ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) คืออะไร? ทำไมนักลงทุนทุกคนต้องรู้จัก!
‘ตราสารอนุพันธ์’ แค่ชื่ออย่างเดียวก็ดูจะเป็นเรื่องที่แสนจะเข้าใจยากแล้ว! ฉะนั้นวันนี้แรบบิท แคร์ อยากเอาแง่มุมต่าง ๆ เกี่ยวกับอนุพันธ์ หรือ Derivative มาอธิบายให้เข้าใจง่ายและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของทุก ๆ คน ใครอยากรู้ คลิกอ่านได้เลย !
ตราสารอนุพันธ์ คือ
ตราสารอนุพันธ์ หรือ Derivative คือเครื่องมือที่ได้มาจากสินทรัพย์อ้างอิง หรือ Underlyling ของสินทรัพย์พื้นฐานที่มีคุณค่าภายในตัวอยู่แล้ว เป็นสัญญาตรงกันระหว่างสองฝ่ายซึ่งมีมูลค่าขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของราคาหรือมูลค่าของทรัพย์สินในพื้นฐาน ทรัพย์สินในพื้นฐานอาจเป็นหุ้น พันธบัตร สินค้า เงินตรา อัตราดอกเบี้ย หรือดัชนีตลาด
ตราสารเงินสด VS ตราสารอนุพันธ์
อธิบายให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ตราสารทางการเงินจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ตราสารเงินสด และตราสารอนุพันธ์ โดยตราสารเงินสด จะมีคุณค่าในตัวมันเอง หรือสามารถตีมูลค่าสามารถกับตลาดโดยตรง เช่น หุ้น พันธบัตร เงินกู้
ในขณะที่คุณค่าของตราสารอนุพันธ์ ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์อ้างอิง หรือ เรียกว่า Underlying ซึ่งถูกตีค่าเป็นอัตราดอกเบี้ยในการเข้าถึงตลาดหุ้น พันธบัตร ค่าเงิน หรือดัชนีหุ้นต่าง ๆ ฉะนั้นทั้งสองอย่างมีความเกี่ยวข้องกัน แต่ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
ตัวอย่างของตราสารเงินสด และตัวอย่างของตราสารอนุพันธ์
สมมุติ : เราตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัท ABC ตลาดหุ้นอนุมัติให้คุณได้สิทธิ์ซื้อขายหุ้นได้ แต่ไม่ได้ในราคาที่คุณต้องการ เพราะในช่วงนั้นราคาหุ้นผันผวน ขึ้นลงอย่างมาก เราจึงจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือ derivative ซื้อหุ้นบริษัท ABC ภายใต้ราคาซื้อขายไว้ล่วงหน้า (ราคาเซต) ภายในระยะเวลาที่กำหนด (วันหมดอายุ) ถ้าราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเหนือราคาเซตก่อนที่ตัวเลือกจะหมดอายุ คุณสามารถใช้สิทธิ์และซื้อหุ้นในราคาต่ำกว่าราคาเซต ซึ่งอาจทำให้คุณได้รับกำไรจากความแตกต่างของราคา อย่างไรก็ตาม ถ้าราคาหุ้นยังอยู่ใต้ราคาเซตหรือลดลง คุณไม่ต้องรับผิดชอบที่จะใช้สิทธิ์และสามารถปล่อยตัวเลือกให้หมดอายุได้ ลดความเสียหายไปสู่เงินเบี้ยประกันแรกที่จ่ายสำหรับตัวเลือก
ในตัวอย่างนี้ ตัวเลือกเรียกใช้งานเป็นตราสารอนุพันธ์เนื่องจากมูลค่าของมันได้มาจากสินทรัพย์ในพื้นฐานที่เป็นหุ้นของ บริษัท ABC ตัวเลือกให้คุณโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นโดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของหุ้นเอง
- ซึ่งการซื้อหุ้นประเภทนี้จะต้องจ่ายดอกเบี้ย หรือมีค่าธรรมเนียม ซึ่งถือเป็นค่าของตราสารอนุพันธ์นั้นเอง
- โดยมูลค่าของหุ้นที่ถูกซื้อขายกันทั่วไป จะถือว่าเป็น ตราสารเงินสด
ตราสารอนุพันธ์ มีกี่ประเภท
ต้องบอกเลยว่าปัจจุบันตลาด ตราสารอนุพันธ์ หรือ Derivative มีความซับซ้อนอย่างมาก เนื่องจากเครื่องมือทางการเงินที่มีเยอะขึ้น ซับซ้อนขึ้น โดยแต่ละอย่างก็ล้วนมีค่าธรรมเนียม หรือดอกเบี้ยในการใช้ แต่หากจะให้นิยามตราสารอนุพันธ์ออกเป็นประเภทโดยกว้าง แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่
• Options
เป็นรูปแบบของตราสารอนุพันธ์ (Derivative) ที่มอบสิทธิ์ในการซื้อขาย แต่ยังไม่ต้องตกลงที่จะซื้อขายเลย โดยเราสามารถซื้อสิทธิ์ในการซื้อหุ้นในช่วงเวลาเฉพาะเจาะจง โดยที่อาจยังไม่ต้องตัดสินใจซื้อเลยทันที เป็นช่องทางที่มอบความยืดหยุ่นในการซื้อหุ้น หรือกองทุนได้ในจังหวะ และราคาที่ต้องการ
• Futures Contracts
สัญญาฟิวเจอร์เป็นข้อตกลงในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาที่กำหนดล่วงหน้าในวันที่กำหนด ต้องใช้ความรู้และการเท่าทันตลาดเพื่อตัดสินใจซื้อหุ้นหรือกองทุนได้ถูกต้องตามวันและเวลาที่ต้องการ
• Forwards
คล้ายกับสัญญาฟิวเจอร์ Forwards เป็นข้อตกลงในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาที่กำหนดล่วงหน้าในวันที่กำหนด อย่างไรก็ตาม สัญญาฟอร์วาร์ดไม่ได้ซื้อขายบนตลาดและเป็นสัญญาที่ปรับแต่งระหว่างสองฝ่าย
• Swaps
สวอปเป็นการแลกเปลี่ยนกระแสเงินสดหรือหนี้ระหว่างสองฝ่ายภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดล่วงหน้า สวอปชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือสวอปอัตราดอกเบี้ย ที่ฝ่ายเก็งวัตถุประสงค์สลับกันชำระเงินตราหรือดอกเบี้ยคงที่เพื่อจัดการความเสี่ยงต่ออัตราดอกเบี้ย
• Contracts for Difference - CFDs
สัญญาเงินสดต่างเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นลูกหนี้เอกสารหนี้ซึ่งให้นักลงทุนพยายามทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ในพื้นฐานโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของจริง มันสะท้อนการเคลื่อนไหวราคาของสินทรัพย์และชำระผลต่างระหว่างตำแหน่งเปิดและปิด
• Exchange-Traded Notes - ETNs
เป็นหลักทรัพย์หนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินเพื่อสะท้อนผลของดัชนีหรือสินทรัพย์ในพื้นฐาน มันถูกซื้อขายบนตลาดและให้โอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่นสินค้า สกุลเงิน หรือดัชนีตลาด
• Swaptions
สวอปชันเป็นตัวเลือกบนสวอปอัตราดอกเบี้ย ที่ให้สิทธิ์แต่ไม่ใช่หน้าที่ที่จะทำการสวอปอัตราดอกเบี้ยในวันที่กำหนดล่วงหน้าตามเงื่อนไขที่กำหนด
ตราสารอนุพันธ์ ข้อดี
ตราสารอนุพันธ์ (derivative) เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับธุรกิจและนักลงทุน ที่จะช่วยให้สามารถทำให้ตลาดเงินสด หรือตลาดหุ้นเกิดสิ่งเหล่านี้ได้ :
- ล็อกราคา
- ป้องกันการเคลื่อนไหวที่ไม่เอื้ออำนวยในอัตรา
- ลดความเสี่ยง
นอกจากนี้ ตราสารอนุพันธ์ยังสามารถซื้อได้โดยใช้การกู้ยืมเงินเพื่อซื้อ ซึ่งหมายความว่านักซื้อใช้เงินยืมในการซื้อ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายต่ำลงอีกต่อไป
ตราสารอนุพันธ์ ความเสี่ยง
แต่แน่นอนว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง การลงทุนกับตราสารอนุพันธ์เองก็เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน โดยปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงทั้งหมดมีดังนี้
• ความผันผวนราคา
ตราสารอนุพันธ์มีความสัมพันธ์กับทรัพย์สินในพื้นฐาน การเคลื่อนไหวของราคาหรือมูลค่าทรัพย์สินเหล่านั้นอาจทำให้ derivative เปลี่ยนแปลง ความผันผวนนี้อาจส่งผลให้มีการสูญเสียเงินลงหรือได้รับกำไรน้อยลง
• ความเสี่ยงในการใช้ต่อรอง (Reverage)
การต่อรองในการลงทุนตราสารอนุพันธ์ อาจทำให้มีโอกาสได้รับกำไรมากขึ้น แต่ก็สามารถทำให้สูญเสียเงินมากขึ้นได้เช่นกัน เมื่อตลาดเคลื่อนไหวตรงข้ามกับทิศทางของ derivative
• ความซับซ้อนในการเข้าใจ
ตราสารอนุพันธ์ (derivative) มีโครงสร้างทางธุรกิจที่ซับซ้อน การทำความเข้าใจและการวิเคราะห์ต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจทางการเงินและตลาดที่เชี่ยวชาญ หากไม่เข้าใจอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับการลงทุนได้
• ความสูญเสียที่ไม่มีการจำกัด
การลงทุนอาจส่งผลให้เกิดความสูญเสียเงินที่ไม่มีการจำกัด โดยอาจเสียเงินมากกว่าที่ลงทุนเริ่มต้นได้ ในบางกรณี การใช้เลเวอร์เรจหรือการลงทุนบางประเภทอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียเงินที่เกินกว่าที่ลงทุนเริ่มต้นได้
การใช้งานตราสารอนุพันธ์ เหมาะกับใคร ?
เหมาะกับนักลงทุนผู้มีความเชี่ยวชาญเรื่องการเงิน คำนวณความเสี่ยงในอนาคต และเครื่องมือตราสารอนุพันธ์อย่างมาก จะต้องมีฐานความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเงินเชิงซับซ้อน นอกจากนั้นยังมีทุนทรัพย์ที่มากเพียงพอในการลงทุนที่อาจมีความเสี่ยงค่อนข้างเยอะ ซึ่งจะมีความเสี่ยงกับการลงทุนแบบทั่วไป
แต่ข้อดีของเครื่องมือ derivative จะมีประโยชน์มากในช่วงเวลาวิกฤต หรือช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง โดยหากซื้อหุ้น ณ ขณะนั้น หุ้นอาจลงดิ่งได้ทุกเมื่อ ฉะนั้นการกำหนดช่วงเวลาในการซื้อหุ้น ณ จุดที่คุ้มที่สุด จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ฉะนั้นคนอีกกลุ่มที่เหมาะในการใช้งาน derivative ก็คือคนที่อาจมีความรู้เบื้องลึกเกี่ยวกับทิศทางตลาดโลก และทิศทางของบริษัท เพื่อคาดเดาว่าเวลาไหนควรซื้อ หรือควรจขายที่สุด โดยแน่นอนว่า ความเสี่ยงเยอะ แต่ผลตอบแทนในการขายหุ้นได้ถูกต้องตามวันและเวลาที่สุด ก็จะยิ่งมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ต้องบอกเลยว่าตราสารอนุพันธ์ เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่น่าสนใจ แต่เช่นเดียวกัน ก็เป็นหัวข้อที่ซับซ้อน และจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการเงิน ก่อนที่จะเริ่มลงทุนอย่างหวังผลกำไรกับตราสารอนุพันธ์ ฉะนั้นสำหรับมือใหม่หัดลงทุนทุกท่าน ช่องทางการลงทุนนี้อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายเกินไป ขอเพียงแค่เข้าใจคอนเซ็ปต์พื้นฐานเท่านั้นอาจไม่เพียงพอ ควรไปลงทุนกับช่องทางอื่นที่เข้าถึงง่ายกว่านี้ หนึ่งในช่องทางการลงทุนที่ยอดเยี่ยม คือ ประกันสะสมทรัพย์ นอกจากจะเสริมสร้างนิสัยการอดออม ยังได้สิทธิ์คุ้มครองครอบคลุม และผลตอบแทนมากมาย สนใจคลิกเลย !
ประกันชีวิตที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ