Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้

เลือกประกันสุขภาพที่ใช่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา

เปรียบเทียบแผนง่าย
ไม่ต้องติดต่อตัวแทนขายประกัน

ข้อมูลส่วนตัวของท่านปลอดภัยแน่นอน

Health checkup program_MOBILE.png
user profile image
เขียนโดยNok Srihongวันที่เผยแพร่: Aug 08, 2023

รู้ให้ลึก! ก่อนเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพ

ในปัจจุบันเทรนด์การดูแลสุขภาพกำลังมาแรง ทำให้หลายคนหันมาดูแลสุขภาพตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น ทั้งการออกกำลังกาย การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ การทานอาหารเสริมวิตามินต่าง ๆ เป็นต้น ถึงแม้ว่าสุขภาพจะเป็นเรื่องที่เราทุกคนต่างให้ความสำคัญ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนละเลยการตรวจสุขภาพประจําปี เพราะคิดว่าตนเองมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจากการดูแลตัวเองดีอยู่แล้ว จึงคิดว่าโปรแกรมตรวจสุขภาพยังไม่มีความจำเป็น แต่รู้หรือไม่? โรคร้ายต่าง ๆ สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่แสดงอาการให้ทราบ จะดีกว่าไหมหากเรารู้ก่อน เพื่อเตรียมตัวก่อน จะได้ไม่มาพูดทีหลังว่า รู้งี้… ไปตรวจสุขภาพประจําปีตั้งแต่แรกดีกว่า!

หลากหลายโรงพยาบาลมีโปรแกรมตรวจสุขภาพให้เลือกมากมาย ในแต่ละช่วงวัยจะมีโปรแกรมตรวจสุขภาพที่แตกต่างกัน เราจึงควรศึกษาให้ดีให้รู้ลึกก่อนเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพนั้น ๆ

โปรแกรมตรวจสุขภาพสำคัญอย่างไร?

โปรแกรมตรวจสุขภาพ หรือ การตรวจสุขภาพประจําปี คือการตรวจหาสัญญาณความผิดปกติของร่างกายที่เกิดขึ้น หรืออาจซ่อนอาการไม่ปรากฎให้เห็นชัดเจน ซึ่งโปรแกรมตรวจสุขภาพจะเป็นการตรวจเฉพาะทางโดยห้องปฏิบัติการพิเศษเพื่อหาความผิดปกติ หรือความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตได้ เพื่อให้เราได้มีการเตรียมตัวการรักษาได้อย่างถูกวิธี

โปรแกรมตรวจสุขภาพ ยังช่วยวางแผนครอบครัว และการดำเนินชีวิตได้อีกด้วย เช่น หาครอบครัวมีโรคที่สามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรมที่อาจส่งต่อให้ลูกหลานในอนาคต เราจะได้เตรียมตัววางแผนการดูแลสุขภาพของตนเอง รวมไปถึงวางแผนดูแลสมาชิกภายในครอบครัวได้อย่างถูกต้อง

การมีไลฟ์สไตล์การดูแลสุขภาพที่ดี กินดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าร่างกายภายนอกจะดูแข็งแรงก็ตาม แต่ปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพได้โดยที่เราไม่รู้ตัว และอาจทำให้เกิดโรคก่อนวัยอันควร เช่น ปัญหา PM 2.5 ควันพิษบนท้องถนน สารเคมี สารก่อมะเร็งที่ตกค้างอยู่ในผักผลไม้ หรือโรคโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดในปัจจุบัน และยังมีปัญหาความเครียดสะสมจากการงาน จากการดำเนินชีวิต การพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนไม่เป็นเวลา การดื่มแอลกอฮอล์ ควันจากบุหรี่ ส่งผลทั้งต่อผู้สูบและผู้สูดดมควันโดยตรง ดังนั้น โปรแกรมตรวจสุขภาพจึงเป็นทางออกในการดูแลตัวเองและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคร้ายในอนาคตได้นั่นเอง

ก่อนตรวจสุขภาพควรเตรียมตัวอย่างไร?

ก่อนเข้าโปรแกรมตรวจสุขภาพ ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมล่วงหน้าดังต่อไปนี้

  1. ควรศึกษารายละเอียดของแต่ละโปรแกรมตรวจสุขภาพให้ละเอียด เพื่อให้ครอบคลุมและเหมาะสมกับตนเอง เช่น เพศ ช่วงอายุ รวมถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงวัยนั้น ๆ หรือขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญก่อนตรวจสุขภาพประจําปี
  2. ก่อนวันนัดตรวจสุขภาพ ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง หากพักผ่อนไม่เพียงพออาจทำให้ผลจากการตรวจคลาดเคลื่อนหรือมีค่าผิดปกติ แพทย์อาจไม่สามารถประเมินผลที่แม่นยำได้ เช่น ค่าความดันโลหิต จังหวะการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิของร่างกาย
  3. ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ใน 24 ชั่วโมงก่อนตรวจสุขภาพ เนื่องจากแอลกอฮอล์ส่งผลต่อร่างกายและอาจมีค่าบางอย่างผิดปกติ
  4. ก่อนเข้ารับโปรแกรมตรวจสุขภาพ ไม่ควรดื่มกาแฟ หรือ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ก่อนวัดความดันเป็นเวลา 30 นาที รวมถึงไม่ควรออกกำลังกาย ไม่เครียด ไม่อยู่ในอารมณ์โกรธ และควรนั่งพักก่อนวัดความดัน 5 - 15 นาที
  5. ควรงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 8 - 12 ชั่วโมง สำหรับโปรแกรมตรวจสุขภาพที่มีการตรวจหาค่าน้ำตาลในเลือด และการตรวจไขมันในเลือด ยกเว้น การตรวจหาค่าการทำงานของตับและไต การตรวจหาค่าความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ไม่จำเป็นต้องงดน้ำและอาหาร
  6. หากมีการตรวจปัสสาวะ ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ในคืนก่อนตรวจสุขภาพ
  7. ก่อนตรวจปัสสาวะ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม และขนมหวานต่าง ๆ เพราะอาจส่งผลต่อค่าน้ำตาลในปัสสาวะ ทำให้ผลตรวจสุขภาพผิดปกติ
  8. โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับผู้หญิง ไม่ควรอยู่ในช่วงก่อนหรือหลังมีประจำเดือน 7 วัน หากมีประจำเดือนควรงดตรวจสุขภาพ เพราะจะทำให้ปัสสาวะมีเลือดปนได้
  9. หากตั้งครรภ์ ควรงดการตรวจเอกซเรย์ การถ่ายภาพรังสีวินิจฉัย และควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
  10. ควรสวมใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ ในวันตรวจสุขภาพ เสื้อผ้าไม่ควรรัดแน่น หรืออึดอัด และงดใส่เครื่องประดับโลหะ

โปรแกรมตรวจสุขภาพของแต่ละช่วงวัยแตกต่างกันอย่างไร?

การตรวจสุขภาพสามารถตรวจได้ทุกวัย ในแต่ละช่วงอายุจะมีความเสี่ยงของการเกิดโรคแตกต่างกัน และมีรายละเอียดการตรวจเช็คที่ต่างกันด้วย ดังนั้นโปรแกรมตรวจสุขภาพของแต่ละช่วงอายุจึงมีความแตกต่างกัน

  • โปรแกรมตรวจสุขภาพวัยเด็ก (อายุต่ำกว่า 18 ปี) ปกติของช่วงวัยนี้จะมีความแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วย เป็นช่วงวัยแห่งการพัฒนาและเจริญเติบโต หากไม่ได้ดูแลร่างกายอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดโรคต่าง ๆ ในอนาคตได้ ควรรีบตรวจหาโรคแฝง หรือ โรคทางพันธุกรรม เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า โปรแกรมตรวจสุขภาพของวัยนี้ เจ้าหน้าที่จะตรวจร่างกายโดยรวม และ การฉีดวัคซีนตามช่วงอายุ การหาค่าน้ำหนัก BMI หรือ ค่าดัชนีมวลกาย เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อภาวะโรคอ้วนผอม ภาวะโภชนาการ การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด วัดระดับไขมันในเลือด ค่าการทำงานของตับและไต เอกซเรย์ปอด และ ตรวจปัสสาวะ เป็นต้น พ่อแม่และผู้ปกครองจึงควรตระหนักและให้ความสำคัญกับโปรแกรมตรวจสุขภาพของเด็กในช่วงนี้ ดังนั้น การตรวจสุขภาพประจําปีจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพของเด็กในอนาคตอย่างมาก

  • โปรแกรมตรวจสุขภาพวัยรุ่น (อายุ 18 - 24 ปี) เป็นช่วงอายุที่ร่างกายยังมีความสมบูรณ์แข็งแรง แต่จะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในด้านของระดับฮอร์โมน ด้านอารมณ์ ความเครียด ความวิตกกังวลต่าง ๆ ทั้งจากการเรียน การงาน รวมถึงความรัก แน่นอนว่าเมื่อสุขภาพใจไม่แข็งแรงย่อมส่งผลต่อสุขภาพกายเช่นกัน โปรแกรมตรวจสุขภาพของวัยนี้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสุขภาพด้วยการหาค่าน้ำหนักและส่วนสูงที่เหมาะสมตามวัย หากมีน้ำหนัก หรือ ค่า BMI เกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคความดัน ระดับไขมันในเลือดสูง เป็นต้น โปรแกรมตรวจสุขภาพส่วนใหญ่ในวัยนี้จึงมีการตรวจหาความเข้มข้นของเม็ดเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจระดับไขมัน หาค่าน้ำตาลในเลือด และ การทำงานของตับและไต เป็นการตรวจสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรคในอนาคต และเพื่อหาวิธีการปฏิบัติตัวในการดูแลสุขภาพหากเกิดโรคก่อนวัยอันควรได้อย่างถูกต้อง

  • โปรแกรมตรวจสุขภาพวัยทำงาน (อายุ 25 - 40 ปี) ช่วงวัยอายุ 25 - 40 ปี เป็นช่วงวัยแห่งการสร้างตัว ทุ่มเทให้กับการงานเป็นหลัก หลายคนทำงานไม่เป็นเวลา ส่งผลต่อการนอน ทำให้นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ ปัญหาจากความเครียดสะสม ปวดหัวไมเกรน อาการเมื่อยล้าจากการทำงานหนักและนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน ปัญหาออฟฟิศซินโดรม ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ทานอาหารสำเร็จรูปในเวลาเร่งรีบ หรือ ทานอาหารไม่มีประโยชน์ พฤติกรรมดังกล่าวก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคในอนาคต โปรแกรมตรวจสุขภาพของกลุ่มวัยนี้ควรตรวจสุขภาพร่างกายโดยรวมทั้งหมด รวมถึงตรวจระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ตรวจหาความเข้มข้นของเม็ดเลือด ค่าการทำงานของตับและไต และ ตรวจปัสสาวะ เป็นต้น

    จากปัจจัยทั้งภายนอกและภายใน ทำให้กลุ่มช่วงวัยนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่าย จึงควรตรวจสุขภาพประจําปีอย่างสม่ำเสมอ และควรปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี

  • โปรแกรมตรวจสุขภาพผู้หญิงเพิ่มเติม การตรวจสุขภาพประจําปีสำหรับผู้หญิงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ควรเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพผู้หญิงที่มีการตรวจระบบภายใน การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านมด้วยเครื่องดิจิตอลแมมโมแกรม และ อัลตราซาวน์เต้านมทุก 1 - 2 ปี รวมถึงการตรวจสุขภาพโดยรวมตามแต่ละช่วงอายุ

  • โปรแกรมตรวจสุขภาพผู้ชายเพิ่มเติม การตรวจสุขภาพสำหรับผู้ชายมีความจำเป็นไม่ต่างจากผู้หญิง ควรเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพผู้ชายที่มีการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก สำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์การเข้าสังคม เช่น การดื่มสุรา ปาร์ตี้ สูบบุหรี่ เป็นต้น ควรเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับการตรวจคัดกรองมะเร็งปอดเพิ่มเติม และควรตรวจสุขภาพหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และ ตรวจระบบภูมิคุ้มกันเพิ่ม หากภูมิต่ำควรฉีดวัคซีนเสริมภูมิคุ้มกันทันที และควรเข้าโปรแกรมตรวจสุขภาพโดยรวมตามแต่ละช่วงอายุด้วยทุกปี

  • โปรแกรมตรวจสุขภาพวัยกลางคน (อายุ 41 - 59 ปี) โรคที่พบบ่อยในช่วงอายุ 41 - 59 ปี ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคเก๊าท์ รวมถึงโรคร้ายแรงงอย่าง มะเร็ง เป็นต้น และช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย จึงต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพประจําปีอย่างละเอียด เช่น การตรวจหลอดเลือดและหัวใจ ระบบเลือดทั้งหมด หาความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ค่าการทำงานของตับและไต วัดระดับน้ำตาลและไขมัน ตรวจระบบคัดกรองมะเร็ง เช่น มะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง มะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด เป็นต้น

  • โปรแกรมตรวจสุขภาพผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) เป็นช่วงที่สังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ชัดเจน หลายคนเริ่มมีโรคประจำตัว สุขภาพร่างกายเริ่มถดถอยลงไปตามกาลเวลา อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ช้าลง และต้องการการดูแลมากขึ้น เช่น หัวใจ สมอง สายตา ระบบไต ระบบทางเดินอาหาร กระดูกเริ่มบางลง เข่าเริ่มทรุด ทำให้ในช่วงวัยนี้ต้องได้รับการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดและใส่ใจเป็นพิเศษ

ตรวจสุขภาพประจำปีราคาเท่าไหร่?

การตรวจสุขภาพ ราคาจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ เพศ โปรแกรมและรายการตรวจ รวมถึงสถานที่ และ เครื่องมือในการตรวจต่าง ๆ การตรวจสุขภาพ ราคาโดยประมาณจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท เช่น สำหรับช่วงอายุต่ำกว่า 30 ปี ราคาประมาณ 1,500 - 5,000 บาท ช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป ราคาประมาณ 3,000 - 7,000 บาท และ อายุ 45 ปีขึ้นไป ประมาณ 5,000 - 15,000 บาท หรืออาจมากกว่า หากเป็นโปรแกรมตรวจสุขภาพในเชิงลึก มีรายการที่ต้องตรวจพิเศษ การตรวจสุขภาพประจําปี ราคาอาจสูงถึง 70,000 บาท เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เราควรดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ทั้งเรื่องการกิน การนอน การออกกำลังกาย และเข้าโปรแกรมตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี ถึงแม้เราจะดูแลร่างกายดีมากแค่ไหน โรคภัยย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดาของชีวิต นอกจากการตรวจร่างกายแล้ว ควรมีประกันสุขภาพดีดีให้อุ่นใจ กล้าเผชิญทุกสถานการณ์ ทั้งในยามเจ็บป่วย หรือ ตรวจสุขภาพแล้วเจอโรคร้าย ประกันสุขภาพจะเป็นตัวช่วยคุ้มครองคุณเอง มองหาประกันดีดีได้ที่ แรบบิท แคร์ เพราะเราใช้ใจแคร์ดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง

ประกันสุขภาพที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ

PRUHealthcare Plus ประกันสุขภาพเหมาจ่ายPRUHealthcare Plus

เหมาจ่าย

  • จ่ายเบา ๆ เริ่มต้น 20 บาท/วัน คุ้มครองครบ
  • คุ้มครองค่ารักษา สูงสุด 500,000 บาท
  • ค่าห้องผู้ป่วยใน คุ้มครองสูงสุด 5,000 บาท/วัน
  • อายุ 20-60 ปี สมัครได้ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ
  • ตรวจพบมะเร็ง คุ้มครองสูงสุด 1 ล้าน
  • เสียชีวิตทุกกรณี คุ้มครอง 100,000 บาท
  • คุ้มครอง 2 เท่า เมื่ออยู่ ICU สูงสุด 10,000 บาท
วิริยะ คลาสสิค บาย บีดีเอ็มเอส ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุวิริยะ คลาสสิค บาย บีดีเอ็มเอส

สุขภาพและอุบัติเหตุ

  • นอนรพ.เหมาจ่าย ค่ารักษาตามจริงไม่จำกัด
  • คุ้มครองมะเร็งทุกระยะ สูงสุด 50,000 บาท/ปี
  • ค่าห้องผู้ป่วย คุ้มครองสูงสุด 6,500 บาท/วัน
  • สมัครได้ตั้งแต่ 15 วัน - 65 ปี ไม่ต้องตรวจสุขภาพ
  • คุ้มครองผู้ป่วยใน สูงสุด 800,000 บาท/ปี
  • คุ้มครอง OPD สูงสุด 2,500 บาท/วัน
  • ค่าเบี้ยเบา ไม่ต้องสำรองจ่าย รพ.ในเครือ BDMS
วิริยะ โกลด์ บาย บีดีเอ็มเอสวิริยะ โกลด์ บาย บีดีเอ็มเอส

สุขภาพและอุบัติเหตุ

  • ไม่ต้องสำรองจ่าย เบี้ยฯเริ่ม 46 บาท/วัน
  • คุ้มครองผู้ป่วยใน สูงสุด 5 ล้านบาท/ครั้ง
  • แคร์ค่าห้อง คุ้มครองสูงสุด 15,000 บาท/วัน
  • แคร์ทุกวัย สมัครได้ตั้งแต่อายุ 15 วัน
  • แคร์มะเร็ง คุ้มครองเคมีบำบัด สูงสุด 100,000 บาท
  • คุ้มครองผู้ป่วยนอก สูงสุด 2,500 บาท/วัน
  • แคร์เรื่องเงิน รพ.ในเครือ BDMS ไม่ต้องจ่ายก่อน
วิริยะ วี เบ็ทเทอร์ แคร์วิริยะ วี เบ็ทเทอร์ แคร์

สุขภาพและอุบัติเหตุ

  • สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ แคร์คนทำ
  • แคร์ทั้งปี คุ้มครองเหมาจ่าย 770,000 บาท/ปี
  • แคร์ยามนอน รพ. ค่าห้องสูงสุด 4,500 บาท/วัน
  • แคร์ทุกวัย สมัครได้ตั้งแต่อายุ 15 วัน
  • ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟู จ่ายตามจริง สูงสุด 30 วัน
  • คุ้มครองเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ 100,000 บาท
  • แคร์ภาษี ลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาท

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา