คลินิกแก้หนี้คืออะไร ช่วยแก้ปัญหาหนี้ได้อย่างไร?
จากสถานการณ์ที่ผ่านมา หนี้ครัวเรือนของประเทศไทยบ้านเรายังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง แถมเศรษฐกิจยังไม่ค่อยสู้ดีนัก ซึ่งข้อมูลภาระหนี้ครัวเรือนต่อเดือนนั้นพบว่ากว่า 40% เป็นหนี้ส่วนบุคคลสำหรับเครื่องอุปโภคและบริโภคที่เป็นการผ่อนในระยะสั้นจากบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ซึ่งเป็นภาระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ส่งผลให้ประชาชนปลดหนี้ได้ยากขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงได้ตั้งโครงการ “คลินิกแก้หนี้” ร่วมกับบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) ขึ้นมาเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาหนี้เหล่านี้ในปี 2560
ทำความรู้จัก คลินิกแก้หนี้คืออะไร?
คลินิกแก้หนี้คือหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นโดยธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกับบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของประชาชน โดยดำเนินการแทนเจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงินและผู้ประกอบการทางการเงินภายใต้เกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน นอกจากคลินิกแก้หนี้จะช่วยให้ประชาชนมีโอกาสปลดหนี้แล้ว ยังให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนเพื่อให้มีทักษะการบริหารจัดการเงินที่ดีอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ในปี 2560 คลินิกแก้หนี้เริ่มต้นจากการแก้ไขปัญหาหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของลูกหนี้รายย่อย เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินได้แบบครบวงจรในที่เดียว โดยในระยะที่ 1 นี้มีธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมทั้งหมด 16 แห่ง
ต่อมาในปี 2562 คลินิกแก้หนี้ได้ขยายขอบเขตให้รวมผู้ประกอบการ Non-bank 19 แห่ง เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลแบบครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยรวมหนี้บัตรที่มีเจ้าหนี้ตั้งแต่ 2 รายขึ้นไปและลูกหนี้ที่ไม่ถูกดำเนินคดีหรือหนี้อยู่ในกระบวนการตัดสินของศาล
จากนั้นในปี 2563 คลินิกแก้หนี้จึงได้ขยายขอบเขตเพิ่มเติมให้รวมหนี้บัตรที่มีเจ้าหนี้รายเดียวและหนี้บัตรที่มีคำพิพากษาแล้ว รวมทั้งปรับปรุงคุณสมบัติผู้เข้าโครงการจากเดิมต้องมีหนี้บัตรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก่อน 1 มกราคม 2562 มาเป็น 1 มกราคม 2563
ปัจจุบันในปี 2565 ตามรายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย คลินิกแก้หนี้ได้ปรับปรุงคุณสมบัติผู้เข้าโครงการจากเดิมต้องมีหนี้บัตรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นก่อนวันที่ 1 กันยายน 2565 เพื่อรองรับหนี้เสียรายใหม่ รวมถึงปรับทางเลือกการปรับโครงสร้างหนี้เป็น 3 ทางเลือก
ปัจจุบันคลินิกแก้หนี้ มีสมาชิกเป็นธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน Non-bank รวมกันทั้งหมด 33 แห่ง
คลินิกแก้หนี้จะช่วยแก้ปัญหาหนี้ได้อย่างไรบ้าง?
บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM ดำเนินการในฐานะคลินิกแก้หนี้โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการช่วยเจรจาและรวมหนี้ทั้งหมดมาไว้ที่เดียวในกรณีที่ลูกหนี้มีหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลจากเจ้าหนี้หลายรายและต้องการปลดภาระหนี้ทั้งหมด ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกหนี้โดยเพียงแค่ติดต่อคลินิกแก้หนี้ที่เดียว ก็สามารถเจรจากับเจ้าหนี้ทุกรายแทนลูกหนี้ได้
จากนั้นคลินิกแก้หนี้จึงให้คำแนะนำและปรับโครงสร้างหนี้ โดยลูกหนี้จะต้องผ่อนเฉพาะเงินต้น (หากผ่อนครบตามสัญญาจะได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยที่ค้างอยู่เดิมทั้งหมด) โครงสร้างหนี้ที่ผ่อนปรนเป็นพิเศษจะมีดอกเบี้ยต่ำเพียง 3-5% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยของบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 16-25% และสามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุด 10 ปี ซึ่งหากผ่อนแบบปกติอาจมีระยะเวลาผ่อนชำระสั้นกว่า
การให้ระยะเวลาผ่อนชำระนานจะช่วยให้ยอดที่ต้องผ่อนต่อเดือนไม่สูงมากนัก เช่น ถ้ามีหนี้ 1 แสนบาท ยอดผ่อนต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 1,200 บาทเท่านั้น และเมื่อผ่อนชำระเสร็จสิ้นตามสัญญาแล้ว ก็จะไม่ต้องเสียดอกเบี้ยที่ค้างชำระอยู่เดิมทั้งหมด คลินิกแก้หนี้จึงเป็นทางเลือกในการปลดหนี้ที่มีประสิทธิภาพทางหนึ่ง
บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ภายใต้กำกับของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน SAM มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่บริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (Non-performing loan : NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (Non-performing asset : NPA) มาตั้งแต่ปี 2543 จึงเป็นหน่วยงานรัฐที่มีความพร้อมในการดำเนินงานโครงการคลินิกแก้หนี้ เนื่องจากมีทีมที่มีความรู้และทักษะในการแก้ไขหนี้พร้อมประสบการณ์ยาวนานกว่า 17 ปี
ข้อดีข้อเสียของคลินิกแก้หนี้มีอะไรบ้าง?
ข้อดีของคลินิกแก้หนี้มีดังนี้
- รวมหนี้เสียจากสินเชื่อและบัตรทุกใบไว้ที่เดียว
- ดอกเบี้ยต่ำเพียง 3-5% ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยของบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันอย่างมาก
- ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 10 ปี
- หากไม่สามารถจ่ายค่างวดได้เต็มจำนวน จะไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้และไม่เสียประวัติในฐานข้อมูลเครดิต
- ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ
- สามารถนำยอดหนี้บัตรเครดิตเฉพาะบัตรที่เป็นหนี้เสียทุกใบมาเข้าร่วมโครงการได้ โดยมียอดหนี้เงินต้นคงค้างไม่เกิน 2 ล้านบาท
- สามารถชำระเพิ่มในแต่ละงวดได้ ซึ่งจะช่วยให้ปิดหนี้ได้เร็วกว่ากำหนดโดยไม่มีค่าปรับหรือค่าธรรมเนียม
- หากรายได้ไม่เพียงพอสามารถนำรายได้ของผู้อื่นมาช่วยผ่อนได้
ข้อจำกัดของคลินิกแก้หนี้มีดังนี้
- ต้องเป็นหนี้บัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ หรือ Non-bank ที่เข้าร่วมคลินิกแก้หนี้เท่านั้น ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลจะต้องเป็นแบบไม่มีหลักประกันและไม่มีผู้ค้ำประกันจึงจะเข้าร่วมได้
- จะไม่สามารถก่อหนี้ใหม่ได้ในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่เข้าร่วมโครงการ
- ไม่สามารถแก้หนี้หรือสินเชื่อบ้านได้
- ไม่สามารถแก้หนี้นอกระบบได้
ใครที่สามารถเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ได้บ้าง?
คุณสมบัติของผู้ที่สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้มีดังนี้
- เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้และมีอายุไม่เกิน 65 ปี
- มีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก่อนวันที่ 1 กันยายน 2565
- เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ
- มีหนี้รวมกันแล้วเงินต้นไม่เกิน 2 ล้านบาท
ธนาคารไหนที่เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้บ้าง?
ธนาคารพาณิชย์ 13 แห่ง ได้แก่
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด
- ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารออมสิน
หมายเหตุ: ธนาคารกรุงไทย อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนการเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้
Non-Bank จำนวน 18 แห่ง ได้แก่
- บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด
- บริษัท เจนเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด
- บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด
- บริษัท เทสโก้ คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด
- บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
- บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ซิตี้คอร์ปลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด*
- บริษัท พรอมิส (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล จำกัด
- บริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ไอทีทีพี จำกัด
- บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
- บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
- บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด
- บริษัท แมคคาเล กรุ๊พ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
- บริษัท นครหลวง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
จะเห็นได้ว่า โครงการคลินิกแก้หนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาหนี้เสียจากบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันได้อย่างครอบคลุมและเปิดโอกาสให้สามารถผ่อนชำระหนี้ในระยะเวลาที่ยาวนาน จึงเป็นทางเลือกสำหรับบุคคลที่มีปัญหาด้านหนี้สิน หากใครสนใจสมัคร สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไชต์ของคลินิกแก้หนี้หรือติดต่อ Call Center ที่ 1443