Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้

อ่างน้ำมันเครื่องคืออะไร และมีความสำคัญกับรถอย่างไรบ้าง?

รถมอเตอร์ไซค์นั้นจะมีหัวใจสำคัญอยู่ที่เครื่องยนต์ และการที่เครื่องยนต์จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ก็จะต้องมีอะไหล่หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ที่มีหน้าที่ที่แตกต่างกันไป และมาทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบโดยสมบูรณ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็จะมี “อ่างน้ำมันเครื่อง” ที่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของเครื่องยนต์เลยก็ว่าได้เหมือนกัน

อ่างน้ำมันเครื่องคืออะไร และอยู่ตรงไหนของมอเตอร์ไซค์?

ตัวอ่างน้ำมันเครื่องนั้นจะมีหน้าที่ในการกักเก็บน้ํามันเครื่องมอไซค์เอาไว้ เมื่อไหร่ที่เครื่องยนต์เริ่มทำงานก็จะมีการดูดเอาน้ำมันเครื่องเหล่านั้นออกไปใช้งาน โดยที่ตัวอ่างน้ำมันเครื่องนั้นจะถูกผลิตขึ้นมาให้ติดอยู่กับด้านล่างของเสื้อสูบและเป็นชิ้นเดียวกัน ซึ่งจะถูกผลิตขึ้นมาจากแผ่นเหล็กที่ถูกอัดขึ้นรูปหรืออาจจะถูกผลิตมาจากเหล็กหล่อหรืออะลูมิเนียมหล่อก็ได้ และภายในอ่างน้ำมันเครื่องก็จะมีแผ่นกั้นเอาไว้เพื่อที่จะรักษาน้ำมันเครื่องให้อยู่ที่ก้นอ่าง เวลาที่รถมีการขับขึ้นเนิน ขึ้นทางลาดชัน หรือเวลาที่มีการเหยียบเบรกรถกะทันหัน ตัวแผ่นกั้นนี้ก็จะปิดกั้นไว้ไม่ให้น้ำเครื่องไหลออกมายังภายนอกของอ่างน้ำมันเครื่อง ซึ่งโดยปกติแล้วน้ำมันเครื่องจะไหลเวียนไปยังท่อต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ จึงทำให้น้ำมันเครื่องนั้นมีการกระจายและกระเด็นไปถูกส่วนอื่น ๆ ภายในห้องเครื่อง และส่งผลทำให้น้ำมันเครื่องนั้นไปชำระล้างสิ่งสกปรก อีกทั้งยังช่วยเคลือบโลหะผนังห้องเครื่องและชิ้นส่วนอื่น ๆ จากนั้นจึงไหลไปรวมกันอยู่ที่ก้นอ่างน้ำมันเครื่องอีกครั้ง เพื่อคอยให้ปั๊มน้ำมันดูดขึ้นไปใช้งานต่อได้

อ่างน้ำมันเครื่อง หน้าที่มีทำอะไรบ้าง?

อ่างน้ำมันเครื่อง (Crank Case) จะเป็นอะไหล่ที่อยู่ตอนล่างของเครื่องยนต์ โดยตอนบนของอ่างน้ำมันเครื่องจะติดอยู่กับเสื้อสูบ ส่วนตอนล่างของอ่างน้ำมันจะเรียกว่าอ่างกักเก็บน้ำมันเครื่อง ซึ่งหน้าที่การทำงานหลัก ๆ ของอ่างน้ำมันเครื่องก็จะเป็นการเก็บน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันหล่อลื่นเอาไว้ใช้ในเวลาที่เครื่องยนต์มีการทำงาน เพราะน้ำมันหล่อลื่นเหล่านั้นจะถูกส่งไปยังส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ที่ต้องการการหล่อลื่นทั่วทั้งคันรถ เพื่อทำให้รถคันนั้นวิ่งทำงานได้ตามปกตินั่นเอง โดยที่อ่างน้ำมันเครื่องนั้นก็จะเป็นส่วนหนึ่งในระบบหล่อลื่นของเครื่องยนต์ และนอกจากนี้ยังมีปั๊มน้ำมันเครื่อง ตัวกรองน้ำมันเครื่อง หัวดูดน้ำมัน รวมไปถึงท่อต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกันอยู่ภายในระบบหล่อลื่นอีกมากมาย เมื่อเราสตาร์ทเครื่องยนต์ ปั๊มน้ำมันเครื่องก็จะเริ่มทำงาน ดูดน้ำมันหล่อลื่นที่อยู่ในอ่างน้ำมันเครื่องด้านล่างขึ้นมาผ่านทางหัวดูดน้ำมัน และผ่านไปยังท่อต่าง ๆ เพื่อมาเข้าที่ปั๊มน้ำมันและเข้าไปสู่ตัวกรองน้ำมันต่อไป และนอกจากนี้ยังมีเรื่องของน้ำมันเครื่องอีกด้วย เพราะน้ำมันเครื่องนั้นมีความสำคัญหลายอย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการที่น้ำมันเครื่องมีหน้าที่เป็นตัวทำความสะอาด โดยจะนำพาเหล่าอนุภาคขนาดใหญ่ของคาร์บอนและโลหะกลับมาสู่ก้นอ่างน้ำมันเครื่อง ส่วนอนุภาคขนาดเล็กก็จะถูกกรองออกไปด้วยตัวกรองน้ำมันหล่อลื่น

อ่างน้ำมันเครื่องแตก มีสาเหตุมาจากอะไร?

การที่อ่างน้ำมันเครื่องแตกนั้นมีได้หลายสาเหตุ โดยที่เราจะสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนจากหยดน้ำมันที่รั่วซึมออกมาใต้ท้องรถ และจะพบได้ในรถที่มีอายุการใช้งานมาก เพราะโอกาสที่อ่างน้ำมันเครื่องจะเสื่อมสภาพจนทำให้เกิดการรั่วซึมนั้นมีมาก รวมไปถึงการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้อ่างน้ำมันเครื่องแตกได้ เช่น การชนหรือการกระแทกกับสิ่งของต่าง ๆ ก็สามารถทำให้อ่างน้ำมันเครื่องแตกได้เหมือนกัน อีกทั้งในเรื่องของความร้อนที่ก็เป็นได้อีกสาเหตุหนึ่งในการทำให้อ่างน้ำมันเครื่องแตกได้ เพราะนอกจากน้ำมันเครื่องจะมีหน้าที่ทำให้อุณหภูมิของเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์เย็นลงแล้ว ตัวน้ำมันเครื่องก็จะมีการนำพาความร้อนไประบายออกที่อ่างน้ำเครื่องอีกด้วย

อ่างน้ำมันเครื่อง ราคาแพงไหม และสามารถหาซื้อได้จากที่ใดบ้าง?

ราคาของอ่างน้ำมันเครื่องรถมอเตอร์ไซค์จะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น และจะขึ้นอยู่ความจุของอ่างน้ำมันเครื่องอีกด้วย โดยจะเริ่มตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงราคาหลักหมื่น

วิธีการดูแลรักษาอ่างน้ำมันเครื่อง

ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นประจำหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก ๆ 6 เดือน เพราะถึงแม้ว่ารถมอเตอร์ไซค์จะถูกใช้งานบ่อยครั้ง หรือว่าถูกจอดทิ้งไว้นิ่ง ๆ ก็ตาม น้ำมันเครื่องก็จะไหลลงไปกองรวมกันอยู่ที่ก้นอ่าง จึงทำให้ส่วนอื่น ๆ ที่ไม่ได้สัมผัสโดนกับน้ำมันเครื่องเกิดมีสนิมขึ้นมา และเมื่อก้นอ่างมีน้ำมันไปกองรวมกันอยู่เป็นปริมาณมาก ก็จะทำให้มีสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ อยู่ภายในน้ำมันเครื่องด้วย เวลาที่กลับมาสตาร์ทรถอีกครั้ง สิ่งปนเปื้อนเหล่านั้นก็ถูกส่งเข้าไปภายในตัวเครื่องยนต์ จึงอาจจะทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายได้ และความเชื่อที่ว่าเวลาน้ำเครื่องมีสีดำนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าน้ำมันเครื่องนั้นไม่มีประสิทธิภาพ แต่เป็นเพราะว่าน้ำมันเครื่องได้ทำหน้าที่ชำระล้างสิ่งสกปรกได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้เกิดมีสีดำขึ้นมานั่นเอง แต่ถ้าน้ำมันเครื่องนั้นมีสีดำแล้วยังมีลักษณะเป็นก้อนอีก แบบนี้จะถือว่าน้ำมันเครื่องไม่มีประสิทธิภาพแล้วจริง ๆ รวมไปถึงในเรื่องของประเภทน้ำมันเครื่องนั้นก็สำคัญเหมือนกัน เพราะหลายคนอาจจะคิดว่าน้ำมันเครื่องสำหรับมอเตอร์ไซค์นั้นใช้แบบไหนก็ได้เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วเราควรที่จะเลือกประเภทของน้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับการทำงานของเครื่องยนต์ด้วย เพราะมอเตอร์ไซค์จะมีทั้งแบบเครื่องยนต์เกียร์ธรรมดา และเครื่องยนต์เกียร์ออโต้ ซึ่งการทำงานของเครื่องยนต์ทั้ง 2 แบบนี้จะแตกต่างกัน ดังนั้นน้ำมันเครื่องก็จะถูกส่งไปหล่อเลี้ยงยังบริเวณส่วนอื่น ๆ ที่แตกต่างกันออกไปด้วย

น้ำมันเครื่องรถมอเตอร์ไซค์มีกี่ประเภท?

  1. น้ำมันเครื่องแบบธรรมดา เหมาะสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานโดยทั่วไป ใช้งานไม่ค่อยหนัก ไม่ใช้ความเร็วสูง และผลิตจากน้ำมันแร่
  2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ เหมาะสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานหนักแบบทั่วไป ราคาจะสูงขึ้นมาเล็กน้อย และผลิตจากน้ำมันแร่บวกกับน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์
  3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ เหมาะสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานหนัก และเดินทางไกลอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ จึงต้องการความเสถียรของเครื่องยนต์ที่มากขึ้น น้ำมันเครื่องจึงถูกผลิตขึ้นมาจากน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานสังเคราะห์ และจะมีราคาที่สูงกว่า 2 ชนิดแรก

ถ้าหากอ่างน้ำมันเครื่องเกิดแตกหรือรั่วขึ้นมา แบบนี้ประกันจะรับเคลมไหม?

การที่บริษัทประกันภัยจะสามารถรับเคลมได้ สาเหตุของความเสียหายจะต้องมาจากอุบัติเหตุเท่านั้น เช่น รถชน รถน้ำท่วม เป็นต้น โดยจะต้องเตรียมเอกสารในการเคลมประกันภัยให้พร้อม ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ สำเนาเล่มทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ สำเนากรมธรรม์ประกันภัย สำเนาใบขับขี่ ใบเคลมที่ทางบริษัทประกันภัยออกให้ และภาพถ่ายหรือวิดีโอที่แสดงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าอ่างน้ำมันเครื่องแตกจากอายุการใช้งานหรือจากการเสื่อมสภาพของอ่างน้ำมันเครื่อง แบบนี้ก็จะไม่สามารถเคลมได้

ความคุ้มครองประกันรถจักรยานยนต์

ตารางความคุ้มครอง    
 
ผลประโยชน์ 
ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 1ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 2+ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 2ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 3+ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น 3
คู่กรณี
บุคคล ✔️✔️✔️✔️✔️
ทรัพย์สินของคู่กรณี✔️✔️✔️✔️✔️
รถของผู้เอาประกันภัย
การชนแบบมีคู่กรณี✔️✔️✔️
การชนแบบไม่มีคู่กรณี✔️
ไฟไหม้✔️✔️✔️
รถหาย✔️✔️✔️
ภัยธรรมชาติ✔️✔️✔️
ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง✔️✔️
ความคุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุส่วนบุคคล
อุบัติเหตุส่วนบุคคล✔️✔️✔️✔️✔️
การรักษาพยาบาล✔️✔️✔️✔️✔️
การประกันตัวผู้ขับขี่✔️✔️✔️✔️✔️

คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย

หากซื้อมอเตอร์ไซค์มาแล้ว ควรจะเลือกทำประกันภัยชั้นไหนดี?

ถ้าหากว่าเป็นผู้ที่กำลังจะซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่ หรือว่าจะเป็นมือใหม่หัดขับ แนะนำว่าให้สำรวจที่พฤติกรรมการขับขี่ของตัวเองก่อนว่าขับคล่องแค่ไหน จะได้เลือกซื้อประกันรถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด แต่ถ้ายังขับไม่คล่องก็แนะนำว่าให้ทำประกันภัยชั้น 1 ไว้ เพราะรถมอเตอร์ไซค์นั้นเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด ดังนั้นการมีประกันรถมอเตอร์ไซค์ไว้ก็เหมือนกับเป็นการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ซื้อประกันมอเตอร์ไซค์ผ่านแรบบิท แคร์ จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?

นอกจากแรบบิท แคร์ จะเป็นโบรกเกอร์ประกันภัยชั้นนำแล้ว นอกจากนี้ยังมีระบบเปรียบเทียบแผนประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ที่จะช่วยให้คุณเลือกได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด แต่ถ้ายังเลือกไม่ได้ก็สามารถที่จะปรึกษากับแรบบิท แคร์ ได้ที่ Care Center โทร. 1438 ที่พร้อมจะช่วยคุณค้นหาแผนประกันภัยที่ตรงใจคุณมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่รอคุณอยู่อีกเพียบ ดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของแรบบิท แคร์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา