โบกมือลา “สวนสัตว์ดุสิต” 31 สิงหาคมนี้!!!
เป็นข่าวลือออกมาให้ได้ยินบ่อยครั้งกับการปิดตัวของสวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เก่าแก่ ที่มีอายุถึง 80 ปี สถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจของเด็ก ๆ และเหล่าคนรักสัตว์ ซึ่งครั้งนี้ก็กลับมาอีกครั้งกับข่าวคราวการปิดตัว โดยทางเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ดุสิตจึงได้ออกมาประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2561 ถึงข่าวที่ออกมาว่า ..
จากการประชาสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ดุสิต ก็ทำให้หลายคนโล่งใจได้ว่า สวนสัตว์ของเด็ก ๆ จะยังคงมีอยู่ เพียงย้ายไปตั้งในสถานที่แห่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยสำหรับพื้นที่แห่งใหม่ บริเวณคลอง 6 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ต่อประชาชนชาวไทยและชาวองค์การสวนสัตว์ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานโฉนดที่ดิน 300 ไร่ ให้กับองค์การสวนสัตว์ เพื่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่นี้
นายพิทักษ์ อุ่นซ้อน ผู้อำนวยการสวนสัตว์ดุสิตได้ให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจของ สวนสัตว์ดุสิตในตอนนี้ว่า ทางสวนสัตว์ได้เตรียมตัวที่จะเริ่มย้ายสัตว์ทุกชนิด ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2561 เป็นต้นไป อีกทั้งร้านค้าต่าง ๆ ภายในสวนสัตว์ ก็จะอยู่ให้บริการจนถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก thebangkokinsight.com
สวนสัตว์ดุสิต นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจของทั้งคนไทยและต่างชาติ ซึ่งสัตว์ที่อยู่ในความดูแลของสวนสัตว์มีทั้งสิ้นกว่า 1,100 ตัว 90 สายพันธุ์ โดยราคาค่าบัตรเข้าชมจะอยู่ที่
- ผู้ใหญ่ 100 บาท
- เด็กเล็ก – ปวช. 20 บาท
- ปวส., มหาวิทยาลัย, ข้าราชการในเครื่องแบบ 50 บาท
- ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป, คนพิการ, ภิกษุ-สามเณร เข้าชมฟรี
ถ้านับรายได้ที่สวนสัตว์ดุสิตได้รับใน วันธรรมดาจะอยู่ที่ 70,000 – 80,000 บาท และในวันหยุด รายได้จะสูงขึ้นอยู่ที่ 100,000 – 300,000 บาท ทีเดียว
แต่ถึงแม้ราคาค่าบัตรจะนับว่าเป็นราคาที่ถูกมาก แต่จำนวนนักท่องเที่ยวกลับลดน้อยลงเรื่อย ๆ ในแต่ละปี
- ปี 2558 มีนักท่องเที่ยวรวม 1.56 ล้านคน ชาวต่างชาติ 70,000 เก็บค่าบัตรได้ 1.17 ล้านคน
- ปี 2559 มีนักท่องเที่ยว ประมาณ 1.42 ล้านคน เก็บค่าบัตรได้ 1.12 ล้านคน
- ปี 2560 มีนักท่องเที่ยว 1.64 ล้านคน เก็บค่าบัตรได้ 9.86 แสนคน
สาเหตุที่เก็บค่าบัตรได้ไม่ครบตามจำนวนนักท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งก็มาจากการยกเว้นค่าบัตรตามเงื่อนไขในการบริการ จึงส่งผลให้รายได้ของสวนสัตว์ดุสิตมีไม่ถึง 100 ล้านบาทต่อปี สวนทางกับรายจ่ายในการดูแลสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์เป็นอย่างมาก
ผลกระทบที่ได้รับ
สำหรับการย้ายสถานที่ของสวนสัตว์ดุสิตในครั้งนี้แน่นอนว่า ด้วยพื้นที่ใหม่ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่าสวนสัตว์เดิม ถือเป็นการขยายพื้นที่เศรษฐกิจออกไปบริเวณรอบนอกเมืองมากขึ้น ประชาชนที่อยู่ใกล้กับสถานที่เปิดสวนสัตว์แห่งใหม่ ก็อาจจะมีรายได้เพิ่ม หรือมีอาชีพเสริมกันมากขึ้น
และเมื่อมีผู้ที่ได้รับประโยชน์ ก็ย่อมจะมีผู้ที่เสียผลประโยชน์ แน่นอนกลุ่มคนที่เดิมอาจจะเป็นแม่ค้า พนักงานที่อยู่ในสวนสัตว์ อาจขาดรายได้ ไม่ก็ต้องหางานใหม่กันไปเลย ไม่เพียงเท่านั้นรายได้ของสวนสัตว์เองก็อาจจะลดน้อยลงด้วย หากไม่มีการประชาสัมพันธ์ที่ดี เพราะอย่าลืมว่า สถานที่เปิดสวนสัตว์แห่งใหม่นั้น อยู่ไกลจากที่เดิมมาก ประชาชนจึงอาจจะเลือกท่องเที่ยว หรือเดินทางไปยังที่ ๆ สะดวก และใกล้กว่าก็ได้
ทั้งนี้หากจะเปิดสวนสัตว์ใหม่เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว ควรมีบริการรถสาธารณะที่มากขึ้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการไปเที่ยว แต่ไม่มีรถส่วนตัวให้มีความสะดวกสบายในการเดินทางมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามหากใครต้องการที่จะกลับไปดื่มด่ำกับบรรยากาศเก่า ๆ ของสวนสัตว์ดุสิต ก็คงต้องรีบไปก่อนวันที่ 31 สิงหาคมนี้นะคะ หรือจะเข้าไปร่วมกิจกรรมวันแม่ ซึ่งเป็นกิจกรรมครั้งสุดท้ายกับสวนสัตว์ดุสิตแห่งนี้ ซึ่งในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ ทางสวนสัตว์ได้มีการจัดเตรียมงานไว้อย่างยิ่งใหญ่
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook
ขอบคุณรูปภาพจาก thailandexhibition / khaosod
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี