“เซิร์ฟสเก็ต” ต่างจาก “สเก็ตบอร์ด” อย่างไรกันนะ?
หนึ่งในกีฬาที่ใครๆ ต่างก็ให้ความสนใจในช่วงนี้ ก็คงหนีไม่พ้น เซิร์ฟสเก็ต (Surf Skate) นี่เอง ว่าแต่เจ้ากีฬาชนิดนี่ แตกต่างกับ สเก็ตบอร์ด (Skateboard) ยังไงกันนะ ? เล่นเหมือนกันไหม ? ราคาแพงมาก จนต้องใช้บัตรเครดิตช่วยรึเปล่า ? ไปหาหาคำตอบกับเราดีกว่า
รู้จักกับ เซิร์ฟสเก็ต กีฬายอดฮิตในช่วงนี้!
เซิร์ฟสเก็ต (Surf Skate) เรียกได้ว่าเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่ง ที่ใช้อุปกรณ์แผ่นกระดานในการเล่น มีที่มาที่ไปมาจากการผสมผสานกันระหว่างสเก็ตบอร์ดกับกีฬาเซิร์ฟ
เซิร์ฟสเก็ตจะให้ความรู้สึกเหมือนเล่นเซิร์ฟบนบก เนื่องด้วยการระบาดของโควิด-19 ทำให้การเดินทางไปตามชายหาดเพื่อเล่นเซิร์ฟอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่า่ไหร่ ด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง ที่ทำให้เซิร์ฟสเก็ตได้รับความสนใจ จนเป็นที่นิยมขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้เห็น ดารา นักร้อง นักแสดง หรืออินฟลูเอนเซอร์ ได้ออกมาลองเล่นให้ได้ชม ทำให้หลายคนสนใจกีฬาชนิดนี้เพิ่มมากขึ้น ทั้งในไทย และต่างประเทศ
สำหรับข้อดีในการออกกำลังกายด้วยเซิร์ฟสเก็ตนั่น หากเล่นเป็นระยะเวลานานถึงครึ่งชั่วโมง จะช่วยร่างกายเผาผลาญได้มากถึง 600 แคลฯ นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มองหาการออกกำลังกายแบบ Cardio ผสม Weight Training ที่เน้นทำให้หน้าขา และก้นแข็งแรง
หรือถ้าใครที่มีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถออกกำลังกายด้วยการวิ่ง หรือยืนสควอชซ้ำ ๆ ได้ เนื่องจากอาการเจ็บ หรือปวดเข่า เซิร์ฟสเก็ตเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ
แต่ก็มีสิ่งที่คุณต้องควรระวังเช่นกัน โดยเฉพาะการเล่นเซิร์ฟสเก็ตในเด็ก ๆ ควรมีอายุมากกว่า 5 ปี ขึ้นไป และหากมีอายุต่ำกว่า 10 ปี ควรมีผู้ดูแลควบคุมที่มีประสบการณ์อย่างใกล้ชิด
ส่วนในผู้สูงอายุเอง ควรต้องระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากอาจมีภาวะกระดูกบาง หรือกระดูกพรุนร่วมด้วย หากเกิดอุบัติเหตุล้มจะมีความรุนแรงเกิดกระดูกหักได้ โดยเฉพาะ ข้อมือ ข้อสะโพก และกระดูกสันหลัง ดังนั้นจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันระหว่างเล่นเสมอ
แล้วแบบนี้ เซิร์ฟสเก็ต ต่างจาก สเก็ตบอร์ด ยังไงบ้าง ?
โดยเซิร์ฟสเก็ต จะมีความแตกต่างกับ กีฬาดั้งเดิมอย่าง สเก็ตบอร์ด (Skateboard) อยู่บ้าง ดังนี้
ฐานล้อของสเก็ตบอร์ดจะหมุนไม่ได้ ส่วนฐานล้อของเซิร์ฟสเก็ตจะมีองศาที่หมุนได้ ซึ่งจะหมุนได้มากได้น้อยขึ้นอยู่กับรุ่นของเซิร์ฟสเก็ต การที่ฐานล้อหมุนได้ทำให้ควบคุมทิศทางได้ง่ายกว่าสเก็ตบอร์ด
แผ่นบอร์ดของเซิร์ฟสเก็ตจะมีความอ่อนและยืดหยุ่นมากกว่า ทำให้มีมุมเลี้ยวที่มากกว่า เพียงแค่ทิ้งน้ำหนักไปที่ทิศทางที่ต้องการ ก็สามารถบังคับให้เลี้ยวได้ ต่างกับสเก็ตบอร์ดที่มีมุมเลี้ยวแคบกว่า ต้องใช้เท้าไถกับพื้นเพื่อส่งแรงไปข้างหน้าก่อน
การเคลื่อนที่ของเซิร์ฟสเก็ตจะเคลื่อนที่โดยจะอาศัยแรงเหวี่ยง และย่อยืด จากช่วงไหล่ แขน ลำตัว ขา ให้บอร์ดขยับไปเรื่อยๆ โดยที่ขาไม่แตะพื้นเลย ส่วนการเคลื่อนที่ของสเก็ตบอร์ดจะใช้เท้าไถไปกับพื้นเป็นหลัก
โดยกีฬาชนิดนี้ อาจจะต้องอาศัยการฝึกฝนพอสมควร เนื่องจากเป็นกีฬาที่เล่นกับการออกแรง รักษาสมดุลต่างๆ ของร่างกาย ไปกับแผ่นบอร์ด ดังนั้น หากเป็นมือใหม่ หลายแห่งจะแนะนำว่า ควรมีอุปกรณ์ป้องกันใส่ระหว่างการเล่นด้วย เช่น สนับเข่า หมวกกันน็อค และควรเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับการเล่นด้วยล่ะ
อยากลองเล่นบ้าง เลือกซื้อยังไงดีนะ
แน่นอนว่า ถ้าอยากจะลองเล่น สิ่งแรกที่หลายคนอาจจะต้องมองหา ก็คงหนีไม่พ้นเจ้าแผ่นกระดานของเซิร์ฟสเก็ตนนี่แหละ โดยหลักๆ แล้ว การเลือกซื้อเองก็ไม่ได้มีเทคนิคซับซ้อนอะไรมากมาย ซึ่งคุณอาจจะพิจารณาได้จาก
เลือกแผ่นกระดานเซิร์ฟสเก็ต จากลายที่ชอบ
เพราะการจะฝึกเล่นเซิร์ฟสเก็ต อาจจะต้องใช้เวลบา ดังนั้นการสร้างแรงงบันดาลใจให้เล่นได้นานมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นการเฟ้นเลือกหาลวดลายบนแผนกระดานที่ชอบก่อนนี่แหละ ซึ่งลวดลายเอง ก็ปเ็นอีกหนึ่งปัจจัยเช่นกัน ที่ทำให้แผ่นกระดานเซิร์ฟสเก็ตมีราคาที่แตกต่างกันออกไป
พิจารณาจากส่วนสูง และน้ำหนัก
เมื่อได้ลายที่โดนใจแล้ว สิ่งต่อมาที่เราใช้เล่นกระดาน คือ น้ำหนัก และส่วนสูงของผู้เล่นนั่นเอง เพราะตามหลักแล้ว ผู้เล่นที่มีส่วนสูงไม่มาก และมีน้ำหนักตัวเบา จะเหมาะกับแผ่นบอร์ดที่มีช่วงความยาวสั้นมากกว่า ส่วนผู้เล่นที่มีส่วนสูงมาก และมีน้ำหนักตัวมาก จะเหมาะกับแผ่นบอร์ดที่มีช่วงความยาวสูงขึ้นไปอีก ซึ่งความยาวของบอร์ดนี้ จะมีตั้งแต่ 26 – 28 นิ้ว ไปจนถึง 38 – 40 นิ้ว ให้คุณเลือกสรรเลย
นอกจากนี้ ส่วนประกอบอื่น ๆ นอกจากแผ่นบอร์ด ก็มีผล กับส่วนสูง และน้ำหนักเช่นกัน เช่น แผ่นกระดานสเก็ตบอร์ด (Deck), แผ่นกันลื่น (Grip Tape), ทรัค (Truck) หรือฐานล้อ, ล้อ (Wheels) และลูกปืน (Bearings)
จะเห็นได้ว่า ส่วนประกอบเหล่านี้มีความสำคัญต่อผู้ใช้งานอย่างมาก เพราะหากเป็นคนที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก ก็ควรเลือกรุ่นที่มีแผ่นกระดานสเก็ตบอร์ดที่แข็งแรง ฐานล้อที่ผลิตจากอะลูมิเนียม ใช้ล้อโพลียูรีเทน เพื่อรองรับแรงกด เพื่อตอบโจทย์ให้การเล่นให้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
ซึงส่วนประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ คุณอาจจะเลือกปรึกษาร้านค้า หรือผู้เชี่ยวชาญการเล่นเซิร์ฟสเก็ตต่าง ๆ โดยตรงจะช่วยได้มาก
เลือกจากแบรนด์ และราคา
หลังจากได้สเปคเซิร์ฟสเก็ตในดวงใจแล้ว สิ่งต่อมาที่จะช่วยให้คุณเลือกแผ่นกระดานเซิร์ฟสเก็ตได้ คงหนีไม่พ้นเรื่องแบรนด์เซิร์ฟสเก็ต และราคานี่แหละ ซึ่งในปัจจุบัน ตอนนี้ตามตลาดเซิร์ฟสเก็ต จะมีราคาอยู่ที่ 3,000 บาท ขึ้นไป และขึ้นอยู่กับแบรนด์ที่ท่านเลือกซื้ออีกด้วย
จริงอยู่ที่เซิร์ฟสเก็ตที่มีแบรนด์ อาจจะช่วยรับประกันถึงคุณภาพของแผ่นยกระดานได้บ้าง แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่ อย่าลืมเรื่องการซื้ออุปกรณป้องกันไว้สวมใส่ในช่วงแรก ๆ โดยเฉพาะ ศีรษะ, หัวเข่า, ศอก และข้อมือ ด้วยล่ะ เพราะอุบัติเหตุกับกีฬาประเภทนี้ มักเกิดขึ้นได้ง่ายโดยที่คุณไม่คาดคิด และบางร้านค้าเอง เปิดโอกาสให้คุณใช้บัตรเครดิตรูดบัตร หรือใช้แต้มสะสมต่าง ๆ เป็นส่วนลดได้อีกด้วย
อุบัติเหตุอะไรบ้าง จากเซิร์ฟสเก็ต ที่เราควรระวัง
เนื่องจากเซิร์ฟสเก็ต เป็นกีฬาที่ต้องใช้การทรงตัว บิดตัว และเหวี่ยงสะโพกในการเล่นเป็นหลัก ทำให้ผู้เล่นมือใหม่จะประสบปัญหาเมื่อยล้ากล้ามเนื้อ และข้อต่อต่าง ๆ รวมถึงอาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดเมื่อยต้นขา รวมทั้งข้อเข่า และข้อเท้า ดังนั้นเมื่อรู้สึกพบอาการบาดเจ็บที่หนักมาก ไม่ควรฝืน
นอกจากนี้ อาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่พบเห็นได้บ่อยในกีฬาประเภทนี้ มีตั้งแต่ อาการเคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ แผลถลอก หรือรุนแรงถึงขั้นเอ็นฉีกขาด กระดูกหัก และบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นหัวกระแทกพื้น สมองกระทบเทือนจนถึงขั้นผ่าตัดได้เลยทีเดียว
โดยการจะลดเลี่ยงอุบัติเหตุเหล่านี้ได้ นอกจากอุปกรณ์บอร์ดเซิร์ฟสเก็ตต่าง ๆ ที่ได้คุณภาพแล้ว ยังมีเรื่องของอุปกรณ์ป้องกันที่ใช้สวมใส่ระหว่างเล่นเอง จะช่วยลดความรุนแรงลงได้มาก นอกจากนี้ การเลือกสถานที่เล่นเซิร์ฟสเก็ตก็สำคัญเช่นกัน
การเลือกสถานที่ที่เป็นพื้นเรียบ โล่ง ไม่มียานพาหนะอยู่รอบ ๆ จะช่วยให้การเล่นปลอดภัยมากขึ้น และในปัจจุบันมีหลายพื้นที่ที่เปิดเป็นสนามให้เล่นเซิร์ฟสเก็ตโดยเฉพาะด้วย
กีฬาเซิร์ฟสเก็ต จะเห็นได้ว่ามีข้อดีมากมาย เป็นหนึ่งในกีฬาที่น่าสนใจ เริ่มต้นได้ไม่ยาก แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเล่นค่อนข้างมาก ดังนั้นการไม่ประมาท สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้ง จะช่วยคุณได้มาก และที่สำคัญ คุณไม่ควรประมาท
สำหรับใครที่สนใจ แต่ยังไม่อยากใช้เงินก้อนในการซื้อเซิร์ฟสเก็ต ก็ต้องนี่เลย บัตรเครดิต จาก แรบบิท แคร์ ที่มาพร้อมกับบริการเปรียบเทียบบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับทุกไลฟ์สไตล์ ให้คุณใช้ชีวิตได้ตามดั่งใจปรารถนา
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct