะอาจเป็นรถที่มาจากรุ่นเดียวกัน ผลิตที่เดียวกัน แต่เลขตัวถังในตำแหน่ง 12-17 นี้จะไม่มีทางซ้ำกันได้เลย
ทำไมต้องเช็คเลขตัวถังรถยนต์?
เลขตัวถัง หรือ เลขคัสซีของรถยนต์มีความสำคัญอย่างมาก และเป็นสิ่งที่รถยนต์ทุกคันจำเป็นต้องมี ไม่ต่างจากเลขประจำตัวบนบัตรประชาชนหรือบนพาสปอร์ตของมนุษย์ทุกคนบนโลก เพราะเป็นสิ่งยืนยัน เป็นเครื่องการันตีการมีตัวตนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสิ่งที่ต้องสังเกตทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ โดยเฉพาะการซื้อรถยนต์มือสองนั้น เลขของตัวถังที่ปรากฏบนตัวรถ ต้องตรงกับเลขในเล่มทะเบียนรถเท่านั้น ห้ามผิดไปแม้แต่ตัวเดียว หากพบว่าเลขของตัวถังรถยนต์ที่ปรากฏในเล่มทะเบียนไม่ตรงกันกับตัวรถ เป็นไปได้ว่ารถยนต์คันนั้นโดนสวมทะเบียน หรือเป็นรถที่ถูกขโมยมาขายทอดตลาดต่อ ในปัจจุบันมีมิจฉาชีพแฝงตัวมาทุกรูปแบบ การซื้อขายรถยนต์เองก็เช่นกัน มาในรูปแบบของคนใกล้ตัวหรืออาจจะเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนแฝงตัวเข้ามา ผู้ซื้อรถจึงต้องคอยระวังรอบคอบเป็นพิเศษและตรวจเช็กอย่างละเอียดให้ดีที่สุดก่อนตกลงเซ็นสัญญาหรือก่อนโอนเงิน มิเช่นนั้นคุณจะไม่สามารถทำการโอนรถเป็นชื่อคุณได้ และยังเป็นการซื้อรถที่ผิดกฎหมาย เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย
เมื่อพบเลขตัวถังรถยนต์ไม่ตรงกับเลขในเล่มทะเบียน ต้องทำอย่างไร ?
หากพูดตามหลักความเป็นจริงและความน่าจะเป็นแล้ว การที่เลขตัวถังของรถยนต์จะไม่เหมือนกับเลขตัวถังในเล่มทะเบียนนั้น เกิดขึ้นได้ยากมาก เนื่องจากก่อนทำการโอนรถ ต้องมีการทำเรื่องและดำเนินเอกสารต่าง ๆ ที่กรมขนส่ง และจะมีการตรวจสอบในเบื้องต้นก่อนแล้ว แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่าเลขตัวถังรถยนต์ไม่ตรงกับเลขในเล่มทะเบียน อันดับแรก ผู้ซื้อควรเข้าไปเจรจาพูดคุยกับทางผู้ขายหรือทางเต็นท์รถโดยตรงเสียก่อน หากยังไม่สามารถเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ผู้ซื้อสามารถรวบรวมหลักฐานเพื่อทำการดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย ที่สำคัญควรปรึกษาทนายและยื่นฟ้องศาลเพื่อความถูกต้อง
สำหรับรถยนต์ที่มีเลขตัวถังไม่ตรงกับเลขในเล่มทะเบียน มักจะโดนสวมทะเบียนปลอม และผู้ที่ใช้รถยนต์สวมทะเบียนปลอมจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาด้วยในมาตรา 265 ที่ระบุไว้ว่า “ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท” [อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560]
และในกรณีที่ผู้ซื้อทราบดีอยู่แล้วว่า รถคันดังกล่าวมีเลขของตัวถังไม่ตรงกับเลขในเล่มทะเบียน และโดนสวมทะเบียนปลอม แต่ผู้ซื้อยังมีความ “ตั้งใจ” ที่จะซื้อรถยนต์คันดังกล่าว ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเช่นกัน ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ผู้ซื้อก็ตาม ผู้ซื้อจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานรับซื้อของโจร มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาด้วยในมาตราที่ 357 ที่ระบุไว้ว่า “ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิด ถ้าความผิดนั้นเข้าลักษณะลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอก หรือเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรับของโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อรถ โดยเฉพาะรถยนต์มือสอง ควรตรวจสอบทั้งตัวรถและเอกสารต่าง ๆ ของรถอย่างละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะเลขตัวถัง หรือ เลขคัสซีว่าต้องตามเล่มทะเบียนหรือไม่ มิเช่นนั้นอาจเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้ และอีกสิ่งสำคัญเมื่อตัดสินใจซื้อรถยนต์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์คันใหม่ หรือรถยนต์มือสองก็ตาม การให้ความคุ้มครองรถยนต์เป็นอีกปัจจัยที่จำเป็นอย่างมาก นั่นคือ การทำประกันภัยรถยนต์ เพื่อป้องกันค่าความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากคุณกำลังมองหาบริษัทที่มีความมั่นคง ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ แนะนำบริการของ แรบบิท แคร์ บริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำที่ได้รับใบอนุญาตรับรองโดย คปภ. อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มาพร้อมบริการเหนือระดับและข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย ดังต่อไปนี้
- ให้บริการด้วยพันธมิตรบริษัทประกันภัยที่ดีที่สุดในเครือกว่า 30 แห่ง
- ระบบช่วยเปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในเวลารวดเร็ว
- ซื้อประกันง่าย อนุมัติไว ผ่านระบบออนไลน์
- ราคาคุ้มค่า
- ข้อเสนอพิเศษ ส่วนลดกว่า 70%
- ระบบผ่อนชำระ นานสูงสุด 10 เดือน
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
- บริการรถยก รถลาก
- มีศูนย์ซ่อมบำรุงกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย
ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์