
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
ความทรมานอย่างหนึ่งของคนยุคนี้ก็คือ เวลาเดินเข้าธนาคาร มักจะถูกเสนอขาย สินค้าการเงิน ตลอดเวลา ซึ่งหลายๆ ครั้งก็ไม่ถามตัวเราเลยด้วยซ้ำว่าต้องการหรือไม่?
บางทีเดินเข้าไปก็โดน หลอกขายประกัน ว่าเป็นเงินฝากระยะสั้นบ้างล่ะ แถมยังมีเทคนิคการพูด หลอกขายประกัน มาหว่านล้อมเราอีกมากมาย แล้วด้วยความที่คนไทยเป็นคนขี้เกรงใจ ทำให้หลายๆ ครั้งก็ไม่กล้าที่ปฏิเสธ แล้วก็ตกลงซื้อประกันไปตามระเบียบ
จริงๆ ต้องบอกว่า หลอกขายประกัน เป็นปัญหาที่หนีกันไม่พ้น และเป็นปัญหาที่พบเจอกันมาอย่างยาวนาน ทำให้ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาตรการใหม่ว่า
ถ้าพบเจอหรือว่ามี การหลอกขายประกัน หรือขายผลิตภัณฑ์โดยที่ลูกค้าไม่ได้มีความต้องการจะซื้อ จะมีโทษปรับสูงสุด 1 ล้านบาท รวมไปถึงมีโทษปรับรายวัน และอาจจะมีการบังคับให้ระงับการให้บริการ
สินค้าที่ผู้บริโภคแบบเราจะโดนเสนอขายมากที่สุด หลังจากเข้าไปใช้บริการธนาคารที่สาขาก็คือ “ประกัน” นี่แหละครับ เหตุผลหนึ่งที่เราโดน หลอกขายประกัน มากที่สุดเป็นเพราะว่า ค่าธรรมเนียม (หรือค่าคอม) ที่ธนาคารได้รับ มันดีกว่าสินค้าการเงินแบบอื่นๆ
เราต้องเข้าใจก่อนว่า โดยพื้นฐานแล้ว รายได้ของธนาคารจะมาจาก 2 ส่วนหลักๆ อย่างแรกก็คือ “ค่าธรรมเนียม” ที่เวลาเราทำธุรกรรมทางการเงินอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น โอนเงิน หรือจ่ายบิลต่างๆ อย่างที่สองก็คือ “ส่วนต่างของดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้”
เอาง่ายๆ ก่อนเลยว่า “ค่าธรรมเนียม” ณ ปัจจุบัน ที่ธนาคารเก็บได้นั้นน้อยลงอย่างมีนัยยะสำคัญ เหตุผลหนึ่งก็เป็นเพราะว่า การแข่งขันระหว่างธนาคารด้วยกันเอง ที่พยายามดึงดูดลูกค้าด้วยการลดค่าธรรมเนียมการให้บริการเพื่อแย่งฐานลูกค้ากัน
แล้วประกอบกับคู่แข่งอย่าง Fintech และระบบ Blockchain ที่กำลังเป็นที่น่าจับตามอง ถูกสร้างมาเพื่อลดความสำคัญของธนาคารอยู่แล้วด้วย
แล้วอีกประเด็นหนึ่งก็คือ กลุ่มธนาคารด้วยกันเองก็พยายามเพิ่มดอกเบี้ยเงินฝาก และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงมาเพื่อแย่งลูกค้ากัน เราจะเห็นได้ว่าตอนนี้เวลาถึงงวดที่เราสามารถรีไฟแนนซ์หนี้ได้ แถบจะทุกคนก็ทำรีไฟแนนซ์กันทั้งนั้น
ด้วยเหตุผลที่รายได้ของธนาคารมีแนวโน้มว่าจะลดลงเรื่อยๆ ทำให้ธนาคารต้องหาแหล่งรายได้อื่นมาทดแทน แล้วรายได้ทางหนึ่งที่ทำได้ดีมากๆ ก็คือ
การเป็นนายหน้าขายสินค้าการเงินต่างๆ เพราะธนาคารเองก็มีฐานลูกค้าเยอะเป็นทุนอยู่แล้ว ทำให้เสนอขายสินค้าการเงินได้เรื่อยๆ แทบจะตลอดเวลาที่ธนาคารเปิดทำการเลยก็ว่าได้
เมื่อมีการเสนอขาย ประกอบกับมียอดขายที่ถูกกำกับเป็น KPI เพื่อประเมินการทำงานของพนักงานในสาขา ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการนำเสนอสินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า แต่ตรงกับความต้องการของผู้บริหารนั่นเอง
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี
บทความแคร์การเงิน
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
ผ่อนบอลลูน คือ อะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสมกับใครมากที่สุด
ไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ ต้องเจอปัญหาใหญ่แค่ไหน