Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้

เปรียบเทียบบัตรเครดิต ง่าย ๆ ภายใน 30 วินาที กับ

Rabbit Care

บัตรเสริม
user profile image
เขียนโดยPaweennuch W.วันที่เผยแพร่: Nov 17, 2022

ข้อควรรู้! บัตรเครดิต และบัตรเสริม เปิดให้ใคร ทำอะไรได้บ้าง

ตามข้อมูลจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากแห่งประเทศไทย หรือ Deposit Protection Agency เผยว่า ธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศและธนาคารพาณิชย์ในต่างประเทศ รวมมากกว่า 20 ธนาคาร เช่น ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทิสโก้ ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และธนาคารอื่น ๆ โดยธนาคารเหล่านี้จะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก คอยให้ข้อมูลและดูแลคุณ หากพบข้อสงสัยเกี่ยวกับการสมัครบัตรเครดิต การเปิดบัตร หรือขั้นตอนในการใช้บัตร คุณสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ธนาคารเหล่านี้ที่ใกล้บ้านคุณ มากไปกว่านั้นคุณอาจหาข้อมูล เกี่ยวกับวิธีการใช้บัตรในเว็บไซต์ต่างๆบนโลกออนไลน์
ปัจจุบันนี้ เทรนด์ของโลกเปลี่ยนไป หลายคนพกเงินสดน้อยลงและเปลี่ยนรูปแบบการชำระเงินเป็นแบบโอนจ่าย หรือจ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อความง่าย สะดวก และรวดเร็ว ดังนั้นบัตรเครดิต ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เนื่องจากเป็นหนึ่งในวิธีการชำระเงินที่หลายๆ คนเลือกใช้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้จักการชำระเงินรูปแบบนี้ดี โดยเฉพาะคนที่กำลังจะตัดสินใจเปิดบัตรเครดิตใบแรก เพื่อเป็นตัวช่วยในการใช้จ่าย บทความนี้จะมาบอก ข้อควรรู้เกี่ยวกับบัตรเครดิต และบัตรเสริม เปิดให้ใคร และทำอะไรได้บ้าง

บัตรเครดิตคืออะไร?

บัตรเครดิต คือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกให้โดยธนาคาร สามารถใช้แทนเงินสด เพื่อชำระสินค้าและบริการ โดยธนาคารจะมีวงเงินที่อนุมัติให้ เพื่อให้ใช้ในชำระ หรือผ่อนสินค้าได้ไม่เกินจำนวนเงินในวงเงินนั้นๆ เพื่อความสะดวก และรวดเร็วในการใช้จ่ายสิ่งต่างๆ มีทั้งหมดสองแบบด้วยกัน คือบัตรเครดิตหลัก และบัตรเครดิตเสริม เมื่อถึงกำหนดการชำระเงิน เราสามารถชำระเงินได้แบบเต็มจำนวน จ่ายขั้นต่ำ หรือสามารถผ่อนชำระกับธนาคารก็ได้ เพื่อให้เราสามารถบริหารเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น
บัตรเครดิตนั้น ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น การผ่อนสินค้าโดยไม่เสียดอกเบี้ย หรือที่ได้ยินกันบ่อยๆ ว่า 0% 10 เดือน, การสะสมแต้ม เพื่อแลกของสมนาคุณมากมาย, การรับเงินคืน หรือแคชแบ็ค หากเราวางแผนการใช้เงินด้วยความระมัดระวัง เราสามารถได้ประโยชน์จากการใช้บัตรเครดิตมากมายทีเดียวเลยล่ะ

บัตรเครดิตมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

บัตรเครดิตหลัก และบัตรเครดิตเสริมแบ่งออกเป็นอีกหลายชนิด ตามเครือข่ายการชำระเงินบัตรเครดิต (Payment Gateway) มี 2ประเภทหลักๆ ที่คนนิยมใช้กันทั่วโลก ซึ่งก็คือ บัตร Visa Card และ MasterCard โดยความแตกต่างกันก็คือ สิทธิประโยชน์ของแต่ละบัตร และประเภทของร้านค้าที่รับ เช่น ร้านอาหาร A รับจ่ายเฉพาะบัตร MasterCard เท่านั้น

ขั้นตอนการสมัครบัตรเครดิต

1. ตรวจสอบเงื่อนไขของธนาคาร

ก่อนจะทำธุรกรรมใด ๆ น้องแคร์ขอแนะนำให้คุณตรวจสอบเงื่อนไขของธนาคารก่อนอย่างละเอียดทุกครั้ง ว่าทำได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเมื่อไปถึงธนาคารแล้ว คุณต้องมั่นใจว่าคุณสมบัติของคุณตรงกับเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด เช่น อายุของผู้สมัครบัตร ฐานเงินเดือนขั้นต่ำ อายุงาน เป็นต้น หากคุณเป็นพนักงานประจำคุณจะสามารถสมัครบัตรเครดิตได้ง่ายกว่าพ่อค้าหรือแม่ค้าทั่วไป เพราะคุณมีฐานเงินเดือนที่ชัดเจน มั่นคง และตรวจสอบได้ง่าย

2. ตรวจสอบประวัติเครดิตบูโร

คะแนนเครดิตบูโรของคุณสามารถแบ่งออกเป็น 5 ระดับ คือ แย่มาก แย่ ปานกลาง ดี และดีมาก หลายคนสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่านเนื่องจากเครดิตบูโรแย่ โดยประวัติทางการเงินที่ดีเริ่มต้นจากตัวคุณเอง คุณต้องจ่ายหนี้ครบ ตรงเวลา มียอดค้างชำระไม่มาก แต่หากไม่มีเครดิตบูโรก็ยิ่งดีเลยเพราะจะทำให้คุณสมัครบัตรได้ง่ายมากขึ้น

3. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

ในการสมัครบัตรเครดิตแต่ละครั้งจะมีข้อมูลและเอกสารให้คุณกรอกเยอะมาก น้องแคร์ขอแนะนำให้คุณกรอกตามความเป็นจริง ให้ถูกต้องและครบถ้วน เพราะหากคุณกรอกผิดหรือตกหล่นตรงไหนไป จะมีผลต่อการสมัครบัตรอาจทำให้บัตรไม่ผ่านหรือถูกปฏิเสธได้ หากคุณกรอกข้อมูลผิดเยอะ คุณควรขอเอกสารกรอกใหม่เพื่อป้องกันการสับสนหรือเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ มากไปกว่านั้นข้อมูลส่วนตัวเป็นสิ่งที่สำคัญและควรให้ข้อมูลให้ถูก เพราะมีหลายกรณีมากที่ให้ชื่อ ที่อยู่ผิด แล้วไม่สามารถสมัครบัตรได้

4. เตรียมเอกสาร

4.1 สำเนาบัตรประชาชน 1 ใบ : โดยในบัตรจะประกอบด้วย รูปถ่ายของคุณ ข้อมูลส่วนตัว เช่น ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน อย่างไรก็ตามเมื่อคุณถ่ายสำเนา อย่าลืมตรวจสอบความถูกต้อง ความชัดเจนของข้อมูล และเซ็นว่าสำเนาถูกต้อง พร้อมลงชื่อลายมือชื่อให้เรียบร้อย
4.2 สำเนาหน้าสมุดบัญชี 1 ชุด : ในหน้าสมุดบัญชีจะประกอบไปด้วย ชื่อของคุณ เลขบัญชี สาขาที่เปิดบัญชี ดังนั้นหากคุณถ่ายสำเนาแล้ว อย่าลืมเซ็นกำกับว่า สำเนาถูกต้อง
4.3 Bank Statement : คุณสามารถขอรายการเงินฝากถอนในบัญชีเงินฝากย้อนหลัง3-6 เดือน ได้ที่ ธนาคารโดยจะมีค่าธรรมเนียมประมาณ 100-200 บาท หรือขอผ่านทางแอปพลิเคชันก็ได้เช่นกัน
4.4 สลิปเงินเดือนย้อนหลัง : เป็นหนึ่งในเอกสารที่สำคัญมาก เพราะธนาคารจะดูว่าสิ่งที่คุณกรอกมากับในความเป็นจริงตรงกันไหม เช่น เงินเดือน ชื่อบริษัท หากคุณกรอกด้วยความซื่อสัตย์ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร

บัตรหลัก บัตรเสริม ดูยังไง

หลายคงอาจสงสัยว่าบัตรหลัก บัตรเสริมดูยังไง ต่างกันยังไง หรือ มีวิธีแยกยังไง แต่จริง ๆ แล้วบัตรทั้งสองประเภทแทบจะเหมือนกันเลยด้วยซ้ำ สามารถนำมารูดเพื่อซื้อสินค้าและบริการ โดยโปรโมชั่น วงเงิน ทั้งสองบัตรก็จะเท่ากันและมีเหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือค่าธรรมเนียมและความรับผิดชอบในยอดค่าใช้จ่ายเท่านั้น

บัตรเสริมคืออะไร?

บัตรเสริมจะมีได้ก็ต่อเมื่อมีบัตรหลักก่อน โดยจะเป็นบัตรที่ใช้จ่ายได้เหมือนกับบัตรเครดิตหลักทั่วไป โดยวงเงินที่ใช้นั้นจะเป็นวงเงินเดียวกับบัตรหลัก เช่น หากมีวงเงินในบัตรหลัก 50,000 บาท หากบัตรหลักถูกใช้ไปเหลือ 20,000 บัตรเสริมก็จะมีวงเงินเหลืออยู่ 20,000 เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ถือบัตรเครดิตหลักสามารถกำหนดวงเงินให้กับบัตรเสริมได้ โดยต้องมีมูลค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับวงเงินของบัตรหลักเท่านั้น วัตถุประสงค์ของบัตรเสริมนั้น ถูกตั้งมาเพื่อให้คนในครอบครัวของผู้ถือบัตรหลักได้ใช้นั่นเอง

การเช็กยอดใช้จ่าย

ผู้ที่ถือบัตรหลักเท่านั้นที่จะสามารถเช็คยอดค่าใช้จ่ายในบัตรได้ โดยการตรวจสอบแต่ละครั้งจะทำได้ที่ตู้ ATM และธนาคารเท่านั้น ไม่สามารถตรวจสอบผ่านทางแอพพลิเคชั่นออนไลน์ได้

ใครสามารถสมัครบัตรเสริมได้บ้าง

โดยทั่วไป บัตรเสริมจะถูกสมัครเพื่อให้คนภายในครอบครัวของผู้ถือบัตรหลักใช้ เช่น พ่อ, แม่, ลูก หรือญาติพี่น้อง ของผู้ถือบัตรหลัก จริงๆ สามารถสมัครให้แก่ผู้อื่นนอกสายเลือด หรือนอกครอบครัวได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นคนที่เราสามารถไว้ใจได้ในเรื่องการเงิน และสามารถยืนยันข้อมูลของตนว่าตรงกับที่ทางธนาคารมีหรือไม่
ในส่วนของสิทธิประโยชน์ของบัตรเสริมจะเหมือนของบัตรหลัก เช่น โปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ แต่ค่าใช้จ่าย หรือการสะสมคะแนนแยกระหว่างบัตรเสริมและบัตรหลัก แต่ค่าใช้จ่าย และค่าธรรมเนียมจะถูกคิดรวมกับบัตรหลัก

ข้อดี และข้อเสียของบัตรเสริม

ก่อนจะสมัครบัตรเสริมให้คนในครอบครัว หรือคนที่คุณรักใช้ ควรศึกษาข้อดีข้อเสีย เพื่อประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

  • ข้อดี : คือทำให้มีเครดิตบูโร เผื่อในอนาคตจะต้องกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือลงทุนธุรกิจ ก็สามารถใช้ประวัติที่ดี จากการใช้บัตรเสริมนี้ได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยสะสมแต้มในการใช้จ่าย เพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากบัตรเครดิตอีกด้ว
  • ข้อเสีย : ผู้ที่ถือบัตรหลักจะเป็นผู้รับผิดชอบรายจ่ายที่เกิดจากบัตรเสริม ดังนั้นหากผู้ถือบัตรเสริมไม่ได้ชำระหนี้บัตรเครดิต ผู้ถือบัตรหลักจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

ขั้นตอนการสมัครบัตรเสริม

ในการจะเปิดบัตรเสริมได้ จะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือบัตรหลักก่อน ถึงจะสามารถทำได้ เมื่อได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้ว ทางผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเสริม จะต้องส่งเอกสารที่มีข้อมูลของผู้ถือบัตรหลัก และข้อมูลของผู้ถือบัตรเสริม ให้ทางสถาบันทางการเงินดังนี้

  • สำเนาบัตรประชาชน และลายเซ็นของผู้ถือบัตรหลัก
  • สำเนาบัตรประชาชน และลายเซ็นของผู้ถือบัตรเสริม
  • สำเนาบัตรเครดิตบัตรหลัก
  • ใบสมัครบัตรเสริมที่กรอกข้อมูลรายละเอียดส่วนตัวของผู้ที่ต้องการสมัครบัตร

ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตหลัก และบัตรเครดิตเสริม ผู้สมัครควรศึกษา และใช้อย่างรอบคอบ รวมถึงมีวินัยในการบริหารเงิน จ่ายเงินตามรอบบิล เพื่อให้ได้รับประโยชน์ในการใช้บัตรเครดิตอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยบัตรเครดิตมีมากมายหลายประเภท สามารถเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนได้

บัตรเครดิตที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ

บัตรเครดิต ไทเทเนียมบัตรเครดิต ไทเทเนียม

ธ. กรุงเทพ / มาสเตอร์การ์ด

  • รับเงินคืนสูงสุด 2% ต่อรอบบัญชี
  • บริการช่วยเหลือส่วนบุคคล 24 ชม. ครบวงจร
  • สิทธิพิเศษทั่วโลกจากมาสเตอร์การ์ด เวิลด์ไวด์
  • คุ้มครองอุบัติเหตุขณะเดินทาง สูงสุด 3 ล้าน
  • รับเงินคืน 12% ที่ศูนย์โตโยต้าทั่วประเทศ
  • เงินคืนเข้าบัญชีไม่เกิน 2,000 บาทต่อบัตรต่อรอบบัญชี
บัตรเครดิต เคทีซี วีซ่า แพลตทินั่มบัตรเครดิต เคทีซี วีซ่า แพลตทินั่ม

เคทีซี / วีซ่า

  • เปลี่ยนยอดชำระเป็นผ่อน 0.74% นาน 10 เดือน
  • คุ้มครองสูงสุด 8 ล้านบาท ประกันการเดินทาง
  • คุ้มครองอุบัติเหตุ 300,000 บาท ฟรี 90 วัน
  • ถอนเงินสดสูงสุด 500,000 บาท/วัน ผ่าน KTC Mobile
  • ทุก 25 บาท รับ 1 คะแนน KTC FOREVER
  • บริการ KTC PERSONAL ASSISTANT ทุกวัน 24 ชม.
บัตรเครดิตกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ วีซ่าบัตรเครดิตกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ วีซ่า

เฟิร์สช้อยส์ / วีซ่า

  • แบ่งชำระรายเดือน 0% 3 เดือน ผ่านฟีเจอร์ U PLAN
  • ผ่อนสินค้า/บริการ สูงสุด 36 เดือน ผ่านบัตรเครดิต
  • คุ้มครอง 15,000 บาท สำหรับการซื้อของออนไลน์
  • ผ่อน 0% 2 เดือนข้างหน้า ซื้อวันนี้
  • จ่ายคืนขั้นต่ำ 3% และแบ่งจ่ายได้ 60 เดือน
  • รับเงินคืนทุกเดือน และหลีกเลี่ยงดอกเบี้ย 16%
บัตรเครดิต CardX BEYONDบัตรเครดิต CardX BEYOND

CardX / มาสเตอร์การ์ด

  • รับคะแนน CardX Rewards 1 คะแนน ทุก 25 บาท
  • รับส่วนลดสูงสุด 25% ที่ร้านอาหารโรงแรม
  • ลด 10% ค่าห้องพักและค่าใช้จ่าย รพ.กรุงเทพ
  • รับส่วนลด 5% สำหรับสนามกอล์ฟผ่าน Golfdigg
  • ส่วนลด 10% รถเช่าและเรือจากทรู ลีสซิ่ง
  • ใช้จ่ายครบ รับบริการฟิตเนสฟรี

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา