ตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ ไม่อยากเครียด ! แล้วต้องกิน หยุดได้ด้วย 5 เทคนิคนี้
เคยเป็นกันบ้างมั้ย? เมื่อเกิดความ เครียด ไม่ว่าจากการทำงาน ทะเลาะกับแฟน เป็นหนี้บัตรเครดิต ปัญหาครอบครัว ฯลฯ
ปัญหาเหล่านี้สามารถเกิดได้ทุกแห่งทุกเวลา และเมื่อเกิดขึ้นแล้วบางคนก็จะกินเพื่อให้ผ่อนคลาย แต่พฤติกรรมเช่นนี้จะส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้เกิดโรคร้าย หรือมีอาการเจ็บป่วยแบบไม่ทั้งตั้งตัวได้ เราลองมาดูวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย แถมยังมีประโยชน์มากกว่าการกินกันดีกว่า จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
อะไรคือปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดความ เครียด
ความเครียด สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายกับทุกเพศทุกวัย อาจเกิดจากกรรมพันธุ์จึงส่งผลต่อระบบประสาทได้ง่าย รวมถึงคนที่อยู่ในสภาพแวดล้อม และช่วงอายุที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเครียดได้ง่ายเช่นกัน อาทิ
จากเด็กไปสู่วัยรุ่น มีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน มีการปรับตัวในสังคม และในช่วงของวัยใกล้หมดประจำเดือนของผู้หญิง รวมถึงผู้ชายวัยทองที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเช่นกัน ถึงแม้อาการน้อยกว่าผู้หญิง แต่ก็ทำให้มีอารมณ์หงุดหงิด วิตกกังวลและโกรธง่ายได้เช่นกัน
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ผ่อนคลายได้ดังนี้
1. มีสติ
เมื่อเกิดปัญหาแล้ว ต้องมีสติไม่ฟุ้งซ่าน ให้โฟกัสกับปัญหาที่เกิดขึ้นมา อย่าคิดอย่างหนึ่งแล้วทำอีกอย่างหนึ่ง เช่น ระหว่างคิดงานถ้าคิดไม่ออก หลายคนมักจะหาอะไรกินไปด้วย ดังนั้นจึงต้องเรียกสติกลับคืนมา เพื่อมุ่งไปที่ปัญหาเพียงอย่างเดียว
2. หากิจกรรมผ่อนคลาย
ลองหากิจกรรมอย่างอื่นทำเพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ทำสวน จัดบ้าน ฯลฯ ซึ่งถือว่าเป็นทางออกที่ดีกว่าการกิน ที่เกิดจากความเครียด ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยาวได้
3. นวดคลายเครียด
นวดแผนไทย หรือนวดน้ำมันอโรมานวดศีรษะ จะช่วยทำให้รู้สึกร่างกายได้ผ่อนคลาย ซึ่งมีผลดีต่อร่างกายหลายประการ เช่น การนวด 30 – 40 นาที จะช่วยปรับให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลดลงอย่างเห็นได้ชัด
4. เล่นกีฬา
การออกกำลังกาย ทำให้สารเอ็นโดรฟินหรือฮอร์โมนแห่งความสุขหลั่ง ทำให้อาการที่อยากจะกินลดน้อยลง และยังช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญได้เป็นอย่างดี ๆ กว่าเครียดแล้วหาของกินจนเกิดภาวะอ้วนแบบไม่รู้ตัวได้ ซึ่งการออกกำลังกายนั้น ก็ควรเป็นไปในลักษณะของการทำเป็นประจำ คืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 – 40 นาที
5. ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ
สามารถบำบัดได้เป็นอย่างดีด้วยการออกไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เช่นเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด ปลูกต้นไม้ไว้รอบบ้าน หรือแม้แต่หาภาพธรรมชาติมาติดไว้บนผนัง ก็จะช่วยผ่อนคลายลงได้
ถ้าได้ลองทั้งหมดนี้แล้ว ยังกินไม่หายไป แนะนำว่า ให้รีบไปปรึกษาจิตแพทย์เป็นการด่วนคะ เพื่อจะได้รู้ถึงสามารถที่แท้จริง ก่อนที่จะมีอาการมากไปกว่านี้จนเกิดโรคร้ายตามมาในภายหลัง
มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี
