วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต อย่างถูกต้องและเข้าใจง่าย
ดอกเบี้ยบัตรเครดิตอาจดูเหมือนเรื่องซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้ว หากเราเข้าใจหลักการพื้นฐานและวิธีการคำนวณอย่างถูกต้อง จะสามารถใช้บัตรเครดิตได้อย่างคุ้มค่าโดยไม่เป็นหนี้เรื้อรัง ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึก วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต ทั้งรายวัน รายเดือน แบบจ่ายขั้นต่ำ และผ่อนสินค้า พร้อมเครื่องมือช่วยคำนวณ และเทคนิคหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยแบบผู้รู้จริง
โปรแกรมคํานวณ ดอกเบี้ยบัตรเครดิต
ดอกเบี้ยบัตรเครดิตคืออะไร?
นิยามและความหมายของดอกเบี้ยบัตรเครดิต
ดอกเบี้ยบัตรเครดิต คือ ค่าธรรมเนียมที่สถาบันการเงินเรียกเก็บ หากผู้ถือบัตรไม่สามารถชำระยอดเต็มจำนวนภายในวันที่ครบกำหนด ดอกเบี้ยจะถูกคิดจากวันที่ทำรายการจนถึงวันที่ชำระคืน
ทำไมต้องมีดอกเบี้ย?
ดอกเบี้ยเป็นกลไกที่ธนาคารใช้เพื่อชดเชยความเสี่ยง และค่าใช้จ่ายในการให้สินเชื่อผ่านบัตรเครดิต หากผู้ใช้ไม่มีวินัยในการชำระเงิน อัตราดอกเบี้ยนี้จะเพิ่มภาระทางการเงินอย่างมาก
ประเภทของดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่ควรรู้

ดอกเบี้ยกรณีจ่ายขั้นต่ำ
หากจ่ายแค่ขั้นต่ำ ธนาคารจะยังคงคิดดอกเบี้ยจากยอดที่เหลือ และคิดรายวันจนกว่าจะชำระครบ

ดอกเบี้ยกรณีผ่อนสินค้า
แม้จะโฆษณาว่า “ผ่อน 0%” แต่หากชำระไม่ตรงเวลา หรือผิดเงื่อนไข อาจมีดอกเบี้ยแฝงเกิดขึ้นได้

ดอกเบี้ยกรณีผิดนัดชำระ
หากผิดนัดจะถูกคิดดอกเบี้ยปรับสูงสุดทันที และส่งผลต่อประวัติเครดิต
วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตแบบรายวันและรายเดือน
เมื่อคุณใช้บัตรเครดิตแต่ไม่ได้ชำระเงินเต็มจำนวนภายในวันที่ครบกำหนดชำระ ดอกเบี้ยจะเริ่มต้นคิดจากวันที่ทำรายการไปจนถึงวันที่คุณชำระเงินในรอบถัดไป โดยธนาคารจะใช้วิธีคำนวณแบบ “รายวัน” หรือที่เรียกว่า Daily Interest Calculation เป็นหลัก ซึ่งผลลัพธ์จะถูกรวมเพื่อแสดงเป็น “รายเดือน” ในใบแจ้งยอด
วิธีคิดแบบรายวัน
ตัวอย่าง:
- คุณซื้อของด้วยบัตรเครดิต 15,000 บาท วันที่ 1 ก.ค.
- รอบบิลสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.
- วันครบกำหนดชำระคือ 10 ส.ค.
- คุณชำระขั้นต่ำเพียง 1,500 บาท
สูตรแบบรายวัน:
ยอดค้างชำระ: 13,500 บาท | อัตราดอกเบี้ย: 18% ต่อปี | จำนวนวันที่ค้าง: 30 วัน
ดังนั้น ในรอบบิลถัดไป คุณจะต้องจ่ายยอดขั้นต่ำ บวกกับดอกเบี้ย 199.73 บาท
วิธีคิดแบบรายเดือน
หากต้องการประเมินดอกเบี้ยอย่างคร่าว ๆ ต่อเดือน ธนาคารจะใช้การแบ่งอัตรารายปี (APR) เป็นรายเดือน ดังนี้
สูตรแบบรายเดือน:
เช่น หาก APR = 18% → 18 ÷ 12 = 1.5% ต่อเดือน
วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตแบบจ่ายขั้นต่ำ
ทำไมการจ่ายขั้นต่ำถึงเป็นดาบสองคม?
แม้ช่วยให้ไม่เสียประวัติเครดิต แต่ยอดค้างจะ ถูกคิดดอกเบี้ยต่อเนื่อง และทำให้ยอดรวมสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยกรณีจ่ายขั้นต่ำ
ยอดใช้ 20,000 บาท จ่ายขั้นต่ำ 10% = 2,000 บาท ยอดค้าง = 18,000 บาท ดอกเบี้ยเดือนถัดไปจะคำนวณจากยอดนี้
วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตกรณีผ่อนสินค้า
ผ่อน 0% จริงไหม?
จริง เฉพาะกรณีตรงตามเงื่อนไข เช่น ชำระตรงเวลา และไม่มีการใช้วงเงินเกินขีดจำกัด หากผิดนัดแม้เพียงวันเดียว จะถูกคิดดอกเบี้ยเต็มทันที
รายละเอียดเงื่อนไขที่ต้องระวัง
- ระยะเวลาผ่อน
- จำนวนงวดที่กำหนด
- บางรายการเก็บค่าธรรมเนียมแฝง
เปรียบเทียบดอกเบี้ยบัตรเครดิตของแต่ละธนาคาร (2025)
ธนาคาร | อัตราดอกเบี้ยต่อปี (%) |
---|---|
ธนาคารกรุงเทพ (BBL) | 16% |
ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) | 16% |
ธนาคารกรุงไทย (KTB) | 16% |
ธนาคารกรุงศรี (Krungsri) | 16% |
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) | 16% |
ธนาคาร UOB | 16% |
ธนาคาร TTB | 16% |
หมายเหตุ : ข้อมูลอัตราดอกเบี้ยข้างต้นจัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น โดยอัตราดอกเบี้ยอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์หรือสาขาของธนาคารแต่ละแห่งก่อนตัดสินใจ
ข้อควรระวังในการใช้บัตรเครดิตเพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ย
- ชำระเต็มจำนวนในรอบบิล หลีกเลี่ยงการเสียดอกเบี้ยโดย ชำระเต็มยอดภายในวันที่กำหนด ทุกเดือน
- หลีกเลี่ยงการถอนเงินสด การกดเงินสดจากบัตรเครดิต คิดดอกเบี้ยทันที โดยไม่มีระยะปลอดดอกเบี้ย
ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยจริงแบบ Step-by-Step
- ใช้จ่าย: 15,000 บาท
- ชำระเพียง 3,000 บาท
- ยอดค้าง: 12,000 บาท
- อัตราดอกเบี้ย: 18% → คิดจาก 12,000 เป็นเวลา 30 วัน = ประมาณ 177 บาท
เทคนิคจัดการบัตรเครดิตให้ไม่เสียดอกเบี้ย
วางแผนการใช้จ่ายอย่างไร
- ใช้เมื่อจำเป็น
- ตรวจสอบยอดทุกเดือน
- เลือกซื้อแบบผ่อน 0% เฉพาะรายการจำเป็น
เทคนิคเลือกผ่อนแบบไม่มีดอกเบี้ย
- ตรวจสอบร้านค้าที่ร่วมรายการ
- เลือกงวดผ่อนที่สามารถชำระไหว
- อย่าลืมวันครบกำหนดชำระ
ผลกระทบของการชำระล่าช้าต่อ Credit Score
ชำระล่าช้ากระทบอย่างไร?
การชำระช้ากว่า 30 วัน จะถูกรายงานในระบบ เครดิตบูโร ส่งผลให้กู้เงินในอนาคตยากขึ้น
วิธีรักษาเครดิตดี
- จ่ายตรงเวลา
- ไม่ใช้เกิน 50% ของวงเงิน
- ไม่เปิดหลายบัตรโดยไม่จำเป็น
การเข้าใจวิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต คือกุญแจสำคัญในการ ป้องกันหนี้บัตรเครดิตเรื้อรัง ใช้บัตรเครดิตอย่างมีสติ จ่ายเต็มรอบบิล และใช้เครื่องมือช่วยคำนวณให้แม่นยำ จะทำให้คุณควบคุมการเงินได้อย่างมืออาชีพ..