ยางแท่นเครื่องคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรบ้างต่อรถยนต์?

รถยนต์ก็เปรียบเสมือนร่างกายของมนุษย์ เมื่อมีการใช้งานก็จะต้องมีการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ดังนั้นจึงต้องหมั่นดูแลรักษาและตรวจเช็กรถยนต์อยู่เสมอ เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานและเพื่อความปลอดภัยทั้งของรถยนต์และตัวผู้ขับขี่เองอีกด้วย และมีอีกหนึ่งสิ่งที่เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชื่อสักเท่าไหร่ นั่นก็คือ “ยางแท่นเครื่อง” นั่นเอง

ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ หากเกิดการเสื่อมสภาพหรือเกิดการขาดเมื่อไหร่ก็จะเป็นอันตรายและจะส่งผลต่อการขับขี่ได้ทันที ซึ่งในปัจจุบันนี้ รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่เป็นรถยนต์แบบขับเคลื่อนล้อหน้า ก็จะมียางแท่นเครื่องอยู่ 4 ตัว โดยจะมีการถูกติดตั้งไว้ที่ด้านหน้าของรถยนต์ในบริเวณใกล้กับหม้อน้ำ 1 ตัว บริเวณใกล้กับผนังห้องเครื่อง 1 ตัว

ซึ่งยางแท่นเครื่องทั้ง 2 ตัวนี้จะคอยทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์กระดกในแนวหน้าและแนวหลัง ส่วนยางแท่นเครื่องอีก 2 ตัวที่เหลือจะถูกติดตั้งไว้ใกล้ ๆ กับซุ้มล้อหน้าทั้ง 2 ข้าง(ด้านละ 1 ตัวซ้ายขวา) ในบริเวณใกล้ ๆ กับสายพานรถยนต์และเสื้อเกียร์ เพื่อทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์โยกไปข้าง ๆ แต่ในรถยนต์บางรุ่นก็จะมียางแท่นเครื่องมากถึง 5 ตัวด้วยกัน เพื่อที่จะช่วยทำให้รถนิ่งขึ้นในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานที่รอบเดินต่ำ

“ยางแท่นเครื่อง” เป็นอุปกรณ์ของรถยนต์ชนิดหนึ่ง ที่มีหน้าที่คอยดูดซับแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังหมุนอยู่ และจะคอยควบคุมไม่ให้รถสั่นตอนสตาร์ทรถ ตอนออกตัว ตอนใช้เบรก หรือว่าตอนเข้าเกียร์ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมียางแท่นเครื่องไว้ซับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้แรงสั่นสะเทือนนั้นเข้าไปภายในห้องโดยสาร เพราะมันจะไปสร้างความรำคาญให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นอย่างมาก

โดยรถยนต์ในแต่ละรุ่นนั้นก็จะมีจำนวนลูกยางแท่นเครื่องที่แตกต่างกันออกไป ส่วนมากจะมียางแท่นเครื่องทั้งหมด 4 ตัว เพื่อช่วยรองรับแรงสั่นสะเทือนจากทั้ง 4 ด้านของรถยนต์ ซึ่งถ้าหากว่ามีการใช้งานไปในระยะยาวก็จะมีการเสื่อมสภาพของยางแท่นเครื่องตามปกติ และจะสังเกตได้จากอาการที่ผิดปกติของรถยนต์

ในปัจจุบันนี้ยางแท่นเครื่องนั้นจะมีทั้งหมด 3 ประเภท คือ ยางแท่นเครื่องแบบยางสังเคราะห์ ยางแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก และยางรองแท่นครื่องแบบไฮดรอลิกที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า โดยในรถยนต์แต่ละรุ่นจะมียางแท่นเครื่องไม่เท่ากัน ดังนั้นถ้าจะเปลี่ยนก็จะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป โดยจะเริ่มต้นที่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท

ในปัจจุบันนี้ยางแท่นเครื่องนั้นจะมีทั้งหมด 3 ประเภท คือ

• ยางแท่นเครื่องที่ผลิตมาจากยางสังเคราะห์สีดำ มีราคาที่ถูกกว่าชนิดอื่น รถยนต์ส่วนมากจึงใช้ยางแท่นเครื่องชนิดนี้กัน
• ยางแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก จะเป็นกระบอกที่ภายในบรรจุน้ำมันที่มีความหนืดเอาไว้ เมื่อใช้ไประยะหนึ่งก็อาจจะมีการรั่วซึมของน้ำมันออกมาได้ และถ้าเกิดเสียก็จะต้องเปลี่ยนอย่างเดียว จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าประเภทอื่น
• ยางแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิกที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า จะทำงานโดยการใช้ระบบไฟฟ้าเป็นตัวควบคุมความยืดหยุ่น และในรถยนต์ก็จะมียางแท่นเครื่องชนิดนี้เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น คือบริเวณด้านหน้าเครื่องยนต์ที่อยู่ใกล้กับหม้อน้ำ

ปกติแล้วยางแท่นเครื่องจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 5-7 ปี หรือประมาณ 50,000 - 100,000 กิโลเมตร อาจจะเสื่อมสภาพช้าหรือเร็วนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ขับขี่ด้วย ซึ่งถ้าครบกำหนดแล้วแต่เครื่องยนต์ยังไม่แสดงอาการอะไรก็ยังไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนในทันที เพราะว่าตัวยางแท่นเครื่องอาจจะยังไม่ได้มีความเสียหายมากนัก แต่ทางที่ดีก็ควรที่จะเปลี่ยนตามกำหนดจะดีที่สุด

เราจะสามารถสังเกตได้จากในเวลาที่เราสตาร์ทรถแล้วรถเกิดการกระชากตัวอย่างแรง หรือในช่วงที่เครื่องยนต์มีรอบเดินเบา(ช่วงที่เราไม่ได้เหยียบคันเร่ง จะมีรอบเครื่องประมาณ 700-800 รอบต่อนาที) รถจะมีอาการสั่นที่ผิดปกติ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเหยียบคันเร่ง(รอบเครื่องยนต์จะสูงขึ้นเป็นประมาณ 1,000 รอบต่อนาที) อาการส่ันนั้นก็จะหายไปจนเรารู้สึกได้ทันที

ยางแท่นเครื่องถือว่าเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนสำคัญภายในรถยนต์ที่ควรจะได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีไม่ต่างจากอะไหล่ชิ้นอื่น ๆ ภายในรถยนต์ ดังนั้นจึงควรที่จะขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่ขับเร็วจนเกินไป หรือไม่ทำให้รถยนต์เกิดแรงกระแทกที่รุนแรง

หากขับไปเจอถนนเส้นทางที่ขรุขระ มีลูกระนาด หรือเป็นหลุมเป็นบ่อ ก็ควรที่จะชะลอการขับรถให้ช้าลง เพื่อที่จะได้เป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของยางแท่นเครื่องได้ในระดับหนึ่ง และถ้าหากว่ามีการใช้งานมาในระยะเวลาหนึ่งแล้ว ก็ควรที่จะเปลี่ยนยางแท่นเครื่องใหม่ ซึ่งโดยปกติแล้วตัวยางแท่นเครื่องนี้จะถูกกำหนดไว้ให้เปลี่ยนตอนที่รถวิ่งครบ 100,000 กิโลเมตร หรือขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานของแต่ละคนด้วย แต่ถ้าเมื่อใดที่รถยนต์เริ่มมีอาการที่ผิดปกติไป ก็ควรที่จะรีบไปเปลี่ยนยางแท่นเครื่องรถยนต์โดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร ซึ่งอาการผิดปกตินั้นอาจจะแสดงออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้

• เวลาเข้าเกียร์แล้วรถจะกระตุก หรือรถจะเริ่มมีอาการกระชากอย่างรุนแรง อีกทั้งรถยนต์ยังมีอาการสั่นที่รุนแรงถึงแม้ว่ารอบเดินเครื่องจะเบามากกว่าปกติก็ตาม
• ตัวถังจะเริ่มสั่นแบบผิดปกติ ซึ่งจะเป็นอาการเริ่มต้นที่เรามักจะพบได้บ่อยมากที่สุดเวลาที่ยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพ หรือยางแท่นเครื่องขาด
• เมื่อรถยนต์จอดอยู่นิ่ง ๆ และเปิดแอร์รถไว้เฉย ๆ ก็จะมีอาการสั่นผิดปกติ แบบนี้ควรจะรีบนำรถไปเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็กให้เร็วที่สุด
• มีเสียงดังอยู่ภายในห้องโดยสาร สังเกตได้จากเวลาที่เปลี่ยนจากเกียร์ D ไปเกียร์ R จะมีเสียงดังเกิดขึ้น
• รถยนต์จะเริ่มเอียง จนสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ทำให้ส่งผลต่อการขับขี่ด้วย

ทางบริษัทประกันภัยจะสามารถรับเคลมให้ก็ต่อเมื่อเป็นกรณีที่ยางแท่นเครื่องของรถยนต์นั้นเกิดความเสียหายขึ้นมาจากภัยธรรมชาติหรือจากอุบัติเหตุ เพราะถ้าหากว่าความเสียหายนั้นเกิดขึ้นมาจากการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนที่จะต้องเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาอยู่แล้ว แบบนี้ก็จะไม่สามารถเคลมได้

เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าท่านใดที่มีความต้องการจะทำประกันอะไหล่รถยนต์ไว้โดยเฉพาะ ก็สามารถที่จะเลือกทำควบคู่ไปกับการทำประกันภัยรถยนต์แบบนี้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการอยากจะรับความคุ้มครองในชิ้นส่วนของอะไหล่รถยนต์โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าเกิดว่ารถยนต์นั้นเกิดความเสียหายอะไรขึ้นมาก็จะได้อุ่นใจและหมดกังวลเพราะในส่วนนี้สามารถที่จะแจ้งเคลมได้เลย