Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้

🎵 9.9 Rabbit แจกฟรี!! หูฟัง Apple Airpods Gen 3 และ Rabbit Voucher มูลค่ารวม 12,790 บาท แค่สมัครบัตรฯ UOB ผ่าน Rabbit Care คลิก! 💳

ความหมายและความสำคัญของแร็คพวงมาลัย

ในปัจจุบันนี้ รถยนต์ส่วนใหญ่จะมีพวงมาลัยเป็นแบบพาวเวอร์ ที่ถูกพัฒนามาจากพวงมาลัยแบบเก่า จึงทำให้การขับขี่นั้นง่ายขึ้น เพราะพวงมาลัยจะเบาขึ้นมาก ทำให้ช่วยผ่อนแรงในการบังคับพวงมาลัยขณะที่เรากำลังขับรถยนต์หรือกำลังเลี้ยวรถ และด้วยความที่แร็คพวงมาลัยนั้นเป็นอะไหล่ที่มีส่วนประกอบที่ซับซ้อน เราจึงควรที่จะศึกษาและเรียนรู้เอาไว้ว่าแร็คพวงมาลัยนั้นมีส่วนประกอบหลัก ๆ เป็นอะไรบ้าง เวลาที่แร็คพวงมาลัยมีปัญหาเกิดขึ้น เราจะได้คาดคะเนถึงต้นตอของปัญหาได้ โดยพวงมาลัยรถยนต์นั้นจะมีคันส่งที่เป็นแกนพวงมาลัยอยู่ในห้องโดยสาร แล้วจะเสียบเข้ากับกึ่งกลางของพวงมาลัย โดยที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบบังคับเลี้ยวนั่นเองไม่ว่าจะหมุนไปทางซ้ายหรือหมุนไปทางขวา

แร็คพวงมาลัย คืออะไร?

กว่าที่รถยนต์ 1 คันจะถูกส่งออกไปยังตลาดเพื่อหาเจ้าของรถต่อไปนั้น ต่างก็มีส่วนประกอบที่สำคัญต่าง ๆ มากมายหลายชิ้นนับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นก็คือ “แร็คพวงมาลัย” เป็นส่วนหนึ่งของระบบบังคับเลี้ยว ซึ่งจะมีขนาดที่ใหญ่และมีลักษณะเป็นบาร์ขนานไปกับเพลาหน้า เวลาที่เราหมุนพวงมาลัยเมื่อไหร่ ตัวแร็คพวงมาลัยก็จะเลื่อนไปทางซ้ายหรือทางขวา มีหน้าที่ในการบังคับล้อรถยนต์ให้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยปกติแล้วแร็คพวงมาลัยจะมีทั้งหมด 3 ประเภท และในแต่ละประเภทก็จะมีความแตกต่างกันอยู่ที่ไดร์ฟเครื่องขยายเสียง ดังนี้

  • แร็คพวงมาลัยแบบกลไก เป็นอุปกรณ์ประเภทเริ่มต้นที่ง่ายที่สุด รถยนต์ทุกคันจะได้รับการติดตั้งแร็คพวงมาลัยแบบกลไก จนกระทั่งถึงช่วงที่มีการสร้างเครื่องขยายเสียงไฮดรอลิกและไฟฟ้าขึ้นมา จึงได้เริ่มมีพัฒนาและได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นประเภทอื่น ๆ ตามมา
  • แร็คพวงมาลัยไฮดรอลิก จะมีการเพิ่มตัวบูสเตอร์ไฮดรอลิกเข้ามา ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและการตอบสนองที่ไวขึ้น
  • แร็คพวงมาลัยไฟฟ้า มีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแทนที่จะใช้ไดร์ฟไฮดรอลิก จึงทำให้ช่วยเพิ่มการเคลื่อนที่ของแร็คพวงมาลัยมากขึ้น

แล้วแร็คพวงมาลัย ทำหน้าที่อะไร?

โดยปกติแล้วการทำงานของระบบแร็คพวงมาลัยจะมีส่วนประกอบต่าง ๆ มากมาย ได้แก่

  • คอพวงมาลัย เป็นแกนเหล็กที่คอยส่งแรงบิดจากพวงมาลัย และจะมีข้อต่ออย่างน้อยอยู่ 1 ข้อ ที่ไว้ใช้สำหรับเหตุผลทางด้านความปลอดภัย(หากรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ ในส่วนของคอพวงมาลัยจะพับหลายจุด เพื่อป้องกันการบาดเข้าที่หน้าอกของผู้ขับขี่)
  • พวงมาลัย ไว้ใช้สำหรับบังคับทิศทางของรถยนต์
  • ปั๊มพวงมาลัย เป็นปั๊มน้ำมันกลไกระบบไฮดรอลิก ทำหน้าที่เป็นตัวส่งแรงขับเคลื่อนน้ำมันพาวเวอร์ไปยังส่วนต่าง ๆ ของแร็คพวงมาลัย เพื่อให้เกิดการทำงานต่อไปได้
  • แกนแร็ค เป็นแท่งที่ติดกับปลายทั้งสองข้างของราง โดยที่ปลายของแท่งจะมีเกลียวขันเชื่อมกับไม้ตีกลอง
  • ลูกหมาก หรือลูกหมากตัวปลายแร็คพวงมาลัย จะคอยรับคำสั่งจากราวแร็คพวงมาลัย โดยการปรับมุมล้อให้เคลื่อนไหวไปตามทิศทางที่ส่งมา
  • ลิ้นควบคุม ทำหน้าที่ควบคุมทิศทางและปริมาณการไหลของน้ำมันไฮดรอลิกที่ถูกส่งมาจากปั๊มน้ำมัน

อาการแร็คพวงมาลัยเสีย จะเป็นแบบไหน?

มีได้หลายสัญญาณเตือนที่จะสามารถบ่งบอกได้ถึงความผิดปกติของแร็คพวงมาลัย และถ้าหากมีอาการเกิดขึ้นอย่างน้อย 1 อาการ ก็ควรที่จะต้องรีบแก้ไขโดยทันที ซึ่งการที่แร็คพวงมาลัยจะเสียได้นั้นมันจะต้องเกิดจากการหัก การคดงอ หรือเฟืองรูด โดยส่วนที่เสียบ่อยมักจะเป็นตัวบู๊ซปีกนก ลูกหมากคันชัก(ไม้ตีกลอง) ลูกหมากปีกนก ลูกหมากปลายแร็ค และยางรัดแร็ค ซึ่งจะมีเสียงดังออกมาเวลาที่เราเลี้ยวรถหรือขับรถขึ้นเนินหลังเต่า ถ้าเกิดปัญหาในจุดต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ก็ให้ซ่อมแค่ตรงจุดที่มีปัญหาก็เพียงพอ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วทางร้านซ่อมรถก็อาจจะให้เปลี่ยนตัวอื่นควบคู่กันไปด้วย เพราะฉะนั้นเราจึงต้องดูและพิจารณาให้ดีว่าควรจะซ่อมทั้งคู่ไปเลยไหม เพราะราคาของชิ้นส่วนต่าง ๆ นั้นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะตัวลูกหมากคันชัก(ไม้ตีกลอง) หรือถ้าหากเกิดอาการผิดปกติอื่น ๆ ตามรายการด้านล่างนี้ ก็แสดงว่าช่วงล่างเริ่มจะมีปัญหาเหมือนกัน ได้แก่

  • พวงมาลัยเริ่มหนัก หรือหนัก-เบาสลับกัน และบังคับยากมากขึ้น
  • เวลาหมุนพวงมาลัยแล้วมีเสียงดังที่ผิดปกติ
  • เวลาเลี้ยวแล้วพวงมาลัยไม่ยอมหมุนคืน
  • เริ่มมีเสียงที่ตัวแร็คพวงมาลัย
  • มีน้ำมันรั่วซึมออกมาจากแร็คพวงมาลัย
  • เวลาขับขี่ทางตรงแล้วมีเสียงดังอยู่ใต้แป้นเบรกหรือแป้นคันเร่ง
  • พวงมาลัยมีอาการสั่นผิดปกติ
  • ในรถยนต์บางคันพวงมาลัยจะมีอาการหลวม คือหมุนไวเกินผิดปกติ

การซ่อมแร็คพวงมาลัย มีวิธีการอย่างไร?

หากแร็คพวงมาลัยมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น อาจจะเป็นข้อสังเกตได้ว่าแร็คพวงมาลัยเริ่มจะมีปัญหาแล้ว เช่น เริ่มมีเสียงดังที่เกิดขึ้นจากตัวแร็คพวงมาลัย มีน้ำมันรั่วซึมออกมาจากตัวแร็คพวงมาลัย หรือการควบคุมพวงมาลัยให้ไปในทิศทางเดียวที่ลำบากขึ้น โดยวิธีการแก้ไขที่ดีที่สุดคือการซื้อชุดซ่อมใหม่หรือการเปลี่ยนแร็คพวงมาลัยนั่นเอง เพื่อให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงพอสมควร และก็จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของรถยนต์ด้วย แต่ทั้งนี้ถ้าเป็นรถยนต์ที่ใช้พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ EPS ส่วนมากจะไม่ค่อยพบปัญหาแร็คพวงมาลัยรั่วเท่าไหร่ แต่จะไปพบปัญหาแร็คพวงมาลัยแห้งแทน ซึ่งอาการเบื้องต้นก็จะคล้าย ๆ กันกับแร็คพวงมาลัยพาวเวอร์รุ่นเก่า นั่นก็คือพวงมาลัยเริ่มมีอาการหนัก-เบาสลับกัน และเริ่มมีเสียงดังผิดปกติเกิดขึ้น

การดูแลรักษาแร็คพวงมาลัยให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น

  • พยายามไม่หมุนพวงมาลัยจนสุด และไม่ค้างไว้นานเกินกว่า 5 วินาที
  • เมื่อขับรถบนผิวถนนขรุขระ ให้ลดความเร็วในการขับลง จะได้ไม่เกิดการกระแทกที่รุนแรงมากจนเกินไป
  • ไม่ควรหักเลี้ยวพวงมาลัยอย่างรุนแรง
  • หมั่นเปลี่ยนน้ำมันพาวเวอร์ตามระยะที่กำหนด
  • หลีกเลี่ยงการขับรถที่จะต้องลุยน้ำท่วมสูง
  • หมั่นตรวจสอบเช็กยางแร็คพวงมาลัยเป็นประจำ หากว่ามีการฉีกขาดให้รีบเปลี่ยนโดยทันที

หากแร็คพวงมาลัยเกิดความเสียหายขึ้นมา ประกันจะรับเคลมหรือไม่?

คำตอบคือสามารถเคลมได้ แต่จะต้องอยู่ในกรณีที่รถยนต์ทำประกันชั้น 1 เอาไว้และความเสียหายนั้นเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุหรือภัยธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งถ้าหากความเสียหายนั้นเกิดขึ้นจากการเสื่อมสภาพของการใช้งานแบบนี้จะไม่สามารถเคลมได้ เพราะประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะรับเคลมเฉพาะความเสียหายของรถยนต์ที่เกิดจากอุบัติเหตุหรือภัยธรรมชาติ ทั้งในแบบที่มีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม เช่น รถชน รถน้ำท่วม รถไฟไหม้ เป็นต้น โดยที่ทางบริษัทประกันภัยจะชดเชยเป็นค่าเสียหายให้ตามที่เกิดขึ้นจริง แต่ก็อาจจะมีการหักค่าเสื่อมสภาพของอะไหล่รถยนต์ตามสภาพการใช้งานไปด้วย แต่ก็จะมีอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการอยากจะได้รับความคุ้มครองชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์โดยเฉพาะ ก็สามารถที่จะทำประกันอะไหล่รถยนต์ควบคู่ไปด้วยก็ได้ เพียงเท่านี้จึงหมดกังวลไปได้เลย เพราะถ้าหากรถยนต์เกิดความเสียหายจากอะไรก็ตาม ก็สามารถที่จะแจ้งเคลมได้โดยที่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ความคุ้มครองรถผู้ทำประกัน
ประเภทประกันภัย
ชั้น 1
ชั้น 2+
ชั้น 2
ชั้น 3+
ชั้น 3
ชนแบบมีคู่กรณีชนแบบมีคู่กรณี
x
x
ชนแบบไม่มีคู่กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี
x
x
x
x
ไฟไหม้ไฟไหม้
x
x
รถหายรถหาย
x
x
ภัยธรรมชาติภัยธรรมชาติ
x
x
ช่วยเหลือ 24 ชม. ช่วยเหลือ 24 ชม.
x
x
x
ซื้อประกันรถยนต์   
คลิก
คลิก
คลิก
คลิก
คลิก
ความคุ้มครองอื่นๆ ครอบคลุมทุกชั้นประกัน
คุ้มครองคู่กรณี และทรัพย์สินคู่กรณี
อุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลบุคคลที่สาม
คุ้มครองชิวิตบุคคลที่สาม
คุ้มครองชีวิตผู้ขับขี่
ค่ารักษาพยาบาลตัวผู้ขับขี่
การประกันตัวผู้ขับขี่

คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย

ออกรถยนต์มาแล้ว ควรเลือกซื้อประกันภัยชั้นไหนดี?

แนะนำให้ทำประกันภัยชั้น 1 ไว้จะดีที่สุด เพราะว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดความเสียหายอะไรกับรถยนต์ เราก็สามารถที่จะเคลมได้ทั้งหมดทั้งในแบบที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รถหายก็เคลมได้ โดยที่ทางบริษัทประกันภัยจะจ่ายเป็นค่าสินไหมทดแทนให้ หากเกิดอุบัติเหตุที่จะต้องมีค่ารักษาพยาบาล ค่าความเสียหายของทรัพย์สินต่าง ๆ และค่าชดเชยการเสียสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย

ซื้อประกันรถยนต์ผ่านแรบบิท แคร์ จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?

เพราะแรบบิท แคร์ กล้าพูดได้เลยว่าคุณจะได้รับความคุ้มค่าและความอุ่นใจที่มากกว่า แถมยังมีราคาพิเศษ และยังสามารถผ่อนชำระ 0% นานถึง 1 เดือนได้อีกด้วย ไม่ว่าเป็นการผ่อนชำระด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต และเงินสด อีกทั้งยังสามารถมั่นใจและเชื่อถือได้ 100% เพราะแรบบิท แคร์ เป็นบริษัทใหญ่ในเครือของ BTS มีการรับรองความถูกต้องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) พร้อมทั้งมีประสบการณ์ในการให้บริการลูกค้ามาอย่างยาวนาน ดังนั้นที่กล่าวมาข้างต้นนี้จะเป็นสิทธิประโยชน์เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของแรบบิท แคร์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา