สรุปสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย

รวมข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย ว่าแท้จริงแล้วมันมาจากอะไรได้บ้าง และถ้าหากเปรียบเทียบข้อมูลจากหน่วยงาน สาเหตุไหนที่เคยมีค่าเฉลี่ยเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงที่สุด และปัจจุบันนี้สาเหตุของอุบัติเหตุรถยนต์มักเกิดขึ้นจากเรื่องใดได้บ้าง รวมถึงการสรุปปัจจัยมีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มเติมให้ด้วย ประหนึ่งเป็นการเตือนสติผู้ขับขี่รถ และผู้ใช้งานถนนหนทางให้ระมัดระวังถึงสาเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับเราได้ โดยเฉพาะเหล่ามือใหม่หัดขับที่ยังไม่ชำนาญการขับขี่ ควรอ่านให้จบอย่างครบถ้วน เพื่อหลีกเลี่ยงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุดนั่นเอง มีเรื่องไหนต้องระวังบ้างนั้น สามารถติดตามอ่านได้จากข้อมูลทั้งหมดดังต่อไปนี้

ห้ามพลาด! ประกันรถชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 1,000.-/เดือน

เลือกยี่ห้อรถของคุณ

Toyota

Nissan

Mitsubishi

Mazda

Isuzu

Honda

—เลือกยี่ห้อรถอื่นๆ—LandMGMcLarenMaxusVolvoVolkswagenTRToyotaTataSubaruSsangyongSpykerSmartSkodaSeatSaabRoverRolls-RoyceRenaultPorschePolarsunPeugeotOpelNissanNazaMitsuokaMitsubishiMiniMazdaMaseratiLotusLexusLand RoverLamborghiniJeepIsuzuJaguarHondaFotonHummerHoldenFordFiatFerrariDFMDaihatsuDaewooCitroenChryslerChevroletCheryAudiAlfa RomeoSuzukiProtonMercedes-BenzKiaHyundaiBMWBentleyAston Martin

ชื่อนามสกุล

หมายเลขโทรศัพท์

เจ้าหน้าที่ของแรบบิท แคร์ หรือ เอเชียไดเร็ค อินชัวรันส์ โบรคเกอร์* จะติดต่อกลับหาคุณภายใน 24 ชม.
หมายเหตุ *บริษัท เอเชียไดเร็ค อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือของแรบบิท แคร์

10 สาเหตุของอุบัติเหตุรถยนต์

10 สาเหตุของอุบัติเหตุรถยนต์ คือ ใช้งานโทรศัพท์ขณะขับรถ, แซงรถอย่างประมาท, หลับใน, เมาแล้วขับ, การฝ่าสัญญาณไฟจราจร, ขับรถความเร็วเกินกำหนด, ทัศนวิสัยไม่ดี, ขับตัดหน้าแบบกระชั้นชิดเกินไป, เจอสิ่งกีดขวางบนท้องถนน และบรรทุกนำหนักมาเกินตัวรถรับไหว ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน มีดังหัวข้อย่อยทั้งหมดด้านล่าง

ใช้งานโทรศัพท์ขณะขับรถ

การใช้งานโทรศัพท์ขณะขับรถ ไม่ว่าจะเป็นการดูแผนที่ การพูดคุยทางโทรศัพท์ การพิมพ์บทสนทนา ไปจนถึงการเล่นโซเชียลมีเดียโดยที่ขาดความระมัดระวัง ทำให้เราไม่สามารถโฟกัสกับการขับขี่ตรงหน้าได้มากเท่าที่ควร อันเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ง่าย และยังถือเป็นการทำผิดกฎหมาย พรบ.จราจรทางบก มาตรา 43 (9) แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่13) พ.ศ. 2565 ห้ามผู้ขับขี่ขับรถขณะใช้โทรศัพท์ มีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท และหักคะแนนใบขับขี่ 1 คะแนน (ยกเว้นการใช้โทรศัพท์โดยไม่ต้องถือหรือจับหากจำเป็น)

คำแนะนำเพิ่มเติม: หากจำเป็นต้องใช้งานโทรศัพท์มือถือ ควรมีแท่นวางที่ทำให้เราไม่ต้องถือแล้วขับรถมือเดียว หรือเลือกใช้หูฟังไร้สายเพื่อทำการพูดคุยโทรศัพท์ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งการเลือกใช้วิธีดังกล่าว จะถือว่าเป็นการใช้งานที่ไม่ผิดกฎหมายนั่นเอง

อ้างอิงข้อมูลกฎหมายพรบ.จราจรทางบก มาตรา 43 (9) แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่13) พ.ศ. 2565 จาก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.) กรมการขนส่งทางบก

แซงรถอย่างประมาท

ถัดมาเป็นเรื่องการแซงรถอย่างประมาท เริ่มตั้งแต่การแซงในพื้นที่ห้ามแซง ทั้งเกิดจากความประมาท หรือการขาดความรู้ ความไม่เข้าใจถึงสัญลักษณ์พื้นที่ห้ามแซง ซึ่งบางจุดที่ไม่ควรแซง เป็นไปได้หลายสาเหตุ เช่น ถนนแคบ มีรถสวนเยอะ และพื้นผิวถนนที่ไม่ดี มีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนได้สูง ควรระมัดระวังให้มากที่สุด

หลับใน

หลับใน อาการของผู้ที่ต้องขับรถทางตรงเป็นเวลานาน รวมถึงคนที่ต้องขับรถกลางคืนบ่อยครั้ง ทำให้เกิดการพักผ่อนน้อย จนบางครั้งกลายเป็นอุบัติเหตุทางถนนทั้งในรูปแบบอุบัติเหตุเล็ก ๆ ไปจนถึงรถพลิกคว่ำลงข้างทางได้อย่างน่ากลัว ฉะนั้นหากรู้ตัวว่ามีอาการง่วงขึ้นมาเมื่อไหร่ ให้หาจุดพักรถเพื่อทำการจอดงีบ หรือหากไม่มีจุดพักรถในระแวก ควรหาไหล่ทางที่ปลอดภัยพักผ่อน เพื่อเป็นป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากหลับในได้ง่ายที่สุดนั่นเอง

เมาแล้วขับ

เมาแล้วขับนับเป็นหนึ่งในสาเหตุของอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวที่ถึงขั้นต้องมีการรณรงค์ในหลาย ๆ ครั้ง เช่น 7 วันอันตราย รวมถึงตามเขตพื้นที่การท่องเที่ยวที่มีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลเป็นจำนวนมาก ยิ่งมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากเมาแล้วขับเพิ่มสูงขึ้น ส่วนโทษทางกฎหมายของเมาแล้วขับฉบับใหม่ คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากปฎิเสธการการเป่าเพื่อตรวจปริมาณแอลกอฮอล จะมีโทษหนักเพิ่มเติม จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 – 20,000 บาท ระงับใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือหนักสุดอาจถูกเพิกถอนใบขับขี่ได้เลย

การฝ่าสัญญาณไฟจราจร

การฝ่าสัญญาณไฟจราจร เป็นสาเหตุอุบัติเหตุทางถนนพื้น ๆ ที่มีสถิติการเกิดขึ้นสูงในระดับเดียวกันกับเมาแล้วขับเลยก็ว่าได้ เป็นเพราะความประมาทในการขับขี่เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการขับขี่ตามสัญญาณไฟจราจรตลอดเวลา เป็นเรื่องที่ช่วยให้เราเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ดีทีเดียว

ขับรถความเร็วเกินกำหนด

ขับรถความเร็วเกินกำหนด เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนได้สูงที่สุด เมื่อเทียบกับสาเหตุทั้งหมดที่กล่าวมา ซึ่งมีสถิติย้อนหลังจากปี พ.ศ.2564 ที่สูงถึงร้อยละ 74.82 อ้างอิงข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพราะการขับรถความเร็วเกินกำหนด จากรายงานการวิเคราะห์สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2564

ทัศนวิสัยไม่ดี

ทัศนวิสัยไม่ดี ทั้งจากฝุ่นควันข้างทางมาอำพรางให้เรามองเห็นถนนไม่ชัดเจน หมอกลงหนาจัดในบางพื้นที่ หรือฝนตกหนักเกินไปจนที่ปัดน้ำฝนเอาไม่อยู่ บางครั้งสถานการณ์เหล่านี้เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุทางถนนได้ เพราะหลายคนฝืนที่จะขับขี่ต่อไปในความเร็วเท่าเดิม ไม่ลดความเร็วลง ไม่จอดพักข้างทาง จนกลายเป็นเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาได้

ขับตัดหน้าแบบกระชั้นชิดเกินไป

ขับตัดหน้าแบบกระชั้นชิดเกินไป เป็นการกระทำที่เกิดจากความประมาททางการขับขี่หลายอย่าง ทั้งการใช้ความเร็วเพื่อตัดหน้า การแทรกเข้าโดยไม่ขอทางก่อน ทำให้คันหลังต้องเบรกกระทันหัน จนเสี่ยงเป็นอุบัติเหตุทางถนนใหญ่ที่รถชนกันได้หลายคัน

เจอสิ่งกีดขวางบนท้องถนน

เจอสิ่งกีดขวางบนท้องถนน ถือเป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงได้ยาก เนื่องจากบางครั้งเราอาจไม่ทราบเลยว่าจะมีสิ่งกีดขวางปรากฎขึ้นมาเมื่อไหร่ ยิ่งข่าวในช่วงต้นปี พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา มีกระทั่งแผ่นปูนตกลงมาจากด้านบน จนกลายเป็นอุบัติเหตุทางถนนที่มีความอันตรายสูง และน่าเหลือเชื่ออย่างมาก เราจึงต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ประมาทในการขับรถผ่านทางที่ไม่คุ้นเคย

บรรทุกน้ำหนักมากเกินตัวรถรับไหว

บรรทุกน้ำหนักมากเกินกว่าที่ตัวรถจะรับไหว บางครั้งการขนสัมภาระหนักขึ้นรถเป็นจำนวนมาก ยังอาจทำให้รถสามารถเคลื่อนที่ได้ก็จริง แต่บางกรณีเราอาจจะยังสัมผัสไม่ได้ตั้งแต่แรกเริ่ม ว่าตัวรถเริ่มสูญเสียการควบคุมจากเดิมไป พอถึงเวลาคับขัน เราจะคุมรถไม่อยู่ และกลายเป็นอุบัติเหตุทางถนนไปเลย

ปัจจัยที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

ทีนี้มาดูสรุปข้อมูลปัจจัยที่ทำให้เกิดอับุติเหตุบนท้องถนนกันบ้าง เบื้องต้นจะมีประมาณ 4 ปัจจัย คือ สภาพร่างกาย, สภาพรถ, ความประมาท และการไม่ทำตามกฎจราจร โดยสรุปแล้วรายละเอียดเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมีดังนี้

• สภาพร่างกาย ที่ไม่พร้อมต่อการขับขี่ มีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนได้สูง เช่น หลับใน อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ จนไม่สามารถขยับได้ตามปกติ 
  
• สภาพรถ ขาดการเช็กระยะ หรือมีอุปกรณ์ที่สำคัญต่อการขับขี่เสื่อมสภาพโดยที่ไม่รู้ตัว หากเกิดเสียหายระหว่างเดินทาง ก็กลายเป็นอุบัติเหตุทางถนนได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว
  
• ความประมาท ไม่ว่าจะขับรถมาชำนาญมากแค่ไหน หากมีความประมาทในการขับขี่ ไม่ว่าจะขับช้าหรือเร็วก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้เหมือนกัน
  
• การไม่ทำตามกฎจราจร เช่น ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร และขับรถความเร็วเกินกฎหมายกำหนด ล้วนเป็นปัจจัยที่สำคัญลำดับต้น ๆ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมาแล้วจำนวนมาก

ดังนั้นไม่ว่าจะขับขี่ไปในถนนหนทางแบบไหน ก็ต้องมีความระมัดระวัง ไม่ประมาท ทำตามกฎหมาย เตรียมร่างกาย และเตรียมรถให้พร้อมทุกการเดินทาง จะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้มาก

ที่สำคัญห้ามลืมพิจารณาเรื่องประกันรถยนต์เผื่อเอาไว้ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน เพราะประกันรถยนต์จะมีส่วนช่วยทั้งเรื่องค่าซ่อมแซม ค่ารักษาพยาบาล และดูแลด้านอื่น ๆ ให้เราปลอดภัยได้ตลอดเวลา หากต้องการข้อมูลหรือขอคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถโทรหา แรบบิท แคร์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่เบอร์ 1438 สมัครประกันรถยนต์กับเราวันนี้ รับส่วนลดช่วยประหยัดสูงสุดถึง 70%

สรุป

สรุป 10 สาเหตุของอุบัติเหตุรถยนต์ คือ

• ใช้งานโทรศัพท์ขณะขับรถ
• แซงรถอย่างประมาท
• หลับใน
• เมาแล้วขับ
• การฝ่าสัญญาณไฟจราจร
• ขับรถความเร็วเกินกำหนด
• ทัศนวิสัยไม่ดี
• ขับตัดหน้าแบบกระชั้นชิดเกินไป
• เจอสิ่งกีดขวางบนท้องถนน
• บรรทุกนำหนักมาเกินตัวรถรับไหว

Thirakan T

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology