Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
user profile image
เขียนโดยTawan A.วันที่เผยแพร่: Mar 02, 2022

โดนใบสั่งออนไลน์จ่ายค่าปรับที่ไหน? เช็กใบสั่งย้อนหลังทำอย่างไร?

ใบสั่งออนไลน์ หรือใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ คือใบสั่งจราจรที่กล้องวงจรปิด (CCTV) จับภาพการกระทำความผิดในระหว่างขับขี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถในที่ห้ามจอด ปาดคอสะพาน ผ่าไฟแดง ทับเส้นทึบ หรือขับรถเร็ว และจัดส่งใบสั่งออนไลน์มาให้ที่บ้านผ่านทางไปรษณีย์

แต่ปัญหาสำคัญที่หลายคนเจอเมื่อโดนใบสั่งออนไลน์ คือ ทำใบสั่งปรับหาย ลืมใบสั่ง หรือแม้กระทั่งไม่รู้ว่าโดนใบสั่งจราจรออนไลน์ด้วยซ้ำ ทำให้อาจมีใบสั่งปรับค้างจ่ายโดยไม่รู้ตัว และส่งผลให้ต่อภาษีรถยนต์ประจำปีไม่ได้ หากไม่ได้จ่ายค่าปรับจราจรตามใบสั่ง แรบบิท แคร์ รวบรวมวิธีตรวจเช็กใบสั่งปรับจราจรออนไลน์ย้อนหลัง พร้อมช่องทางจ่ายค่าปรับออนไลนง่าย ๆ มาฝากกัน

ค่าปรับจราจรคืออะไร ทำไมทำผิดแล้วต้องจ่าย?

ค่าปรับจราจร คือ ค่าปรับกรณีกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่หรือการจราจรตามที่กฎหมายกำหนดขึ้นมาเพื่อบังคับผู้ขับขี่ให้ทำตามกฎและสัญลักษณ์จราจร และให้ใช้ถนนร่วมกันได้โดยไม่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งแน่นอนว่าหากใครทำผิดกฎจราจรก็ต้องมีการคาดโทษ ซึ่งก็คือค่าปรับจราจรนั่นเอง โดยที่ตำรวจจราจรจะเป็นผู้ที่ออกใบสั่งให้กับผู้ขับที่กระทำความผิด ส่วนค่าปรับนั้นจะต้องจ่ายโดยอ้างอิงกับการกระทำความผิดนั้น ๆ ยิ่งกระทำความผิดร้ายแรงหรือมีความเสี่ยงอุบัติเหตุสูง ก็มีแนวโน้มที่จะจ่ายค่าปรับจราจรมากขึ้นตามมานั่นเอง

การทำความผิดตามกฎจราจรนอกจากจะต้องเสียค่าปรับจราจรแล้ว ผู้ขับยังต้องถูกตัดแต้มใบขับขี่ตามมาด้วย หากถูกตัดแต้มมากก็จะมีผลต่อการต่อใบขับขี่ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นอาจมีโทษจำคุกหากกระทำความผิดในข้อหาที่มีความเสี่ยงสูงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่ ทางที่ดีแล้วเราขอแนะนำว่าให้คุณทำตามกฎหมายจราจรรวมถึงทำตามสัญลักษณ์จราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เสียค่าปรับจราจร (ซึ่งมีแนวโน้มแพงขึ้นทุกวัน ไม่ใช่ว่าจ่ายไป 100-200 แล้วจบเหมือนแต่ก่อนแล้ว) รวมถึงเป็นการสร้างวินัยที่ดีในการขับขี่ และการสร้างความปลอดภัยร่วมกันบนท้องถนนด้วย

ค่าปรับจราจรล่าสุด ผิดแบบไหนต้องจ่ายเท่าไหร่?

  • ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถยนต์ มีค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับรถ ทั้งคนขับและคนนั่งทุกตำแหน่ง มีค่าปรับไม่เกิน 5,000 บาท
  • จอดรถยนต์/มอเตอร์ไซค์ บนทางเท้าสาธารณะ มีค่าปรับไม่เกิน 500 บาท
  • ขับรถยนต์/มอเตอร์ไซต์ บนทางเท้าสาธารณะ มีค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • ขับรถยนต์แซงคันหน้าบริเวณพื้นที่ห้ามแซง (เส้นทึบ) มีค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • หยุดรถล้ำเส้นบริเวณสี่แยกไฟแดง มีค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • จอดรถยนต์ทับเส้นทางม้าลาย มีค่าปรับจราจรไม่เกิน 500 บาท
  • ไม่ได้ให้สัญญาณไฟขณะเปลี่ยนเลนวิ่ง มีค่าปรับไม่เกิน 500 บาท
  • ผ่าสัญญาณจราจร ไฟแดง/ไฟเหลือง มีค่าปรับไม่เกิน 1000 บาท
  • กลับรถยนต์ในพื้นที่ห้ามกลับรถ มีค่าปรับจราจรไม่เกิน 1000 บาท
  • ขับรถยนต์ในช่องทางพิเศษ เช่น ช่องทางเดินรถเฉพาะรถประจำทาง มีค่าปรับไม่เกิน 500 บาท
  • ฝ่าฝืนเลี้ยวซ้าย/เลี้ยวขวาตรง แยกโดยไม่มีป้ายเลี้ยวผ่านตลอดกำกับ มีค่าปรับไม่เกิน 500 บาท
  • หยุดรถยนต์คร่อมพื้นที่เส้นทแยงเหลือง (พื้นที่บริเวณปากซอย) มีค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • หยุดรถทับเส้นทางม้าลาย มีค่าปรับไม่เกิน 500 บาท
  • ขับย้อนศร มีค่าปรับจราจรไม่เกิน 500 บาท
  • จอดรถในที่ห้ามจอด และจอดกีดขวางทางจราจร มีค่าปรับไม่เกิน 500 บาท

ตรวจสอบใบสั่งออนไลน์ค้างจ่ายได้ที่ไหน?

สำหรับใครที่ต้องการตรวจเช็คใบสั่งออนไลน์ย้อนหลังที่ยังไม่ได้จ่าย ได้รับใบสั่งแต่ทำใบสั่งหายไปแล้ว หรือต้องการตรวจสอบว่าตัวเองโดนใบสั่งโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ สามารถทำได้ตัวเองง่ายๆ ด้วยตัวเองผ่านทั้งเว็บไซต์ตรวจสอบใบสั่งจราจรออนไลน์ ตู้บริการตรวจสอบข้อมูลของภาครัฐ หรือติดต่อสอบถามกับหน่วยงานที่ดูแลและจัดการเรื่องใบสั่งจราจรโดยตรง มีช่องทางในการเช็กใบสั่งจราจรค้างจ่ายได้ดังนี้

เว็บไซต์ตรวจใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน

สามารถตรวจสอบใบสั่งความเร็วออนไลน์ได้ด้วยตัวเองที่หน้าเว็บไซต์ “ใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน” (https://ptm.police.go.th/) โดยต้องลงทะเบียนด้วยข้อมูลบัตรประชาชน ข้อมูลรถที่ครอบครอง และข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ให้เรียบร้อยก่อนเข้าใช้งานระบบตรวจสอบ

หลังจากนั้นระบบจะเเสดงข้อมูลใบสั่งที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเลขที่ใบแจ้ง ทะเบียนรถ วันที่กระทำผิด หน่วยงานที่ออกใบสั่ง และค่าปรับ พร้อมกับสามารถเลือกจ่ายใบสั่งจราจรออนไลน์ผ่านบัตรเครดิตได้ทันทีพร้อมกันสูงสุด 10 ใบสั่ง

นอกจากนั้นแล้ว ยังสามารถเลือกดาวน์โหลดแบบฟอร์มโต้แย้งข้อกล่าวหาตามใบสั่งปรับที่ได้รับได้ ไม่ว่าจะโต้แย้งใบสั่งด้วยเหตุผลรถหาย หรือรถถูกขายไปก่อนเกิดเหตุแล้ว หรือแม้กระทั่งไม่ได้เป็นผู้ขับขี่ในวันและเวลาเกิดเหตุดังกล่าวได้อีกด้วย

ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ (Government Smart Kiosk)

สามารถตรวจสอบใบสั่งจราจรออนไลน์ย้อนหลังได้ผ่านตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ (Government Smart Kiosk) โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) ที่มีตั้งให้บริการอยูทั่วประเทศมากถึง 77 จุดบริการ

เพียงสอดบัตรประชาชนที่ช่องสอดบัตรของตู้ เลือกเมนู "บริการอื่นๆ" จากนั้นเลือกเมนู "ตรวจสอบ" และ "ตรวจสอบใบสั่ง" หน้าจอจะแสดงผลรายละเอียดใบสั่ง และสามารถสั่งพิมพ์ใบสั่งออนไลนื และนำสลิปข้อมูลรายการใบสั่งค่าปรับที่ได้รับจากตู้บริการฯ ไปชำระค่าปรับตามช่องทางที่สะดวกได้ทันที

กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจจราจร

สำหรับใครที่ไม่สะดวกเช็กใบสั่งค่าปรับจราจรด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์ตรวจสอบ E-Ticket หรือต้องการขอคัดสำเนาใบสั่งเพื่อนำไปชำระ อาจเลือกวิธีติดต่อกองกำกับการ 4 กองยังคับการตำรวจจราจร (Traffic Police) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบศูนย์ควบคุมการจราจรและงานเทคนิคการจราจรโดยตรง

โดยสามารถติดต่อเพื่อขอคัดสำเนาใบสั่งออนไลน์ที่ทำหายได้ที่ กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจจราจร เลขที่ 123 หมู่ที่ 2 ถนนวิภาวดี แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 02-5153166-67 หรือโทร. 1197 ในวันและเวลาราชการ

ค่าปรับใบสั่งออนไลน์ จ่ายที่ไหนได้บ้าง?

ใบสั่งค่าปรับจราจรที่สามารถจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือช่องทางจ่ายค่าปรับจราจรอื่นๆ ที่ไม่ใช่การไปจ่ายที่สถานีตำรวจด้วยตัวเอง เช่น การจ่ายค่าปรับจราจรที่เซเว่น หรือตู้ ATM ได้นั้น จะต้องเป็นใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ หรือการโดนใบสั่งค่าปรับจราจรจากการกระทำผิดกฎจราจรที่บันทึกโดยระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่จัดส่งไปที่บ้านเท่านั้น

ไม่ว่าจะเป็นใบสั่งจากกล้องจราจร ใบสั่งแบบเล่มที่ไม่ถูกยึดใบขับขี่ หรือใบเตือนทุกชนิดที่มีบาร์โค้ดและเครื่องหมาย PTM (Police Ticket Management) รวมถึงใบสั่งที่มีข้อความระบุว่า “สามารถชำระได้ที่ช่องทางของธนาคารกรุงไทย”

ซึ่งใบสั่งประเภทข้างต้นจะสามารถจ่ายค่าปรับความเร็วผ่านช่องทางออนไลน์ได้ แต่หากเป็นใบสั่งแบบทั่วไปที่เขียนด้วยลายมือจะไม่สามารถชำระค่าปรับผ่านช่องทางออนไลน์ได้ มีช่องทางที่สามารถจ่ายค่าปรับใบสั่งออนไลน์ได้มีดังนี้

  • เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย (KTB) ทุกสาขาทั่วประเทศ (ค่าธรรมเนียม 20 บาท)
  • ตู้ ATM และ ADM (ตู้รับฝากเงินสดอัตโนมัติ) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ทั่วประเทศ (ค่าธรรมเนียม 15 บาท) KTB netbank (Internet Banking) (ค่าธรรมเนียม 15 บาท)
  • แอปฯ Krungthai NEXT (ไม่มีค่าธรรมเนียม) ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ (ค่าธรรมเนียม 15 บาท)
  • เคาน์เตอร์เซอร์วิสของ 7-11 (Counter Service) (ค่าธรรมเนียม 20 บาท)
  • เคาน์เตอร์ CenPay ในเครือ CENTRAL Group (ค่าธรรมเนียม 20 บาท)
  • ตู้บุญเติม (ยกเว้นตู้บุญเติมหน้า 7-11)
  • หน่วยบริการรับชำระค่าปรับตามใบสั่งที่มีเครื่องหมาย PTM (Police Ticket Management)
  • สถานีตํารวจที่ออกใบสั่ง หรือสถานีตํารวจท้องที่ทั่วประเทศ

ไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งออนไลน์จะเป็นอะไรหรือเปล่า?

กรณีโดนค่าปรับจราจร เมื่อมีการทำผิดกฎหรือสัญลักษณ์จราจร ตำรวจจราจรจะออกใบสั่งและให้ไปเสียค่าปรับตามเวลาที่กำหนด หากไม่จ่ายค่าปรับจราจรภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบสั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะ ออกใบเตือนให้ไปชำระค่าปรับภายใน 15 วัน หากคุณยังเพิกเฉยต่อไป การเตือนก็จะรุนแรงขึ้นเป็นการออกหมายเรียกเพื่อให้มาชี้แจงว่าทำไมไม่จ่ายค่าปรับ และถ้าคุณยังคงเพิกเฉยต่อไม่มาตามหมายเรียก 2 ครั้งโดยไม่มีเหตุอันสมควรคุณจะถูกหมายจับตามมา จากโทษแค่จับปรับปกติก็จะกลายเป็นโทษทางอาญาแทน

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรก็ทำหนังสือแจ้งต่อไปยังกรมขนส่งให้ระงับการต่อภาษีรถยนต์ของเราด้วย มีแต่เสียกับเสียแบบนี้ทางที่ดีควรจ่ายค่าปรับจราจรแต่แรกย่อมดีกว่าปัญหาจะได้ไม่บานปลาย

เสียค่าปรับจ่ายล่าช้าเพิ่ม

กรณีที่ไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งจราจรออนไลน์ตามเวลาที่กำหนด หรือตามที่ได้ระบุไว้ในใบสั่ง จะมีค่าปรับล่าช้าเพิ่มสูงสุด 1,000 บาท และหากมีใบสั่งค้างชำระและเกินระยะเวลาจ่ายค่าปรับที่กำหนดหลายใบ อาจถูกปรับล่าช้าย้อนหลังทุกใบอีกด้วย

เสียค่าปรับไม่แสดงป้ายภาษี

แม้ว่าจะสามารถชำระภาษีรถยนต์ประจำปีได้ในกรณีที่มีใบสั่งออนไลน์ค้างจ่ายอยู่ เเต่จะไม่ได้รับหลักฐานการเสียภาษีรถยนต์ประจำปีตามปกติ แต่จะได้รับหลักฐานการเสียภาษีประจำปีชั่วคราวที่มีอายุ 30 วันแทน เพื่อนำไปใช้จ่ายค่าปรับที่ค้างชำระอยู่ให้เรียบร้อยก่อน และนำใบเสร็จกลับมารับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี หรือป้ายภาษี (ป้ายสี่เหลี่ยมติดหน้ารถ)

แต่หากยังไม่ชำระใบสั่งออนไลน์ที่ค้างชำระอยู่ และไม่ได้ไปเปลี่ยนป้ายภาษีตามที่กำหนด จะถือว่ามีความผิดจากการขับขี่รถโดยไม่แสดงเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีหรือป้ายภาษีรถยนต์ ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 11 และมาตรา 60 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

ถูกอายัดใบขับขี่

หากเคยโดนยึดใบขับขี่ และไม่ได้ไปเสียค่าปรับตามใบสั่งจราจรเพื่อขอรับใบขับขี่คืน สามารถเข้าทดสอบเพื่อขอรับใบขับขี่ใหม่ได้ เเต่จะไม่สามารถรับใบขับขี่ใหม่ได้ทันที รวมถึงจะไม่สามารถแจ้งความใบขับขี่หายเพื่อทำใบขับขี่ใหม่ได้

เนื่องจากจะยังมีรายชื่อค้างจ่ายใบสั่งอยู่ในระบบของกรมการขนส่งทางบกแม้ว่าจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม ทำให้ใบขับขี่ถูกอายัด และต้องชำระค่าปรับตามใบสั่งที่ค้างอยู่ให้เรียบร้อยก่อนเพื่อถอนอายัดใบขับขี่ อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันจะยังให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถในกรณีที่ต้องการเคลมประกันในขณะที่ถูกยึดใบขับขี่

ถูกออกหมายจับ

หากยังไม่จ่ายใบสั่งปรับออนไลน์ และยังกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการออกหมายเรียกให้มาชำระค่าปรับใบสั่งที่ค้างอยู่ก่อน เเต่หากเจ้าของที่โดนใบสั่งยังเพิกเฉย เจ้าหน้าที่จะพิจารณาออกหมายจับ และส่งฟ้องศาลต่อไปทันที

แม้ว่าในปัจจุบันจะมีช่องทางอำนวยความสะดวกในการจ่ายค่าปรับจราจรที่เข้าถึงง่ายมากขึ้น แต่จากสถิติตัวเลขใบสั่งจราจรที่ไม่ได้จ่ายในปี 2563 ที่ผ่านมา พบว่ามียอดค้างจ่ายสูงถึง 13 ล้านบาท หรือคิดเป็น 82.20% ของใบสั่งทั้งหมด ทำให้ในปัจจุบันเริ่มมีการพูดถึงมาตรการลงโทษ ทั้งในส่วนของโทษจับและปรับที่เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากการไม่ให้ต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้ทันทีตามปกติ หากมีค่าปรับจากใบสั่งจราจรออนไลน์ที่ค้างชำระอยู่

แรบบิท แคร์ พร้อมดูแลทุกการเดินทางด้วยประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ พ.ร.บ. จากทุกบริษัทชั้นนำที่มีให้เลือกครบจบในที่เดียว ทุนประกันสูง เบี้ยถูกพิเศษ พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 70% และบริการเสริมเฉพาะลูกค้าที่เลือกซื้อประกันภัยรถยนต์กับ แรบบิท แคร์ ฟรีทันที ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ไม่ว่าจะเป็นบริการความช่วยเหลือฉุกเฉินทางถนน (Roadside Service) บริการแจ้งเคลมออนไลน์ และบริการประสานงานแจ้งเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทั้งทาง Care Center โทร. 1438 หรือ LINE Official Account (@rabbitcare)

เปรียบเทียบพร้อมรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และเลือกซื้อประกันกับ แรบบิท แคร์ เพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้แล้วตั้งเเต่วันนี้ โทรเลย. 1438

ไม่จ่ายค่าปรับจราจร 2567 ไม่เสียค่าปรับตามใบสั่ง เป็นไรไหม

เมื่อคุณถูกปรับจราจรจากการทำผิดกฎหรือสัญลักษณ์จราจร ตำรวจจะออกใบสั่งให้ไปชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เสียค่าปรับตามใบสั่งในเวลาที่ระบุ เจ้าหน้าที่จะส่งใบเตือนให้จ่ายภายใน 15 วัน แต่หากคุณยังคงเพิกเฉย การเตือนจะยกระดับเป็นหมายเรียกเพื่อให้คุณมาชี้แจงสาเหตุที่ไม่จ่ายค่าปรับ หากคุณไม่มาตามหมายเรียกถึง 2 ครั้งโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จะมีการออกหมายจับ ซึ่งทำให้โทษจากการปรับกลายเป็นคดีอาญา

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังจะแจ้งกรมขนส่งให้ระงับการต่อภาษีรถยนต์ของคุณด้วย การไม่จ่ายค่าปรับมีแต่จะสร้างปัญหาใหญ่ ทางที่ดีที่สุดคือควรชำระค่าปรับตั้งแต่แรกเพื่อไม่ให้เรื่องลุกลามบานปลาย ซึ่งในปี 2567 หากคุณไม่จ่ายค่าปรับตามใบสั่งจราจร อาจมีผลกระทบหลายประการตามที่กฎหมายได้ระบุไว้ดังนี้

1. การต่อภาษีรถยนต์

หากไม่ชำระค่าปรับจราจรตามใบสั่ง จะไม่สามารถต่อทะเบียนรถได้ตามปกติ จนกว่าค่าปรับจะถูกชำระเรียบร้อย

2. การระงับการให้บริการ

กรมการขนส่งทางบกจะเชื่อมข้อมูลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้เจ้าของรถที่ยังไม่ชำระค่าปรับไม่สามารถดำเนินการทางด้านทะเบียนรถ เช่น การโอนกรรมสิทธิ์รถได้ จนกว่าค่าปรับจะถูกชำระ

3. โอกาสที่จะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม

หากเพิกเฉยต่อการชำระค่าปรับ ตำรวจมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการตามกฎหมาย เช่น ออกหมายจับ หรือมีบทลงโทษเพิ่มเติมในบางกรณีที่การละเมิดกฎหมายมีความรุนแรงหรือถูกเพิกเฉยหลายครั้ง

ดังนั้น การไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งจราจรในปี 2567 จะส่งผลต่อการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์และอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มงวด

ไม่จ่ายค่าปรับจราจร ต่อภาษีไม่ได้ จริงไหม

ในกรณีที่ไม่จ่ายค่าปรับจราจร ต่อภาษีได้ไหมนั้น หากคุณไม่จ่ายค่าปรับจราจรตามที่กำหนด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งข้อมูลการค้างชำระค่าปรับไปยังกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะส่งผลให้คุณไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ จนกว่าจะชำระค่าปรับที่ค้างทั้งหมด การไม่ชำระค่าปรับนอกจากจะส่งผลต่อการต่อภาษีแล้ว ยังอาจทำให้คุณถูกหมายเรียก หรือแม้กระทั่งถูกหมายจับได้หากเพิกเฉยต่อการแจ้งเตือนและหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่

ไม่จ่ายค่าปรับจราจร ต่อใบขับขี่ได้ไหม

หากคุณไม่จ่ายค่าปรับจราจร คุณยังสามารถต่อใบขับขี่ได้ตามปกติ เนื่องจากการค้างค่าปรับจราจรยังไม่ส่งผลต่อการต่ออายุใบขับขี่โดยตรง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อาจเกิดขึ้นคือเจ้าหน้าที่กรมขนส่งอาจแจ้งเตือนหรือแนะนำให้คุณชำระค่าปรับค้างก่อนดำเนินการ แต่การต่อใบขับขี่จะไม่ถูกระงับเหมือนกับการต่อภาษีรถยนต์ที่อาจถูกระงับหากยังมีค่าปรับจราจรค้างชำระอยู่

ไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งออนไลน์ ประกันรถยนต์ยังคุ้มครองหรือไม่

การไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งออนไลน์จะไม่ส่งผลโดยตรงต่อความคุ้มครองของประกันรถยนต์ กล่าวคือ ประกันภัยรถยนต์จะยังคงคุ้มครองอยู่ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1, ชั้น 2+, ชั้น 3+ หรือชั้น 3 ก็ตาม แต่สิ่งที่ควรทราบเพิ่มเติมมีดังนี้

1. ผลกระทบทางกฎหมาย

หากไม่ชำระค่าปรับใบสั่ง จะมีผลต่อสถานะทางกฎหมาย เช่น การค้างชำระค่าปรับอาจส่งผลให้ไม่สามารถต่อทะเบียนรถได้ เนื่องจากกรมการขนส่งทางบกจะตรวจสอบประวัติการชำระค่าปรับก่อนการต่อทะเบียน

หากทะเบียนรถหมดอายุและไม่สามารถต่อได้ การขับรถโดยไม่มีการต่อทะเบียนจะผิดกฎหมาย และในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันอาจปฏิเสธความรับผิดชอบบางส่วนหรือทั้งหมด เนื่องจากรถไม่ได้อยู่ในสภาพที่ถูกต้องตามกฎหมาย

2. ผลต่อการเคลมประกัน

หากเกิดอุบัติเหตุและมีการเรียกตรวจสอบเอกสาร เช่น ใบขับขี่หรือเอกสารการจดทะเบียนรถ และพบว่าคุณมีใบสั่งที่ค้างชำระหรือทะเบียนรถไม่ได้ต่ออายุ ประกันยังคงต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายตามเงื่อนไขของกรมธรรม์

แต่หากมีการไม่ต่อทะเบียนรถ (เนื่องจากไม่สามารถต่อทะเบียนได้จากการค้างชำระค่าปรับ) แล้วขับขี่จนเกิดอุบัติเหตุ ประกันอาจใช้เงื่อนไขนี้ในการลดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนหรือปฏิเสธการเคลมบางกรณี

3. ผลกระทบต่อประวัติการขับขี่และการทำประกันในอนาคต

การมีประวัติการค้างชำระค่าปรับอาจส่งผลต่อการประเมินความเสี่ยงในการทำประกันในอนาคต บริษัทประกันอาจใช้ประวัติการขับขี่ที่ไม่ดี เช่น มีใบสั่งบ่อยครั้งหรือการไม่ชำระค่าปรับ มาพิจารณาเบี้ยประกันที่สูงขึ้นหรืออาจปฏิเสธการรับทำประกันได้ในบางกรณี

คำแนะนำในกรณีไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งออนไลน์

ควรชำระค่าปรับใบสั่งตามกำหนดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายและการต่อทะเบียนรถ และควรตรวจสอบสถานะการชำระค่าปรับอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหากคุณไม่ได้รับใบสั่งทางไปรษณีย์ สามารถตรวจสอบได้ทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือกรมการขนส่งทางบก

การไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งออนไลน์ไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อความคุ้มครองของประกันรถยนต์ แต่จะมีผลต่อการต่อทะเบียนรถและสถานะทางกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลทางอ้อมต่อการเคลมประกันในอนาคต ดังนั้นควรชำระค่าปรับให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังค่ะ

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา