Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
info

💙 แจก Starbuck Voucher มูลค่า 800 บาทฟรี! เพียงเปิดบัญชี Webull ผ่านช่องทางของ Rabbit Care สนใจ คลิก! 💙

user profile image
เขียนโดยTawan A.วันที่เผยแพร่: Mar 13, 2023

การเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ทำอย่างไร และสัญญาเช่าแตกต่างสัญญาเช่าซื้ออย่างไร?

ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ หลายคนอาจจะรับภาระในเรื่องของค่าใช้จ่ายหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นค่ากิน ค่าอยู่ หรือค่าจิปาถะอื่น ๆ ที่นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น ส่วนรายรับนั้นดันไม่ได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย และส่วนใหญ่จะเห็นได้ชัดในเรื่องภาระของการผ่อนรถ จะเดินหน้าต่อไปก็ไม่ได้หรือจะถอยหลังกลับไปก็ไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นการส่งมอบรถยนต์ให้คนอื่นไปดูแลต่อ หรือว่าการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์นั้นน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะว่าไม่ทำให้เสียประวัติตัวเองด้วย

สัญญาซื้อขายรถยนต์คืออะไร?

โดยปกติแล้วการที่เราจะเป็นเจ้าของรถยนต์อย่างถูกกฎหมายได้นั้น ในเรื่องของเอกสารสัญญาซื้อขายรถยนต์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อจะได้เป็นไปตามขั้นตอนและดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นผู้ซื้อหรือผู้ขายก็ควรที่จะต้องศึกษาหารายละเอียดเพิ่มเติมให้ถี่ถ้วนและชัดเจน ทั้งในเรื่องของข้อมูลรถยนต์ รายละเอียดเอกสารสัญญาซื้อขายรถยนต์ รวมไปถึงในเรื่องของขั้นตอนตามกฎหมายต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งตัวสัญญาซื้อขายรถยนต์นั้นจะเป็นแบบฟอร์มที่บันทึกรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการขายรถยนต์ในทุกรูปแบบ โดยที่เราสามารถดูหรือดาวน์โหลดตัวสัญญาซื้อขายรถยนต์นี้ได้จากในอินเทอร์เน็ตทั่วไปได้เลย และสามารถนำตัวสัญญาซื้อขายรถยนต์นี้ไปยื่นเรื่องกับทางกรมการขนส่งทางบกได้เลยเหมือนกัน

ซึ่งเอกสารที่เราจะต้องใช้ในการทำสัญญาซื้อขายรถยนต์นั้นจะมีดังนี้

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาสัญญาซื้อขายรถยนต์ ข้อนี้สำคัญมาก เพราะจะเกี่ยวข้องกับการไปโอนรถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบก และจะสามารถใช้เป็นหลักฐานในการทำสัญญาซื้อขายรถยนต์กันจริง ๆ หากมีปัญหาตามมาในภายหลัง จะได้ใช้เอกสารฉบับนี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่ามีการซื้อขายรถยนต์กันอย่างถูกต้องตามกฎหมายจริง ๆ
  • สมุดเล่มทะเบียนรถยนต์ เป็นสิ่งที่จะสามารถแสดงให้เห็นว่าผู้ขายรถยนต์นั้นเป็นเจ้าของตัวจริง เพราะชื่อของเจ้าของรถยนต์ในสำเนาบัตรประชาชน จะต้องตรงกับชื่อในสมุดเล่มทะเบียนรถยนต์นั่นเอง ไม่ใช่มิจฉาชีพที่เข้ามาแอบอ้างทำสัญญาซื้อขายรถยนต์
  • หนังสือโอนรถยนต์ ซึ่งเอกสารนี้สามารถขอได้ที่กรมการขนส่งทางบก เพราะเป็นสิ่งที่จะใช้ในการเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์จากชื่อผู้ขายมาเป็นชื่อผู้ซื้อในการทำสัญญาซื้อขายรถยนต์
  • หนังสือมอบอำนาจ จะใช้ในกรณีที่ผู้ขายไม่สามารถไปดำเนินการโอนรถยนต์ให้กับผู้ซื้อได้เองโดยตรงที่กรมการขนส่งทางบก แต่จะใช้วิธีการทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ โอนลอย คือการให้หนังสือมอบอำนาจแก่ผู้ซื้อไปจัดการต่อด้วยตัวเองแทน

กฎหมาย สัญญาซื้อขายรถยนต์มีอะไรบ้างที่เราควรรู้ไว้?

การที่เราจะใช้แบบฟอร์มสัญญาซื้อขายรถยนต์ตามอินเทอร์เน็ตที่โหลดมา หรือว่าจะใช้สัญญาซื้อขายรถยนต์ที่เราเขียนกันขึ้นมาเอง ก็ควรที่จะทำให้ถูกต้อง ชัดเจน และเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ พร้อมทั้งระบุรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และให้ลงลายมือชื่อของทั้งสองฝ่ายไว้ให้ครบ เพราะว่าถ้าหากเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง เราก็จะสามารถใช้สัญญาซื้อขายรถยนต์ฉบับนี้มาเป็นหลักฐานเพื่อยืนยันได้ถึงความถูกต้องและเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายได้นั่นเอง หากคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิดสัญญา ก็จะสามารถใช้เอกสารสัญญาซื้อขายรถยนต์ฉบับนี้มาเป็นหลักฐานในการนำคดีขึ้นสู่ชั้นศาลได้อีกด้วย และนอกจากการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์จากการทำสัญญาซื้อขายรถยนต์แล้วนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก็ได้มีการกำหนดให้การซื้อขายสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายเกินว่าจำนวน 20,000 บาทนั้น ถ้าหากไม่ได้มีการมัดจำหรือการชำระเงินไปบางส่วน ก็จะต้องมีหลักฐานที่เป็นหนังสือพร้อมทั้งลงชื่อคู่สัญญาในฝ่ายที่มีหน้าที่ จึงจะสามารถทำเรื่องบังคับฟ้องร้องคดีกันได้

ตัวอย่างการเขียนสัญญาซื้อขายรถยนต์ที่ถูกต้องเป็นแบบไหน?

สำหรับตัวอย่างการเช่าซื้อ สัญญาซื้อขายรถยนต์ที่มีรายละเอียดครบถ้วนและถูกต้องตามกฎหมาย จะต้องมีรายละเอียดดังนี้

  • รายละเอียดของรถยนต์ เช่น หมายเลขทะเบียนรถยนต์, สีรถยนต์, เลขตัวถัง, เลขเครื่องยนต์ เป็นต้น
  • รายละเอียดของการซื้อขาย เช่น วันและเวลาในการซื้อขายรถยนต์, สถานที่ในการซื้อขายรถยนต์, ชื่อผู้ซื้อและชื่อผู้ขายรถยนต์ เป็นต้น
  • ราคาที่ทำการตกลงซื้อขายรถยนต์
  • รูปแบบการชำระเงิน
  • รูปแบบการส่งมอบรถ
  • เงื่อนไขในการรับประกัน
  • การลงลายมือชื่อของทั้งสองฝ่าย ผู้ขาย และผู้ซื้อรถยนต์

สัญญาเช่าซื้อ คืออะไร?

สัญญาเช่าซื้อรถยนต์จะแตกต่างจากการทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ ดังนั้นสัญญาเช่าซื้อจะเป็นการทำสัญญาที่จะเป็นหลักฐานบ่งบอกว่าผู้เช่าซื้อรถยนต์นั้นจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในรถยนต์คันดังกล่าวตลอดระยะเวลาตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ นั่นก็คือการผ่อนจ่ายเป็นรายงวดตามระยะเวลาที่กำหนดไว้บนแบบฟอร์มสัญญาการเช่าซื้อรถยนต์ เพราะฉะนั้นสัญญาการเช่าซื้อรถยนต์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะกรรมสิทธิ์ในตัวรถยนต์จะยังไม่ได้เป็นของผู้เช่าซื้อในทันที แต่จะต้องรอจนกว่าผู้เช่าซื้อจะผ่อนชำระค่างวดครบถ้วนเรียบร้อยแล้วตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์แล้วเท่านั้น และเมื่อถึงตอนนั้นผู้เช่าซื้อก็จะได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของรถยนต์ได้โดยสมบูรณ์

ขั้นตอนการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์มีอะไรบ้าง?

ขั้นแรกคือเราจะต้องดูที่เงื่อนไขในการเปลี่ยนสัญญาการเช่าซื้อรถยนต์ก่อน ซึ่งการที่จะเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ได้ อันดับแรกเลยคือรถยนต์คันนั้นจะต้องผ่อนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของจำนวนค่างวดรถยนต์ทั้งหมดนั่นเอง และจะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าผู้ที่รับช่วงสัญญาใหม่จะมีกำลังในการรับภาระตรงนี้ได้โดยที่ไม่ติดขัดอะไร อีกทั้งยังจำเป็นที่จะต้องดูเงื่อนไขอื่น ๆ ประกอบด้วยดังนี้

  • รถยนต์คันนี้จะต้องมีการจดทะเบียนกับทางกรมการขนส่งเรียบร้อยแล้ว หรือไม่ใช่รถยนต์ป้ายแดงนั่นเอง
  • รถยนต์คันนี้จะต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน และจะต้องนำไปตรวจสภาพรถในวันที่มีการยื่นเอกสารในการขอโอนสิทธิ์
  • เจ้าของเดิมจะต้องไม่มียอดชำระค่างวดที่ค้างชำระอยู่ หรือมีค่าปรับล่าช้ากับทางบริษัทฯ
  • จะต้องมีผู้ค้ำประกันเสมอ สำหรับผู้ที่รับช่วงสัญญาใหม่
  • จะต้องมีการชำระค่างวดล่วงหน้า 1-2 เดือน
  • ผู้รับช่วงสัญญาใหม่จะต้องผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ที่เหลือจากเจ้าของคนเดิม

การที่เราจะเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์นั้นสามารถแจ้งความประสงค์ได้กับทางบริษัทสินเชื่อที่กำลังทำเรื่องชำระค่างวดอยู่ และทุกคนจะต้องเข้ามาลงลายมือชื่อเพื่อทำสัญญาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ โดยพร้อมเพรียงกัน และในเอกสารทุกฉบับนั้นจะต้องมีเซ็นสำเนาถูกต้องทุกฉบับ โดยจะต้องใช้เอกสารต่าง ๆ ดังต่อนี้

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของทั้งเจ้าของเดิม ผู้รับช่วงสัญญาใหม่ และผู้ที่จะค้ำประกันให้กับผู้รับช่วงสัญญาใหม่
  • สำเนาทะเบียนบ้านของทั้งเจ้าของเดิม ผู้รับช่วงสัญญาใหม่ และผู้ที่จะค้ำประกันให้กับผู้รับช่วงสัญญาใหม่
  • หลักฐานแสดงทางการเงินของทั้งผู้รับช่วงสัญญาใหม่ และผู้ที่จะค้ำประกันให้กับผู้รับช่วงสัญญาใหม่ โดยที่จะต้องมีรายได้ต่อคน มากกว่าหรือเท่ากับ 2 เท่าของค่างวดรถยนต์ในแต่ละงวด
  • แผนที่ที่อยู่อาศัยและที่ทำงานในปัจจุบันของทั้งผู้รับช่วงสัญญาใหม่ และผู้ที่จะค้ำประกันให้กับผู้รับช่วงสัญญาใหม่
  • พ.ร.บ. ฉบับจริงของเจ้าของเดิม
  • สำเนาใบประกอบการขนส่งหรือเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง(ในกรณีที่รถยนต์นั้นใช้ในการประกอบการขนส่ง สำหรับผู้รับช่วงสัญญาใหม่)
  • คู่ฉบับสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ของเจ้าของเดิม
  • หน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ของเจ้าของเดิม

การเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียมีอะไรบ้าง?

ในเรื่องของค่าใช้จ่ายนั้น ทั้งสองฝ่ายคือเจ้าของเดิมกับผู้รับช่วงสัญญาใหม่นั้น สามารถตกลงกันได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งในการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ของแต่ละบริษัทนั้นก็จะมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าเป็นในส่วนของการดำเนินการหลัก ๆ แล้วจะมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายดังนี้

  • ค่าเปลี่ยนสัญญาการเช่าซื้อรถยนต์ประมาณ 1,500-4,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมในการพิจารณาคุณสมบัติคนละ 500 บาท สำหรับผู้รับช่วงสัญญาใหม่ และผู้ที่จะค้ำประกันให้กับผู้รับช่วงสัญญาใหม่
  • ค่างวดรถยนต์ล่วงหน้า 1-2 เดือน
  • ค่างวดรถยนต์คงค้าง ในกรณีที่รถยนต์คันนั้นผ่อนไม่ถึง 1 ปี
  • ค่าต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ในกรณีที่ภาษีนั้นเหลือน้อยกว่า 3 เดือน
  • ค่าประกันภัยรถยนต์

สัญญาเช่ากับสัญญาเช่าซื้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร? และสัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาแบบใด?

สัญญาเช่า(Leasing)

สัญญาเช่าซื้อ

เมื่อชำระค่างวดครบถ้วนตามที่ตกลงกันไว้แล้ว ผู้เช่าสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อ จะเช่าต่อ หรือจะยกเลิกสัญญาก็ได้

กรรมสิทธิ์จะตกเป็นของผู้เช่า เมื่อชำระค่างวดครบถ้วนตามที่ตกลงกันไว้

ไม่มีบทบัญญัติไว้โดยเฉพาะ

มีบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ทำสัญญาตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป

ทำสัญญาตั้งแต่ 1-5 ปี

ชำระเป็นงวด ๆ ตามระยะเวลาที่กำหนด

ชำระเป็นงวด ๆ ตามระยะเวลาที่กำหนด

วัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นทรัพย์สินระยะยาว

วัตถุประสงค์เพื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สิน

เมื่อออกรถยนต์มาแล้ว ควรเลือกซื้อประกันภัยชั้นไหนดี?

หากจะพูดถึงเรื่องความปลอดภัยของรถยนต์และผู้ขับขี่ การทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งถ้าหากเป็นรถยนต์ที่เพิ่งซื้อหรือเพิ่งเปลี่ยนสัญญามาใหม่ ๆ การทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะทั้งให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุม และยังสามารถเคลมได้ทุกกรณีตามเงื่อนไขของกรมธรรม์อีกด้วย

ซื้อประกันรถยนต์ผ่านแรบบิท แคร์ จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?

เพราะแรบบิท แคร์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่โบรคเกอร์เปรียบเทียบราคารถยนต์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นผู้ดูแลและคอยให้ความช่วยเหลือแบบ exclusive ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นจึงวางใจได้ว่าเราจะไม่ทิ้งลูกค้าไว้เพียงลำพัง และนอกจากนี้ก็ยังมีสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถกดดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์แรบบิท แคร์

รถติดสัญญาเช่าซื้อสามารถทำประกันรถยนต์ได้ไหม

รถที่ติดสัญญาเช่าซื้อสามารถทำประกันรถยนต์ได้ โดยปกติแล้วบริษัทไฟแนนซ์ที่เป็นเจ้าของรถ (ในกรณีที่คุณยังผ่อนชำระไม่หมด) จะกำหนดให้คุณทำประกันรถยนต์ โดยเฉพาะประกันชั้น 1 เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินของบริษัทไฟแนนซ์เองในกรณีที่เกิดความเสียหายกับรถ

กระบวนการทำประกันในกรณีรถเช่าซื้อจะมีขั้นตอนดังนี้

1. การทำประกันตามข้อกำหนดของไฟแนนซ์

ส่วนใหญ่บริษัทไฟแนนซ์จะกำหนดว่าต้องทำประกันชั้น 1 และอาจมีการแนะนำบริษัทประกันที่ต้องใช้ หรือคุณสามารถเลือกบริษัทประกันเองได้ ตราบใดที่กรมธรรม์นั้นครอบคลุมตามเงื่อนไขที่ไฟแนนซ์กำหนด

2. การผ่อนประกันร่วมกับค่างวดรถ

คุณสามารถเลือกที่จะผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันร่วมกับค่างวดรถ เพื่อกระจายค่าใช้จ่าย หรือสามารถเลือกจ่ายค่าเบี้ยประกันเต็มจำนวนตามรอบปี

3. ไฟแนนซ์เป็นผู้รับผลประโยชน์

กรมธรรม์จะระบุว่าผู้รับผลประโยชน์ในกรณีที่รถสูญหายหรือเสียหายจนไม่สามารถซ่อมได้ (Total Loss) จะเป็นบริษัทไฟแนนซ์ เนื่องจากรถยังอยู่ในความเป็นเจ้าของของพวกเขาจนกว่าคุณจะชำระค่างวดทั้งหมด

ดังนั้น รถที่อยู่ในสัญญาเช่าซื้อสามารถทำประกันได้และมักจะเป็นข้อบังคับที่ต้องทำ

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา