โดนใบสั่งออนไลน์จ่ายค่าปรับที่ไหน? เช็กใบสั่งย้อนหลังทำอย่างไร?
ใบสั่งออนไลน์ หรือใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ คือใบสั่งจราจรที่กล้องวงจรปิด (CCTV) จับภาพการกระทำความผิดในระหว่างขับขี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถในที่ห้ามจอด ปาดคอสะพาน ผ่าไฟแดง ทับเส้นทึบ หรือขับรถเร็ว และจัดส่งใบสั่งออนไลน์มาให้ที่บ้านผ่านทางไปรษณีย์
แต่ปัญหาสำคัญที่หลายคนเจอเมื่อโดนใบสั่งออนไลน์ คือ ทำใบสั่งปรับหาย ลืมใบสั่ง หรือแม้กระทั่งไม่รู้ว่าโดนใบสั่งจราจรออนไลน์ด้วยซ้ำ ทำให้อาจมีใบสั่งปรับค้างจ่ายโดยไม่รู้ตัว และส่งผลให้ต่อภาษีรถยนต์ประจำปีไม่ได้ หากไม่ได้จ่ายค่าปรับจราจรตามใบสั่ง แรบบิท แคร์ รวบรวมวิธีตรวจเช็กใบสั่งปรับจราจรออนไลน์ย้อนหลัง พร้อมช่องทางจ่ายค่าปรับออนไลนง่าย ๆ มาฝากกัน
ค่าปรับจราจรคืออะไร ทำไมทำผิดแล้วต้องจ่าย?
ค่าปรับจราจร คือ ค่าปรับกรณีกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่หรือการจราจรตามที่กฎหมายกำหนดขึ้นมาเพื่อบังคับผู้ขับขี่ให้ทำตามกฎและสัญลักษณ์จราจร และให้ใช้ถนนร่วมกันได้โดยไม่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งแน่นอนว่าหากใครทำผิดกฎจราจรก็ต้องมีการคาดโทษ ซึ่งก็คือค่าปรับจราจรนั่นเอง โดยที่ตำรวจจราจรจะเป็นผู้ที่ออกใบสั่งให้กับผู้ขับที่กระทำความผิด ส่วนค่าปรับนั้นจะต้องจ่ายโดยอ้างอิงกับการกระทำความผิดนั้น ๆ ยิ่งกระทำความผิดร้ายแรงหรือมีความเสี่ยงอุบัติเหตุสูง ก็มีแนวโน้มที่จะจ่ายค่าปรับจราจรมากขึ้นตามมานั่นเอง
การทำความผิดตามกฎจราจรนอกจากจะต้องเสียค่าปรับจราจรแล้ว ผู้ขับยังต้องถูกตัดแต้มใบขับขี่ตามมาด้วย หากถูกตัดแต้มมากก็จะมีผลต่อการต่อใบขับขี่ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นอาจมีโทษจำคุกหากกระทำความผิดในข้อหาที่มีความเสี่ยงสูงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่ ทางที่ดีแล้วเราขอแนะนำว่าให้คุณทำตามกฎหมายจราจรรวมถึงทำตามสัญลักษณ์จราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เสียค่าปรับจราจร (ซึ่งมีแนวโน้มแพงขึ้นทุกวัน ไม่ใช่ว่าจ่ายไป 100-200 แล้วจบเหมือนแต่ก่อนแล้ว) รวมถึงเป็นการสร้างวินัยที่ดีในการขับขี่ และการสร้างความปลอดภัยร่วมกันบนท้องถนนด้วย
ค่าปรับจราจรล่าสุด ผิดแบบไหนต้องจ่ายเท่าไหร่?
- ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถยนต์ มีค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับรถ ทั้งคนขับและคนนั่งทุกตำแหน่ง มีค่าปรับไม่เกิน 5,000 บาท
- จอดรถยนต์/มอเตอร์ไซค์ บนทางเท้าสาธารณะ มีค่าปรับไม่เกิน 500 บาท
- ขับรถยนต์/มอเตอร์ไซต์ บนทางเท้าสาธารณะ มีค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- ขับรถยนต์แซงคันหน้าบริเวณพื้นที่ห้ามแซง (เส้นทึบ) มีค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- หยุดรถล้ำเส้นบริเวณสี่แยกไฟแดง มีค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- จอดรถยนต์ทับเส้นทางม้าลาย มีค่าปรับจราจรไม่เกิน 500 บาท
- ไม่ได้ให้สัญญาณไฟขณะเปลี่ยนเลนวิ่ง มีค่าปรับไม่เกิน 500 บาท
- ผ่าสัญญาณจราจร ไฟแดง/ไฟเหลือง มีค่าปรับไม่เกิน 1000 บาท
- กลับรถยนต์ในพื้นที่ห้ามกลับรถ มีค่าปรับจราจรไม่เกิน 1000 บาท
- ขับรถยนต์ในช่องทางพิเศษ เช่น ช่องทางเดินรถเฉพาะรถประจำทาง มีค่าปรับไม่เกิน 500 บาท
- ฝ่าฝืนเลี้ยวซ้าย/เลี้ยวขวาตรง แยกโดยไม่มีป้ายเลี้ยวผ่านตลอดกำกับ มีค่าปรับไม่เกิน 500 บาท
- หยุดรถยนต์คร่อมพื้นที่เส้นทแยงเหลือง (พื้นที่บริเวณปากซอย) มีค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- หยุดรถทับเส้นทางม้าลาย มีค่าปรับไม่เกิน 500 บาท
- ขับย้อนศร มีค่าปรับจราจรไม่เกิน 500 บาท
- จอดรถในที่ห้ามจอด และจอดกีดขวางทางจราจร มีค่าปรับไม่เกิน 500 บาท
ตรวจสอบใบสั่งออนไลน์ค้างจ่ายได้ที่ไหน?
สำหรับใครที่ต้องการตรวจเช็คใบสั่งออนไลน์ย้อนหลังที่ยังไม่ได้จ่าย ได้รับใบสั่งแต่ทำใบสั่งหายไปแล้ว หรือต้องการตรวจสอบว่าตัวเองโดนใบสั่งโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ สามารถทำได้ตัวเองง่ายๆ ด้วยตัวเองผ่านทั้งเว็บไซต์ตรวจสอบใบสั่งจราจรออนไลน์ ตู้บริการตรวจสอบข้อมูลของภาครัฐ หรือติดต่อสอบถามกับหน่วยงานที่ดูแลและจัดการเรื่องใบสั่งจราจรโดยตรง มีช่องทางในการเช็กใบสั่งจราจรค้างจ่ายได้ดังนี้
เว็บไซต์ตรวจใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน
สามารถตรวจสอบใบสั่งความเร็วออนไลน์ได้ด้วยตัวเองที่หน้าเว็บไซต์ “ใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน” (https://ptm.police.go.th/) โดยต้องลงทะเบียนด้วยข้อมูลบัตรประชาชน ข้อมูลรถที่ครอบครอง และข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ให้เรียบร้อยก่อนเข้าใช้งานระบบตรวจสอบ
หลังจากนั้นระบบจะเเสดงข้อมูลใบสั่งที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเลขที่ใบแจ้ง ทะเบียนรถ วันที่กระทำผิด หน่วยงานที่ออกใบสั่ง และค่าปรับ พร้อมกับสามารถเลือกจ่ายใบสั่งจราจรออนไลน์ผ่านบัตรเครดิตได้ทันทีพร้อมกันสูงสุด 10 ใบสั่ง
นอกจากนั้นแล้ว ยังสามารถเลือกดาวน์โหลดแบบฟอร์มโต้แย้งข้อกล่าวหาตามใบสั่งปรับที่ได้รับได้ ไม่ว่าจะโต้แย้งใบสั่งด้วยเหตุผลรถหาย หรือรถถูกขายไปก่อนเกิดเหตุแล้ว หรือแม้กระทั่งไม่ได้เป็นผู้ขับขี่ในวันและเวลาเกิดเหตุดังกล่าวได้อีกด้วย
ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ (Government Smart Kiosk)
สามารถตรวจสอบใบสั่งจราจรออนไลน์ย้อนหลังได้ผ่านตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ (Government Smart Kiosk) โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) ที่มีตั้งให้บริการอยูทั่วประเทศมากถึง 77 จุดบริการ
เพียงสอดบัตรประชาชนที่ช่องสอดบัตรของตู้ เลือกเมนู "บริการอื่นๆ" จากนั้นเลือกเมนู "ตรวจสอบ" และ "ตรวจสอบใบสั่ง" หน้าจอจะแสดงผลรายละเอียดใบสั่ง และสามารถสั่งพิมพ์ใบสั่งออนไลนื และนำสลิปข้อมูลรายการใบสั่งค่าปรับที่ได้รับจากตู้บริการฯ ไปชำระค่าปรับตามช่องทางที่สะดวกได้ทันที
กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจจราจร
สำหรับใครที่ไม่สะดวกเช็กใบสั่งค่าปรับจราจรด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์ตรวจสอบ E-Ticket หรือต้องการขอคัดสำเนาใบสั่งเพื่อนำไปชำระ อาจเลือกวิธีติดต่อกองกำกับการ 4 กองยังคับการตำรวจจราจร (Traffic Police) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบศูนย์ควบคุมการจราจรและงานเทคนิคการจราจรโดยตรง
โดยสามารถติดต่อเพื่อขอคัดสำเนาใบสั่งออนไลน์ที่ทำหายได้ที่ กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจจราจร เลขที่ 123 หมู่ที่ 2 ถนนวิภาวดี แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 02-5153166-67 หรือโทร. 1197 ในวันและเวลาราชการ
ค่าปรับใบสั่งออนไลน์ จ่ายที่ไหนได้บ้าง?
ใบสั่งค่าปรับจราจรที่สามารถจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือช่องทางจ่ายค่าปรับจราจรอื่นๆ ที่ไม่ใช่การไปจ่ายที่สถานีตำรวจด้วยตัวเอง เช่น การจ่ายค่าปรับจราจรที่เซเว่น หรือตู้ ATM ได้นั้น จะต้องเป็นใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ หรือการโดนใบสั่งค่าปรับจราจรจากการกระทำผิดกฎจราจรที่บันทึกโดยระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่จัดส่งไปที่บ้านเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นใบสั่งจากกล้องจราจร ใบสั่งแบบเล่มที่ไม่ถูกยึดใบขับขี่ หรือใบเตือนทุกชนิดที่มีบาร์โค้ดและเครื่องหมาย PTM (Police Ticket Management) รวมถึงใบสั่งที่มีข้อความระบุว่า “สามารถชำระได้ที่ช่องทางของธนาคารกรุงไทย”
ซึ่งใบสั่งประเภทข้างต้นจะสามารถจ่ายค่าปรับความเร็วผ่านช่องทางออนไลน์ได้ แต่หากเป็นใบสั่งแบบทั่วไปที่เขียนด้วยลายมือจะไม่สามารถชำระค่าปรับผ่านช่องทางออนไลน์ได้ มีช่องทางที่สามารถจ่ายค่าปรับใบสั่งออนไลน์ได้มีดังนี้
- เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย (KTB) ทุกสาขาทั่วประเทศ (ค่าธรรมเนียม 20 บาท)
- ตู้ ATM และ ADM (ตู้รับฝากเงินสดอัตโนมัติ) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ทั่วประเทศ (ค่าธรรมเนียม 15 บาท) KTB netbank (Internet Banking) (ค่าธรรมเนียม 15 บาท)
- แอปฯ Krungthai NEXT (ไม่มีค่าธรรมเนียม) ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ (ค่าธรรมเนียม 15 บาท)
- เคาน์เตอร์เซอร์วิสของ 7-11 (Counter Service) (ค่าธรรมเนียม 20 บาท)
- เคาน์เตอร์ CenPay ในเครือ CENTRAL Group (ค่าธรรมเนียม 20 บาท)
- ตู้บุญเติม (ยกเว้นตู้บุญเติมหน้า 7-11)
- หน่วยบริการรับชำระค่าปรับตามใบสั่งที่มีเครื่องหมาย PTM (Police Ticket Management)
- สถานีตํารวจที่ออกใบสั่ง หรือสถานีตํารวจท้องที่ทั่วประเทศ
ไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งออนไลน์จะเป็นอะไรหรือเปล่า?
กรณีโดนค่าปรับจราจร เมื่อมีการทำผิดกฎหรือสัญลักษณ์จราจร ตำรวจจราจรจะออกใบสั่งและให้ไปเสียค่าปรับตามเวลาที่กำหนด หากไม่จ่ายค่าปรับจราจรภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบสั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะ ออกใบเตือนให้ไปชำระค่าปรับภายใน 15 วัน หากคุณยังเพิกเฉยต่อไป การเตือนก็จะรุนแรงขึ้นเป็นการออกหมายเรียกเพื่อให้มาชี้แจงว่าทำไมไม่จ่ายค่าปรับ และถ้าคุณยังคงเพิกเฉยต่อไม่มาตามหมายเรียก 2 ครั้งโดยไม่มีเหตุอันสมควรคุณจะถูกหมายจับตามมา จากโทษแค่จับปรับปกติก็จะกลายเป็นโทษทางอาญาแทน
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรก็ทำหนังสือแจ้งต่อไปยังกรมขนส่งให้ระงับการต่อภาษีรถยนต์ของเราด้วย มีแต่เสียกับเสียแบบนี้ทางที่ดีควรจ่ายค่าปรับจราจรแต่แรกย่อมดีกว่าปัญหาจะได้ไม่บานปลาย
เสียค่าปรับจ่ายล่าช้าเพิ่ม
กรณีที่ไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งจราจรออนไลน์ตามเวลาที่กำหนด หรือตามที่ได้ระบุไว้ในใบสั่ง จะมีค่าปรับล่าช้าเพิ่มสูงสุด 1,000 บาท และหากมีใบสั่งค้างชำระและเกินระยะเวลาจ่ายค่าปรับที่กำหนดหลายใบ อาจถูกปรับล่าช้าย้อนหลังทุกใบอีกด้วย
เสียค่าปรับไม่แสดงป้ายภาษี
แม้ว่าจะสามารถชำระภาษีรถยนต์ประจำปีได้ในกรณีที่มีใบสั่งออนไลน์ค้างจ่ายอยู่ เเต่จะไม่ได้รับหลักฐานการเสียภาษีรถยนต์ประจำปีตามปกติ แต่จะได้รับหลักฐานการเสียภาษีประจำปีชั่วคราวที่มีอายุ 30 วันแทน เพื่อนำไปใช้จ่ายค่าปรับที่ค้างชำระอยู่ให้เรียบร้อยก่อน และนำใบเสร็จกลับมารับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี หรือป้ายภาษี (ป้ายสี่เหลี่ยมติดหน้ารถ)
แต่หากยังไม่ชำระใบสั่งออนไลน์ที่ค้างชำระอยู่ และไม่ได้ไปเปลี่ยนป้ายภาษีตามที่กำหนด จะถือว่ามีความผิดจากการขับขี่รถโดยไม่แสดงเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีหรือป้ายภาษีรถยนต์ ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 11 และมาตรา 60 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ถูกอายัดใบขับขี่
หากเคยโดนยึดใบขับขี่ และไม่ได้ไปเสียค่าปรับตามใบสั่งจราจรเพื่อขอรับใบขับขี่คืน สามารถเข้าทดสอบเพื่อขอรับใบขับขี่ใหม่ได้ เเต่จะไม่สามารถรับใบขับขี่ใหม่ได้ทันที รวมถึงจะไม่สามารถแจ้งความใบขับขี่หายเพื่อทำใบขับขี่ใหม่ได้
เนื่องจากจะยังมีรายชื่อค้างจ่ายใบสั่งอยู่ในระบบของกรมการขนส่งทางบกแม้ว่าจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม ทำให้ใบขับขี่ถูกอายัด และต้องชำระค่าปรับตามใบสั่งที่ค้างอยู่ให้เรียบร้อยก่อนเพื่อถอนอายัดใบขับขี่ อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันจะยังให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถในกรณีที่ต้องการเคลมประกันในขณะที่ถูกยึดใบขับขี่
ถูกออกหมายจับ
หากยังไม่จ่ายใบสั่งปรับออนไลน์ และยังกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการออกหมายเรียกให้มาชำระค่าปรับใบสั่งที่ค้างอยู่ก่อน เเต่หากเจ้าของที่โดนใบสั่งยังเพิกเฉย เจ้าหน้าที่จะพิจารณาออกหมายจับ และส่งฟ้องศาลต่อไปทันที
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีช่องทางอำนวยความสะดวกในการจ่ายค่าปรับจราจรที่เข้าถึงง่ายมากขึ้น แต่จากสถิติตัวเลขใบสั่งจราจรที่ไม่ได้จ่ายในปี 2563 ที่ผ่านมา พบว่ามียอดค้างจ่ายสูงถึง 13 ล้านบาท หรือคิดเป็น 82.20% ของใบสั่งทั้งหมด ทำให้ในปัจจุบันเริ่มมีการพูดถึงมาตรการลงโทษ ทั้งในส่วนของโทษจับและปรับที่เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากการไม่ให้ต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้ทันทีตามปกติ หากมีค่าปรับจากใบสั่งจราจรออนไลน์ที่ค้างชำระอยู่
แรบบิท แคร์ พร้อมดูแลทุกการเดินทางด้วยประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ พ.ร.บ. จากทุกบริษัทชั้นนำที่มีให้เลือกครบจบในที่เดียว ทุนประกันสูง เบี้ยถูกพิเศษ พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 70% และบริการเสริมเฉพาะลูกค้าที่เลือกซื้อประกันภัยรถยนต์กับ แรบบิท แคร์ ฟรีทันที ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ไม่ว่าจะเป็นบริการความช่วยเหลือฉุกเฉินทางถนน (Roadside Service) บริการแจ้งเคลมออนไลน์ และบริการประสานงานแจ้งเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทั้งทาง Care Center โทร. 1438 หรือ LINE Official Account (@rabbitcare)
เปรียบเทียบพร้อมรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และเลือกซื้อประกันกับ แรบบิท แคร์ เพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้แล้วตั้งเเต่วันนี้ โทรเลย. 1438
ไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งออนไลน์ ประกันรถยนต์ยังคุ้มครองหรือไม่
การไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งออนไลน์จะไม่ส่งผลโดยตรงต่อความคุ้มครองของประกันรถยนต์ กล่าวคือ ประกันรถยนต์จะยังคงคุ้มครองอยู่ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1, ชั้น 2+, ชั้น 3+ หรือชั้น 3 ก็ตาม แต่สิ่งที่ควรทราบเพิ่มเติมมีดังนี้
1. ผลกระทบทางกฎหมาย
หากไม่ชำระค่าปรับใบสั่ง จะมีผลต่อสถานะทางกฎหมาย เช่น การค้างชำระค่าปรับอาจส่งผลให้ไม่สามารถต่อทะเบียนรถได้ เนื่องจากกรมการขนส่งทางบกจะตรวจสอบประวัติการชำระค่าปรับก่อนการต่อทะเบียน
หากทะเบียนรถหมดอายุและไม่สามารถต่อได้ การขับรถโดยไม่มีการต่อทะเบียนจะผิดกฎหมาย และในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันอาจปฏิเสธความรับผิดชอบบางส่วนหรือทั้งหมด เนื่องจากรถไม่ได้อยู่ในสภาพที่ถูกต้องตามกฎหมาย
2. ผลต่อการเคลมประกัน
หากเกิดอุบัติเหตุและมีการเรียกตรวจสอบเอกสาร เช่น ใบขับขี่หรือเอกสารการจดทะเบียนรถ และพบว่าคุณมีใบสั่งที่ค้างชำระหรือทะเบียนรถไม่ได้ต่ออายุ ประกันยังคงต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
แต่หากมีการไม่ต่อทะเบียนรถ (เนื่องจากไม่สามารถต่อทะเบียนได้จากการค้างชำระค่าปรับ) แล้วขับขี่จนเกิดอุบัติเหตุ ประกันอาจใช้เงื่อนไขนี้ในการลดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนหรือปฏิเสธการเคลมบางกรณี
3. ผลกระทบต่อประวัติการขับขี่และการทำประกันในอนาคต
การมีประวัติการค้างชำระค่าปรับอาจส่งผลต่อการประเมินความเสี่ยงในการทำประกันในอนาคต บริษัทประกันอาจใช้ประวัติการขับขี่ที่ไม่ดี เช่น มีใบสั่งบ่อยครั้งหรือการไม่ชำระค่าปรับ มาพิจารณาเบี้ยประกันที่สูงขึ้นหรืออาจปฏิเสธการรับทำประกันได้ในบางกรณี
คำแนะนำในกรณีไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งออนไลน์
ควรชำระค่าปรับใบสั่งตามกำหนดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายและการต่อทะเบียนรถ และควรตรวจสอบสถานะการชำระค่าปรับอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหากคุณไม่ได้รับใบสั่งทางไปรษณีย์ สามารถตรวจสอบได้ทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือกรมการขนส่งทางบก
การไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งออนไลน์ไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อความคุ้มครองของประกันรถยนต์ แต่จะมีผลต่อการต่อทะเบียนรถและสถานะทางกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลทางอ้อมต่อการเคลมประกันในอนาคต ดังนั้นควรชำระค่าปรับให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังค่ะ