แพ้ขนแมว มีอาการอย่างไร ? อันตรายหรือไม่ ทดสอบได้อย่างไรว่าแพ้หรือไม่แพ้ขนแมว ?
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหลายคนไม่รู้ตัวว่าตนเองมีอาการแพ้ขนแมว แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วอาการแพ้ขนแมวนั้นถือเป็นอาการยอดฮิตที่คนไทยเป็นกันจำนวนมาก ดังที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่แพ้ขนแมวว่า คนไทยนั้นมีอัตราการแพ้ขนแมวมากถึง 10-15% ของจำนวนประชากรทั้งหมดเลยทีเดียว และแน่นอนว่าเมื่อมีคนมากมายไม่รู้ตัวว่าตนเองมีอาการแพ้ดังกล่าว ก็ทำให้มีความเสี่ยงในการสัมผัสสิ่งกระตุ้นอาการแพ้ และไม่ทันระวังตัวไม่ให้เกิดความเสี่ยงได้และอาจเกิดเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ในที่สุด
และด้วยเหตุผลเหล่านี้ซึ่ง แรบบิท แคร์ เห็นถึงความสำคัญของการรู้จักร่างกายของตนเองทำให้เลือกที่จะหยิบยกข้อมูลเกี่ยวกับอาการแพ้ขนแมวมาฝาก เพื่อที่จะให้หลายคนได้ศึกษาและสังเกตอาการ เผื่อว่าใครมีทีท่าว่าแพ้ขนแมวจะได้ไปตรวจกันให้แน่ชัดและระมัดระวังตัวเอง
แพ้ขนแมว อาการ
ในส่วนของอาการแพ้ขนแมวนั้น โดยทั่วไปแล้วผู้ที่แพ้ขนแมวจะมีอาการบวมและคันบริเวณของเนื้อเยื่อรอบดวงตาและจมูก ซึ่งอาการเหล่านี้จะนำไปสู่การอักเสบของดวงตา นอกจากนี้ผู้ที่มีอาการแพ้ขนแมวบางคนยังอาจมีแพ้ขนแมว ผื่นขึ้นตามบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอกส่วนบนร่วมด้วย
ในส่วนอาการที่พบบ่อยและพบได้ง่ายของผู้ที่มีอาการแพ้ขนแมวนั้น ก็คือจะรู้สึกคันจมูก น้ำมูกไหล จามบ่อย และจะมีอาการรู้สึกระคายคอหลังจากที่ได้สัมผัสสารก่อภูมิแพ้จากเจ้าแมว
อาการซึ่งร้ายแรงสำหรับผู้ที่แพ้ขนแมวและเป็นโรคหอบหืดร่วมด้วยนั้นจะรุนแรงกว่ามาก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแมวอย่างเด็ดขาด เพราะหากมีสารก่อภูมิแพ้จากแมวหลุดเข้าไปในหลอดลมจะทำให้อาการรุนแรงขึ้นมาก ซึ่งมีผลการศึกษาว่าผู้ที่เป็นโรคหืด 30% เมื่อสัมผัสกับขนแมวจะมีอาการหนักขึ้น เนื่องจากสารก่อภูมิแพ้จะเข้าไปกระตุ้นแอนติบอดีบางชนิดทำให้ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบาก ไอ หายใจเสียงดัง โดยอาการเหล่านี้ถือเป็นอาการที่แสดงถึงการกำเริบของโรคหอบหืดเฉียบพลัน อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของการเป็นหอบหืดเรื้อรังด้วยนั่นเอง
แพ้ขนแมว สาเหตุ
สำหรับสาเหตุของการแพ้ขนแมวนั้นความจริงแล้วอาจมีที่มาจากสารก่อภูมิแพ้ที่มาจากน้ำลายและผิวหนังของแมว และสารก่อภูมิแพ้เหล่านั้นได้ติดมากับขนของแมวในขณะที่แมวเลียตัวเอง ดังนั้นเมื่อขนลอยขึ้นไปในอากาศและเราสูดดมสารเหล่านั้นเข้าไปจึงอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ นอกจากนี้อนุภาคของสารก่อภูมิแพ้ในแมวหรือสัตว์เลี้ยงชนิดต่าง ๆ นั้นยังสามารถที่จะติดไปกับเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ และที่นอน ทำให้หากสัมผัสกับผู้ที่เลี้ยงแมวหรือมีความใกล้ชิดกับแมว ก็อาจเกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน
แพ้คนแมว อันตรายไหม ?
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าอาการแพ้ขนแมวนั้นถือเป็นอาการที่อันตรายไหมนั้น ความจริงแล้วระดับความอันตรายจะขึ้นอยู่กับระดับความร้ายแรงของการแพ้ขนแมวซึ่งแต่ละคนจะมีการแพ้มากน้อยแตกต่างกันไป ดังเช่นการแพ้อื่น ๆ ที่แต่ละคนก็อาจเป็นมากน้อยไม่เท่ากัน ดังนั้นหากรู้ตัวว่าแพ้ก็ควรสังเกตระดับความรุนแรงของการแพ้ของตนเองกันให้ดี หากเป็นมากหรือในระดับร้ายแรงจะได้พยายามหลีกเลี่ยงและป้องกันตัวเองให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับผู้ที่เป็นโรคหอบหืดที่ต้องระวังและหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้จากแมวอย่างมาก เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้อาการกำเริบอย่างรุนแรงและเกิดอันตรายมากทีเดียว
วิธีการตรวจสอบว่าแพ้ขนแมวหรือไม่
วิธีการตรวจสอบว่าตนเองแพ้ขนแมวหรือไม่อย่างเป็นทางการและมีการพิสูจน์ทางการแพทย์ในปัจจุบันนั้นมี 2 วิธีด้วยกัน คือ
- การทดสอบทางเลือด (ตรวจเลือด) : ซึ่งวิธีทดสอบการแพ้ขนแมววิธีนี้นั้นจะสามารถหาสารก่อภูมิแพ้หลายชนิดได้พร้อมกัน โดยที่ไม่ต้องทำการหยุดยาแก้แพ้ก่อนตรวจ
- การทดสอบทางผิวหนังโดยวิธีการสะกิด (Skin Prick Test) : วิธีนี้เป็นวิธีการตรวจการแพ้ขนแมวที่มีความรวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าวิธีแรกอย่างวิธีการตรวจเลือดเป็นอย่างมาก แต่การตรวจการแพ้ขนแมวด้วยวิธีนี้นั้นจำเป็นที่จะต้องหยุดทานยาแก้แพ้เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการตรวจ
และ 2 วิธีเหล่านี้ก็คือวิธีที่สามารถใช้ตรวจอาการแพ้ขนแมวได้อย่างแม่นยำ สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าความจริงแล้วตนเองแพ้ขนแมวหรือไม่ สามารถลองตรวจกันได้ จะได้รู้ไว้และหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตนเองได้อย่างทันท่วงที
วิธีป้องกันอาการแพ้ขนแมว
สำหรับผู้ที่รู้ตัวแล้วว่าตนเองนั้นแพ้ขนแมว สามารถป้องกันการเกิดอาการแพ้ได้ด้วยวิธีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสและอยู่ใกล้แมว
- หากบังเอิญสัมผัสแมวต้องรีบล้างมือทุกครั้ง
- รีบรับประทานยาแก้แพ้เอาไว้เพื่อป้องกัน
- ไม่พาตัวเองเข้าไปในสถานที่เสี่ยงหรือสถานที่ที่ทราบว่ามีแมว
เป็นทาสแมวแต่แพ้ขนแมว ต้องทำอย่างไร ?
แน่นอนว่าแม้บางคนจะรู้ว่าตนเองแพ้ขนแมว แต่ก็ห้ามใจไม่ได้กับความน่ารักและอยากจะมีน้องแมวไว้ในครอบครอง ซึ่งแน่นอนว่าความจริงแล้ววิธีป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มีอาการแพ้เช่นนี้ก็คือการไม่เลี้ยงแมวเอาไว้ในบ้าน แต่หากเป็นกรณีที่ห้ามใจไม่ได้จริง ๆ หรือหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งยังไม่ได้มีอาการแพ้ที่รุนแรงจนเข้าขั้นอันตราย ก็อาจใช้วิธีเหล่านี้เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ ลองพิจารณากันดู
- หลีกเลี่ยงการเลี้ยงแมวไว้ในบ้านโดยเฉพาะบริเวณห้องนอน อาจเลือกที่จะเลี้ยงน้องไว้นอกบ้านแทน
- เมื่อทำการสัมผัสกับแมวต้องรีบล้างมือทุกครั้ง
- ไม่ควรปูพรมหรือใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นขน ๆ ในบ้านเพื่อลดการสะสมของสารก่อภูมิแพ้แมวและขนแมว
- ควรมีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ภายในห้องนอนและบริเวณบ้าน
- หมั่นล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนไส้กรองแอร์เป็นประจำ
- ดูดฝุ่นภายในบ้าน ทำความสะอาดของเล่น ที่นอนของแมวอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
- ขณะที่ทำความสะอาดบริเวณต่าง ๆ หรือสัมผัสแมวควรใส่ผ้าปิดจมูกด้วย
- ควรอาบน้ำให้แมวอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และทำการแปรงขนแมวทุกวัน
- ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านที่ทำจากหนัง เพื่อลดการสะสมของสารก่อภูมิแพ้และขนแมว
- หลีกเลี่ยงการกอดและหอมแมวอย่างเด็ดขาด
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ทราบอยู่แล้วว่าตนเองนั้นมีอาการแพ้ขนแมวแต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใกล้ชิดกับแมวอยู่ในทุกวัน แรบบิท แคร์ ก็ขอแนะนำให้ทำประกันสุขภาพเอาไว้ เพราะมีความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง หรือมีอาการป่วยจากโรคทางระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรทำประกันไว้เพื่อช่วยดูแลสุขภาพของตนเองในระยะยาว
เหตุผลที่คนแพ้ขนแมวไม่ควรเลี้ยงแมว
แน่นอนว่าถ้าใจอยากเลี้ยงบางครั้งเหตุผลก็ไม่อาจเปลี่ยนใจได้ แต่ก็ควรพิจารณาข้อเสียและเหตุผลต่าง ๆ ก่อนที่จะดื้อดึงตัดสินใจ ทำไมคนแพ้ขนแมวถึงไม่ควรเลี้ยงแมว
- เป็นการทำลายสุขภาพร่างกายของตนเองโดยไม่จำเป็น
- น้องแมวจะไม่ได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่ที่ควร
- เสี่ยงที่จะทำลายสุขภาพจิตของทั้งคนและแมว
- เพิ่มความเสี่ยงที่แมวจะถูกทอดทิ้งในอนาคต
- เพิ่มโอกาสที่น้องแมวจะต้องย้ายบ้าน และเปลี่ยนเจ้าของใหม่ในอนาคต
- ต้องให้ความสำคัญในการทำความสะอาดและดูแลเฟอร์นิเจอร์ในบ้านมากกว่าปกติ
- คุณภาพชีวิตของทั้งคนและแมวจะไม่ดีเท่าที่ควร
- อาจส่งผลให้อาการแพ้หนักขึ้นได้ในอนาคต
- อาจเกิดอันตรายจากอาการแพ้ได้จนเป็นสิ่งที่คุกคามความปลอดภัยของร่างกายอย่างรุนแรง
ทราบเหตุผลเหล่านี้แล้ว ลองพิจารณาก่อนตัดสินใจกันให้ดี เพราะหากนำมาเลี้ยงแล้วดูแลน้องได้ไม่เต็มที่ การรับน้องมาแล้วดูแลน้องไม่ดีก็ถือเป็นการสร้างบาปสร้างกรรม
สรุป
และนี่ก็คือข้อมูลที่ควรรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการแพ้ขนแมวที่ไม่ว่าผู้ที่แพ้หรือไม่แพ้ก็ควรจะรู้ติดตัวเอาไว้ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุสุดวิสัย สามารถนำไปปรับใช้ทั้งในการดูแลตัวเองหรือคนใกล้ชิดที่แพ้ขนแมวก็ได้ รู้ไว้ไม่เสียหายมีแต่ได้กับได้อย่างแน่นอน
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct
และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว
จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น