Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้

🎵 9.9 Rabbit แจกฟรี!! หูฟัง Apple Airpods Gen 3 และ Rabbit Voucher มูลค่ารวม 12,790 บาท แค่สมัครบัตรฯ UOB ผ่าน Rabbit Care คลิก! 💳

เปรียบเทียบบัตรเครดิต ง่าย ๆ ภายใน 30 วินาที กับ

Rabbit Care

mock up credit card desktop.png
user profile image
เขียนโดยPaweennuch W.วันที่เผยแพร่: May 20, 2024

บัตรเดบิตรูดได้ไหม และใช้ทำอะไรได้บ้าง?

บัตรเดบิตคืออะไร?

จากข้อมูลในเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงความหมายของ “บัตรเดบิต” ไว้ว่าเป็นบัตรที่ผูกไว้กับบัญชีเงินฝากของผู้ที่ถือบัตร เพื่อใช้ทำรายการผ่านเครื่อง ATM ไม่ว่าจะเป็นการถอนเงิน โอนเงิน และสอบถามยอด อีกทั้งยังสามารถใช้ทำรายการชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่ร้านค้า หรือใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน โดยจะเป็นการหักเงินออกจากบัญชีเงินฝากทันที (pay now) ซึ่งการรูดบัตรเดบิตเพื่อใช้ชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้านั้น จะต้องเป็นการใช้จ่ายผ่านบัตรตามร้านค้าที่รับบัตรเดบิตเท่านั้น โดยจะสังเกตได้จากสัญลักษณ์ของเครือข่ายบัตรเดบิตที่ออกบัตรร่วมกับธนาคารเจ้าของบัตร ยกตัวอย่างเช่น เครือข่าย VISA, Master Card, China Union Pay (CUP) เป็นต้น ซึ่งทางผู้ถือบัตรจะต้องมีการเซ็นชื่อลงในใบบันทึกการขาย (Sales Slip) หรือการกดรหัส PIN (Personal Identification Number : PIN) โดยรูปแบบต่าง ๆ ก็จะขึ้นอยู่กับเครือข่ายของผู้ให้บริการบัตรเดบิตที่จะเป็นผู้กำหนด ส่วนการชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์นั้น ทางผู้ถือบัตรจะต้องมีการระบุหมายเลขบัตรเดบิต 16 หลัก พร้อมทั้งรหัส CVV วันหมดอายุของบัตร และรหัสผ่าน OTP ที่จะได้รับทาง SMS ด้วย

บัตรเครดิตกับเดบิตต่างกันยังไง?

บัตรเดบิต

บัตรเครดิต

เป็นบัตรที่ผูกไว้กับบัญชีเงินฝากของผู้ถือบัตรเป็นบัตรที่ธนาคารกำหนดวงเงินให้ใช้จ่ายไปก่อน
ชำระเงินโดยการหักเงินในบัญชีของผู้ถือบัตรชำระเงินโดยธนาคารออกให้ก่อน แล้วผู้ถือบัตรค่อยมาชำระคืนเป็นรายเดือน
ใช้ทำธุรกรรมที่ตู้ ATM และชำระค่าสินค้าได้ผ่านเครื่อง EDC และ e-Commerceใช้ชำระค่าสินค้าและบริการได้ผ่านเครื่อง EDC และ e-Commerce
ไม่มีดอกเบี้ยในการใช้จ่ายมีดอกเบี้ย 16% ต่อปี หากใช้จ่ายไม่เต็มจำนวน

บัตรเดบิตมีวงเงินให้ไหม?

สำหรับบัตรเดบิตนั้นจะสามารถใช้จ่ายได้ตามจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีของผู้ที่ถือบัตรได้เลย เนื่องจากว่าบัตรจะผูกเข้ากับบัญชีเงินฝากของผู้ถือบัตรอยู่แล้ว

ขั้นตอนการสมัครบัตรเดบิต มีอะไรบ้าง?

  • 1. จะต้องเป็นบุคคลธรรมดา ที่มีอายุตั้งแต่ 12 - 70 ปีบริบูรณ์
  • 2. จะต้องมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากกระแสรายวันที่เป็นบัญชีบุคคลธรรมดา หรืออาจจะเป็นบัญชีร่วม 2 คนที่มีเงื่อนไขว่าคนใดคนหนึ่งสามารถถอนได้ หรือเป็นบัญชีร้านค้าที่มีชื่อเจ้าของบัญชีเพียงคนเดียว
  • 3. เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมทั้งสมุดบัญชี แล้วไปติดต่อที่สาขาของธนาคารที่ต้องการได้เลย หรือจะสมัครผ่าน E-Banking ช่องทางออนไลน์ก็ได้เช่นเดียวกัน เมื่อมีการแจ้งผลอนุมัติเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถรอรับบัตรเดบิตที่ทางธนาคารจะจัดส่งมาให้ได้เลย

รูดบัตรเดบิตต้องใส่รหัสไหม?

การรูดบัตรเดบิตนั้นจะมีทั้งการเซ็นชื่อลงบน Sales Slip หรือการกดรหัส PIN เพื่อยืนยันคำสั่งซื้อ แล้วแต่ว่าทางธนาคารหรือทางร้านค้านั้นจะมีกำหนดการชำระเงินอย่างไร แต่ในปัจจุบันนี้จะสังเกตเห็นได้ว่าการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรเดบิตนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการเซ็นชื่อมากกว่าการกดรหัส PIN เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้านั่นเอง

ข้อดีและข้อเสียของการรูดบัตรเดบิตมีอะไรบ้าง?

ข้อดี

  • 1. สมัครง่าย ไม่มีการตรวจสอบเครดิตแต่อย่างใด
  • 2. สามารถใช้รูด แตะ จ่าย และช่วยลดการสัมผัสได้
  • 3. ใช้งานง่าย พกพาสะดวก และมีความรวดเร็วในการชำระเงิน
  • 4. สามารถควบคุมการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรเดบิตได้ดีกว่าการใช้บัตรเครดิต เนื่องจากว่าจะเป็นการหักเงินในบัญชีเงินฝากทันที จึงทำให้รู้ว่ามีเงินคงเหลือในการใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด
  • 5. ได้รับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพิ่มเติมตามโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เช่น ส่วนลดในการซื้อสินค้า ความคุ้มครองตามการประกันชีวิต การโอนเงินโดยที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับบัตรในแต่ละประเภทว่ามีเงื่อนไขในการใช้บริการอย่างไรบ้าง ซึ่งอ​าจจะมีอัตราค่าธรรมเนียมที่แพงกว่าบัตรเดบิตทั่วไป
  • 6. ไม่ต้องพกเงินสด จึงช่วยลดโอกาสที่จะถูกโจรกรรม หรือโอกาสในการทำบัตรหายได้

ข้อเสีย

  • 1. ควรตรวจสอบวิธีรูดบัตรเดบิตก่อน เนื่องจากว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกขโมยข้อมูลบัตรด้วยเครื่อง Skimmer​
  • 2. บัตรเดบิตบางประเภทมีอัตราค่าธรรมเนียมที่สูง

วิธีใช้บัตรเดบิตให้ปลอดภัย มีอะไรบ้าง?

  • ควรเลือกใช้บัตรเดบิตให้เหมาะสมกับความต้องการของเรา เพื่อก่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
  • เพื่อลดความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมบนระบบอินเทอร์เน็ต ควรเลือกชำระผ่านระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งลูกค้าจำเป็นที่จะต้องลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคารผู้ออกบัตรก่อน เพื่อเปิดการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น Verified by Visa (VBV) หรือ Master Card Secure Code (MCSC)​​ เป็นต้น
  • ตรวจสอบรายการในใบแจ้งยอดกับ Sales Slip ด้วยทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของยอดเงินคงเหลือในบัญชี
  • ควรลงลายมือชื่อ หรือเซ็นชื่อหลังบัตรเดบิตทันทีเมื่อได้รับบัตรใหม่
  • หากจะต้องสั่งซื้อสินค้าหรือบริการบนร้านค้าออนไลน์ ควรจะเลือกร้านค้าที่เชื่อถือได้ และมีใบรับรองดิจิตอล (Digital Certificate) เพราะส่วนใหญ่มักจะมีระบบความปลอดภัยของข้อมูลโดยการเข้ารหัสก่อนส่งทุกครั้ง และจะมีเป็นเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยของการส่งผ่านข้อมูลแบบ SSL (Secure Socket Layer) ที่จะแสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์นี้ได้รับการรับรองความปลอดภัยในการส่งผ่านข้อมูลระหว่างกัน หรือร้านค้าออนไลน์บางแห่งอาจมีการใช้ระบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) อีกด้วย​
  • ควรตรวจสอบจำนวนเงินให้ถูกต้อง ก่อนที่จะเซ็นชื่อลงบน Sales Slip หรือกดรหัส PIN ยืนยันคำสั่งซื้อ
  • หากทำบัตรเดบิตหายให้รีบแจ้งธนาคารทันที เพื่อแจ้งอายัดบัตรและระงับการใช้งานของบัตรไปก่อน
  • ควรกำหนดรหัส PIN ที่ยากต่อการสุ่มเดา และไม่ควรเปิดเผยรหัสให้กับผู้อื่น อีกทั้งควรเปลี่ยนรหัส PIN อยู่เสมอ

ข้อสงสัยอื่นๆ เกี่ยวกับบัตรเดบิต

บัตรเดบิต กดเงินสดได้ไหม?

บัตร ATM และบัตรเดบิตนั้นสามารถใช้กดถอนเงินสดได้โดยที่ไม่เสียค่าธรรมเนียม เนื่องจากว่าเป็นการกดเบิกถอนเงินสดจากในบัญชีของผู้ถือบัตรเอง

บัตรเดบิตผ่อนสินค้าได้ไหม?

แน่นอนว่าบัตรเดบิตใช้ผ่อนสินค้าไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะสามารถใช้รูดซื้อสินค้าได้เหมือนกันกับบัตรเครดิตเลยก็ตาม เนื่องจากว่าบัตรเดบิตนั้นถูกออกแบบมาเพื่อใช้ชำระค่าสินค้าและบริการแบบตัดเงินจากในบัญชีของผู้ถือบัตรไปเลย ดังนั้นเงินจะถูกหักจากบัญชีที่ผูกกับบัตรไว้โดยตรงทันทีนั่นเอง

บัตรเดบิตใช้ที่ต่างประเทศได้ไหม?

สามารถใช้บัตรเดบิตที่ต่างประเทศได้ โดยที่ด้านหลังของบัตรเดบิตนั้นจะต้องมีเครื่องหมาย PLUS หรือ CIRRUS แต่ทั้งนี้ก็จะต้องระมัดระวังในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน และค่าธรรมเนียมด้วย เนื่องจากว่าจะต้องมีการชาร์จเพิ่มแน่นอน

บัตรเดบิตใช้จองตั๋วเครื่องบินได้ไหม?

การรูดบัตรเดบิตเพื่อใช้จองตั๋วเครื่องบินนั้นจะสามารถทำได้เฉพาะในบัตรเดบิตบางธนาคารเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น

ควรเลือกทำบัตรเครดิตแบบไหนดี เพื่อตอบโจทย์การใช้งานสูงสุด?

อันดับแรกคือคุณจะไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังธนาคารในแต่ละแห่ง เพื่อขอรับข้อมูลในการสมัคร บัตรเครดิต ด้วยตนเอง เนื่องจากว่าแรบบิท แคร์ นั้นได้มีการรวบรวมข้อมูลของบัตรเครดิตจากธนาคารชั้นนำของประเทศไทยไว้ให้แล้วทั้งหมด อีกทั้งยังมีข้อเสนอดี ๆ ให้คุณได้เลือกตามความต้องการอีกด้วย โดยสามารถดูข้อมูลได้ที่ บริการเปรียบเทียบบัตรเครดิต และถ้าหากสนใจบัตรแบบไหนก็สามารถกดสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลยทันที ครบ จบทุกขั้นตอนที่แรบบิท แคร์

ทำบัตรเครดิตผ่านแรบบิท แคร์ จะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?

แรบบิท แคร์ ได้มีการเชื่อมต่อระบบกับบริษัทผู้รับประกันภัยและทางธนาคารโดยตรง ดังนั้นจึงทำให้ในทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยความปลอดภัยและความรวดเร็ว อีกทั้งสามารถติดตามสถานะได้ตลอด 24 ชั่วโมง และนอกจากนี้แรบบิท แคร์ ยังมีบริการให้คำปรึกษา เพื่อเตรียมเอกสารในการยื่นสมัครบัตรเครดิตออนไลน์ได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน จึงส่งผลทำให้ทางธนาคารอนุมัติได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

บัตรเครดิตที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ

บัตรเครดิต ไทเทเนียมบัตรเครดิต ไทเทเนียม

ธ. กรุงเทพ / มาสเตอร์การ์ด

  • รับเครดิตเงินคืน 2% พร้อมสิทธิพิเศษอื่น ๆ
  • บริการส่วนบุคคล 24 ชม. ครอบคลุมทุกสถานการณ์
  • รับสิทธิพิเศษทั่วโลกจากโปรแกรมมาสเตอร์การ์ด
  • รับความคุ้มครองอุบัติเหตุเดินทาง สูงสุด 3 ล้าน
  • เงินคืน 12% เมื่อใช้จ่ายที่ศูนย์บริการโตโยต้า
  • เงื่อนไขรับเงินคืนไม่เกิน 2,000 บาทต่อรอบบัญชี
บัตรเครดิต วีซ่าแพลทินัม ท่องเที่ยวบัตรเครดิต วีซ่าแพลทินัม ท่องเที่ยว

ธ. กรุงเทพ / วีซ่า

  • ใช้จ่าย 25 บาท รับ 1 คะแนน แลกรับง่าย ๆ
  • 1 คะแนนแลก 1 BIG Point สะสมไมล์แอร์เอเชีย
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ครบวงจรตลอดเส้นทาง
  • รับความคุ้มครองอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุด $200,000
  • บริการช่วยเหลือในบ้าน ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • บริการคำแนะนำการเดินทาง วีซ่า สุขภาพ ท่องเที่ยว
บัตรเครดิต เคทีซี เอ๊กซ์ อโกด้า เวิลด์ รีวอร์ดส มาสเตอร์การ์ดบัตรเครดิต เคทีซี เอ๊กซ์ อโกด้า เวิลด์ รีวอร์ดส มาสเตอร์การ์ด

เคทีซี / มาสเตอร์การ์ด

  • AgodaCash สูงสุด 1,000 บาท สำหรับการใช้จ่ายที่ Agoda
  • รับคะแนน KTC FOREVER x2 เมื่อใช้จ่ายต่างประเทศ
  • รับเข้าห้องรับรอง MIRACLE LOUNGE 2 ครั้ง/ปี
  • สิทธิ์พักฟรี 1 คืน ที่โรงแรมเครือ Banyan Tree, Centara
  • รับผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน ผ่านบริการ KTC
  • 1 คะแนน KTC FOREVER ทุก 25 บาท ใช้จ่าย
บัตรเครดิต CardX ULTRA PLATINUMบัตรเครดิต CardX ULTRA PLATINUM

CardX / วีซ่า

  • คะแนน CardX Rewards X5 ทุก 25 บาท
  • ส่วนลดที่ร้านอาหาร Siam Kempinski Bangkok
  • รับส่วนลด 20% ที่ AVIS ผ่านเว็บ
  • ลด 15% ที่ Agoda สำหรับการจองออนไลน์
  • ลด 10% สำหรับรถเช่าและเรือ ทรู ลีสซิ่ง
  • ประกันเดินทางและอุบัติเหตุเมื่อจ่ายค่าตั๋ว

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา