รู้จักแมวขาสั้นแสนน่ารัก พันธุ์แมวที่มีรายละเอียดมากกว่าขาจิ๋ว!
สำหรับแมวขาสั้นถือเป็นน้องแมวที่มีความหลากหลายทางด้านกายภาพอย่างมาก เช่น หน้าตาเหมือนสก็อตติชโฟลด์ ขนยาวเหมือนเปอร์เซีย มีลวดลายและสีที่คล้ายอเมริกันช็อตแฮร์ ด้วยจุดเด่นที่เหมือนกับการรวมเอาความน่ารักจากแมวพันธุ์อื่นมาไว้ด้วยกัน จึงทำให้แมวขาสั้นดูน่ารักโดนใจหลาย ๆ คนไม่ยาก ซึ่งในบทความนี้ แรบบิท แคร์ จะพาไปทำความรู้จักกับแมวขาสั้นอย่างละเอียด ตั้งแต่ชื่อพันธุ์, ประวัติ, ลักษณะกายภาพ, นิสัย, การดูแล, โณคประจำพันธุ์ และแมวขาสั้น ราคาเท่าไหร่บ้างในปัจจุบัน
แมวขาสั้น พันธุ์อะไรกันแน่
แมวขาสั้น มีชื่อพันธุ์ที่แท้จริงว่า มันช์กิ้น (Munchkin) ซึ่งตั้งตามชื่อตัวละครคนแคระจากหนังเรื่องพ่อมดอ๊อซ (The Wizard of Oz) ก่อนจะมีชื่อสายพันธุ์อย่างเป็นทางการนี้ เคยถูกคนอเมริกันเรียกว่า แมวจิงโจ้ (Kangaroo Cat) มาก่อน และภายหลังถึงถูกนักผสมพันธุ์แมวเปลี่ยนมาเป็นชื่อ มันช์กิ้นในปัจจุบันอีกที
นอกเหนือจากชื่อสายพันธุ์หลักของแมวขาสั้นแล้ว ยังมีชื่อย่อยที่แยกตามลักษณะทางกายภาพอีกกว่า 8 ชื่อ คือ Bambino, Dwelf, Genetta, Kinkalow, Lambkin, Minskin, Napoleon และ Skookum วึ่งรายละเอียดแต่ละชื่อมีดังนี้
- Bambino: Munchkin ผสม Sphynx = แมวมันช์กิ้นไร้ขน
- Dwelf: Munchkin ผสม Sphynx และ American Curl = แมวมันช์กิ้นตัวเล็กหูงอโค้ง ผิวเรียบไม่มีขนเหมือนสฟิงซ์
- Genetta: Munchkin ผสม Bengal หรือ Savannah’s cat = แมวมันช์กิ้นที่ขนสั้น ขนแน่น มีลวดลายเหมือนเบงกอล
- Kiakalow: Munchkin ผสม American Curl = แมวมันช์กิ้นหูโค้ง ขนแน่นและฟู
- Lambkin: Munchkin ผสม Selkirk = แมวมันช์กิ้น ขนหนา นุ่ม และฟู
- Minskin: Munchkin ผสท Sphynx, Burmese และ Devon Rex = แมวมันช์กิ้นผสม 4 สายพันธุ์ มีขนสีทองแดง บาง หยัก แถมยังเป็นเมวที่ hypoallergenic*
- Napoleon: Munchkin ผสม Persian = แมวมันช์กิ้นรูปลักษณ์แบบแมวเปอร์เซีย
- Skookum: Munchkin ผสม LaPerm = แมวมันช์กิ้นขนฟูเหมือนคลื่น
ความรู้เพิ่มเติม: hypoallergenic มีความหมายสื่อถึงการที่สัมผัสแล้วมีโอกาสน้อยที่จะเกิดอาการแพ้ จึงทำให้แมวที่มีลักษณะเป็น hypoallergenic เหมาะกับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว
ประวัตของสายพันธุ์แมวขาสั้น
ประวัติของสายพันธุ์แมวขาสั้น มันช์กิ้น (Munchkin) เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1944 ที่มีการรายงานว่าพบเห็นในอังกฤษ ซึ่งสัตวแพทย์ได้ให้ความสนใจและต้องการศึกษาอย่างมาก เพียงแต่ต้องเข้าสู่สภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อน จึงไม่ได้มีการศึกษาแมวสายพันธุ์นี้ต่อ จากนั้นเป็น ค.ศ.1950 ได้พบเจอในรัสเซีย แต่ทว่าทั้ง 2 ประเทศไม่ได้มีการเพาะพันธุ์อย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งกินเวลามาถึงปี ค.ศ.1980 นักเพาะพันธุ์แมวจากรัฐหลุยเซียน่า สหรัฐอเมริกา ที่ชื่อว่า Sandra Hockenedel ได้ตั้งชื่อให้แมวขาสั้นอย่างเป็นทางการว่า มันช์กิ้น (Munchkin) ตามชื่อตัวละครคนแคระที่ปรากฎใน The Wizard of Oz โดยแมวที่ Sandra เพาะพันธุ์อยู่ตอนนี้มีชื่อว่า แบล็คเบอร์รี่ ถือเป็นแมวมันช์กิ้นที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในยุคนั้นมากเลยทีเดียว
หลังจากที่แบล็คเบอร์รี่ตั้งท้อง และให้กำเนิดลูกแมวขาสั้น และลูกแมวขายาวพร้อมกัน ทำให้การศึกษาพันธุ์แมวมันช์กิ้นอย่างจริงจังอีกครั้งโดย The International Cat Association (TICA) และได้รับการรับรองสายพันธุ์ในปี ค.ศ.2003 เป็นต้นมา
ลักษณะทางกายภาพแมวขาสั้น
ลักษณะทางกายภาพของแมวขาสั้น มันช์กิ้น นั้นจะอยู่ที่ ขาสั้น ส่วนโครงหน้า สีขน ความยาวขน และลวดลายบนตัว อาจมีการอิงมาจากสายพันธุ์อื่นที่ถูกผสมข้ามมาอีกที ซึ่งหากมีแมวตัวไหนที่เกิดมาแล้วเป็นแมวขาสั้น ก็ถือว่าเป็นสายพันธุ์มันช์กิ้นแล้วนั่นเอง
ความรู้เพิ่มเติม: ปัจจุบันนี้มีเพียงแค่ The International Cat Association (TICA) เท่านั้นที่ให้การรับรองสายพันธุ์แมวมันช์กิ้นนี้ โดยทาง The Cat Fanciers Association (CFA) และ The American Cat Fanciers Association (ACFA) ยังไม่ได้รับรองอย่างเป็นทางการ เพราะเห็นว่าการเพาะพันธุ์แมวขาสั้นที่ได้แมวตัวเล็กน่ารักนั้นยังมีเรื่องปัญหาสุขภาพที่ตามมาอยู่มาก ซึ่งขัดต่อสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ทำให้ยังไม่ได้มีการรับรองอย่างเป็นทางการจากองค์กรทั้ง 2
นิสัยของแมวขาสั้น
แมวขาสั้นมีนิสัยที่ค่อนข้างกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ชื่นชอบที่จะสำรวจสิ่งต่าง ๆ แม้จะมีขาที่สั้น แต่ยังคงมีความคล่องแคล่วว่องไวเหมือนแมวทั่วไป รวมถึงความขี้อ้อน ความเป็นมิตรต่อคนที่มากเป็นพิเศษ
การดูแลแมวขาสั้นในขั้นพื้นฐาน
เนื่องด้วยแมวขาสั้นมีพลังงานที่กักเก็บไว้ในตัวค่อนข้างสูง ทำให้ต้องได้รับการออกกำลังกาย หรือมีการเล่นประจำวันที่เหมาะสม ทางด้านอาหารการกินควรเน้นที่โปรตีนมากกว่าคาร์โบไฮเดรต ตามด้วยวิตามินและกากใยที่เหมาะสม
หมายเหตุ: ทั้งนี้การให้อาหารต้องดูสัดส่วนร่างกาย น้ำหนัก อายุ เพศ ให้ครบทุกองค์ประกอบ เพื่อที่จะเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดี
โรคประจำพันธุ์แมวขาสั้น
โรคประจำพันธุ์ของแมวขาสั้น คือ โรคข้อเสื่อม เนื่องด้วยลักษณะทางกายภาพที่มีขาสั้น ลำตัวค่อนข้างยาว ทำให้ความสามารถรับน้ำหนักนั้นแตกต่างจากแมวทั่วไป จนเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้ออักเสบได้ง่ายกว่า ยิ่งไปกว่านั้นหากแมวขาสั้นมีการผสมสายพันธุ์กับเปอร์เซีย หรือเอ็กโซติก ช็อตแฮร์ ที่มีลักษณะหน้าแบนอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าเดิม เช่น โรคทางเดินหายใจและโรคตา
ทำไมแมวขาสั้น ราคาแพง
สาเหตุที่ทำให้แมวขาสั้น ราคาแพง เพราะพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์มีราคาสูงมาตั้งแต่เดิมแล้ว อีกทั้งยังต้องผสมพันธุ์ข้ามสายกับแมวพันธุ์อื่น ยิ่งทำให้มีราคราแพงขึ้นไป โดยปัจจุบันแมวขาสั้นมีช่วงราคาที่หลากหลาย เริ่มต้นตั้งแต่ 15,000-20,000 บาท ไปจนถึงหลักแสนก็มี
หมายเหตุ: ที่ต้องนำแมวขาสั้นผสมข้ามสายพันธุ์ เพราะหากนำแมวขาสั้นมาผสมพันธุ์กันเอง ลูกแมวอาจมีโอกาสรอดชีวิตค่อนข้างน้อยมาก ด้วยเหตุผลจากยีนกลายพันธุ์ในตัว
เมื่อน้องแมวขาสั้นต้องการดูแลเอาใจใส่มากขนาดนี้ แรบบิท แคร์ แนะนำว่าลองพิจารณาเลือกทำประกันสัตว์เลี้ยงเผื่อไว้ดูแลในยามฉุกเฉินหน่อยจะดีกว่า เพราะดูแลครอบคลุมทั้งการเกิดอุบัติเหตุ, ค่ารักษาเมื่อเจ็บป่วย และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยที่คุณสามารถเลือกแผนประกันที่เหมาะสมได้ไม่ยาก หากสนใจสามารถคลิกที่ลิงก์เพื่อเข้าชมข้อมูลประกันสัตว์เลี้ยงหมดของเรา หรือโทรติดต่อที่เบอร์ 1438 ได้ 24 ชั่วโมง
บทความที่เกี่ยวข้อง
นักเขียนบทความด้านประกันยานยนต์ รถยนต์ การเคลมประกันรถยนต์ ที่ Rabbit Care และ Asia Direct ตั้งใจเขียนงานให้ได้เกินครึ่งจากช่วงเวลาที่หาข้อมูล ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก