รู้จักกับ TFEX เส้นทางสู่กำไรที่นักลงทุนไม่ควรพลาด

สำหรับผู้ที่อยากลงทุนสร้างผลกำไรให้กับตนเอง คงเคยได้ยินคำว่า TFEX (ทีเฟค) กันมาบ้าง ซึ่งการเทรด TFEX อย่างเหมาะสมก็จะเป็นอีกช่องทางที่สร้างรายได้มหาศาล ซึ่งในวันนี้เราจะมาอธิบายให้ทุกท่านทราบกับว่า TFEX คืออะไร TFEX เล่นยังไง อยากเล่น TFEX ต้องมีเงินเท่าไหร่และมีข้อดีอะไรบ้าง เพื่อเป็นคู่มือให้กับมือใหม่หัดเทรด

TFEX หรือเรียกกันว่า ทีเฟ็ค ย่อมาจาก Thailand Futures Exchange ซึ่งหมายถึง ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของประเทศไทย โดย TFEX นั้นจะมีการเทรดให้เราเลือกมากมาย เช่น ตราสารหนี้ สินค้าเกษตร ตราสารทุน สินค้าโภคภัณฑ์ ฯลฯ แต่หลัก ๆ แล้ว การเทรดที่คนไทยนิยมมากที่สุดก็คือ SET50Futures ซึ่งเป็นตราสารทุนประเภทดัชนีราคาหลักทรัพย์ โดยเป็นการรวมราคาหุ้นใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์ในไทย 50 บริษัท เช่น หุ้น ปตท, หุ้น CP ฯลฯ มาให้พร้อมเทรด ตามความเข้าใจของนักลงทุนและภาษาทางการเงิน ณ ตอนนี้ หลายคนจะตีความว่า TFEX ก็คือ SET50Futures เพราะเป็นตัวที่คนนิยมมากที่สุด

จุดเด่นและข้อดีของ TFEX

• สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง เนื่องจากสามารถซื้อก่อนแล้วขายทีหลังสำหรับกำไรขาขึ้น และขายก่อนซื้อทีหลังสำหรับกำไรขาลง
• ได้ผลตอบแทนกลับมาสูงหากสามารถวิเคราะห์ดัชนีหุ้นล่วงหน้าได้แม่นยำ
• ผู้ที่ทำการเทรด TFEX จะได้รับการยกเว้นภาษี จากกำไรที่เกิดขึ้นในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
• เป็นอีกหนึ่งตัวเซฟความปลอดภัยในพอร์ตลงทุนของคุณเมื่อตลาดผันผวน
  
  

อธิบายสถานะของ TFEX

สถานะของ TFEX ที่คุณควรเข้าใจคือ

• Long เป็นสถานะที่ควรเปิดเมื่อมองว่าตลาดจะปรับตัวขึ้น หรือเป็นสถานะที่เปิดเมื่อซื้อก่อนขาย สมมุติว่าหากคุณเล็งเห็นดัชนีราคาอยู่ที่ 800.0 และเห็นว่าจะต้องขึ้นแน่นอน ก็ให้เปิดสถานะ Long ไว้ และหากช่วงท้ายตลาด ดัชนีราคาได้พุ่งถึง 805.5 จุด ก็ให้สั่งปิดสถานะ ซึ่งจะทำกำไรให้คุณได้ 5.5 จุด นั่นเอง การเทรดแบบนี้เรียกได้อีกอย่างว่าซื้อถูกขายแพง ดังนั้นหากเราเห็นว่า TFEX มีแนวโน้มจะขึ้นก็ให้เปิดสถานะ Long ไว้
• Short เป็นสถานะที่ควรเปิดเมื่อมองว่าตลาดจะปรับตัวลง หรือเป็นสถานะที่เปิดเมื่อขายก่อนซื้อ สมมุติว่าหากคุณเล็งเห็นดัชนีราคาอยู่ที่ 800.0 และเห็นว่าเมื่อปิดตลาดราคาจะต้องลงอย่างแน่นอน ก็ให้เปิดสถานะ Short ไว้ และถ้าตอนท้ายตลาดราคาดัชนีล่วงไปถึง 795.5 จุด ก็ให้สั่งปิดสถานะ Short ซึ่งจะทำกำไรให้คุณ 4.5 จุด การเทรดแบบนี้เรียกได้อีกอย่างว่าขายแพงซื้อถูก ดังนั้นหากเราเห็นว่า TFEX มีแนวโน้มจะลงก็ให้เปิดสถานะ Short ไว้
  
  

ด้วยเหตุนี้เราจะเห็นได้ว่า TFEX จะสามารถทำกำไรได้หากคุณสามารถเก็งราคาดัชนีขาขึ้น-ขาลงถูก เป็นการทำกำไรทั้งสองทางต่างจากการซื้อหุ้นปกติที่ทำกำไรจากขาขึ้นอย่างเดียว

อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการของ TFEX ที่ระบุเกี่ยวกับรายการสินค้าที่ให้สามารถซื้อขายได้ จะมีสินทรัพย์ให้คุณซื้อขายได้ดังนี้

• ตราสารหุ้น ซึ่งประกอบไปด้วย หลักทรัพย์ และดัชนีราคาหลักทรัพย์
• สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นสินค้าที่มีมูลค่าทางตลาดโลก เช่น น้ำมันดิบ ทองคำ ทองแดง ไฟฟ้า สังกะสี ก๊าซธรรมชาติ พลาสติก เป็นต้น
• ตราสารหนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย อัตราดอกเบี้ยและ พันธบัตรของรัฐบาล
• สินค้าเกษตร เป็นสินค้าที่ผลิตจากเกษตรกรและได้รับความนิยมทางตลาด เช่น ข้าว มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา เป็นต้น
• สินค้าอัตราแลกเปลี่ยน เช่น อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทกับสกุลเงินอื่น ๆ เป็นต้น

จากจุดเด่นของ TFEX ที่ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง รวมถึงสามารถสร้างสรรค์โอกาสทำกำไรได้แม้เงินทุนจะน้อย แต่ก็มีข้อเสียคือการเทรด TFEX นั้นใช้หลักการยืมเงินโบรกเกอร์มาลงทุน ถ้าเทรดโดยไม่มีความรู้ก็จะเป็นผลเสียที่จะทำให้คุณขาดทุนหนัก TFEX จึงเหมาะกับนักลงทุนผู้มีประสบการณ์สามารถอ่านดัชนีหุ้นล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเราแนะว่าก่อนเทรดควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน ถ้าเป็นมือใหม่ควรเริ่มเทรดแบบเซฟ ๆ ไม่ประมาท คุณก็จะสามารถสร้างกำไรได้ตามที่หวังไว้

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่อยากลองเล่น TFEX เราแนะขั้นตอนสำคัญในการเล่นมาให้ดังนี้

1. เริ่มต้นศึกษาการเปิดสถานะการเปิดสถานะ Long และ Short ให้ดีเสียก่อน ตามข้อมูลที่ได้อธิบายไว้ ณ ข้อด้านบน การเทรดก็คือการเก็งกำไรดัชนีหุ้นว่าจะขึ้นหรือลง หากคิดว่าจะลงก็ให้เปิดสถานะ Short หากคิดว่าจะขึ้นก็ให้เปิด Long
2. ศึกษาการคำนวณกำไร-ขาดทุน โดย 1 จุดของ TFEX จะมีมูลค่า 200 บาท ต่อ 1 สัญญา สมมุติว่าเราเปิด 10 สัญญา และได้กำไรมา 10.5 จุด เราก็จะได้เงิน 10 x (10.5 x 200) = 21,000 บาท แต่เราขาดทุน 10.5 จุด เราก็จะขาดทุน 21,000 บาทเช่นกัน นอกจากนี้ในการเทรดจริงนั้นจะมีค่าธรรมเนียมเข้ามาเกี่ยวข้องรวมถึงภาษีที่ต้องเสียให้โบรกเกอร์ ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบริษัท
3. เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ผู้ให้บริการ ซึ่งจะเป็นบัญชี TFEX โดยเฉพาะ ไม่สามารถเปิดด้วยบัญชีหุ้นเดิมได้ โดยผู้เปิดจะต้องวางเงินหลักประกันขั้นต่ำตามที่บริษัทโบรกเกอร์กำหนด หากช่วงไหนตลาดมีการผันผวนสูงหลักประกันเงินขั้นต่ำก็อาจเพิ่มมากตาม
4. เก็งดัชนีหุ้นตามความรู้ของเรา และเลือกเปิดสถานะตามที่คาดการณ์ไว้ โดยสามารถเปิดคำสั่งซื้อขาย TFEX ผ่านเว็บไซต์หรือ Application ของบริษัทโบรกเกอร์
5. หมั่นตรวจสอบสถานะกำไร-ขาดทุน ในแต่ละวัน และเลือกเทรดอย่างไม่ประมาท พร้อมกับปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดให้เหมาะสมกับสภาพตลาด
6. หากการเทรดของคุณยังไม่สร้างผลกำไรคุณอาจแสวงหาความรู้จากกูรูต่าง ๆ หรือคอสเรียน TFEX ได้ เช่น TFEX predator

อย่างที่กล่าวไปว่าการเล่น TFEX นั้นต้องมีการเปิดบัญชีสัญญา คุณจะเปิดกี่สัญญาก็ได้ไม่จำกัด ยิ่งเปิดมากก็มีโอกาสสร้างกำไรไม่ก็ขาดทุนมากตามเป็นทวีคูณเช่นกัน ทั้งนี้การเปิดสัญญาจะต้องมีการวางเงินประกันขั้นต่ำ ซึ่งมีราคาอ้างอิงตามความผันผวนของตลาดและนโยบายของโบรกเกอร์ ทำให้การเปิดสัญญาในแต่ละช่วงเวลานั้นไม่เท่ากัน โดยอาจอยู่ที่ 10,000 บาทขึ้นไป ต่อ 1 สัญญา นอกจากนี้คุณจะต้องมีเงินหลักประกันรักษาสภาพบัญชีไว้ด้วยเหมือนเป็นการเติมเงินเข้าระบบ โดยบริษัทจะหักกำไร-ขาดทุนจากเงินรักษาสภาพบัญชี คุณควรเติมเงินรักษาสภาพในบัญชีไว้ประมาณ 5 เท่า ของเงินประกันขั้นต่ำ หากการเทรด TFEX ของคุณนั้นขาดทุนจนเงินในบัญชีเริ่มหมด ทางโบรกเกอร์ก็จะแจ้งเตือนมาให้คุณเติมเงินเข้าไปเพิ่มเพื่อรักษาสภาพบัญชีไว้ หากคุณไม่เติมหรือมีเงินในบัญชีน้อยไป ทางโบรกเกอร์อาจจะบังคับให้คุณปิดบัญชีอัตโนมัติ และต้องตามใช้หนี้หากบัญชีติดลบ ด้วยเหตุนี้เราแนะนำว่าการเปิดบัญชี TFEX ต่อ 1 สัญญาคุณควรมีเงินทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาทเผื่อไว้ต้องเติมเมื่อขาดทุน และหากยิ่งเปิดสัญญามากเท่าไหร่ก็ต้องคูณจำนวนเงินเข้าไปตามสัญญาที่เปิด

คุณสามารถเปิดบัญชี TFEX ได้ผ่านบริษัทโบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรดหลักทรัพย์ ซึ่งเราแนะนำว่าควรเลือกใช้บริการกับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง หากใครยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกบริษัทไหนดี เราขอแนะนำให้เปิดบัญชีกับ RHB หนึ่งให้ผู้ให้บริการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ชั้นนำจากประเทศมาเลเซีย มั่นใจว่าเชื่อถือได้เพราะมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ที่รับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อย่างถูกต้อง สามารถเปิดบัญชีและเทรดซื้อขาย TFEX ได้อย่างง่าย ๆ นอกจากนี้ทาง RHB ยังมีบริการข้อมูลข่าวสารและบทวิเคราะห์การเทรด TFEX ให้กับมือใหม่ทุกคนได้เข้าใจ บริหารการเงินให้กำไรด้วยการเทรดอย่างมั่นใจเลือกใช้บริการกับ RHB