ดูหนังแล้วอยากรู้ ตัดสายเบรครถยนต์ทำได้จริงหรือไม่?

สายเบรครถยนต์เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยหยุดรถเมื่อคุณเหยียบเบรค หากสายเบรคเสื่อมสภาพหรือสายขาดก็จะส่งต่ออันตรายเพราะจะทำให้เบรคไม่อยู่ เราจะเห็นตามละครหรือข่าวช่องต่าง ๆ ว่ามีผู้ร้ายแอบไปตัดสายเบรครถยนต์ทิ้งเพื่อหวังให้คนขับเกิดอุบัติเหตุ เมื่อดูสื่อก็อาจเกิดความสงสัยว่าหากโดนตัดสายไปจะทำให้เบรคไม่อยู่จริงหรือไม่ ซึ่งในวันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่าหากถูกตัดสายเบรคจะเกิดผลอย่างไร

สายเบรครถยนต์หรือท่ออ่อนเบรคเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ชุดเบรคที่ทำงานร่วมกับ ปั๊มเบรค แป้นเบรค และคาลิปเปอร์ หากขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปจะไม่สามารถหยุดรถได้ โดยสายเบรกจะติดตั้งอยู่บริเวณใต้ท้องรถใกล้กับล้อ มีลักษณะเป็นสายท่อยางเชื่อมต่อจากปั๊มเบรคไปยังคาลิปเปอร์ ภายในสายเบรครถยนต์จะมีน้ำมันเบรคซึ่งจะสร้างแรงดันให้ระบบไฮดรอลิกของคาลิปเปอร์ทำงาน

การทำงานของสายเบรครถยนต์ก็คือเมื่อคุณทำการเหยียบเบรคที่แป้นเบรค ตัวแกนแป้นก็จะเข้าไปดันน้ำมันเบรคในแม่ปั๊มให้ไหลตามสายเพื่อส่งแรงดันไปยังดุมล้อ ซึ่งจะส่งผลให้คาลิปเปอร์ทำงาน เมื่อคาลิปเปอร์ได้รับแรงดันก็จะสร้างแรงบีบทั้งสองข้างผ่านผ้าเบรคไปยังจานเบรคเป็นแรงเสียดสีให้จานเบรคหยุดหมุน ล้อรถก็จะหยุดหมุนตาม และเมื่อใดก็ตามที่คุณถอนเท้าออกจากแป้นเบรค แกนเบรคในปั๊มเบรคก็จะถูกถอนกลับตามทำให้แรงดันน้ำมันเบรคในสายเบรคลดลง ตัวคาลิปเปอร์ก็จะคลายตัวออกทำให้ล้อรถยนต์สามารถหมุนต่อไปได้

โดยส่วนมากสายเบรครถยนต์มักทำจากยางไม่ก็เป็นสายถักที่ทำจากเส้นด้าย เมื่อมีการใช้งานรถยนต์อย่างสม่ำเสมอก็จะมีโอกาสเคลื่อนตัวไปตามแรงเลี้ยวของล้อ หากใช้ไปนาน ๆ ก็มีโอกาสที่สายจะขาด บวม หรือแตกได้เช่นกัน ส่งผลให้น้ำมันเบรคภายในรั่วออกมาจนไม่สามารถสร้างแรงดันไปบังคับการทำงานของตัวคาลิปเปอร์ได้นั่นเอง โดยอาการที่บ่งบอกได้ว่าสายเบรครถยนต์ของคุณเสื่อมสภาพมีดังนี้

• 1. มีอาการเบรคติดขณะเหยียบเบรค เนื่องจากน้ำมันเบรคในแม่ปั๊มไปดันให้ฝักเบรคอ้าออก และเมื่อเราผ่อนเท้าออกจากแป้นเบรคน้ำมันเบรคก็จะไม่สามารถไหลกลับคืนเข้าปั๊มเบรคได้เพราะท่อตัน ส่งผลให้แป้นเบรคไม่คืนตัวกลับจึงทำให้เบรคติด
• 2. มีอาการเบรคไม่อยู่เนื่องจากน้ำมันเบรคไหลออก จนไม่สามารถสร้างแรงดันไปยังลูกสูบเบรคได้
• 3. เบรคแตก หากสายเบรครถยนต์เสื่อมสภาพ บริเวณก็จะอ่อน เมื่อเหยียบเบรคกะทันหันจะทำให้เกิดการสร้างแรงดันที่สูงเกินสายเบรคจะรับไหวทำให้แตกออกมา จึงทำให้รถเบรคไม่อยู่แม้จะเหยียบแป้นเบรคจนมิดก็ตาม
  
  

สายเบรครถยนต์มีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี หรือ ระยะทางวิ่ง 40,000 กิโลเมตรขึ้นไป เราสามารถตรวจสภาพสายเบรคได้จากการสัมผัส หากพบว่าสายเริ่มแข็ง มีรอยรั่ว หรือมีการบวมก็ให้นำไปเปลี่ยนได้เลย

มาถึงประเด็นที่หลายคนอยากทราบกันแล้วว่าหากถูกตัดสายเบรครถยนต์เหมือนในละครจะเป็นอย่างไร ซึ่งคำตอบก็คือสายเบรคสามารถถูกตัดได้ และเมื่อสายถูกตัดน้ำมันเบรคที่จะสร้างแรงดันไปให้คาลิปเปอร์ทำงานก็จะชะงักจนทำให้รถเบรคไม่อยู่ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งเพราะถ้ารถวิ่งมาด้วยความแล้วไม่สามารถเบรคได้ย่อมเกิดอุบัติเหตุแน่นอน

แม้ว่าสายเบรครถยนต์จะถูกตัดออกได้ง่ายและส่งผลร้ายแรง แต่ทั้งนี้ทางผู้ผลิตรถยนต์ยุคใหม่ก็ได้ให้ความสำคัญกับปัญหานี้ด้วยการออกแบบสายเบรคให้ถูกตัดยากมากขึ้น โดยมีการออกแบบตัวสายเป็นสองเส้นแยกเป็นสองทางคือ สายตัวแรกจะทำหน้าที่นำแรงดันน้ำมันเบรคจากปั๊มเบรคไปยังล้อหน้าซ้ายและล้อหลังขวา ส่วนสายตัวที่สองจะทำหน้าที่ส่งแรงดันน้ำมันเบรคจากแม่ปั๊มไปยังล้อหน้าขวาและล้อหลังซ้าย ซึ่งเป็นระบบไขว้การทำงานซึ่งกันและกัน ทำให้เมื่อถูกตัดสายเบรครถยนต์ข้างใดข้างหนึ่งออกไป ผู้ขับขี่ยังสามารถแตะเบรคประคองตัวจนรถหยุดเคลื่อนที่ได้

เมื่อสายเบรครถยนต์ถูกตัดขาดคุณสามารถสังเกตความผิดปกติได้ดังนี้

• 1. มีสัญญาณไฟแจ้งเตือนที่หน้าคอนโซล เมื่อสายเบรครถยนต์มีปัญหาหรือถูกตัดขาด ตัวระบบเซ็นเซอร์ที่บริเวณดุมล้อก็จะตรวจจับได้ว่าแรงดันน้ำมันเบรคหายไป ทำให้มีการแจ้งเตือนปัญหาน้ำมันเบรคขึ้นที่หน้าแผงคอนโซลรถยนต์ ดังนั้นคุณควรสังเกตไฟสถานะน้ำมันเบรครวมถึงสัญญาณแจ้งเตือนต่าง ๆ ทุกครั้งก่อนการขับขี่
• 2. แป้นเบรคยวบไม่คืนกลับ หลังจากที่สตาร์ทรถแล้ว ให้ลองเอาเท้าเหยียบแป้นเบรคเพื่อตรวจสอบสภาพเบรคก่อนการขับขี่ หากแป้นเบรคยวบไม่คืนกลับ อาจเป็นเพราะสายเบรครถยนต์ถูกตัดขาดหรือมีปัญหา ทำให้ในท่อเบรคไม่มีแรงดัน
• 3. สังเกตรอยน้ำมันเบรครั่วบริเวณพื้น หากมีพบว่ามีรอยคราบน้ำบริเวณที่คุณจอดรถไหลเป็นทาง ให้ลองสังเกตว่าเป็นน้ำอะไร หากเป็นน้ำมันเบรคก็มีความเป็นไปได้สูงที่สายเบรครถยนต์ถูกตัดขาด ข้อที่ควรพึงระวังคือหากมิจฉาชีพบางคนที่มีความชำนาญใช้มีดค่อย ๆ กรีดสายเบรครถยนต์แทนการตัด ซึ่งกรณีแบบนี้แรงดันน้ำมันเบรคจะยังคงอยู่เมื่อแตะเบรคเบา ๆ แต่จะแตกออกทันทีเมื่อเหยียบเบรกกะทันหัน แบบนี้จะอันตรายมากเพราะสังเกตได้ยาก รู้ตัวอีกทีรถก็ไม่สามารถเบรคได้เสียแล้ว หากเกิดเหตุแบบนี้ให้ตั้งสติให้ดีจากนั้นให้ถอนคันเร่งออก แล้วค่อย ๆ ประคองรถจนหยุดเคลื่อนที่

การถูกตัดสายเบรครถยนต์นับเป็นปัญหาร้ายแรง เพราะระบบเบรคคือหัวใจในความปลอดภัยของรถยนต์ หากคุณพบว่ารถของคุณถูกตัดสายเบรคต้องจำไว้ว่าห้ามใช้งานรถยนต์โดยเด็ดขาด ให้คุณใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพบริเวณสายเบรคที่ถูกตัดเป็นหลักฐาน และหาภาพกล้องวงจรปิดหรือกล้องติดรถเพื่อเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความเนื่องจากเป็นกรณีอาชญากรรมร้ายแรง จากนั้นก็โทรหาอู่ซ่อมให้นำรถลากมาขนรถของคุณไปซ่อมแซมที่อู่

การถูกตัดสายเบรครถยนต์นับเป็นกรณีอาชญากรรมที่เกิดจากแรงจูงใจ หากสายถูกตัดคุณจะไม่สามารถเคลมค่าซ่อมกับประกันภัยได้เนื่องจากประกันจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่ นอกจากนี้หากสายเบรครถยนต์ชำรุดหรือเสื่อมสภาพจากการใช้งานก็จะไม่สามารถเคลมค่าเปลี่ยนใหม่ได้เช่นกัน

ส่วนกรณีที่คุณถูกตัดสายเบรครถยนต์โดยที่ไม่รู้ตัว และนำรถไปใช้จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน การเคลมค่าซ่อมรถยนต์จากกรณีนี้จะขึ้นกับดุลยพินิจของบริษัทประกันภัยว่าจะเคลมให้คุณหรือไม่ เพราะต้นตอของสาเหตุนั้นเกิดจากอาชญากรรมอย่างตั้งใจ

แต่กรณีที่คุณสามารถเคลมประกันภัยได้แน่ ๆ ก็คือรถของคุณมีสภาพปกติแล้วขับรถไปจนเกิดอุบัติเหตุ ส่งผลให้อุปกรณ์เบรคของคุณเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นสายเบรครถยนต์ จานเบรค ปั๊มเบรค คุณจะสามารถเคลมค่าซ่อมอะไหล่ได้แน่นอน แต่ต้องเป็นประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2+ และประกันชั้น 3+ เท่านั้น

อุบัติเหตุเป็นเรื่องใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คุณไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นการมีประกันรถยนต์ก็จะทำให้คุณประหยัดค่าซ่อมรถได้ หากประกันภัยรถยนต์ของคุณกำลังขาด และยังไม่ได้ต่อประกัน คุณสามารถเช็กราคาประกันภัยที่ตรงใจคุณได้กับแรบบิท แคร์ เพราะเรามีแผนประกันราคาถูกแต่ให้ความคุ้มครองอย่างครบครัน สามารถเปรียบเทียบแผนประกันได้ง่ายภายในไม่กี่นาที พร้อมกับบริการช่วยเหลือเมื่อคุณมีปัญหาบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง