รถญี่ปุ่นแบรนด์ดังในปัจจุบันมีใครบ้าง และถ้าเทียบกับรถยุโรป ต่างกันตรงไหน?
ก่อนยุคสมัยที่รถยนต์จากประเทศจีนจะสามารถตีตลาดโลกได้ รถญี่ปุ่นกับรถยุโรป แทบจะเป็นสิ่งที่ครอบครองตลาดอุตสาหกรรมรถยนต์เอาไว้ได้แบบหมดจด แต่เมื่อเทคโนโลยีกับนวัตกรรมต่าง ๆ ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด การผลิตรถยนต์ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิมหลายเท่าตัว รวมถึงรถญี่ปุ่นเองทีเ่พิ่มกำลังผลิตทั้งในและนอกประเทศได้มหาศาล มีรถยนต์ระบบใหม่ ๆ ออกมาให้เห็นอย่างตื่นตะลึง และการมาถึงของรถยนต์ EV เองก็เปลี่ยนทุกสิ่งไป เพื่อเป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์รถญี่ปุ่นแบบพื้นฐาน แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนไปเยี่ยมชมกับแบรนด์รถทั้งหมดของญี่ปุ่น พร้อมคัดยี่ห้อที่ดีที่สุด แบรนด์หรู หรือรุ่นที่ราคาถูกมาให้เลือกสรรกันอย่างเพลิดเพลิน!
รถญี่ปุ่น มียี่ห้ออะไรบ้าง
ปัจจุบันรถญี่ปุ่นทั้งหมดมีมากถึง 16 แบรนด์ ได้แก่ Toyota, Honda, Nissan, Mitsubishi, Mazda, Isuzu, Suzuki, Subaru, Lexus, Scion, Hino, Daihatsu, Acura, Mitsuoka, Tommy Kaira และ Infiniti โดยแต่ละแบรนด์รถญี่ปุ่นที่กล่าวมา จะมีนวัตกรรมและแนวทางการพัฒนารถยนต์ในค่ายของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งบางแบรนด์ยังเป็นแบรนด์ย่อยออกมาจากแบรนด์อื่น เพื่อทำการตลาดที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย เช่น Lexus กับ Scion (ปัจจุบันปิดตัวลงแล้ว) ที่เป็นแบรนด์ย่อยของ Toyota หรือ Acura เป็นแบรนด์ย่อยของ Honda ที่เน้นเจาะในต่างประเทศ และ Infiniti แบรนด์ย่อยของ Nissan เป็นต้น
รถญี่ปุ่น ยี่ห้อไหนดีที่สุด
รถญี่ปุ่นที่ถูกยอมรับว่าเป็น 10 ยี่ห้อที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปัจจุบันนี้ คือ Toyota, Honda, Nissan, Mitsubishi, Mazda, Lexus, Subaru, Suzuki, Infiniti และ Acura เหตุผลที่ทำให้บริษัททั้งหมดที่กล่าวมา กลายเป็นรถญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ด้วยเหตุผลอะไรนั้น สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากลิสต์รายการด้านล่างนี้เลย
- Toyota บริษัทอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับ 10 ของโลก ด้วยคุณภาพรถยนต์ และนวัตกรรมที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาในแต่ละปี ทำให้ผู้ใช้งานพึงพอใจอย่างมาก
- Honda คู่แข่งคนสำคัญของ Toyota ที่อยู่ในลิสต์ 10 บริษัทอุตสาหกรรมระดับโลกเช่นเดียวกัน โดดเด่นในเรื่องการดีไซน์ ในสืบต่อตำนานรถยนต์รุ่นดังในอดีต
- Nissan ผู้ผลิตรถยนต์ระดับตำนานของฝั่งรถญี่ปุ่น ที่พร้อมนำเสนอรถยนต์หลากหลายรุ่นให้ผู้ใช้งานได้มีโอกาสเลือกสรร
- Mitsubishi ผู้ผลิตรถญี่ปุ่นข้ามชาติที่เน้นรถยนต์พาณิชย์ขนาดเล็ก เพื่อสนับสนุนการใช้งานรถยนต์ที่ครอบคลุมตอบโจทย์ทุกความต้องการ
- Mazda บริษัทที่ก่อตั้งมานานไม่แพ้บริษัทรถญี่ปุ่นอื่น ๆ ในประเทศ มีอันดับใกล้เคียงกับ 3 แบรนด์แรกมากที่สุด ภายใต้การออกแบบที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และความพยามคิดค้นพัฒนาที่ไม่มีหยุด
- Lexus แบรนด์รถญี่ปุ่นสุดหรูที่ทาง Toyota แยกย่อยออกมาเพื่อเน้นตลาดรถหรู่โดยเฉพาะ ตอบโจทย์ทั้งในแง่ความสวยงาม และประสิทธิภาพการใช้งาน
- Subaru แบรนด์ผู้เชี่ยวชาญการผลิตรถยนต์ตัวจริงเสียงจริง เป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับคนที่คลั่งไคล้รถญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์พิเศษ (ปัจจุบันปิดโรงงานในไทยไปแล้ว)
- Suzuki บริษัทที่เน้นผลิตรถยนต์ขนาดเล็กเป็นหลัก ทำให้ราคาเข้าถึงง่าย แต่ยังได้สัมผัสถึงคุณภาพความเป็นรถญี่ปุ่นแบบเต็ม ๆ (ปัจจุบันปิดโรงงานในไทยไปแล้ว)
- Infiniti แบรนด์รถญี่ปุ่นที่เน้นความหรูหรา เป็นแบรนด์ย่อยออกมาจาก Nissan อีกทีหนึ่ง ด้วยการออกแบบที่ดูดี ประสิทธิภาพเด่น บริการเยี่ยม จึงได้รับความนิยมไม่น้อย
- Acura แบรนด์ย่อยที่ก่อตั้งโดย Honda เพื่อเน้นการทำตลาดรถหรูแข่งขันกับแบรนด์อื่นในตลาด เน้นการพัฒนาประสิทธิภาพของตัวรถยนต์ให้สูงขึ้น และดีไซน์ที่ดูสปอร์ตเป็นพิเศษ
และทั้งหมดนี้เป็นยี่ห้อรถญี่ปุ่นที่ได้รับการกล่าวขาน และยอมรับจากผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ว่าเป็นรถที่โดดเด่น มีคุณค่าต่อการใช้งานอย่างแท้จริง ซึ่งบางยี่ห้ออาจไม่มีโอกาสได้เห็นในประเทศไทยตอนนี้ โดยเฉพาะ Infiniti กับ Acura ที่ยังไม่ได้เข้ามาเปิดตัว แต่ในอนาคตระยะยาวยังมีโอกาสที่เราจะได้ลุ้นเห็นรถยนต์แบรนด์หรูทั้งสอง เข้ามาให้ยลโฉมในไทยบ้าง
รถญี่ปุ่น หรู ต้องแบรนด์ไหน
รถญี่ปุ่น แนวหรู สามารถเลือกได้จาก 4 แบรนด์ดังที่สุดในโลก ได้แก่ Lexus, Infiniti, Acura และ Mitsuoka ซึ่งทุกแบรนด์ที่เรายกตัวอย่างมา ในประเทศไทยสามารถหาซื้อแบบ Official ได้เพียงแค่แบรนด์เดียว คือ Lexus ส่วนแบรนด์อื่นยังต้องนำเข้ามาอีกทีหนึ่งถึงจะมีโอกาสได้ขับขี่ในไทย สำหรับรายละเอียดรถญี่ปุ่น แนวหรูยอดฮิตของแต่ละแบรนด์ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ดังต่อไปนี้
- Lexus ในประเภท SUV ก็จะมีซีรีส์ NX และ RX ที่คนนิยมสูงมาก ส่วนประเภท Sedan จะมี IS ES และ LS สามรุ่นหลักของแบรนด์
- Infiniti เป็นแบรนด์ที่เน้นประเภท Crossover & SUV ที่มีรุ่นให้เลือกถึง 4 รุ่น คือ QX50, QX55, QX60 และ QX80
- Acura จะแบ่งเป็นรถ SUV 3 รุ่น ZDX, RDX และ MDX มี Sedan อีก 2 รุ่น คือ INTEGRA & TLX
- Mitsuoka แบรนด์รถยนต์ที่เน้นการผลิตสไตล์แหวกแนว บางคันก็ให้ความทันสมัยได้แบบจัดเต็ม หรือบางรุ่นก็อิงมาจากรถอเมริกา ยุโรป และอังกฤษในสมัยก่อน
สำหรับรถญี่ปุ่น แบรนด์หรู 3 แบรนด์แรก จะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 35,000 - 40,000 ดอลลาร์ในราคาต่างประเทศ (ประมาณ 1.2-1.4 ล้านบาทไทย) ส่วน Mitsuoka เป็นรถญี่ปุ่นที่ค่อนข้างพิเศษ ทำให้มีจำนวนที่น้อย และมีราคาเริ่มต้นที่แพงกว่ามาก
รถญี่ปุ่น ราคาถูก
รถญี่ปุ่น ที่ราคาถูกในประเทศไทยแบบที่ราคาเข้าถึงง่าย ไม่เกิน 700,000 บาท เช่น Suzuki Swift (เริ่มต้น 560,000 บาท), Mazda 2 Hatchback (เริ่มต้น 599,000 บาท), Honda City Hatchback (เริ่มต้น 599,000 บาท), Suzuki Celerio (เริ่มต้น 319,900 บาท), Mazda 2 (เริ่มต้น 599,000 บาท), Honda City (เริ่มต้น 599,000 บาท), Nissan Almera (เริ่มต้น 549,000 บาท) และ Toyota Yaris Ativ (เริ่มต้น 549,000 บาท)
ทำไม รถญี่ปุ่น คันเล็ก
เหตุผลที่ทำให้รถญี่ปุ่น มีขนาดเล็ก โดยเฉพาะในญี่ปุ่นเอง ผู้คนนิยมใช้งานรถขนาดเล็กกันมาก เพราะสะดวกสบายมากกว่าในเรื่องที่จอด, พื้นที่ส่วนมากจำกัดความเร็ว แค่ใช้งานรถญี่ปุ่นเล็ก ๆ ก็เหลือเฟือ, ถนนบางแห่งแคบ สองเลนสวนกัน ใช้งานรถเล็กเพียงพอแล้ว, รถญี่ปุ่นขนาดเล็กเป็นตัวเลือกที่มีมากที่สุด, ราคาเข้าถึงง่าย, ฟังก์ชันถือว่าครบเครื่องไม่น้อยไปกว่ารุ่นใหญ่ และค่าบำรุงรักษาไม่แพงเกินตัว
รถญี่ปุ่น vs รถยุโรป ต่างกันยังไง
รถยุโรป vs รถญี่ปุ่น จะเน้นการพัฒนาที่แตกต่างกันออกไปในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งเราจะเปรียบเทียบระหว่าง รถญี่ปุ่นและรถยุโรป ให้ได้เห็นทั้งหมด 8 เรื่องด้วยกัน คือ การออกแบบ, ประสิทธิภาพ, ความทน, นวัตกรรมความสะดวกสบาย, สิ่งแวดล้อม, ราคา, อะไหล่กับการซ่อมบำรุง และราคาขายมือสอง โดยสรุปผลเปรียบเทียบได้จากตารางดังต่อไปนี้
การเปรียบเทียบ | รถญี่ปุ่น | รถยุโรป |
การออกแบบ | ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลาย เน้นให้เห็นถึงความคุ้มค่า | แสดงถึงความหรูหราเป็นหลัก ช่วยเสริมภาพลักษณ์เจ้าของรถ |
ประสิทธิภาพ | ภาพรวมโดยเฉลี่ยน้อยกว่ารถยุโรป | ภาพรวมโดยเฉลี่ยดีกว่ารถยนต์ญี่ปุ่น |
ความทน | ภาพรวมโดยเฉลี่ยน้อยกว่ารถยุโรป | ภาพรวมโดยเฉลี่ยดีกว่ารถยนต์ญี่ปุ่น |
นวัตกรรมความสะดวกสบาย | สัมผัสความสะดวกสบายและนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมได้ในรุ่นตัวท็อปเป็นหลัก | สัมผัสความสะดวกสบายและนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมได้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น |
สิ่งแวดล้อม | เพิ่มขีดจำกัดเรื่องการประหยัดพลังงาน | พัฒนาบระบบที่ช่วยลดมลพิษจากรถยนต์ |
ราคา | เข้าถึงง่าย | ค่อนข้างสูง |
อะไหล่กับการซ่อมบำรุง | ราคาอะไหล่ไม่สูง ซ่อมได้รวดเร็ว | อะไหล่ราคาสูง แต่ซ่อมได้เร็วเช่นเดียวกัน |
ราคาขายมือสอง | ราคาไม่ผันผวน ขายต่อได้ง่าย | ขายต่อค่อนข้างยาก เพราะราคามือหนึ่งมาก็ค่อนข้างสูงแล้ว |
ตอนนี้ทุกคนคงรู้จักรถยนต์ญี่ปุ่นดัง ๆ เพิ่มขึ้นหลายแบรนด์แล้ว สนใจแบรนด์ไหน รุ่นอะไร ลองไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยว่าเหมาะสมกับคุณหรือไม่ และอย่าลืมพิจารณาเรื่องประกันรถยนต์เพิ่มเติมเอาไว้ เพื่อให้คุณกับรถยนต์คันโปรด สามารถเดินทางได้อย่างอุ่นใจตลอดเวลา สามารถสอบถามรายละเอียดเรื่องประกันรถยนต์กับ แรบบิท แคร์ ได้ที่เบอร์ 1438 (24 ชม.)
ความคุ้มครองประกันรถยนต์