วันหมดอายุบัตรเครดิต สำคัญอย่างไร ต่ออายุก่อนได้ไหม

เมื่อวันหมดอายุบัตรเครดิตใกล้จะมาถึง หลายคนอาจจะกำลังมองหาบัตรเครดิตใบใหม่ หรือกำลังลังเลว่าจะใช้บัตรเครดิตใบเดิมต่อไปดี เพราะโดยปกติแล้ว เรามักจะไม่ได้สังเกตวันหมดอายุบัตรเครดิตระหว่างใช้งาน ซึ่งเมื่อมารู้ตัวอีกที บัตรที่ใช้ก็กำลังใกล้หมดอายุแล้ว ซึ่งหากใกล้ถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตใบที่ใช้อยู่ สามารถใช้ใบเดิมต่อ หรือหาบัตรใหม่ที่มีโปรโมชั่นดีกว่ามาใช้แทนได้ หรืออีกกรณี คือ จะใช้บัตรเดิมที่ใกล้ถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตแล้ว ควบคู่ไปกับบัตรใบใหม่ก็ได้เช่นกัน

สำหรับผู้ใช้งานบัตรเครดิต คงจะทราบกันดีว่า ปกติแล้วจะมีวันหมดอายุบัตรเครดิตแสดงอยู่บนบัตร แต่สำหรับ First Jobber ที่เพิ่งเริ่มใช้บัตรเครดิต อาจจะมีข้อสงสัยว่า วันหมดอายุบัตรเครดิต ดูตรงไหน? แสดงอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังบัตร? เมื่อถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตแล้ว ทำอย่างไรได้บ้าง?

วันหมดอายุบัตรเครดิต ส่วนใหญ่แล้วจะแสดงอยู่บริเวณด้านหน้าบัตร แต่ก็อาจจะมีบัตรบางธนาคารที่มีวันหมดอายุบัตรเครดิตอยู่ด้านหลังบัตรก็ได้เช่นกัน ซึ่งโดยทั่วไป บัตรเครดิตจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี และเมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุบัตรเครดิต ธนาคารจะส่งบัตรใหม่มาให้เราก่อนถึงวันหมดอายุ โดยมักจะส่งบัตรมาล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน หรือ 30 วัน โดยที่ผู้ใช้บัตรไม่ต้องยื่นเอกสารใด ๆ เพิ่มเติม อีกทั้งค่างวดต่าง ๆ ที่ยังคงค้างอยู่ในบัตรใบเก่า ก็จะถูกโอนมายังบัตรใบใหม่ด้วย

สำหรับบัตรใบใหม่ที่ธนาคารส่งมาให้ จะมีวันหมดอายุบัตรเครดิต และเลข CVV เป็นตัวเลขใหม่ ซึ่งเมื่อถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตใบเก่าที่ใช้อยู่แล้ว จะไม่สามารถใช้งานบัตรใบนั้นต่อได้ ต้องใช้บัตรใบใหม่เท่านั้น

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า โดยทั่วไปบัตรเครดิตจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี แต่ก็จะมีบัตรเครดิตบางธนาคารที่หมดอายุก่อน 5 ปี ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร ซึ่งผู้ใช้งานควรจะตรวจสอบวันหมดอายุบัตรเครดิตที่ระบุอยู่บนบัตรก่อนใช้งาน เพราะหากถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตใบนั้น ๆ แล้ว จะไม่สามารถใช้งานต่อได้

สำหรับอายุการใช้งานของบัตรเครดิตโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 ปี โดยแบ่งตามสิทธิประโยชน์ได้ ดังนี้

• บัตรเครดิตระดับทั่วไป

สามารถสมัครได้โดยมีเงื่อนไขในการสมัครไม่เยอะ ส่วนใหญ่แล้วจะมีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี ก่อนจะถึงวันหมดอายุบัตรเครดิต

• บัตรเครดิตระดับพรีเมียม

บัตรเครดิตประเภทนี้ จะมีวันหมดอายุบัตรเครดิตที่ยาวนานกว่าประเภทแรก และมีสิทธิประโยชน์มากกว่า และด้วยเงื่อนไขในการสมัครที่เพิ่มมากขึ้นจากประเภทแรก จึงทำให้บัตรประเภทนี้ มีอายุการใช้งานนานกว่า โดยอายุการใช้งานเฉลี่ยจะอยู่ที่ 5 ปี

• บัตรเครดิตเฉพาะร้านค้า

ที่ธนาคารได้มีการ Co กับแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อสิทธิประโยชน์ในการทำธุรกรรมกับแบรนด์นั้น ๆ เช่น Grab Lazada Agoda ฯลฯ โดยสามารถใช้งานได้ 3-5 ปี ก่อนจะถึงวันหมดอายุบัตรเครดิต

หากถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตใบนั้น ๆ แล้ว จะไม่สามารถใช้งานบัตรต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นการรูดซื้อสินค้า หรือทำธุรกรรมออนไลน์ ก็จะต้องใช้บัตรใบใหม่เท่านั้น หากผู้ใช้บัตรเคยนำบัตรไปผูกกับแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ก็จะต้องเปลี่ยนบัตรใหม่ก่อนจะทำรายการใช้จ่าย

หากใครที่ยังมีข้อสงสัยว่า เมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตแล้ว สามารถต่ออายุก่อนได้หรือไม่ และเมื่อถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตแล้ว ทำอย่างไรได้บ้าง? บอกเลยว่าเราไม่จำเป็นต้องต่ออายุบัตรเครดิต หากต้องการใช้งานต่อ เพียงแค่รอรับบัตรใบใหม่จากธนาคารเท่านั้น แต่หากไม่ต้องการใช้บัตรเครดิตใบนี้ต่อ ควรรีบแจ้งธนาคารล่วงหน้าก่อนที่บัตรเครดิตใบใหม่จะส่งมาถึง เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลายกเลิกบัตรใบใหม่นั่นเอง

ดังนั้น สิ่งที่ควรทำเมื่อรู้ว่าใกล้ถึงวันหมดอายุบัตรเครดิต คือ การประเมินความต้องการของตนว่ายังต้องการใช้บัตรใบนั้นอยู่หรือไม่ หากไม่ต้องการใช้บัตรเครดิตใบดังกล่าวที่กำลังจะหมดอายุ ควรแจ้งธนาคารเพื่อทำการปิดบัตร ก่อนที่บัตรใหม่จะถูกส่งมาถึงบ้าน แต่หากยังต้องการใช้บัตรเครดิตใบเดิมอยู่ เมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุบัตรเครดิต ผู้ใช้บัตรเพียงแค่รอบัตรใหม่มาส่งถึงบ้าน ไม่ต้องต่ออายุเอง เพราะบัตรจะถูกต่ออายุโดยอัตโนมัติ หากผู้ใช้ไม่ได้แจ้งธนาคารเพื่อขอยกเลิกบัตร และเมื่อได้รับบัตรใหม่แล้ว ควรทำลายบัตรใบเก่าให้เรียบร้อยก่อนจะทิ้ง เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล โดยสามารถเปิดใช้งานบัตรใหม่ได้ทันที แต่จะต้องรอใช้งานบัตรใบใหม่หลังวันหมดอายุบัตรเครดิตใบเก่ามาถึง

นอกจากนี้ หากได้มีการผูกบัตรเครดิตใบเก่าไว้กับแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อทำธุรกรรมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ช็อปปี้ ลาซาด้า ควรอัปเดตข้อมูลโดยเพิ่มบัตรเครดิตใบใหม่แทนบัตรใบเก่า เพราะเมื่อถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตใบเก่าแล้ว จะไม่สามารถใช้งานบัตรใบนั้นได้อีก

หากใกล้ถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตแล้ว ไม่ต้องการใช้งานบัตรใบเดิมต่อ ควรเลือกบัตรใหม่แบบไหนดี จึงจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของเรา วันนี้ แรบบิท แคร์ มีคำตอบ

บัตรเครดิต คือ รูปแบบการใช้จ่ายอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสด เพื่อใช้จ่ายค่าสินค้าและบริการ โดยที่เรายังไม่ต้องจ่ายเงินสดออกไปทันที แต่ธนาคารจะจ่ายให้ก่อน และเราค่อยจ่ายคืนธนาคารภายหลัง ในระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด หากจ่ายคืนเกินระยะเวลาที่กำหนดก็จะถูกคิดดอกเบี้ย ซึ่งเปรียบเหมือนการยืมเงินจากธนาคารมาใช้ก่อน และจ่ายคืนภายหลัง ซึ่งจะมีข้อดีในเรื่องของสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ทั้งคะแนนสะสม ส่วนลด เครดิตเงินคืน รวมทั้งได้รับสินค้าและบริการจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่เข้าร่วมกับบัตรเครดิตใบนั้น ๆ เป็นสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้บัตร

ซึ่งหากใกล้ถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตใบเก่าแล้ว แนะนำให้ตรวจสอบโปรโมชันของบัตรใบเดิม กับบัตรเครดิตใบใหม่ที่กำลังมองหา เพื่อให้สามารถเลือกบัตรที่คุ้มค่ามากกว่ามาใช้งาน เมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตใบเดิม ซึ่งแรบบิท แคร์ จะพามาดูสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิต เพื่อประกอบการตัดสินใจเปลี่ยนบัตร หากถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตกัน

• บัตรเครดิตที่ให้เครดิตเงินคืน (Cashback)

หากใช้บัตรเครดิตประเภทนี้ ธนาคารจะคืนเงินให้กับผู้ใช้บัตร หากมีการรูดใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งจำนวนเงินคืนจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดชำระ หรือตามยอดเงินที่กำหนดในแต่ละโปรโมชั่นของบัตรเครดิตและร้านค้านั้น ๆ โดยระยะเวลาในการคืนเงินก็ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าและแต่ละโปรโมชันด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะเป็นการคืนเงินในรอบบัญชีนี้ หรือรอบบิลถัดไปก็ได้

ซึ่งหากร้านค้าที่เราซื้อสินค้าและบริการเป็นประจำ เข้าร่วมโปรโมชั่นกับบัตรเครดิตใบนี้ และมอบเครดิตเงินคืนสูง คุ้มค่ากับยอดเงินที่ใช้จ่ายไป ก็ควรจะเปลี่ยนมาใช้เมื่อถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตใบเก่า เช่น บัตรเครดิต Cashback ของธนาคารหนึ่ง เสนอโปรโมชั่น คืนเงิน 10% ของยอดใช้จ่าย เมื่อรูดใช้จ่ายในร้านค้าแห่งหนึ่งที่เราซื้อสินค้าเป็นประจำ ครบ 100 บาท ก็จะได้เงินคืนกลับมา 10 บาท นับว่าคุ้มค่ามาก ๆ ดังนั้น เมื่อถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตใบเก่า หากจะเปลี่ยนมาใช้งานบัตรใบนี้แทนก็นับว่าได้สิทธิประโยชน์คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป หรือหากจะใช้บัตรใบเดิมเมื่อถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตแล้วก็ได้เช่นกัน เพียงแค่ไม่ยกเลิกบัตรใบเดิมก็จะได้บัตรใหม่มาใช้งานได้ตามปกติ

• บัตรเครดิตสะสมแต้ม (Point)

เมื่อมีการใช้งานบัตรเครดิตประเภทนี้ ผู้ใช้งานจะได้คะแนน หรือแต้มสะสม (Point) เข้ามาในบัตรเครดิต ซึ่งเงื่อนไขและจำนวนแต้มที่จะได้ ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ยอดใช้จ่าย 25 บาท ต่อ 1 แต้ม และเมื่อสะสมแต้มครบตามที่กำหนด ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากร้านค้าที่เข้าร่วมกับบัตรเครดิตใบนั้น ๆ เช่น ใช้เป็นส่วนลดซื้อสินค้าและบริการ แลกของสมนาคุณ หรือจะนำแต้มที่ได้ไปแลกเป็นเงินคืนก็ได้เช่นกัน

หากสินค้าหรือบริการที่ได้รับจากการแลกแต้มนั้นเป็นสินค้าที่เราต้องการ เช่น ตั๋วภาพยนตร์ ตั๋วเครื่องบิน หรือ Lounge สายการบินต่าง ๆ ซึ่งเราใช้งานเป็นประจำ เมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตใบเดิม อาจจะเลือกเปลี่ยนมาใช้บัตรเครดิตใบนี้ ก็น่าสนใจไม่น้อย

เมื่อถึงวันหมดอายุบัตรเครดิต แล้วธนาคารไม่ต่อให้ นั่นก็เพราะว่าบัตรเครดิตใบดังกล่าวไม่ได้มีการใช้จ่ายมานานติดต่อกันเกิน 12 เดือน จึงทำให้บัตรถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ หรืออีกกรณีที่ธนาคารไม่ต่อบัตรเครดิตใบใหม่ให้ อาจเกิดจากบัตรใบนั้นเป็นบัตรที่ธนาคารได้มีการ Co กับแบรนด์ต่าง ๆ โดยมีโปรโมชั่นสำหรับบัตรเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น และเมื่อหมดโปรโมชั่นบัตรเครดิตใบนั้น หรือถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตไปแล้ว จึงไม่ต่ออายุให้ ทำให้บัตรถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ ซึ่งหากผู้ใช้งานมีข้อสงสัยว่า เมื่อถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตของตนแล้ว เพราะเหตุใดธนาคารจึงไม่ต่ออายุบัตรใหม่ให้ แนะนำให้ติดต่อสอบถามกับธนาคารโดยตรง

หากใกล้ถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตที่ใช้อยู่ และกำลังมองหาบัตรใบใหม่ ขอแนะนำให้สมัครบัตรเครดิตกับ แรบบิท แคร์ เพราะมีบัตรหลากหลายให้เลือก สิทธิประโยชน์คุ้มค่า เช่น บัตรเครดิตจากธนาคาร TTB KTB หรือ UOB ฯลฯ ที่ล้วนแล้วแต่มีขั้นตอนการสมัครไม่ยุ่งยาก มอบส่วนลด เครดิตเงินคืน และคะแนนสะสมที่คุ้มค่า ไม่มีค่าธรรมเนียมบัตรตลอดชีพ เมื่อถึงวันหมดอายุบัตรเครดิตใบเก่าแล้ว สามารถเลือกสมัครบัตรใหม่ได้ผ่านแรบบิท แคร์