ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 2+
การชนแบบมีคู่กรณี
ความคุ้มครองต่อตัวรถและการประกันตัวผู้ขับขี่
- ซ่อมรถคุณกรณีรถชนรถ
เมื่อเกิดเหตุอุบัติเหตุระหว่างรถยนต์ของคุณกับรถยนต์ของคู่กรณี ประกันรถยนต์ชั้น2+ จะให้ความคุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์ของคุณตามทุนประกันที่ได้เลือกไว้
- เงินประกันตัวผู้ขับขี่
บางกรณีที่ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิดและจำเป็นจะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีอาญา ทางบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินประกันตัวผู้ขับขี่ให้ตามทุนประกันที่กำหนดไว้
ความคุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- คุ้มครองชีวิตของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้ขับ หรือผู้โดยสารภายใน เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ประกันรถ 2+ จะให้ความคุ้มครองเป็นค่าชดเชยให้กับครอบครัวผู้เสียหาย
- คุ้มครองค่ารักษาของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
บริษัทประกันพร้อมช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลตามจริง เมื่อผู้ขับและผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บขณะขับขี่รถยนต์
ประกันชั้น 2+ คุ้มครองคู่กรณีเท่าไหร่
- คุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์และทรัพย์สินคู่กรณี
ประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครอง เมื่อคุณขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุจนสร้างความเสียหายต่อรถยนต์รวมถึงทรัพย์สินอื่น ๆ ของคู่กรณี โดยทางบริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมรถและชดเชยสินใหม่ทดแทนตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- คุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลคู่กรณี
หากคู่กรณีบาดเจ็บ จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่เกิดขึ้น ประกันรถชั้น 2+ พร้อมรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล รวมถึงเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่าง คู่กรณีเสียชีวิตบริษัทประกันจะมีการจ่ายเงินชดเชยให้กับคู่กรณีตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
ความคุ้มครองต่อน้ำท่วม,ไฟไหม้ หรือรถสูญหาย
- ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ
หมดห่วงทุกภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ดินถล่ม หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ ทางบริษัทประกันพร้อมให้ความคุ้มครองด้วยค่าสินไหมตามจำนวนที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์
- คุ้มครองรถยนต์หาย
อุ่นใจได้ตลอดเวลา เพราะ ประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถยนต์สูญหายจากการโจรกรรม ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ หรือยักยอกทรัพย์ บริษัทประกันภัยจะชดเชยค่าสินไหมให้กับคุณตามทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- คุ้มครองรถยนต์ไฟไหม้
ประกันชั้น 2+ ไม่เพียงแต่คุ้มครองในภัยธรรมชาติ แต่เหตุเพลิงไหม้กับรถยนต์จนได้รับความเสียหาย ก็สามารถร้องขอค่าชดเชยกับทางบริษัทประกันได้ โดยจะได้รับเงินชดเชยตามทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็น รถตกข้างทาง ยางแตก น้ำมันหมด รถชนจนไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ทางประกันรถยนต์ชั้น 2+ พร้อมมาช่วยเหลือ ด้วยการออกค่าดำเนินการเคลื่อนย้ายรถยนต์ของคุณไปยังศูนย์หรืออู่ซ่อมชั้นนําทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกันรถยนต์ชั้น 2 กับ 2+ ต่างกันอย่างไร
อาจจะมีคำถามสำหรับเจ้าของรถว่า "ประกัน 2 กับ 2+ ต่างกันอย่างไร?" ก่อนตัดสินใจ เราจะมาตอบคำถามนี้กัน สำหรับประกันภัยชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะมีความแตกต่างกันตรงที่ความคุ้มครอง โดยเฉพาะประกันชั้น 2 จะครอบคลุมเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็น ค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล แต่ตัวรถของผู้ทำประกันจะต้องออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เอง
ส่วนประกันรถยนต์ 2+ ต่างกับ 1 อย่างไรนั้น ประกันรถชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองคล้ายกับประกันชั้น 1 แต่ให้เบี้ยประกันที่ถูกกว่า โดยแลกกับการลดวงเงินในการเบิกเคลมลง และเหมาะกับรถยนต์ที่อายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป
นอกจากนั้น จะมีเพิ่มเติมในส่วนของกรณีที่รถหายและถูกโจรกรรม รวมไปถึงภัยพิบัติน้ำท่วม เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ แต่จะไม่เหมือนกับประกันชั้น 1 ตรงที่ประกันชั้น 2+ จำเป็นจะต้องมีคู่กรณี และเบิกเคลมค่าซ่อมรถได้เฉพาะอุบัติเหตุรถชนรถเท่านั้น
ส่วนความแตกต่างของประกันรถยนต์ 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไรนั้น นอกเหนือจากราคาแล้ว ความคุ้มครอง ประกันชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองที่มากกว่า ในขณะที่ประกันชั้น 3+ จะไม่คุ้มครองในเรื่องของกรณีรถหาย เกิดเพลิงไหม้ หรือโดนน้ำท่วม เป็นต้น
ซึ่งเราสามารถสรุปได้ ดังนี้
- เปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ 2+ ต่างกันอย่างไร? โดยประกันชั้น 2+ มีราคาที่แตกต่างกันจาก ประกันชั้น 1 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมานานเกิน 10 ปี และจำเป็นจะต้องมีคู่กรณีในการเบิกเคลม
- ประกันชั้น 2+ แตกต่างจากประกันชั้น 2 ตรงที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมกว่า อย่างการให้ความคุ้มครองในค่าซ่อมแซมรถยนต์ตัวเอง ในขณะที่ประกันชั้น 2 เบิกเคลมได้แค่ค่าใช้จ่ายของคู่กรณีเท่านั้น
- ประกันชั้น 2+ แตกต่างจากประกันชั้น 3+ ตรงที่ ประกันชั้น 3+ ให้ความคุ้มครองเพียงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถยนต์
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะกับใคร?
ใครที่กำลังจะตัดสินใจว่า ควรทำประกันรถยนต์ 2+ ดีหรือไม่นั้น อาจลองประเมินได้จากความเหมาะสมดังต่อไปนี้
- เหมาะสำหรับคนที่ชำนาญในการขับขี่รถ
เนื่องจากประกันรถชั้น 2+ ไม่ได้ให้ความคุ้มครองในกรณีที่ไม่มีคู่กรณี หรือจะสามารถเบิกเคลมได้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถยนต์เท่านั้น ทำให้ผู้ที่เหมาะกับประกันชั้น 2+ จะต้องชำนาญในการขับขี่
- เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 7-10 ปี ขึ้นไป
หากรถยนต์ที่คุณใช้งานอยู่ มีอายุที่มากเกิน 7 ปีขึ้นไป อาจจะเป็นการยากที่จะต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ต่อได้ หรือในกรณีที่รถยนต์ของคุณไม่ค่อยได้ถูกใช้งาน แต่ยังต้องการความคุ้มครองที่ครบถ้วนเช่นเดิม แม้แต่การคุ้มครองในเรื่องของรถหาย เกิดเพลิงไหม้ การเลือกทำประกันชั้น 2+ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเบี้ยประกันรถยนต์
เนื่องจากประกันชั้น 2+ เมื่อเทียบกับประกันชั้น 1 แล้ว ยังให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกัน แต่มีเบี้ยประกันที่ถูกลงมา จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย
ประกันรถยนต์ 2+ ทำแล้วคุ้มค่าหรือไม่?
สำหรับการเลือกซื้อประกัน 2+ ออนไลน์คุ้มค่าหรือไม่นั้น แรบบิท แคร์ ขอตอบว่า ควรพิจารณาจากปัจจัยหลากหลายอย่างรวมกันด้วย เช่น ในกรณีที่รถยนต์ของคุณถึงแม้จะมีอายุการใช้งานที่ยังน้อยกว่า 10 ปี แต่ไม่ค่อยถูกนำมาใช้งาน, ผู้ขับขี่เป็นคนระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ หรือ ผู้ทำประกันต้องการสภาพคล่องในกระเป๋าเงินมากขึ้น การเลือกทำประกันชั้น 2+ จะคุ้มค่ากว่า เนื่องจากให้ความคุ้มครองที่ใกล้กับประกันชั้น 1 แต่จ่ายเบี้ยประกันน้อยกว่า โดยแลกกับการไม่สามารถเบิกเคลมได้ หากไม่มีคู่กรณี
มีคู่กรณี กับไม่มีคู่กรณี แตกต่างกันอย่างไร
คู่กรณี ในที่นี้หมายถึง การเกิดอุบัติเหตุด้วยกันระหว่างรถยนต์กับรถยนต์ และผู้ขับสามารถระบุเลขทะเบียน หรือผู้ขับที่เกิดอุบัติเหตุด้วยได้ ส่วนอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี หมายถึง การขับรถยนต์แล้วเกิดอุบัติเหตุที่ไม่ได้เกิดจากมนุษย์ด้วยกันเอง เช่น การขับรถชนรั้วบ้าน, มีแมวร่วงจากที่สูงทำให้รถยนต์เสียหาย เป็นต้น
ดังนั้น การเบิกเคลมโดยจำเป็นต้องมีคู่กรณี จึงหมายถึง การที่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถยนต์ นั่นเอง
หากโดนชนแล้วหนี จะยังเบิกเคลมประกันชั้น 2+ ได้หรือไม่
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุโดนชนแล้วคู่กรณีหนีไป แต่เราสามารถจดจำเลขทะเบียนรถยนต์ที่ชนแล้วหนีได้ หรือในกรณีที่ตรวจสอบได้จากกล้องติดรถยนต์ ซึ่งเป็นการชี้ตัวและระบุคู่กรณีได้อย่างชัดเจน ก็สามารถเคลมประกันกับทางบริษัทประกันภัยได้!
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
FAQs
ทำไมต้องแรบบิท แคร์
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ มีความคุ้มครองแตกต่างจากประกันชั้น 1 อย่างไร?
ประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี แตกต่างจากประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 พลัส ที่จะคุ้มครองเฉพาะการชนแบบมีคู่กรณีเท่านั้น กล่าวคือหากคุณขับรถยนต์ไปชนกับสิ่งกีดขวางต่าง ๆ หรือรถยนต์มีรอยขูดโดยไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ทำ หรือมีสิ่งของร่วงมาใส่บนรถจนเกิดความเสียหาย เป็นต้น คุณจะไม่สามารถใช้สิทธิ์เคลมค่าซ่อมรถยนต์ได้ ต่างจากประกันชั้น 1 ที่จะคุ้มครองในกรณีดังกล่าว ดังนั้นแรบบิท แคร์ จึงขอแนะนำให้ท่านศึกษารายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครองให้ดีก่อนทำประกันภัย
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองอะไรบ้างอะไรบ้าง?
แม้ว่าประกันชั้น 2+ จะไม่ให้ความคุ้มครองกรณีการชนแบบไม่มีคู่กรณีเหมือนประกันชั้น 1 แต่โดยรวมแล้วประกันรถยนต์ชั้น 2+ นั้นยังให้ความคุ้มครองที่ครบครันอยู่ จุดเด่นที่น่าสนใจของประกันชั้น 2+ คือ
- ให้ความคุ้มครองชีวิตและร่างกายของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลภายนอกหรือคู่กรณี
- ให้ความคุ้มครองเรื่องค่าซ่อมรถยนต์และทรัพย์สินของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลภายนอกหรือคู่กรณี (กรณีรถชนรถเท่านั้น)
- ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลภายนอกหรือคู่กรณี
- ให้ความคุ้มครองกรณีที่รถถูกโจรกรรม เกิดไฟไหม้ หรือน้ำท่วมกับรถ
- เงินประกันตัวหากผู้ขับมีความผิดทางอาญา
- ได้รับบริการช่วยเหลือบนท้องถนน เช่น บริการรถลากฉุกเฉิน
หากคุณมีข้อสงสัยเรื่องประกันรถยนต์ชั้น 2+ เพิ่มเติม สามารถปรึกษาเราได้เลย เพราะ แรบบิท แคร์ นอกจากจะเป็นโบรกเกอร์ประกันภัยที่คุณวางใจได้แล้ว ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญ ที่พร้อมให้คำแนะนำด้านการทำประกันอีกด้วย ปรึกษาฟรี! เพียงโทร 1438
ประกันรถยนต์ 2+ และประกันชั้น 2 ต่างกันอย่างไร ซื้อแบบไหนดีกว่ากัน?
หากใครกำลังสงสัยว่าจะซื้อประกันชั้น 2 หรือ ประกันชั้น 2+ ดี แรบบิทแคร์ จะขอให้คำแนะนำดังนี้
เปรียบเทียบความแตกต่าง : ประกันรถยนต์ 2 พลัส จะเพิ่มเติมในส่วนของผู้เอาประกัน และคู่กรณี ไม่ว่าผู้เอาประกันจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดก็ตาม แต่ประกันรถชั้น 2 จะคุ้มครองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล ให้กับคู่กรณีโดยเฉพาะ ทั้งนี้ ประกันรถชั้น 2 พลัส และ ประกันรถชั้น 2 จะเคลมได้ต่อเมื่อมีคู่กรณี และจะต้องเป็นอุบัติเหตุกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเบิกเคลมได้ ส่วนทางด้านราคาเบี้ยประกัน ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส มีราคาค่าเบี้ยสูงกว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2 เพราะคุณสามารถทำเรื่องเคลมได้ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด และมีความคุ้มครองในส่วนของรถยนต์ของคุณเพิ่มเติมมาด้วย
คำแนะนำจากแรบบิท แคร์ : หากใครที่กังวลในเรื่องการขับขี่เป็นพิเศษ ใช้รถยนต์ในการเดินทางในชีวิตประจำวันบ่อย ไม่อยากเสี่ยงแบกภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ แรบบิท แคร์ ขอแนะนำให้เลือกทำประกันรถยนต์ 2+ อาจจะเหมาะกับคุณมากกว่า เพราะประกันรถยนต์ 2+ นั้น เกือบเทียบเท่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม แม้คุณจะเป็นฝ่ายผิดในการขับรถ ลดความเสี่ยงในการเสียเงินจ่ายเพิ่มสำหรับค่าซ่อมแซมรถของตนได้อีกด้วย
และเมื่อรวมเข้ากับ Care Emergency บริการช่วยเหลือเร่งด่วนสำหรับผู้ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส จาก แรบบิท แคร์ ที่ช่วยดูแลคุณได้มากยิ่งกว่าใคร ให้คุณอุ่นใจได้ตลอดการขับขี่ ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ก็ตาม
ทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มค่าอย่างไร?
การทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีข้อดีคือให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมซึ่งเป็นรองเพียงประกันชั้น 1 เท่านั้น (ไม่คุ้มครองความเสียหายแบบไม่มีคู่กรณี) แต่เบี้ยประกันจะถูกกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 อยู่มาก รวมถึงยังให้ความคุ้มครองเรื่องภัยธรรมชาติต่าง ๆ รถหาย และรถยนต์ไฟไหม้ด้วย สรุปก็คือประกันชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าในราคาถูกกว่าประกันชั้น 1 นั่นเอง
ทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ผ่อนได้หรือไม่?
ลูกค้าที่สนใจซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ กับ แรบบิท แคร์ ด้วยเงินสดสามารถเลือกผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ ยาวนานถึง 6 เดือน แต่ถ้าชำระด้วยบัตรเครดิตลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระ 0 เปอร์เซ็นต์ 10 เดือนได้ ทั้งนี้เป็นนโยบายที่แรบบิท แคร์ ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของลูกค้า ตลอดจนให้ลูกค้าได้ประกันที่คุ้มครองครบครันโดยที่จ่ายประหยัดมากที่สุด ซึ่งลูกค้าสามารถสอบถามเงื่อนไขและรายละเอียดกับ แรบบิท แคร์ ได้ที่เบอร์ 1438 ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ราคาเท่าไหร่?
รถยนต์แต่ละคันย่อมมีราคาค่าเบี้ยประกันไม่เท่ากันแม้ว่าจะเป็นแผนประกันชั้น 2+ เหมือนกัน บริษัทเดียวกันก็ตาม ทั้งนี้เบี้ยประกันจะขึ้นปัจจัยต่าง ๆ คือ
- ทุนเอาประกันของรถยนต์ ยิ่งเป็นรถยนต์รุ่นหรูราคาแพงเบี้ยประกันก็จะแพงขึ้นตาม
- รายละเอียดวงเงินความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและอัตราค่าชดเชยกับบุคคลที่ 3
- อายุและประสบการณ์ของผู้ขับขี่ เช่น หากเป็นมือใหม่เบี้ยประกันภัยก็สูงขึ้น
- ประวัติการขับขี่ส่วนตัว หากเกิดอุบัติเหตุน้อย เคลมน้อย หรือแทบไม่เคลมเลย เบี้ยประกันก็จะถูก
- ส่วนลดต่าง ๆ อย่างส่วนลดติดกล้อง ส่วนรถผู้ขับประวัติดี ส่วนลดการระบุชื่อผู้ขับขี่
สรุปแล้วเบี้ยประกันชั้น 2+ จะมีเรทราคาไม่แน่นอน ผู้ทำประกันจะต้องเช็กและเปรียบเทียบราคากับบริษัทประกันอย่างละเอียด แต่ทั้งนี้แรบบิท แคร์ จะมอบทางเลือกให้คุณสะดวกสบายยิ่งกว่า เพราะเรามีเครื่องมือที่จะทำให้คุณเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ชั้น 2 ได้ง่าย ๆ ภายใน 30 วินาที
อยากเปลี่ยนแผนประกันรถยนต์ชั้น 2+ สามารถทำได้หรือไม่?
หากลูกค้าทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 พลัส กับแรบบิท แคร์ไว้ และอยากเปลี่ยนแผนไปทำประกันภัยชั้นอื่นหรืออยากเปลี่ยนบริษัทประกันภัย คุณสามารถเปลี่ยนแผนประกันได้โดยแจ้งยกเลิกการทำประกันแผนเดิมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะใช้หลักฐานสำเนาบัตรประชาชน, สำเนาสมุดบัญชี, และกรมธรรม์ฉบับจริง ซึ่งทางเราจะทำเรื่องคืนเงินให้กับลูกค้า (อัตราคืนเงินเป็นไปตามกับเงื่อนไข) หลังจากนั้นลูกค้าสามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ได้ว่าจะเปลี่ยนไปทำประกันภัยแผนใด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการประสานงานให้แทนตัวคุณ